แชร์ความรู้จากกิจกรรม Jeban x NAOS กับ 2 แบรนด์สุดคูลอย่าง BIODERMA และ INSTITUT ESTHEDERM

เป็นอีกครั้งที่เรามีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมดีๆ จากทางครอบครัวจีบัน ซึ่งในครั้งนี้ทางจีบันได้จับมือกับทาง NAOS ที่เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อย่างแบรนด์ BIODERMA และ INSTITUT ESTHEDERM โดยในครั้งนี้มาในคอนเซ็ปท์ "ผิวแห้ง ขาดน้ำ และการเติมน้ำให้ผิว" ซึ่งถึงแม้จะเป็นเบสิคพื้นฐานแต่เราเชื่อหลายคนละเลยและมองข้ามไปซะสนิท 

มาถึงจุดนี้หลายคนทำหน้าสงสัยว่า...เอ๊ะ! ผิวขาดน้ำ ก็แค่ผิวแห้งไม่ใช่หรอ? อันที่จริงก็ไม่ผิดหรอก แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เราขอพูดแบบนี้ว่า "ผิวขาดน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาผิว" หลายๆ ด้านเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าอย่ารอช้าไปเข้าเรื่องกันเลย!!

บรรยากาศภายในงาน

Mood & Tone ของงานในวันนี้โดดเด่นและชัดเจนด้วยการใช้สีฟ้า-สีน้ำเงิน ที่สื่อถึงเรื่อง Hydration เราต้องขอชื่นชมทีมงานทุกๆ ท่านทั้งในเรื่องการตีโจทย์ และ Decorate ที่สื่อสารออกมาได้ชัดเจนขนาดนี้ และอย่างที่เราเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าภายในงานต่างก็รายล้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวจากแบรนด์ BIODERMA และ INSTITUT ESTHEDERM ให้เราได้ทำความรู้จัก ได้ถ่ายภาพ และลองเล่น รวมถึงยังมี Session ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Session ให้ความรู้, Question & Answer รวมถึงกิจกรรมล่าดวงดาว NAOS เพื่อแลกของรางวัล

ที่ได้สาวมากความสามารถที่ทั้งน่ารัก และอารมณ์ดีอย่างพี่หญิงมาเป็นธีกรในวันนี้ ทำให้บรรยากาศน่ารักและเป็นกันเอง เรียกรอยยิ้มจากเพื่อนๆ ได้ไม่ได้น้อยเลยหละ (ป.ล. น้อง Snap มาได้แค่ภาพนี้มาได้อ่าพี่หญิง #คนอะไรเผลอยังน่ารัก)

แถมวันนี้เรายังได้รับเกียรติจากคุณจินมาเป็น Speaker ให้ความรู้ในเรื่อง "ปัญหาผิวขาดน้ำ" อีกด้วย ต้องบอกเลยว่าเป็นอีก Session ที่โหลดข้อมูล และความรู้ให้เราได้เยอะมาก ไม่ว่าจะจากคุณจินเอง รวมถึงปัญหาผิวของเพื่อนๆ พี่ๆ ในครอบครัวจีบันที่มาร่วมกันแชร์ ให้เราได้มีความเข้าใจมากขึ้น และจากที่เราได้ฟังข้อมูลทั้งหมดในวันนี้ เราเลยขอแบ่งปัญหาผิวขาดน้ำออกเป็น 2 หัวข้อหลักๆ ตามความเข้าใจของเรา ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยฮะ...

1. ผิวขาดน้ำ - ที่มีริ้วรอยร่องตื้น และไม่กระจ่างใส

หลายคนเกิดคำถามขึ้นในใจว่า "แค่ผิวขาดน้ำ ถึงกับทำให้เกิดริ้วรอย หรือผิวไม่กระจ่างใสเลยหรอ ?" เราอยากให้เพื่อนๆ ลองจินตนาการว่าเซลล์ผิวเราเปรียบเสมือนลูกโป่งที่มีน้ำอยู่ภายใน ยิ่งปริมาณน้ำในลูกโป่งมีมาก ลูกโปงก็ยิ่งเต่งถูกไหมครับ กลับกันเมื่อใดก็ตามที่ปริมาณน้ำลดลงลูกโป่งก็จะเหี่ยวและแฟบ ซึ่งเซลล์ผิวของเราก็เปรียบเสมือนลูกโป่งจำนวนมากที่วางต่อกัน เมื่อใดก็ตามที่เซลล์เต่ง ผิวก็จะฟูขึ้น แน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำในเซลล์น้อยเซลล์ก็จะเหี่ยว แฟบ และเกิดเป็นริ้วรอยร่องตื้นได้ในที่สุด

