Aesop | จากความพิถีพิถีน สู่จุดเริ่มต้นการบำรุงผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

64 16
แบรนด์ Aesop (เอสอป) แบรนด์จากเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 1987 เป็นแบรนด์ที่ชื่นชอบของใครต่อใครหลายคน ด้วยการนำสารสกัดนานาชนิดจากธรรมชาตินานาชนิดมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อย่างลงตัว อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ ทำให้เรารู้สึกอยากจะเข้าไปลองทำความรู้จักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

ต้องท้าวความให้ฟังก่อนว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่อากาศบ้านเราแย่มาก ถึงมากที่สุด(เอ๊ะ ตอนนี้ดีขึ้นหรอ? ป่าวหนิ!) ซึ่งทำให้สิวอุดตันเราสลับกันขึ้นแบบเรียงรายไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์เลยหละ และพอเรากดสิวก็ดันทิ้งรอยแดง เอาไว้ให้ช้ำใจเล่นสุดท้ายเราเลยลองแวะเวียนเข้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อปรึกษาปัญหาและสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ สุดท้ายเลยหิ้วน้องกลับมาบ้านมา 2 ชิ้นนั่นคือ Aesop Lucent Facial Concentrate และ Aesop B&C Facial Balancing Gel นั่นเองขอรับ เรียกว่าการ Fight กับรอยสิวครั้งนี้เราจัดเต็มแบบ Non-Stop เลยหละ เอาเป็นว่าไปดูกันเลยว่าแต่ละตัวเป็นยังไงฮะ...

Aesop Lucent Facial Concentrate(60ml./3,950.-)

เซรั่มให้ความชุ่มชื้นสูตรเข้มข้ม เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยปลอบประโลมและฟื้นบำรุง ปรับสภาพผิวให้มีความสมดุล ช่วยเพิ่มวิตามินที่จำเป็น มีส่วนผสมของวิตามิน C ให้ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสแข็งแรงมากขึ้น


Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อเซรั่มมีความบางเบาสุดๆ แถมยังซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว แต่กลับให้ความชุ่มชื้นบนผิวได้ค่อนข้างดีทีเดียวหละ
  • Scent : กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนแทบจะเคลิ้มหลับเลยแหละ
  • Packaging : น้องคนนี้มาในขวดแก้วแบบดรอปเปอร์ ซึ่งส่วนตัวแล้วเราแอบหวั่นเหมือนกันว่าจะซุ่มซ่าม ปัดตกจากโต๊ะหรือเปล่า (>.<)


Key Ingredients

Aesop B&C Facial Balancing Gel(60ml./4,050.-)

ทรีทเมนต์เข้มข้นซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยส่วนผสมของวิตามินบี และวิตามินซี  ครอบคลุมการแก้ปัญหาผิวรอบด้านและตรงจุด โดยวิตามินบีเข้มข้นช่วยลดการอักเสบของสิว กระชับรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง ดูแลเรื่องริ้วรอยเพื่อผิวดูกระจ่างใสและสม่ำเสมอ ผสานการบำรุงจากวิตามินซีที่มีความเสถียร ส่งตรงถึงผิวได้ดีกว่าวิตามินซีทั่วไป ช่วยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายโดยแสงแดดให้มีสุขภาพดีขึ้น เป็น Must Have Item ที่คนรักผิวไม่ควรพลาด

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : ตอนที่เราลองเทสต์เนื้อ พูดได้คำเดียวเลยว่าอยากได้แครกเกอร์มากๆ คือ น้องคนนี้เค้ามีเนื้อสัมผัสที่เหมือนน้ำผึ้งยังไงอย่างงั้นเลย เป็นเนื้อสัมผัสที่เราไม่เคยใช้มาก่อน ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจและเป็น Wow Factor สำหรับเราพอสมควรเลยหละ
  • Scent : กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบเดียวกับ Aesop Lucent Facial Concentrate ที่สำคัญคือด้วยความที่เนื้อเค้าเหมือนน้ำผึ้ง ทำให้ผลิตภัณฑ์เคลือบอยู่บนผิวได้ดี กลิ่นนี่หอมตลอดคืนเลยแหละ
  • Packaging : น้องคนนี้มาในรูปแบบ Jar Type(กระปุก) ซึ่งส่วนตัวแล้วเราเข้าใจในเรื่องของเนื้อสัมผัส กับ Packaging นะ แต่ก็แอบหวังใจให้ปรับเป็นแบบ Airless Pump เหมือนกัน เพื่อลดโอกาสการสัมผัสกับอากาศและสิ่งสกปรกภายนอก

Key Ingredients

นอกจากนี้ยังมีสารอีกตัวที่น่าสนใจอย่าง Hydroxyacetophenone : หรือ SymSave® H โดยบริษัท Symrise เป็นสาร antioxidant ที่น่าสนใจตัวนึงซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่า มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาคุณภาพส่วนผสมต่างๆในสูตร ไม่ให้เสื่อมสภาพ ทั้งยังมีฤทธิ์ในการลดการระคายเคืองได้ดีทีเดียวหละ

Let's Try & Result

จากที่เราได้ลองใช้เจ้า Aesop Lucent Facial Concentrate และ Aesop B&C Facial Balancing Gel ประมาณ 3 สัปดาห์ ต้องบอกว่าผิวโดยรวมเราแข็งแรงขึ้นจริงๆ พูดไปจะหาว่าโม้ เอาเป็นว่าไปชมภาพ Before - After กันเลยจ้า
จากภาพ Before - After ด้านบน เราขอนำมาสรุปเป็นข้อๆ ให้เข้าใจชัดเจนทีละจุดเลยดีกว่าโดยเริ่มจาก :
  • รอยแดงและรอยดำจากสิว : ค่อยๆจางลง และเฟตตัวออกไปอย่างเงียบๆ ในเวลาที่ค่อนข้างไว เมื่อเทียบกับปกติที่ไม่ได้ทา ถือว่าทำได้ดีทีเดียวในแง่การปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
  • ความละเอียดของผิว และรูขุมขน : รูขุมขนดูกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวละเอียดขึ้น ดูแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ผิวโดยรวมยังดูเปล่งปลั่งเหมือนได้ดื่มน้ำ และพักผ่อนเพียงพอ(ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผ่านศึกการนอนน้อย และดื่มน้ำน้อยมาตลอดช่วง 2 วีคที่ผ่านมาอย่างหนักหน่วงมากแม่)


สรุป

เรามองว่า Aesop Lucent Facial Concentrate และ Aesop B&C Facial Balancing Gel เป็นตัวช่วยเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอที่ค่อนข้างดี รวมถึงปรับผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่เราเปิดใช้ แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ Base on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ และการดูแลตัวเองของเรา เอาเป็นว่าหากใครสนใจก็ลองไปเยี่ยมชม แวะไปลองเทสต์ที่เคาน์เตอร์ Aesop ได้ทุกสาขาเน้อ สำหรับวันนี้เราก็ขอป้ายยาเท่านี้แหละฮะ ไว้เจอกันใหม่ในบทความถัดไปค๊าบ บับบาย...

หมายเหตุ : สำหรับคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ อุดตัน ระคายเคืองไหม? / เป็นสิ่งที่ตอบให้ไม่ได้ เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิว ปัญหาผิว ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากกังวลอาการแพ้ เราแนะนำให้ทดลองบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นหากไม่แพ้ค่อยขยับไปที่บริเวณลำคอ และใบหน้าตามลำดับครับ


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE