Unrealistic Body Expectations - ถึงจะผอมเพรียวแต่ก็ยังไม่พอ
candy 77 12
.
.
การเปิดเผยเรื่อง eating disorder เป็นครั้งแรกจาก Taylor Swift
คุณเคยมีความคิดแวบเข้ามาในหัวรึเปล่าว่า สาวที่ผอมสูงราวกับนางแบบอย่าง Taylor ต้องอดอาหารเพื่อรักษาความผอมบางไว้ ?
Taylor เปิดใจใน documentary “Miss Americana” ที่เพิ่งลงจอ Netflixว่า
"ในช่วงหลายปีมานี้ ชั้นได้เรียนรู้ว่าการคอยตามดูรูปตัวเองทุกวันมันไม่ได้ดีต่อตัวชั้นเลย ซึ่งมันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งนะ และชั้นก็ไม่ได้ภาคภูมิใจกับเรื่องนี้สักนิด แต่ชั้นจะถูกกระตุ้นด้วยการเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่าหน้าท้องตัวเองใหญ่ดูเกินไปหรือบางทีก็มีคนบอกว่าชั้นดูเหมือนกำลังท้อง มันเป็นแรงผลักให้ชั้นเริ่มอดอาหารนิดหน่อยๆ...หมายถึงแทบไม่กินอะไรเลยน่ะ"
"ในช่วงหลายปีมานี้ ชั้นได้เรียนรู้ว่าการคอยตามดูรูปตัวเองทุกวันมันไม่ได้ดีต่อตัวชั้นเลย ซึ่งมันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งนะ และชั้นก็ไม่ได้ภาคภูมิใจกับเรื่องนี้สักนิด แต่ชั้นจะถูกกระตุ้นด้วยการเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่าหน้าท้องตัวเองใหญ่ดูเกินไปหรือบางทีก็มีคนบอกว่าชั้นดูเหมือนกำลังท้อง มันเป็นแรงผลักให้ชั้นเริ่มอดอาหารนิดหน่อยๆ...หมายถึงแทบไม่กินอะไรเลยน่ะ"
"ตอนที่แสดงคอนเสิร์ต ชั้นเคยคิดไปว่า ชั้นควรจะเหนื่อยแทบสลบในตอนปิดการแสดงหรือไม่ก็ระหว่างนั้น ชั้นเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ตอนนี้ชั้นได้ตระหนักว่า ไม่นะ ถ้าเรากินอาหาร เราก็จะได้พลังงาน แข็งแรงมากขึ้น เราก็จะขึ้นแสดงได้โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้ามากขนาดนั้น มันคือการค้นพบที่ดีจริงๆค่ะ เพราะชั้นรู้สึกมีความสุขที่เป็นตัวเองมากกว่าเก่า มีความสุขมากขึ้นที่ชั้นไม่ต้องสนใจอะไรมากมายหากมีใครมาพูดว่าชั้นน้ำหนักขึ้น เป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตชั้นดีขึ้นเยอะ ตอนนี้ชั้นใส่ไซส์ 6 ไม่ใช่ไซส์ 00 มันไม่ใช่วิถีที่เหมาะสมกับร่างกายของชั้น ซึ่งแต่ก่อนชั้นไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องนี้ ไม่รู้มาก่อนจริงๆค่ะ "
"เวลาที่มีคนแสดงความเป็นห่วงเป็นใยในสุขภาพ ชั้นก็จะปรี๊ดกลับไปว่า นี่คุณหมายความว่าไง แน่นอนว่าชั้นกินอาหาร ทุกอย่างเป็นปกติหมด ชั้นแค่ออกกำลังเต็มที่ ซึ่งชั้นก็ออกกำลังเยอะจริงๆนะคะ แต่ประเด็นคือชั้นไม่แตะอาหารเลยไง "
"ชั้นว่าเราจะไม่รู้ตัวหลังจากที่ค่อยๆทำมันทีละน้อย "
"มันจะมีมาตรฐานความงามที่คุณไม่สามารถเอื้อมถึง ถ้าผอมมากพอก็จะไม่มีก้นในแบบที่ทุกคนโหยหา แต่พอมีน้ำหนักที่จะมีก้นแบบนั้น ก็ไม่มีหน้าท้องที่แบนราบอีก โคตรยากจนเป็นไปไม่ได้เลย"
"มันจะมีมาตรฐานความงามที่คุณไม่สามารถเอื้อมถึง ถ้าผอมมากพอก็จะไม่มีก้นในแบบที่ทุกคนโหยหา แต่พอมีน้ำหนักที่จะมีก้นแบบนั้น ก็ไม่มีหน้าท้องที่แบนราบอีก โคตรยากจนเป็นไปไม่ได้เลย"
"คือคุณไม่มีวันมาบอกตัวเองหรอกว่า นี่ชั้นเป็นโรคปฏิเสธอาหารนะเออ แต่พอรู้ตัว คุณก็จดรายการของทุกอย่างที่เอาเข้าปาก ทั้งๆที่คุณก็รู้ตัวดีว่าสิ่งที่ทำไปมันไม่ถูกต้องเท่าไร แต่พวกบล็อกเรื่องการไดเอททั้งหลายต่างก็บอกคุณว่ามันเป็นสิ่งที่สมควรทำ"
จากนั้น Taylor ก็ได้โชว์ภาพที่ทำให้เธอจิตตกเรื่องรูปร่าง เป็นรูปset เดียวกับด้านล่างนี้ ในระหว่างถ่ายทำสารคดี เธอก็ยังต้องต่อสู้กับตัวเองในการควบคุมอาหาร และต้องบังคับจิตใจตัวเองว่า จะไม่กลับไปอดอีก
"ดูอ้วนยังดีกว่าดูป่วย" Taylor บอกตัวเองซ้ำๆว่าจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิม เพราะที่ผ่านมามันให้ผลลัพธ์ที่ไม่โสภาเอาซะเลย
ถามความเห็นของเราเหรอ ? ตอนที่ได้ดูภาพเคลื่อนไหวแบบ raw ใน documentary อันนี้ เธอดูเพรียวแบบเป๊ะเลยค่ะ ภาพที่ Tay บอกว่าทำให้เธอจิตตกนั้นเป็นภาพจากแค่สองวันก่อนที่เธอจะถ่ายทำตอนที่เปิดใจเรื่องโรคปฏิเสธอาหาร ( เป็นวันที่เธอใส่ชุดเชิ้ตขาวไหล่ตกกางเกงขาสั้น) ภาพที่เราเห็นกันว่าดูอวบจนมีคนเอาไป bully นั้น มาจากมุมกล้องและ fashion ที่ไม่ค่อยส่งเสริมเธอเท่านั้นเอง ขาเธอเรียวยาวสวย เราไม่เคยเห็นเซลลูไลท์จากเธอเลย และส่วนเว้าส่วนโค้งที่เพิ่มขึ้นมาก็ดูน่ามองด้วย
เราอยากขอแสดงความยินดีกับ Taylor ที่ค้นพบเส้นทางที่ balance ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต คุณจะพบว่า เธอไม่ได้แต่งกายพรางรูปร่างที่ดูหนาขึ้น หรือต้องคอยตอบโต้เสียงวิจารณ์เรื่องรูปร่าง แต่เปิดเผยลุคใหม่ของตัวอย่างมั่นใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่เคยผ่านสถานการณ์เดียวกัน (แม้บางครั้งจะแอบจิตตกเหมือนกับเราๆ) เราว่าเธอเท่มากเลยล่ะ!
The End