Favorite Makeup 2019 มาช้า...แต่มานะ
Jayskennedy
06 ก.พ. 63
62
18
สภาพผิวมันเป็นสิวง่าย รูขุมขุนกว้าง มีรอยดำ รอยแดงจากสิวเก่า ๆ ประมาณนึง แต่ไม่เยอะมากแล้ว เดี๋ยวจะมา Skincare Routine สายมินิมอลทีหลัง ไม่รอช้า เริ่มเลยจ้ะ... PS. แคทที่เกี่ยวกับตาขอข้ามไปนะครับ เพราะไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่สามารถบอกได้ เน้นที่งานเบสเป็นส่วนใหญ่ บางแคทอาจมีหลายตัว...ก็ชอบหลายตัวอ่ะ ?
เริ่มที่งาน Base Make Up เบสดีมีชั้ยไปกว่าครึ่ง
1. Jung Saem Mool Skin Setting Tone Manner Base SPF 30 PA+++ (1100THB) ตัวนี้คือเบสที่ส่วนตัวเราว่าช่วยให้รองพื้นติดทนมากขึ้น ช่วยปรับให้หน้าดูสว่างขึ้นหน่อย ไม่ขาวลอย ผู้ชายใช้ได้ครับ ผู้หญิงที่ผิวมันมากและกลัวหน้าขาวลอยก็แนะนำครับ บางวันเราทาตัวนี้ + คอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่นจบครับ วันขี้เกียจแทนครีมกันแดด แทนรองพื้น ประหยัดเวลาไปได้เยอะ คุมมันกลาง ๆ ให้ผิวสุขภาพดีแบบฉ่ำนิด ๆ ตั้งแต่ได้มาคือใช้บ่อยมากจริง ๆ 2. Ettusais Oil Block Base (1200YEN) ถูกและดีจากประเทศญี่ปุ่น Ettusais ได้ลาจากบ้านเราไปแล้ว พอมีโอกาสได่ไปญี่ปุ่นก็เลยจัดของรางวัล Cosme ตัวนี้มา เท็กเจอร์เป็นเจล ๆ เอาไว้ทาช่วงหน้าแก้ม และ T-Zone ไม่ควรใช้เยอะเพราะจะเป็นคราบขาว ๆ เอาบาง ๆ พอครับ ผลคือ...อเมซซิ่งมากกก ลองใช้ที่ญี่ปุ่นและพบว่าซับหน้าน้อยลงมากคือช่วงเย็น คุมมันดีมาก ระหว่างวันมันนิดหน่อยตรงช่วงจมูก แต่ส่วนอื่นคือดือ!!! ควรมี!! ชนะ!! 3. Charlotte Tilbury Hollywood Flawless Filter No.4 สี Medium (44USD) ตัวนี้คือ Multitasking มาก เป็นไฮไลท์ก็ได้ เป็นเบสก่อนหรือหลังรองพื้นก็ได้ ผสมกับรองพื้นก็ได้ เท็กเจอร์เป็นลิควิดข้น ๆ หน่อย มี coverage นิด ๆ แต่ความนวลคือชนะ! เราชอบใช้ลงทับรองพื้นคือดี!! ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ทาก่อนลงรองพื้นแล้วยังโชว์ทะลุผ่านรองพื้นออกมาได้ ส่วนใหญ่จะโดนรองพื้นบังหมด เค้าช่วยให้ผิวดูสวยขึ้นเหมือนใส่ฟิลเตอร์จริง ๆ นวลขึ้น แต่ไม่ได้ดูวาวเกินไป คือมันนวลอ่ะ เลิฟ! ชอบม้ากกก 4. Burberry Fresh Glow Luminous Fluid Base No.01 Nude Radiance (2100THB) เบสระดับตำนาน เพิ่มความฉ่ำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น แต่ไม่ทำให้ผิวมัน ด้วยความที่เท็กซ์เจอร์เป็นเจล ๆ อ่ะเนอะ กลืนไปกับผิวเลย ไม่เหลือความชิมเมอร์ใด ๆ ส่วนใหญ่เราเอาไว้ผสมรองพื้นมี่เนื้อหนา ๆ แมตต์ มาก ๆ อยากให้บางลง อยากได้ความคุมมันจากรองพื้น แต่ยังอยากให้ผิวดูเล่นแสงอยู่ อยากไรเยอะแยะอ่ะ แต่เค้าทำได้จ้ะ ผสมกับ YSL All Hours คือปังมากบอกเลย!!
งาน Foundation ต้องมีทุกฟินิช
5. Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation 320Bisque W (47USD) ไม่ต้องเดาละมั้งครับ สำหรับคนที่ติดตามมาตั้งแต่แรก ๆ จะรู้แล้ว ว่าเค้าคือที่สุดแห้งรองพื้น long-wearing คือติดทนมากกก ไม่ดรอป ไม่หมอง ข้ามคืนข้ามวันก็ยังอยู่ดี แต่ซับก็อาจจะมีติดมาบ้าง นี่รองพื้นนะครับ ไม่ใช่สีทาบ้านอย่าคาดหวังว่าจะไม่ติดออกมาเลย coverage คือให้ medium to full คุมมันคือดี ! คือไม่มีไรจะติเลยครับ แต่ให้ระวังเรื่องการเลือกสีนิดหน่อยนะครับ ตอนเทสให้รอสักแป้บไม่เกิน 5 นาที ก็เซ็ตตัวละ ไปต่อ... 6. Chanel Perfection Lumiere Velvet Matte No.40 Beige (2500THB) ใครไม่ชอบ เราชอบ ตัวนี้ต้องให้เพราะไม่เจอตัวไหนให้ฟินิชแบบนี้เลย เนื้อบาง คุมมันมันกลาง ๆ เบลอรูขุมขนดีมาก ฟินิชเป็นแมตต์แบบสุขภาพดี คือ velvet ตามชื่อเลยครับ ๆ เบาหน้า และสบายมาก มีซับบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยหลุดร่อนออกมา ไม่แหว่ง การปกปิดเป็นแบบ light - medium ใครไม่ค่อยมีปัญหาผิวเราแนะนำครับ ไม่แนะนำกับคนที่คาดหวัง coverge หรือคนที่ผิวเหลืองมาก ๆ อาจจะเทาได้ 7. Jung Saem Mool Skin Nuder Foundation สี Medium Deep (1700THB) เตะก้น Luminous Silk หล่นไปเลยแต่ก็ยังรักเค้าอยู่นะ ตัวนี้คือสุดย้อดดด เพราะฟินิชดีมาก ให้ผิวที่ดูฉ่ำ ให้การปกปิดแบบ light จนเกือบ full โดยพัฟที่เค้าให้มาคือใช้กับรองพื้นเนื้อเหลว ๆ หรือคุชชั่นอะไรก็เนีนยน!! ใช้บิ้ลด์ covergae ได้ด้วย ให้แตะด้วยน้ำหนักมือที่เบาลงเวลาบิ้ลด์ ปิดรอยดำ ๆ ดีอยู่นะครับ แต่ที่เด่นเลยคือ เนื้อรองพื้นมีความโปร่ง คือมันปกปิดแต่มันไม่ดูหนาเป็นปูน อันนี้ก็ยังไม่เคยเจอจากรองพื้นตัวไหนเหมือนกัน ติดทน ไม่คุมมันแต่ไม่มันเพิ่ม ใช้น้อย ๆ ก็ตอนแรกคือแบ่งรับแบ่งสู้กับรองพื้นสายเกามาก กลัวไม่รอด ปรากฏว่าเวิร์กมากกกก สำหรับสี medium deep นั้นเป็นสีที่เข้มสุดแล้ว คนที่ผิวเกิน nc 30-35 หมดสิทธิ์นะครับ
งานคัฟเวอร์รอยคล้ำอย่าให้มี รอยสิวอย่าให้เกิด
8. De Chanel Concealer 30 Beige (1500THB) วันไหนที่อยากได้งานแอ๊บผิวดี อยากใช้กับเบสบาง ๆ กับแป้งผสมรองพื้นวันสบาย ๆ ต้องให้เค้าเลยแหละ เกลี่ยง่าย เบา ลื่น โอ่ยยย ตัวนี้ให้การปกปิดแบบ medium แต่บิ้ลด์ได้ เราว่าเค้าเหมาะกับคนที่รอยไม่เข้มมาก แล้วไม่เยอะมาก จุดเข้ม ๆ เอาไม่อยู่นะครับ และคำแนะนำคือ ห้ามแต้มทิ้งไว้แล้วเกลี่ย ให้ทำเป็นจุด ๆ ไปนะครับ ไม่งั้นอาจจะเป็นดวง ๆ ได้และแก้ยากมากด้วย 9.Innisfree My Concealer (470THB) ถูกและดีมีอยู่จริง มาเจอเค้าช่วงท้ายปี เพราะ Shapetape เริ่มจะแน่นไปสำหรับเรา ใครที่ชอบคอนซีลเลอร์เนื้อบางแต่ปกปิดตัวนี้เลยครับ ปกปิดดีมากกก เกลี้ยง่ายมาก ใช้อะไรเกลี่ยก็เนียน ส่วนตัวเอาไว้ใช้ปกปิดรอยสิว สิวที่เข้ม ๆ หน่อย แต้มเป็นจุด ๆ ไป ไม่ดูหนาเป็นจุดหินงอกขึ้นมาบนผิว คือดี!! ต้องให้ ชนะ! 10. Maybelline Age Rewind (299THB) ใช้สำหรับปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้แบบสุดยอด ฉ่ำกำลังดี ไม่แห้งแตก ไม่ตกร่อง ใช้ไฮไลท์สันจมูกหรือหน้าผากให้ดูเด้งขึ้นมาก็เริชช ให้ระวังเรื่องน้ำตานืดนึงถ้าน้ำตาไหล เค้าไม่อยู่กะเรานะครับ จะเป็นละลายตกร่องได้ แต่อย่างอื่นที่พูดมาคือดือทั้งหมด
งานแป้งฝุ่นล็อกผิว
11. Jung Saem Mool Pro-lasting Finish Powder สี Bare-Skin (1100THB)
แกเอ๊ยยยย ชนะแป้งฝุ่นทุกตัวที่เคยใช้มากก คือแป้งเค้าเบามาก ลองหาคลิปของเค้าดูนะครับ ตัวแป้งเป็นสีขาวเลย แต่ไม่เปลี่ยนสีรองพื้น แต่ที่เด่นและอเมซิ่งมากคือ มันเป็นแป้งฝุ่นที่ไม่ทำให้หน้าดูหนาเป็นชั้นขึ้นมา คือเค้าบางมาก มันมีนะครับถึงจะเป็นแป้งฝุ่นแต่ก็ทำให้หน้าดูแน่นตึ้บ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ และที่สำคัญคือคุมมันดี๊ดี ไม่คิดว่าแป้งสายเกาจะคุมมันดีขนาดนี้ แตะปุ๊บแมตต์ปั๊บ แต่ไม่ไปลดมิติของหน้า คือมันยังโชว์ความเป็นสกินอยู่ เบลอรูขุมขนได้แบบสุดยอด เราแนะนำให้ใช้กับแปรงนะครับ และก็เจอข้อเสียอย่างนึงคือไม่ควรเซ็ตใต้ตา เรามันทำให้ดูแห้งผากไปหน่อย ไม่ควรเซ็ตคอนซีลเลอร์
เราว่ามันดูไม่ค่อยเนียนยังไงไม่รู้ แต่เรามีตัวช่วย
12. Glossier Wowder G8-G10 (22USD) Wow สมชื่อครับเค้าเล่นเคลมตัวเองว่า matte but not flat เนื้อแป้งละเอียดมากกก คุมความมันได้กำลังดี ไม่แห้งผาก เค้าผสมชิมเมอร์มาด้วยนิดหน่อยครับเพื่อไม่ให่ผิวดูแบบจนเกินไป เบลอพวกริ้วร้อย รูขุมขนได้ดีครับ หน้าผ่องเลย เราเอาไว้ใช้กับแปรงเซ็ตใต้ตา กับคอนซีลเลอร์ แล้วใช้แปรงปัด JSM ตัวบนทั่วหน้า ใช้คอมโบนี้มา 3-4 เดือนแล้ว ไม่ได้แตะพัฟอีกเลยครับ เริชชชช!!
13. Cute Press Evory Stellar B2 (249THB)
แป้งผสมรองพื้นที่เล่นแสงสวยมากกกก ใช้คู่กับ Charlotte Tilbury Hollywood Flawless Filter ตัวบนคือ ปัง ๆ ช่วงไหนผิวดี ๆ ใช้คอนซีลเลอร์นิดหน่อยตรงรอยสิว ใต้ตา ลงป้าชาร์ล็อต ละใช้แป้งตัวนี้ทับบาง ๆ คือสุดยอดดดดดด ตัวนี้ได้ recommend มาจากเพื่อนสนิทเราเองที่มีเพื่อนเป็นช่างภาพอีกที แล้วนางแบบของช่างภาพใช้แป้งตัวนี้แล้วช่างภาพชมว่าผิวนวล ผิวสวย ช่างภาพมาบอกเพื่อนเรา เพื่อนเรามาบอกเรา เราเลยมาชาวมันเวิร์กแมะ ? ตัวนี่ใช้แปรงปัดบาง ๆ เป็นฟินิชชิ่งก็ได้นะเออเริชนะ
งานกรอบหน้า งาน Warm Up Skin ต้องมา
หมวดนี้ชอบเป็นพิเศษ
14. Marc Jacobs O!Mega Bronzer Tan Tastic (1700THB) บรอนเซอร์ขนาดบังหน้ามิดแบบจะใหญ่อะไรขนาดนั้นอ่ะ แต่มันดีมากเลยแกรรร เป็นจังหวะอยากได้ผิวที่ดูอุ่นขึ้นหน่อยนึง ใช้คอนทัวร์ก็ได้บรอนเซอร์ก็ดี เพราะสีน้ำตาลเป็นโทนกลาง ๆ สีเหมือนจะอ่อนกับผิวเรานะครับ แต่พอใช้กับหน้าแล้ว สวยมากกกกก ใฟ้ฟีลแบบหน้าแทนกำลังดีไม่ดูวอร์มหรือดู muddy คือเหมาะกับการใช้ประจำวันมาก ตั้งแต่ได้มาคือใช้บ่อยมาก แต่ยุบไปแค่นั้นอ่ะ ? 15. Anastasia Powder Bronzer Saddle (1265THB) ม้ามืดของปีคือตัวนี้เลยจ้ะ วันไหนอยากได้กรอบหน้าที่เข้มหน่อย หรือให้ลุคที่ดูคมขึ้น ตัวนี้คือ the best เป็นบรอนเซอร์ที่เป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาอีกนี้ดดด ใช้ปัดเป็นคอนทัวร์ก็ดูหน้าค้มขึ้น แต่เราจะไม่ปัดเข้ามาลึกเพราะมันดูไม่ค่อยจริงเท่าไร หรือจะปัดเป็นบรอนเซอร์ก็ได้ โดยปัดสูงขึ้นมาหน่อย แต่อย่าสูงมาก เดี๋ยวจะดูหน้าดำซะก่อนเพราะพิกเม้นแน่นมาก และที่ชอบที่สุดคือฟินิชครับ ไม่แมตต์จัดเหมือนตัวอื่น ๆ ยังแอบมีความชีนอยู่ เพราะเค้าให้ฟินิชแบบ Natural แต่ไม่ได้มีความวาวนะครับ แค่เหลือบ ๆ เฉย ๆ เป็นตัวที่หยิบมาใช้บ่อยอีกเช่นกัน 16. Chanel Les Beige Healthy Glow Sheer Powder N40 (2500THB) ตัวนี้คือชอบที่สุดในทั้งหมด 3 ตัว เพราะสีสวยมากกกก ปกติเราเป็นคนไม่ค่อยคอนทัวร์ชัด ๆ อยู่แล้ว ชอบปัดให้ผิวดูอุ่นขึ้น ดูนัว ๆ หากรอบหน้าไม่ได้ไรงี้ ตัวนี้จะเป็นสีน้ำตาลวอร์ม ๆ เลยครับ เป็นบรอนเซอร์ที่สวยที่สุดแล้วล่ะ ให้ลุคแบบ Sun Wash เพราะด้วยความที่เค้าเป็นแป้ง ไม่ได้เป็นบรอนเซอร์โดยเฉพาะ เม็ดสีจะจางกว่าบรอนเซอร์ปกติ คือมันจะนวล ๆ อุ่น ๆ เห็นแล้วแบบอาบแดดที่ไหนมาอ่ะคนนี้ไรงี้ สุดจริง หมดแล้วซื้อซ้ำแน่นวล แต่นี่ก็ใช้มานานละ ยังไม่หมดเลยครับ ?
หน้าไม่ฉ่ำไม่มีแรงเดิน งานไฮไลท์ต้องมา ตาต้องบอด
17. Glossier Dew Effect Highlighter Quartz (22USD)
เป็นครีมไฮไลท์ที่เราชอบม้ากกกก เรื่องความนวลนี่ที่ 1 เลย เอาพอนวลก็ได้ ให้วาวแบบกลาสสกินก็ได้โอ่ย ฉ่ำลื้มชอบมาก เทคนิกสำหรับคนผิวมันคือเราเซ็ตแป้งตามปกติเลยนะครับ แล้วค่อย ๆ แท็บ ๆ ไฮไลท์ตรงจุดที่สูง ๆ ค่อย ๆ เริ่มจากทีละน้อย ค่อย ๆ บิ้ลด์ไป เค้าไม่ให้ความรู้สึกหนึบด้วยเพราะเรามีแป้งรองอยู่ ให้ความฉ่ำแบบธรรมชาติ วาว ๆ ใส ๆ ไม่ได้ตาบอดโป๊ะแตก คือบิ้ลด์ละก็ไม่ดูโป๊ะอ่ะ ควรมีครับ
18. Mac Extra Dimension Oh Darling (1600THB)
ถ้าพูดถึงไฮไลท์ตัวแรก ๆ ที่ซื้อและใช้มาตลอด จนทุกวันนี้ คือตัวนี้เลยครับ ให้ความวาวแบบ Blinding เลยตาบอดกันไปข้าง และเป็นสีทองที่สวยมากกกก เล่นแสงสวย เป็นทองที่ไม่ตกใจอุ๊ยหน้าทอง นึกออกใช่มะ อันนี้คือทองซัมเมอร์ผิวโกลว์ ๆ อ่ะ และจะไม่พูดถึงเรื่องเท็กซ์เจอร์ไม่ได้เลย เพราะนุ่มมาก ปัดแล้วเค้า melt ไปกับผิวเลย ไม่เป็นก้อน ๆ จะไม่ชอบได้ยังไงล่ะครับคุณ!!
แก้มเฮ้ลตี้ก็ต้องมานะ ออกกำลังกายทุกวันถึงแม้จะไม่ได้ออกจริง ๆ ก็เถอะ
19. Clinique Cheek Pop Fig Pop และ Nude Pop (1000THB)
ปัดแก้มแสนน่ารัก ทั้งสี และราคา สี Nude Pop นี่คือสีสุภาพใช้ได้ทุกวัน เพราะเป็นสีสุภาพ ชมพูดนู้ดนิด ๆ เหมือนจะกลืนไปกับผิวนะครับ แต่พอปัดที่แก้มแล้วสีก็โชว์อัพอยู่ ส่วน Fig Pop นี่จะให้ความสดขึ้นมาอีก เหมือนแก้มดูมีเลือดฝาด เฮ้ลตี้ เพิ่งออกกำลังกายเสร็จอะไรแบบนี้เลย ส่วนใหญ่เราปัดหน้าแก้ม แบบแท็บ ๆ นิดหน่อย เท็กซ์เจอร์คือนุ่มลื่นสุด เค้าแอบมีความชีนเล็ก ๆ นะครับไม่ถึงกับวาว ให้แก้มดูเปล่งขึ้นมาหน่อย มีสีให้เลือกเยอะมาก ลองไปเทสกันดู
20. Glossier Cloud Paint สี Dusk
เป็นลิควิดบลัชที่ลองครั้งแรกแล้วก็รักเลย ด้วยตัวเม็ดสีเองที่ไม่ได้มีพิกเม้นที่ทึบแสง คือมันดูโปร่ง เหมือนเป็นสีแก้มจริง ๆ มัน melt ไปกับผิวเลย ละเหลือไว้แต่ความเฮ้ลตี้ แก้มสดใส ติดทนตลอดทั้งวัน ตัวนี้เราแนะนำให้ใช้นิ้วหรือแปรงเท่านั้นนะครับ เพราะอย่างอื่นคือดูดสีไปหมดเลย ใช้แปรงก็จะกระจายตัวบลัชได้ฟุ้งกว่านิ้ว ตอนนี้มีความคิดจะซื้อสีอื่นเพิ่มอีก แน่นอน เริชชช!
มงกุฏิของหน้าล่ะจะพลาดได้ไง
21. Mac Pro Longwear Wateproof Brow Set สี Brown Ebony (1000THB)
เป็นมาสคาร่าคิ้วตัวเดียวที่เอาคิ้วเราอยู่ คือขนคิ้วเรามันลู่ไปทางด้านหลัง เราก็อยากให้มันตั้ง ๆ ขึ้นบ้างอ่ะเนอะ ตัวไหนก็ไม่ถูกใจ ซื้อมาแล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยกลับมาที่คุณคนนี้เหมือนเดิม เวลาปัดให้ปัดย้อนขนอย่างเดียวอย่าปัดไปมาเพราะจะทำให้ขนลู่ลงมาเหมือนเดิมเราใช้วิธีนี้แล้วโอเค สีก็สวยด้วยเป็นน้ำตาลเกือบจะดำ แต่ไม่ดูดำปี๋ ตัวนี้เราเห็นพี่ป้อมวินิจใช้ตอนแต่งให้พี่โมเมแล้วคิ้วดูเป็นเส้น ๆ มาเลยตอนปัดเราเลยสนใจ ซื้อมาละก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ
22. Guzzo 6 Angled Sexy Brow Liner สี 03 Mocha (120THB)
ตั้งแต่รู้จักกับเค้ามา 2 ปีเต็มไม่เคยเปลี่ยนใจเลยใกล้หมดซื้อตุน ๆ หมดไปไม่นับจำนวนแล้วตอนนี้คือมีตุน 5 แท่งกลัวเค้าเลิกทำ ที่ชอบเพราะเค้าทนมากกกก เจอเหงื่อเจอน้ำแบบผ่าน ๆ ถ้าไม่ลูปก็ไม่หลุด ขนาดไปเล่นสงกรานต์กลับมายังมีโครงอยู่เลย แต่สีจะจาง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ถือว่าทนมากสำหรับสงกรานต์แล้วนะครับ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ถึงจะไม่ได้เขียนคิ้วแบบเดิมแล้วก็มีบ้างที่คิดถึงทรงแบบนั้นก็จะกลับมาใช้เค้าเสมอร้ากกกก
23. Hourglass Arch Brow Micro Sculpting Pencil สี Black (1150THB)
ตั้งแต่ช่วงปลายปีมาเรามีการไปทำ microblading กับคิ้วมานิดหน่อยครับ ทีนี้อะไร ๆ ก็ง่ายขึ้น มีโครงแล้วก็เขียนต่อง่ายละ เราเลยเปลี่ยนมาใช้ดินสอหัวเล็กบ้าง ค่อย ๆ สะกิด ๆ ตรงที่สีมันจาง หรือขนมันแหว่งไป แล้วได้คิ้วที่ออกมาธรรมชาติม้ากกกก แบบเป็นทรงที่เราพอใจสุด เราก็ใช้เค้ามาตลอด และที่สำคัญคือหัวดินสอเค้าเล็กเป็นพิเศษ 1.4 mm. คือแทบจะเล็กสุดใน market ละแหละ คือสะกิดละขนเป็นขน คิ้วฟุ้ง ๆ ก็ได้ 24. Glossier Brow Flick สี Black (18USD)
ในวันที่ต้องการงานละเอียด งานเนี้ยบ แบบเส้นต่อเส้น ขอนำเสนอน้องคนนี้ คือคุณจะได้คิ้วแบบ เส้นคิ้วจริง ๆ เลยแบบดูแทบไม่ออกเลย เราใช้เติมตรงที่มันแหว่ง ๆ ใครที่มีขนคิ้วอยู่แล้วแต่คิ้วบางคือเอาไป 10 10 10 แต่สำหรับใครที่ขนน้อยอาจจะตั้งทรงยากหน่อย แต่ถ้าคุณชินมือแล้ว ลุยโลด ไม่ผิดหวัง คุณจะได้คิ้วที่ดูธรรมชาติเหมือนมีขนคิ้วจริง ๆ เลยแหละ
สีปากนิดหน่อยละกันเพื่อความไม่ป่วยเกิน
25. Glossier Generation G Sheer Matte Lipstick (18USD)
เป็นลิปสติกที่สีจางมาก แต่เพราะความจางนี่แหละทำให้เราชอบ เพราะมีมันจะดูระเรื่อ และไม่ดูหนาเปผินชั้น ๆ ใครสีปากเข้มหรือต้องการแบบทาปืดเดียวอาจจะไม่ค่อยชอบ คือแบรนด์เค้าเน้นมาในสายธรรมชาติ ตั้งแต่ใช้มาก็ยังไม่เคยไม่ชอบตัวไหนของเค้าเลยนะครับ และฟินิชตัวนี้เป็นแบบแมตต์ ไม่วาวเหมือนตัวอื่น ๆ และไม่เป็นก้อน ไม่แห้งตึง วิธีการที่เราใช้คือการแท็บ ๆ ลิปไปที่ปากเลย แล้วใช้นิ้วเกลี่ยนิดหน่อย ก็จะได้ขอบปากเบลอ ๆ แล้วคือต้องให้
จบแล้วนะค้าบบบ ขอโทษที่มาช้า แต่มานะ มาตามสัญญาแน่ ๆ ขอให้ทุกคนเสียเงินกันเยอะ ๆ ต้อนรับปีใหม่ 2020 เราสัญญาว่าจะหาของใหม่ ๆ มาลองให้ดูกันบ่อย ๆ นะครับ ขอบคุณที่ติดตามกัน และสวัสดีปีใหม่นะครับ