นอกจากเรื่องริ้วรอยแล้วปริมาณน้ำในเซลล์ก็ส่งผลกับความกระจ่างใสของผิวอีกเช่นกัน เพราะเมื่อเซลล์ผิวเรามีน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เซลล์จะเรียงตัวต่อกันอย่างสม่ำเสมอ สวยงาม ทำให้เมื่อมีแสงมาตกกระทบจึงเกิดการสะท้อน หรือหักเหได้อย่างสม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยความโกลว์แบบเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องเพิ่งเมคอัพเลยหละ

วิธีแก้ไข : ผิวขาดน้ำ - ที่มีริ้วรอยร่องตื้น และไม่กระจ่างใส

บอกเลยว่าปัญหาผิวขาดน้ำเนี่ยเป็น 1 ในปัญหาที่เบสิคที่สุดซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก 'ตัวเรา" เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างการดื่มน้ำ การพักผ่อน สภาพอากาศ การบำรุงผิว ไปจนถึงการใช้คลีนซิ่งที่ผิดประเภท แน่นอนว่าในเรื่องของไลฟ์สไตล์ และสภาพอากาศ บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่เราจะปรับตัว แต่ถ้าปรับได้ก็ดีนะขอรับ เช่น 

• การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน : โดยหลักการคือเอาน้ำหนักตัว x ด้วย 33 ตัวอย่างเช่น เราหนัก 60 ก็เอา 60 x 33 = 1,980cc หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อชดเชย และให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน (ทั้งนี้ยังไม่รวมกับการออกกำลังกายเน้อ เอาเป็นว่าถ้าใครออกกำลังกายที่มีเหงื่อเยอะ เราแนะนำให้ดื่มน้ำเพิ่มอีกซัก 1-2 นะขอรับ)

• การนอนหลับ : ร่างกายมนุษย์นั้นมีการบริหารจัดการที่ฉลาดและเป็นระบบมากทีเดียวหละ โดยเฉพาะการผลิต Growth Hormone ซึ่งจะมีการผลิตในขณะที่เราหลับสนิทในช่วง 22:00 - 01:00 ดังนั้นถ้าทำได้ควรนอนหลับให้สนิทในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อให้ Growth Hormone ได้ถูกผลิตออกมาอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพที่สุด (แนะนำว่าก่อนนอนอย่าดื่มน้ำเยอะจนเกินไป เพราะอาจปวดฉี่และตื่นกลางดึกได้เน้อ)

แต่ทั้ง 2 หัวข้อด้านบนเป็นการปรับที่พฤติกรรมเป็นหลัก แน่นอนว่าทาง NAOS เองก็ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหานี้มาเรียบร้อยนั่นคือผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ BIODERMA ในไลน์ Hydrabio ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร "Aqua Genium" ที่อุดมไปด้วยสารสำคัญอย่างสารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างท่อส่งน้ำมากขึ้น และวิตามิน B 3 ที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง Ceramide เพื่อล็อคน้ำและอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง 3 Products ดังนี้ :

• BIODERMA HYDRABIO H2O(250ml./790.-) : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดเครื่องสำอาง สูตรน้ำ ชนิดไม่ต้องล้างออก อ่อนโยนและคงความชุ่มชื้น ใส่ใจในผิวที่บอบบาง
• BIODERMA HYDRABIO TONIQUE(250ml./890.-) : โทนเนอร์ปรับสภาพผิว และเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง สำหรับผิวขาดความชุ่มชื้น ตัวนี้สามารถประยุกต์ใช้โดยการเทใส่เม็ดมาส์กและเอามามาส์กหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีทีเดียวหละ! 
• BIODERMA  HYDRABIO SÉRUM(40ml/1,390.-) :  ซีรั่มบำรุง ที่คืนความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับ ผิวขาดน้ำ

2. ผิวขาดน้ำ - และมีริ้วรอยร่องลึก

เพื่อนๆ คงเคยได้ยิ่งกันประจำว่า คอลลาเจนและไฮยาลูรอนเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้ผิวเราเกิดริ้วรอยร่องลึกถูกไหมครับ แต่เพื่อนๆ ทราบไหมว่าการขาดน้ำก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดริ้วรอยเช่นกันซึ่งทาง NAOS ก็ได้เสริมในส่วนี้ด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ INSTITUT ESTHEDERM ที่มี Hyalulonic Acidในรูปแบบ Micro Capsule ถึง 3 โมเลกุลประกอบด้วย

• Hyalulonic Acid โมเลกุลใหญ่ : ทำหน้าที่ในการเคลือบผิว และดึงความชุ่มชื้นจากภายนอกเข้าสู่ผิว
• Hyalulonic Acid โมเลกุลกลาง : ช่วยในการกระตุ้นให้ผิวผลิต Hyalulonic Acid เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเต่งตึง และฟูขึ้นนั่นเอง
• Hyalulonic Acid โมเลกุลเล็ก : ช่วยกระต้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้มีปริมาณมากขึ้น

ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ไอเทมจาก INSTITUT ESTHEDERM ภายใน 28 วันริ้วรอยจะดูตื้นขึ้นถึง 33% โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ที่เราพูดถึงประกอบด้วย :

• INTENSIVE HYALURONIC SERUM(30ml./2,800.-) : เซรั่มเติมความชุ่มชื้นที่มีไฮยาลูรอนความเข้มข้นสูงถูกบรรจุไว้ในแคปซูล เพื่อการส่งผ่านและแตกตัวภายในผิวให้ริ้วรอยจากการขาดน้ำถูกเติมเต็ม เพื่อผิวที่ดูอิ่มน้ำเรียบเนียนและเปล่งประกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขาดน้ำ
• INTENSIVE HYALURONIC CREAM(50ml./2,500.-) : ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมหลักคือไฮยาลูรอนความเข้มข้นสูงหลากหลายขนาด ช่วยสร้างม่านน้ำบนผิว เพื่อผิวที่ดูอิ่มน้ำเรียบเนียนและเปล่งประกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขาดน้ำ
• INTENSIVE HYALURONIC EYE SERUM(15ml./2,200.-) : อายเซรั่มที่มีส่วนผสมหลักคือไฮยาลูรอนความเข้มข้นสูงถูกบรรจุไว้ในแคปซูล ช่วยเติมเต็มริ้วรอยรอบดวงตาและผิวที่ดูหย่อนคล้อยจากการขาดน้ำ และทำให้รอบดวงตาดูบวมน้อยลงและกระจ่างใสขึ้นจากความเย็นของโลหะ ZAMAX ที่ส่วนแอพพลิเคเตอร์อีกด้วย

สรุปภาพรวม

เรียกว่ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราประทับใจสุดๆ เลยหละ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้เรื่อง "ผิวขาดน้ำ" โดยคุณจิน รวมไปถึงการแชร์ประสบการณ์และวิธีรับมือปัญหาผิวขาดน้ำจากเพื่อนๆ เอง ทำให้เรามีความเข้าใจมากขึ้น ได้ความรู้เพื่อนำไปดูแลตัวเอง และต่อยอดได้อีกเยอะเลยทีเดียวหละ

ส่วนในมุมของกิจกรรมต้องยอมรับว่าครั้งนี้ทาง Jeban x NAOS จัดกิจกรรมออกมาได้กลมกล่อมและสนุกมากทีเดียว ทำให้เพื่อนๆ ได้ใช้องค์ความรู้ที่ได้รับจากใน Session ก่อนหน้าอย่างเต็มที่ รวมถึงยังทำให้เรารู้จักกับเพื่อนๆ พี่ๆ จีบันเพิ่มขึ้นด้วยหละ

สำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นเราขอเวลาทดลองใช้ซักพักนึงนะค๊าบ สัญญาว่าจะมาทำรีวิวให้ชมอย่างแน่นอนฮะ! สุดท้ายเราก็ขอขอบคุณทาง Jeban และ NAOS อีกครั้งที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมานะครับ และที่ขาดไม่ได้ขอบคุณเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกๆ ท่านที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมในกิจกรรม และทำให้วันนี้เป็นวันดีๆ ที่น่าประทับใจอีก 1 วันของเรานะ ขอบคุณจริงๆ ฮะ