[What's in my bag#1] ไหนๆ มีอะไรในกระเป๋าคิสบ้าง
King of Eugenie
03 ม.ค. 63
51
17
ฮายยยย ซิสสสสส วันนี้คิสวิ่งหน้าตั้งมาอวดล้วนๆ คือเพิ่งได้ของที่กดสั่งไปก่อนช่วงหยุดยาว แล้วมันดีต่อใจมากๆ ส่วนตัวคิสไม่ค่อยชอบสั่งของออนไลน์(ถ้าไม่ใช่ sephora) แต่อันนี้สวยสมกับที่รอคอยเป็นที่สุด เป็นครั้งแรกเลยมั๊งที่ซื้อของแล้วได้ตรงปก ไหนๆก็จะมาอวดกระเป๋าแล้ว เลยอวดไปด้วยเลยว่าคิสถืออะไรบ้าง ซึ่งก็...ไม่เรียลเลยค่ะ พยายามจัดแต่งให้มันดูดีมากๆ 555555 คิสคิดว่าใบมันจะใหญ่กว่านี้ เพราะพกของเยอะ นี่กลายเป็นต้องเอาของออกเท่าที่ทำได้ ตัวไซส์มันพอๆกับ Coach Rogue 25 ที่คิสใช้งานอยู่ ซึ่งก็ถือว่าเล็กมากกับข้าวของคิส ก็ถือว่าได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ไหนๆก็เริ่มมีอาการปวดหลังปวดไหล่ก็ปรับ life style ไปเลยละกัน
ซึ่งคิสเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนก็แบบคิสนะ คือติดการพกบ้านเดี่ยวติดตัวไปทุกๆที่ จนอายุ 35 มาถึงก็มีของขวัญมารอคิสเลย เหมือนตอน 30 ตอนนั้นน้ำหนักคิสขึ้นห้ากิโล เซลลูไลท์มา พอ milestone ชีวิตใหม่มาถึง อาการออฟฟิตซินโดรมกลับมาเลยจ้า ทรมานมากๆ ไม่อยากจะนึกถึงตอน 40 เลยจริงๆ คิสก็พยายามนะ ออกกำลังกายเบาๆ โยคะ และไปนวดตัวให้บ่อยขึ้น แต่ฝังเข็มก็ไม่ได้กลับไปทำแล้ว ไม่มีเวลาไปหาหมอ กระเป๋าก็พยายามจะลดๆข้าวของลงไป ไม่ได้คิดได้ด้วยตัวเอง ของมันดันผิดจากที่คิดไว้ แต่ก็ไม่ได้เสียใจนะ เพราะอย่างที่บอกว่ามันสวยสมกับรอคอยมากๆ ลืมทุกอย่างค่ะงานนี้ เหมือนพระเจ้าจะฝากบอกทางอ้อมว่าถึงเวลาปรับตัว
เริ่มจาก 2 ชิ้นแรกน้า เอาที่เข้ากับสถานการณ์สุดๆก่อนเลย 1. ผ้าพันคอของ coach อันนี้ปรกติคิสจะใส่ถุงอีกชั้นแล้วพกไว้ พอมากระเป๋าใบนี้ เราต้อง LEAN!! คิสเลยเอามาผูกโบว์เก๋ๆแทน คิสพกผ้าพันคอผืนเล็กติดตัวเผื่อจำเป็นต้องใช้ บางทีกระโปรงสั้นแล้วต้องนั่ง หรือแอร์หนาวมากก็พันคอ บังแดดก็ได้ คือมันสารพัดประโยชน์มากๆ แถมช่วงนี้กำลังอินกับ furoshiki ด้วย ถ้าถุงผ้าที่พกไม่พอก็จะเอาผ้านี่จะมัดๆๆๆ ไว้แทนถุงพลาสติกซะเลย คิสไม่หวงของนะ ซื้อมาไม่เคยรีดเลยด้วย ซัก สะบัดๆ เพื่อนยังงงว่าทำไมม้วนซะยับ ไม่พับให้เรียบร้อย 2. ถุงผ้าพับเก็บได้ของ naraya มีโพสไว้ใน [Go Green] นาทีนี้ขอ "No Bag, please" Ready? Set...GO!!
อีก 2 ชิ้นถัดมาค่ะ ค่อยๆขยับ 3. กระป๋องนำ Tiger อันนี้เคยเอามาถาม QA สาวๆแล้วใน [Go green] สาวๆใช้แก้วมัคหรือทัมเบลอร์แบบไหนกันอยู่คะ เซอรไพรสว่าเหมือนสาวๆจะไม่ได้นิยมกันเท่าไหร่ แต่คนรอบตัวคิสใช้หมดเลยค่ะ อาจจะแล้วแต่คนเนอะ*คิสลุ้นชิ้นนี้สุดเลยว่าจะเข้ากับช่องกระเป๋าได้มั๊ย เพราะกระเป๋าเป็นแบบสารพัดช่อง ซึ่งน้ำตาจะไหล ใส่ได้พอดิบพอดีค่ะ รอดตัวไป/ ช่องแบบนี้มีทั้ง 2 ฝั่งนะคะ แต่อีกช่องคิสใส่ถุง naraya และปากกาค่ะ ก็เหลือพื้นที่อยู่ ลองเอาร่มของ knirps x1 มาลองใส่ดู ก็ใส่ลงได้เหลือๆ 4. แว่นกรองแสง owndays อันนี้ยังไม่เคยเอามาตีแผ่เลย ปกติต้องพก ใส่ไม่ใส่อีกเรื่อง เพราะคิสมีปัญหาเรื่องแพ้แสง ซึ่งควรจะพกแว่นกันแดด แต่คิสก็ลองมาหลายยี่ห้อแล้ว ปวดหัวหมด ต้องหลับตาไปเลย(อ้าว 55) แต่คิสมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานหน้าจอคอมในออฟฟิตเป็นหลัก ถ้าจำเป็นต้องออก site หรือไปข้างนอกพยายามจะใช้หมวก ใช้มือบังตาไว้ มันแสบมากชิ้นนี้คุณภูซื้อให้ เป็น owndays PC ที่ราคาเบาๆแต่คุ้มมาก เป็นแว่นกรองแสงสีฟ้าอันแรกที่คิสใส่แล้วไม่ปวดหัว เดาว่าคุณภาพพอๆกับ JIN เพราะคุณภูจะใส่ของ JIN ซื้อตุนจากญี่ปุ่นที่นึง 5 อันเผื่อหาย ส่วนคิสโชคดีที่ใส่ owndays แล้วก็ไม่ปวดหัว สบายตา เบามากกก คิสเป็นคนที่ปวดหัวเพราะแว่นง่ายมาก คงเพราะรูปหน้า รูปกระโหลกคิสใส่อะไรก็จะรู้สึกว่าบีบหัวจนมันไมเกรนจะขึ้น แว่นกรองแสงลองมาหลายอันแล้ว ปวดหมดเลย อันนี้รอดและแนะนำมากๆ จะใส่ของยี่ห้อไหนก็ได้ค่ะ แต่แนะนำให้ใส่แว่นตัดแสงสีฟ้ากัน เพราะมันอันตรายต่อดวงตานะ คิสอายุเยอะแล้ว การันตีเรื่องนี้ได้
อีก 4 ชิ้นถัดมา ก็จะเป็นพวกเกี่ยวกับเงินๆทองๆ บัตรๆค่ะ 5. ที่ใส่บัตร RFID ของ C-secure พอโพสๆแล้วก็ขำตัวเอง นี่ชั้นใส่ของอะไรก็คือคุณแฟนซื้อให้หมดเลยนี่หว่า 555555555 อันนี้แฟนคิสไปซื้อมาจากยุโรป เค้าใช้อยู่ก่อนแล้วเป็นสีฟ้า ใช้คู่กับกระเป๋าตังค์หลักอีกใบ เพราะที่ต่างประเทศเค้าจะระวังกันเรื่อง RFID มากๆ บอสเก่าคิสก็เป็นค่ะ จะระวังเรื่องนี้ ที่ไทยคิสว่าคนยังเฉยๆกันอยู่ แต่ความจริงมันอันตรายต่อข้อมูลนะ ลองหาอ่านดูค่ะ เผื่อใครสนใจ ราคาก็ถือว่าคุ้มค่ะ แลกกับความปลอดภัยก็เอาว่าเราไปเดินเล่นเซนทรัลชิดลม เจอแล้วคุณภูก็ว้าวววว แต่...คิสดันไม่ถูกใจสีเลย รุ่นอื่นมีให้เลือกอยู่ แต่รุ่นหนังแท้ตอนนั้นจะมีไม่กี่สี ตัดใจค่ะ แล้วก็ไปเจอที่ isetan อีก ก็ว้าวววกันอีกรอบ แต่ก็ยังไม่ถูกใจสีอีก (คิสก็ค่อนข้างเรื่องมากนะ) ยังคิดว่าคงไม่ใช้ เราไร้วาสนาต่อกันในชาตินี้ แต่สุดท้ายคุณภูก็ยังดื้อไปซื้อมาให้อยู่ดีค่ะ เป็นสีน้ำตาล คงเห็นว่ากระเป๋าที่คิสใช้ประจำก็สีน้ำตาลอยู่แล้ว คงพอดำน้ำไปกันได้ ตัวนี้ใส่การ์ดได้ 5 ใบ คิสก็จะเลือกคัดเฉพาะบัตรที่สำคัญจริงๆเท่านั้นใส่ ช่องด้านในก็ใส่เงินสด, บัตรประชาชน ด้านหลังก็บัตร All ไว้เวลาพกไปเซเว่น
6. ที่ใส่การ์ดของ folio มีที่ซื้อเองแล้วจ้าาาา 55 อันนี้ซื้อมานานมากๆจากที่ emporium และ Terminal 21 ปนๆกัน ซื้อของเค้าเยอะมาก ทั้ง Year Planner, key holder, Money clip, card holder, passport cover, business card holder, clutch ทุกอย่างเป็นหนังแท้และเป็นสีดำ เข้ากันหมดเลยทุกอย่าง คิสก็ทยอยๆซื้อนะ ค่อยๆเก็บ เพราะราคาไม่แพง และคิสในเวลานั้นก็มีรายได้จำกัด การจะซื้ออะไรที่ทำให้ลุคดูดี ราคาไม่แพง ก็ต้องสรรหาค่ะ ก็ถือว่าตัดสินใจถูก เพราะผ่านมาน่าจะ 7-8 ปีได้ มันก็ยังสวยอยู่เลยข้างในก็สารพัดบัตรค่ะ บัตร ATM คิสทั้งหมดก็อยู่ในใบนี้เพราะคิสมีเกือบทุกธนาคารหลัก(แต่จะทยอยปิดแล้วให้เหลือ 3 ใบหลักพอ) และพวกบัตรสมาชิกทั้งหลาย ซึ่งด้วยยุคนี้ กระเป๋าใบนี้ก็เอาออกได้นะ คือบางวันก็แทบไม่ได้หยิบมาใช้เลย 7. ที่ใส่การ์ดจิ๋ว แบรนด์เดียวกันจากอันบนเลยค่ะ ทรหดมาก ใส่การ์ดได้ 4 ช่อง แต่ก็พยายามอัดๆลงไป มีบัตรเล่นเกม์ Konami, บัตรประกันสุขภาพ, บัตร BTS 2 ใบ (แยกเป็นเติมเที่ยวกับเติมเงิน) และบัตร Starbucks
8. ที่ใส่การ์ดแบบผ้า ของ Naraya อันนี้ของจริงคือเค้าจะมีแฟ้มใส่การ์ดด้านในไว้ให้เราพกการ์ดได้เยอะๆ คิสเอาออกค่ะ เพราะจะไว้พกอย่างอื่น ด้านในเลยใส่ของได้ 2 ฝั่งฝั่งนึงคิสเก็บกระดาษซับมัน Sumire ที่ซื้อใช้งานยาวนานมากๆหลังจากได้รับแจกจากจีบัน ของเค้าดีจริงๆ(แอบใส่พลาสเตอร์ไปอีกนิด ไม่งั้นใส่ในกระเป๋ารวมๆกันจะยู่ยี่ใช้งานไม่ได้) อีกฝั่งจะเป็นเคสใส่นามบัตรค่ะ ก็จะใส่ Hard Case ไว้แล้วค่อยเก็บในช่องอีกที แลดูวุ่นวาย ของคิสๆไม่เคยระวัง ใช้ไม่มียั้ง แต่เรื่องนามบัตรไม่ควรมีรอยช้ำค่ะ ถือเป็นหน้าตาขององค์กรและตัวเรา ((เรื่องมารยาททางธุรกิจที่จะทำให้ alliance คุณประทับใจ คิสอยากจะรวบรวมมาลงให้เหมือนกัน คิสตำแหน่งงานไม่ใหญ่โต ทำงานก๊อกๆแก๊กๆ หาเงินเลี้ยงแมวก็พอใจ แต่หลายๆครั้งจำเป็นต้องอยู่ในสถานการณ์ที่บังคับให้ได้พบปะผู้ใหญ่และผู้บริหารระดับสูงเสมอ ก็ถือเป็นบุญวาสนาในด้านการงาน และคิสได้รับความเมตตามาตลอดเส้นทาง คิสว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือศิลปะ แต่อย่าเอาคิสในโลกอินเตอเนทไปงงกันนะคะ คิสเป็นพวกมีโลก 2 ใบค่ะ ไบโพล่า? เกินค่ะ ไบโพล่ายังน้อยไป คิสมีเป็น 10 บุคลิคเพื่อเข้าหาคน))
อีก 4 ชิ้นถัดมา เป็นของที่คิสต้องพกจริงๆ 9. ปากกา ด้ามที่พกตอนนี้หรอ?? แท่งอื่นหลบไปก่อนนะ ขอพื้นที่ให้ของ Jeban เลยจ้า เพราะมีหัว stylus เก๋ๆ แถมไซส์จิ๋ว จริงๆคิสก็ยังต้องพกปากกาอื่น(อ้าว) แต่พกในกระเป๋าใบกลางค่ะ ใส่สารพัดอย่าง แต่อันนี้มันเล็กดีและใช้เป็็น stylus ได้ด้วย เลยไว้เสียบกระเป๋าด้านในให้หยิบง่ายๆกว่าแท่งอื่น เวลาต้องเซ็นหรือโน้้ดอะไรด่วนแล้วหาปากกาไม่เจอก็จะได้ไวๆหน่อย10. สมุดโน้ด อันนี้คิสเคยเอามาเห่อแล้ว เป็นของร้าน miniso ชอบความเมทาลิค ดูเป็นศิริมงคล แต่...คิสเตรียมเปลี่ยนใหม่เพราะปกติชินกับการเขียนเล่ม pocket ธรรมดา (B5) ซึ่งเล่มที่คิสใช้ประจำมันเป็นปกแข็ง ยัดไม่ลงค่ะ11-12 มือถือ คิสใช้มือถือ 2 เครื่องค่ะ คงเหมือนสาวๆบางคนนะ เพราะเห็นคนพก 2 เครื่องเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ค่อยธรรมดาเท่าไหร่ของคิส คิสใช้เครื่องเดียวมานานมาก จนวันที่แฟนสั่งให้แยกเครื่องทำงานกับเครื่องส่วนตัวจากกัน เป็นคำสั่งที่มาพร้อมกับของขวัญ เพราะเค้าซื้อมาให้แยกกันใช้ คิสก็เลยเพิ่งมีมือถือเครื่องใหม่แบบคนอื่นเค้า ปกติใช้แต่ของตกรุ่นจากที่บ้านค่ะ ใครไม่ใช้แล้วก็ค่อยถึงมือคิส 55ตอนแรกก็ไม่ชินและก็ต่อต้านนิดๆ เพราะมันก็เป็นพฤติกรรมเราที่ติดการใช้งานเครื่องเดียวมานาน ตอนนี้ดีใจมากที่มี 2 เครื่อง เพราะบางวันคิสจะปิดเสียงเครื่องทำงานไปเลย หรือถ้านอนก็ปิด เพราะคิสเป็น insomnia การนอนคิสดีขึ้นมากๆ เพราะคิสไม่ต้องระแวงอีก ปล่อยไปเลย ตื่นมาค่อยว่ากัน
ชิ้นสุดท้าย Amazing สุดละ เพราะคืองานคัดกรองสุดๆ คิสปกติจะพกของเยอะมากๆๆๆ แต่ต้องลดจำนวนของใช้เอาที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น อันไหนไว้ที่ทำงานได้ก็ไว้ และอันไหนไม่จำเป็นเอาออกให้หมด ตัวกระเป๋ าเป็น sephora holiday สัก 2-3 ปีก่อน ยังใช้งานได้ดีอยู่ ส่วน charm เป็นของที่ระลึกรูปกุญแจที่คุณแฟนให้มา ของจริงน่ารักมาก และที่สำคัญคนไทยออกแบบด้วย ปลื้มปริ่มใจเสมอเวลาคนไทยทำอะไรออกมาได้ดีแบบ outstanding ข้าวของข้างในนั้นก็ตามรูปเลยค่ะ คิสคงต้องมาตีแผ่วันหลังอีกทีว่าคืออะไรบ้าง แต่ดูจากรูปคงพอเดาๆกันได้ เรื่องสากกะเบือยันเรือรบไม่ได้มีที่มาจากเรือโนอา แต่จากกระเป๋าใบนี้ค่ะ
ก็เรียกว่า....ของที่เคยหนักราวๆ 5-6 กิโลก็ถูก resize (หรือควรจะเรียกว่า Zip file เพราะปกติของเยอะมากจริงๆ มีทุกอย่าง) จนน่าจะเหลือ 1-2 กิโล เพราะตัวกระเป๋าก็ต่างกัน กระเป๋าหนังมันก็หนักเป็นธรรมดา กระเป๋าผ้าก็จะเบากว่า แต่ตัวนี้ผ้าหนามากๆ เป็นแคนวาสที่หนาแบบ dense มาก รู้สึกว่า sturdy จนเกินความจำเป็นของกระเป๋าแคนวาส ดูดีระดับสิบ สาย crossbody ก็กำลังดี สายปรับ คิสปรับจนสั้นสุดของมัน ความยาวกำลังดีกับการถือแบบกระเป๋าข้างลำตัวที่ความสูงคิส(152 ซม.) และสิ่งที่ชอบมากๆคือฐานกระเป๋าเค้าที่ทำแยกออกมาแบบเรียบร้อยและแข็งแรง ทุกชิ้นส่วนงานดีและน่าใช้มากๆ ดูอึดถึกทนเยี่ยงทหารเกณฑ์ ไม่ต้องกังวลอะไร
ส่วน short handle อันนี้คิสคล้องข้อมือมาถือแบบท่าคุณนายทวงแชร์ได้(นึกภาพตามคือคล้องตรงข้อพับแขน) แต่คิสไม่แน่ใจสำหรับคนอื่นค่ะ ไม่ใช่เพราะคิสผอม คิสไม่ผอม แต่คิสคือคนแคระคนที่ 8 ที่หายตัวไป รู้แต่ว่าคนอื่นถือ handle จับแบบธรรมดาทั่วไป ไม่มีปัญหาแน่นอน(แหง่สิ!!) สรุปความชอบกระเป๋าใบนี้คือชอบมากกกกก อยากกราบคนเอามาขายอะเอางี้ เห็นครั้งแรกคือเว้าวอนมาก ตอนนี้ยังอยากได้อีกใบเลย แต่ใช้ๆไปก่อนว่ายังไงเรื่องไซส์ เราไหวมั๊ยที่พกของแค่นี้ หรือสุดท้ายกลายเป็นต้องถือกระเป๋า 2 ใบเหมือนแต่ก่อน ยังไม่แน่ใจนิสัยตัวเองเลยค่ะ 55
ก็หวังว่าสาวๆจะถูกใจกับกระเป๋าถือไปทำงานใบล่าสุดของคิสนะคะ ตั้งใจว่าจะหยิบใช้งานบ่อยๆ และสลับใช้กับสีน้ำตาล ในวันที่ต้องการลุคเป็นผู้ใหญ่ คิสมีใบใช้ประจำอยู่ราวๆ 5 ใบค่ะ ไว้จะคัดและมาตีแผ่ว่ามีใบไหนบ้าง แต่ใน 5 ใบ ใบนี้ถือว่าเล็กสุด น้ำหนักเบาสุด และดูดีไซน์เรียบง่าย แต่ถือไปทำงานได้แบบไม่ขี้เหร่นะ คิสว่ามันสวยแบบมินิมอล สำหรับใครที่สนใจก็ลองไปหาได้ตามลำบากนะคะ คิสอยากจะอัดคลิปมากๆ แต่หมดแรงแล้ว อยากทำแบบสาวๆคนอื่นบ้าง ดูสนุกดี แต่ไว้มีเวลาทำค่อยว่ากันเนอะ วันนี้ขอตัวก่อนนะค่า ขอให้ทุกคนมีวีนเริ่มต้นใหม่ที่ดีค่ะ have a great start!! ^^