คนดังที่กลับมาพุ่งแรงหลังจากที่เจอวิกฤติข่าวฉาว

60 9


Joo Jihoon



บางคนอาจจะคิดว่านี่คือช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์พระเอกหนุ่มมาดเข้มคมที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆจากซีรีส์ผีดิบคลั่งในยุคโบราณที่ Netflix แต่ถ้าคุณเติบโตไม่ทัน "ยุคบุกเบิก" ของบันเทิงเกาหลีเมื่อสิบกว่าปีก่อนก็คงไม่ได้สัมผัสความ peak ของ Joo Jihoon ในฐานะของพระเอกหน้าใสแห่ง Princess Hours ซีรีส์ในตำนาน บทเจ้าชายเย็นชาสร้างความคลั่งไคล้อย่างล้นหลามจากแฟนๆ ทั้งๆที่เป็นการแสดงซีรีส์เรื่องแรกก็โด่งดังถล่มทลายจนพุ่งเข้าสู่เส้นทางดาราดาวรุ่งอนาคตไกล


 
แต่เส้นทางนั้นต้องหยุดชะงักลง  หลังจากที่ Joo Jihoon ถูกจับกุมตัวในparty และถูกตั้งข้อหาใช้ยาเสพติด ecstasy และ ketamine  แม้จะได้รับโทษรอลงอาญาหนึ่งปีและบำเพ็ญประโยชน์ แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นโทษที่เบาเกินไปสำหรับประเทศที่เด็ดขาดกับการกระทำผิดคดียาเสพติด  ส่วนอนาคตทางการแแสดงที่เคยสว่างไสวก็วูบลงไปในพริบตา


ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับ scandal ครั้งใหญ่ทั้งๆที่เพิ่งจะเข้าวงการได้เพียงไม่กี่ปี   แต่แฟนๆ ที่ยืนหยัดสนับสนุน Joo Jihoon อย่างไม่แปรเปลี่ยนก็ประกาศหนักแน่นว่า จะรอวันที่เขาหวนคืนสู่วงการเพื่อเริ่มต้นบทบาทของนักแสดงคุณภาพอีกครั้ง





หากลองคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Park Bom ไอดอลสาวแห่ง 2NE1 ที่สั่งยา adderall จากอเมริกามาใช้รักษาอาการสมาธิสั้น แต่เป็นตัวยาที่ผิดกฎหมาย ถือให้เป็นยาเสพติดในเกาหลี เธอต้องผจญกับกระแสต่อต้านรุนแรงทั้งๆที่ไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ เพราะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์จากความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจได้ แต่ชีวิตศิลปินต้องดำดิ่งลงไปสู่ความตกต่ำท่ามกลางคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของชาวเน็ทจนต้องพักงานไปเนิ่นนาน

แม้เธอจะหวนคืนสู่วงการท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนๆที่เชื่อมั่นในตัวเธอไม่เปลี่ยน เธอจึงตัดสินใจกลับสู่จุดเริ่มต้นด้วยการ ร่วมแข่งขันรายการ Queendom ที่มีคู่แข่งเป็น girl group รุ่นน้อง แม้จะเสียเปรียบจากการเป็นศิลปินเดี่ยวและยุคสมัยที่เปลี่ยนจากเดิมที่เธอเคยยืนหนึ่งในฐานะสมาชิก2NE1ทำให้มีคะแนนไล่หลังในหลายรอบการแสดง แต่เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าช็อคที่ไม่ได้กวาดคะแนนนำตามที่หวัง เมื่อปิดรายการด้วยตำแหน่งรั้งท้ายก็อาจจะพูดได้ว่าไม่พลิกโผ เพราะการเริ่มต้นใหม่ในภาพของไอดอลวัยสามสิบหลังจากที่ห่างหายไปนานก็อาจจะสร้างความกดดันหนักหน่วงเช่นเดียวกัน




 แต่เมื่อหันกลับมามอง Joo Jihoon ที่ไม่ได้อยู่ในวงการ K Pop แต่เป็น K Drama การกลับมาทวงความเป็น top star นั้นมีความท้าทายเช่นไรบ้าง ?

หลังจากรับโทษรอลงอาญาและบำเพ็ญประโยชน์แล้ว Joo Jihoon ก็เข้ากรมและพักงานจากวงการแสดงไปราวๆสามปี และกลับมาคว้าบทนำจากผลงานหนังและซีรีส์ที่ได้รับความนิยมพอสมควร แม้จะไม่ได้โกยเรตติ้งถล่มทลาย แต่ก็มีตัวเลขผ่านสิบกว่าๆให้ชื่นใจ ไม่ได้มีกระแสต่อต้านหรือถูกแบนผลงานแต่อย่างใด จากเดิมที่มีภาพของพระเอกขวัญใจวัยรุ่นก็กลายมาเป็นนักแสดงฝีมือ acting โดดเด่นจากบทที่หลากหลายจากผลงานหนัง The Spy Gone North และ Along with the God ทำให้คว้ารางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากงานประกาศรางวัลการแสดงชั้นนำของเกาหลี



เมื่อมาถึง Kingdom   ผซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่สร้างเสียงกล่าวขวัญในระดับ international  ไม่ว่าจะเป็นนักวิจารณ์จากประเทศตะวันตกและกระแสตอบรับจากผู้ชม  Netflix ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ    ทำให้เชื่อได้ว่า   หากไม่มี scandal แรงๆ เกิดขึ้นซ้ำรอย  ก็คงไม่มีสิ่งใดขัดขวางเส้นทางความเป็น top star ของเขาไปได้



Lee Byung-hun




พระเอก A List คนนี้เคยเผชิญหน้ากับ scandal ที่สั่นคลอนชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน หลังจากถูกสองสาวอดีตไอดอลและนางแบบล่อหลอกให้หลงกลแล้วเรียกร้องเงินถึง 5000 ล้านวอน มิเช่นนั้นจะปล่อยคลิปบทสนทนาระหว่างดื่่มเหล้าสังสรรค์ออกมาประจานพฤติกรรม "นอกใจ" ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง


สำหรับผู้ชายมีพันธะแล้ว แม้ว่าจะโพรไฟล์เลิศหรูเพียงใด แต่ถ้ามีหลักฐานออกมาว่าแอบมีกิ๊กก็ทำให้ประวัติดูด่างพร้อยได้       ภาพชีวิตคู่ที่แสนสมบูรณ์แบบกับนางเอกสาว Lee Min-jung ทำให้แฟนๆถึงกับเงิบเมื่อได้รับรู้ความฉาวโฉ่นี้ ยิ่งสื่อทรงอิทธิพลอย่าง Dispatch ได้เปิดเผยข้อความแชทของเขากับ Lee Ji Yeon นางแบบสาวที่เรียกเขาว่าโอปป้าและเต็มไปด้วยการเฟลิร์ตใส่กันโดยไม่แคร์กับสถานะการแต่งงาน ชาวเน็ทต่างก็ปักใจเชื่อว่า ความสัมพันธ์ของพวกเค้าล้ำลึกเกินกว่าที่ตัวแทนของพระเอกดังได้ยืนยันว่าเป็นเพียง "คนรู้จัก" เท่านั้น



เขาอาจจะลากสองสาวมิจฉาชีพที่พยายามแบล็กเมลเขาให้มารับโทษได้     แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า  เป็นฝ่ายเล่นกับไฟก่อน   หากซื่อสัตย์กับภรรยาอย่างแน่วแน่ไม่ไปวอแวกับสาวๆพวกนี้ตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้อับอาย
เมื่อมือดีปล่อยคลิปแฉจนชาวบ้านชาวช่องรู้ว่าเขาพูดจาสองแง่สองง่ามกับสองสาวจอมแบล็คแมลว่าอะไรบ้าง  แม้จะเคยขอโทษครอบครัวและประชาชนไปแล้ว  แต่ก็ตัดสินใจขอโทษภรรยาต่อหน้าผู้คน และสัญญาวว่าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อชดเชยในความผิดที่ได้ทำร้ายจิตใจภรรยา


แม้จะยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาวทั้งสอง   ก็ยังหนีไม่พ้นต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน    Lee Min-jung  ให้อภัยกับ "ความผิดพลาด" ของสามีและโฟกัสไปที่การเลี้ยงดูลูก   แต่กระแสต่อต้านจากสังคมก็หนักหน่วงพอสมควร   ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้ถอดเขาออกจากงานโฆษณาแสดงงานแสดง  จนNescafe ต้องใช้วิธี DIY ด้วยการแปะสติ๊กเกอร์ภาพ Suzy ทับลงไปที่รูปพระเอกหนุ่มใหญ่  เพื่อสนองตอบกระแสต่อต้าน


ถ้าคิดกันเล่นๆ สมมุติว่าดาราหญิงระดับtop อย่าง Jun Jihyun ถูกแฉว่ากิ๊กกับหนุ่มรุ่นราวคราวลูก หรือส่งข้อความจีบผู้ชายด้วยสไตล์คุณนายสายเปย์ สังคมเกาหลีจะยังอ้าแขนต้อนรับเธอให้หวนคืนสู่เส้นทางซุปตาร์รึเปล่า ?

 แต่ในกรณีของ Lee Byun-hun    ข่าวฉาวเรื่องนอกใจภรรยานั้นไม่ได้ส่งผลต่อหน้าที่การงานในระยะยาว    เขายังคว้าบทหนังได้อย่างต่อเนื่อง   และแม้ว่าจะพักการแสดงซีรีส์ไปยาวนาน  แต่ก็กลับมาเปรี้ยงอีกครั้งจาก Mr. Sunshine    ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ช่องเคเบิ้ล tvN  ที่กวาดเรตติ้งถล่มทลายจนต top 5 ของซีรีส์ช่องเคเบิ้ลที่เรตติ้งสูงที่สุดเป็นประวัติกาล  และยังสร้างกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนๆต่างชาติผ่าน streaming บน Netflix        สื่อรายงานมาโดยตลอดว่า  นับตั้งแต่ที่โด่งดังจาก Iris    เขากลายเป็นพระเอกค่าตัวสูงที่สุดคนหนึ่งในวงการ    สำหรับ Mr. Sunshine    แม้ tvN จะไม่ชี้แจงเรื่องตัวเลขค่าตัว  แต่ก็มีรายงานออกมาว่า  ในแต่ล่ะตอน  เขาจะได้รับเงินถึง 150 ล้านสอนเลยทีเดียว! 


เราคงพูดไม่ได้เต็มที่ว่า Lee Byun- hun เป็นขวัญใจผู้คนจนได้สมญานามว่า " ....แห่งชาติ" เหมือนกับดาราภาพพจน์ดีคนอื่นๆ แต่ชื่อของเขายังการันตีผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แม้จะอายุมากขึ้นเฉียดเข้าสู่หลัก 5 แต่อนาคตในวงการก็ยังดูดเปล่งประกายเรืองรองไม่ต่างจากตอนเป็นหนุ่ม ถึงจะผ่านมรสุม scandal เรื่องชู้สาวมาแล้วก็ตาม


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE