Review เทียนหอม Bath & BodyWorks ที่สะสมมาตลอด 1 ปี
กาล กฤษณกุล 63 27เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองนั้นชวนให้ชีวิตหดหู่เหลือเกิน การต้องทำงาน WFH ทำให้ต้องอยู่บ้านตลอดเวลา เราเลยต้องหาตัวช่วยมาทำให้การอยู่บ้านรื่นรมย์และเปลี่ยนบรรยากาศได้เรื่อยๆด้วยการเข้าวงการเทียนหอม โดยเลือก Bath & BodyWorks เป็นแบรนด์แรกเพราะหาซื้อง่ายมีกลิ่นให้เลือกเยอะมาก ถ้าช่วงโปรโมชั่นก็จะราคาถูกจับต้องได้ ซื้อไปซื้อมาหนึ่งปีผ่านไปก็มีอยู่ทั้งหมด 29 กลิ่น 30 กว่าก้อนแล้วอย่างที่เห็น ก่อนจะ move on ไปแบรนด์ต่อๆไป เลยจะขอรีวิวเก็บไว้เผื่อเพื่อนๆที่สนใจใช้ประกอบการตัดสินใจเพราะช่วงนี้ก็ไปลองดมที่สาขาไม่ได้ และก็เผื่อตัวเองกลับมาอ่านจะได้รู้ว่ากลิ่นไหนควรซื้อต่อบ้าง โดยจะจัดแนวกลิ่นใกล้กันมารีวิวพร้อมกันจะได้แยกให้เห็นชัดว่ากลิ่นไหนใกล้เคียงกันบ้าง
แนวกลิ่นแรกเป็นแนวธรรมชาติต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งเป็นแนวกลิ่นที่เราชอบที่สุด
ประกอบด้วย กลิ่น Fresh balsam , Mahogany balsam , Pacific ocean air
3 กลิ่นนี้มีอารมณ์เดียวกันคือเป็นกลิ่น Balsam หรือกลิ่นต้นสน หลายคนจะรีวิวว่าเป็นกลิ่นต้นคริสต์มาส ซึ่งเราก็ไม่เคยดมต้นคริสต์มาสจริงๆว่ากลิ่นเป็นยังไง แต่เราดมกลิ่น Balsam แล้วรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวภูเขาภาคเหนือช่วงฤดูหนาว แต่ 3 กลิ่นนี้มีความแตกต่างเล็กน้อย คือ Fresh balsam กลิ่นเหมือนเวลาที่เรานั่งรถขึ้นดอยเป็นเวลานาน พอถึงจุดหมายแล้วเปิดประตูรถออกไปเราจะได้กลิ่นธรรมชาติของยอดดอยที่เต็มไปด้วยต้นสนที่มีน้ำค้างเกาะ รู้สึกสดชื่นและเย็นสบาย Mahogany balsam เป็นกลิ่นเขียวๆของใบสนผสมกับกลิ่นไม้มะฮอกกะนี เรานึกถึงสวนป่าดอยบ่อหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีบ้านไม้ทรงเอเฟรมอยู่กลางดงต้นสน ส่วนกลิ่น Pacific ocean air เป็นกลิ่นต้นสนผสมกับไอทะเล เรานึกถึงสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
กลิ่นที่ 4 The perfect spring
กลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นธรรมชาติต้นไม้ใบหญ้า แต่ผสมผสานกลิ่นผลไม้ กลิ่นดิน คือเป็นกลิ่นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายไม่ใช่กลิ่นต้นสนเด่นอย่างเดียวเหมือน 3 กลิ่นแรก ถ้าคิดถึงเพลง The perfect spring ทำให้เรานึกถึงเพลง Colors of the wind ost.Pocahontas
ต่อไปเป็นแนวกลิ่นกุหลาบ ยอดนิยม เรามีอยู่ 3 กลิ่น
กลิ่นที่ 5 Rose Vanilla
เป็นกลิ่นดอกกุลาบผสมความนุ่มนวลของวานิลลา คือทั้งกุหลาบทั้งวานิลลาจะมาพร้อมกันไม่มีอันไหนเด่น เป็นกลิ่นกลางๆไม่ออกไปทางขนม กลิ่นนี้ถ้าเทียบเป็นความรัก เรารู้สึกว่า คือความรักแบบวัยรุ่นใสๆมีแฟนครั้งแรก นึกถึงเพลง Love Story ของ Taylor Swift
กลิ่นที่ 6 Rose
เป็นกลิ่นกุหลาบก็คือกุหลาบ เป็นช่อกุหลาบแดงที่ถูกตัดมาปักแจกัน กลิ่นหอมแรงฟุ้งไปทั้งห้อง ถ้าเป็นความรักก็คือความรักแบบหัวปักหัวปำยอมทุกอย่างแม้ตัวเองจะเจ็บปวดนึกถึงเพลง Love on the brain ของอดีตนักร้อง Rihanna
กลิ่นที่ 7 Rose Water & Ivy
เป็นกลิ่นที่ผสมระหว่างกลิ่นอ่อนๆของกลีบกุหลาบความสดชื่นของน้ำฝน มีความอวลๆของ Musk และมีความธรรมชาติจากต้น Ivy เป็นความหอมสดชื่นที่ลงตัวมากๆ เป็นความรักที่ลงตัวเหมือนเพลง Perfect ของ Ed Sheeran
แนวกลิ่นดอกไม้อื่นๆ ที่ไม่ใช่กุหลาบ
กลิ่นที่ 8 Lavender Vanilla
กลิ่นวานิลลานำ ตามด้วยลาเวนเดอร์ มีความอวลๆของ Musk รวมๆแล้วเป็นกลิ่นนุ่มๆ เหมาะจุดก่อนนอนช่วยให้ผ่อนคลาย กลิ่นนี้มีความกล่อมนอนเลยนึกถึงทำนองเพลง Safe and Sound ของ Taylor Swift
กลิ่นที่ 9 White Gardenia
ก็คือกลิ่นดอกพุดซ้อนบ้านเรานั้นเอง เป็นกลิ่นหอมที่คุ้นเคยที่มักจะได้กลิ่นตอนกลางคืน ทำให้กลิ่นดอกไม้ประเภทนี้มีความหม่นเทาหอมแบบเจือความเศร้านิดนึง ดมแล้วนึกถึงเพลง Cardigan ของ Taylor Swift
กลิ่นที่ 10 Rainforest Gardenia
คล้ายกับกลิ่น White Gardenia แต่เติมกลิ่นเขียวๆของไผ่ แอปเปิ้ล กลิ่นไม้ รวมๆแล้วเป็นกลิ่นดอกไม้ในป่าทึบที่มีความชื้นสูงเพราะแสงแดดส่องไปไม่ถึง มีความหม่นกว่า White Gardenia ถึงจะมีความเย็นของฝนแต่ก็มีความหม่นเศร้าอยู่ดี เรานึกถึงเพลง It will rain ของ Bruno Mars
กลิ่นที่ 11 Fresh Cut Lilacs
เราไม่เคยดมดอก Lilacs จริงๆ เลยไม่รู้ว่ากลิ่นนี้ทำออกมาเหมือนดอกจริงๆของเขาไหม แต่เราดมแล้วรู้สึกถึงดอกไม้สีอ่อนๆ มีความหวานละมุน ผสมความแป้งนิดๆ เป็นกลิ่นที่มีมวลแน่นกระจายทั่วห้อง แต่เนื้อกลิ่นเป็นดอกไม้หอมอ่อนๆ จางๆ นึกถึงเพลง Rainbow Briged ของ Emi Futita
แนวกลิ่นทะเล อโลฮา
กลิ่นที่ 12 Island Margarita
เป็นกลิ่นเครื่องดื่มที่ฝรั่งชอบสั่งเวลามาเที่ยวทะเลไทย คือ มาร์การิต้า เป็นค็อกเทลที่ผสมน้ำผลไม้รสเปรี่ยว ใน Note บอกว่ามีกลิ่นส้มแมนดาริน มะม่วง แล้วก็เกลือทะเล แต่เรารู้สึกว่าเหมือนมีกลิ่นมะพร้าวด้วย โดยรวมคือเป็นกลิ่นเปรี้ยวอมหวาน สดชื้น กระปรี้กระเปร่า และแอบเซ็กซี่ด้วย ทำให้นึกถึงเพลง Leave the door open Bruno Mars Ft. Silk sonic
กลิ่นที่ 13 TiKi Beach
เป็นกลิ่น วานิลลา มะพร้าว และดอกกล้วยไม้ เป็นกลิ่นหวานแบบครีมๆมะพร้าว คือของหวานผสมกับของหวาน หวานแบบหวานขึ้นตา ใครไม่ชอบกลิ่นหวานเลี่ยนให้ผ่านกลิ่นนี้ไปเลย เราเองก็ไม่ปลื้ม แต่ซื้อเพราะแพ้สีเขียวมิ้นของ container สวยมากจริงๆ
กลิ่นที่ 14 TiKi Mango Mai Tai
เป็นกลิ่นผลไม้ก็คือผลไม้ 555 มีส้มแมนดาริน มะม่วง เกรปฟรุต สับปะรด เป็นผลไม้รวมนั่นเอง กลิ่นนี้เราไม่คิดจะซื้อเลย ถ้าไม่ลดราคาและ container สวยดีเห็นแล้วเดาว่าตอนจุดจะเหมือนพระอาทิตย์ตกซึ่งก็เป็นจริงจุดแล้วสวยมาก นึกถึงเพลง Always remember us this way ของคุณแม่ Lady Gaga
กลิ่นแนว Citrus เป็นกลิ่นที่ BBW มีเยอะมาก แต่เราไม่ค่อยชอบเลยเลือกอันที่น่าสนใจมา 2 กลิ่น
กลิ่นที่ 15 Midnight Blue Citrus
ใน Note บอกว่าเป็นกลิ่นมะม่วง กลิ่นน้ำผลไม้Citrus ผสมกับน้ำแร่ว่าซั่น โดยรวมก็เป็นกลิ่นสดชื่นที่เหมาะกับจุดตอนกลางคืน เป็นกลางคืนที่ดึกแล้วแต่ยังตาสว่างอยู่ มีความเซ็กซี่ดีฟๆ เรานึกถึงเพลงอกหักแต่มีความแซ่บอย่าง How do you sleep ของ Sam Smith
กลิ่นที่ 16 Sun-Washed Citrus
กลิ่นนี้จะตรงข้ามกับ Midnight Blue Citrus เพราะเป็นกลิ่น Citrus แบบสว่างๆ มีกลิ่นของเลมอน Citron (มะนาวควาย เป็นผลไม้ตระกูลเลมอนชนิดหนึ่ง) Agave (เป็นพืชทะเลทรายที่ใช้ทำเตลิกา) เราก็ไม่รู้นะว่ามะนาวควายกับอกาเว่กลิ่นจริงๆเป็นยังไง แต่ความรู้สึกคือเป็นกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวมีความซ่าปลายๆที่เสิร์ฟมีตอนเช้าแดดกำลังออก นึกถึงเพลงของ Sam Smith ที่มีความ Move On เชิดๆ เริศๆ อย่าง Restart
กลิ่นโทน แอปเปิ้ล ซึ่งเป็นผลไม้ที่เราชอบ มีอยู่ 3 กลิ่น
กลิ่นที่ 17 Honeycrisp Apple เป็นกลิ่นแอปเปิ้ลหวาน ฉ่ำๆ
กลิ่นที่ 18 Garden sage & apple เป็นแอปเปิ้ลผสม sage ซึ่งไม่ค่อยได้ความสมุนไพรเท่าไหร่ ยังเป็นกลิ่นแอปเปิ้ลนำอยู่
กลิ่นที่ 19 Autumn ฟังดูเหมือนเป็นกลิ่นธรรมชาติ ซึ่งก็ธรรมชาติจริงๆเพราะมีความเขียวนิดๆ แต่ก็เป็นกลิ่นแอปเปิ้ลนำอยู่ดี คือดมแล้วเหมือนอยู่ในสวนแอปเปิ้ล
ทั้ง 3 กลิ่นเป็นกลิ่นผลไม้หอมสดชื่นดมแล้วโลกสดใสไม่ต้องคิดอะไรมาก นึกถึงเพลง Raindrops keep falling on my head
แนวกลิ่นผลไม้กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่ม Peach ซึ่งเป็นผลไม้ที่เราชอบมากๆ เช่นกัน เรามีอยู่ 2 กลิ่น
กลิ่นที่ 20 Peach Bellini เป็นพีชผสมผลไม้ตระกูลส้ม ทำให้กลิ่นโปร่งและพุ่ง เป็นกลิ่นพีชแบบ พีชชชชชชชช แหลมๆ สดชื่น
กลิ่นที่ 21 Georgia Peach เป็นพีชผสมวานิลลา กลิ่นหอมนวลๆหลายคนชอบกลิ่นนี้
แนวกลิ่นลูกพีชนี่จะนึกถึงเพลงอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Peaches : Justin Bieber
แนวกลิ่นอบอุ่นให้บรรยากาศผิงไฟหน้าหนาว
กลิ่นที่ 22 Mahogany Coconut
เป็นกลิ่นไม้มะฮอกกะนีนำ ตามด้วยมะพร้าวครีมๆ และปลายๆมีลาเวนเดอร์ เป็นกลิ่นอบอุ่นที่ดมแล้วนึกถึงการใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ต่างจังหวัดก็เลยนึกถึงเพลง Take Me Home, Country Roads
กลิ่นที่ 23 Winter
เราไม่รู้ว่ามี Note อะไรบ้าง แต่ดมแล้วรู้สึกถึงความสมุนไพรฝรั่ง ที่กลิ่นอ่อนๆละมุนๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ นึกถึงเพลง Afterglow : Ed Sheeran
แนวกลิ่นของกิน ที่เราไม่ค่อยชอบ เพราะจุดแล้วจะรู้สึกหิว แต่กลิ่นเขามีความดัง เราเลยต้องหามาลอง
กลิ่นที่ 24 Paris Cafe
เป็นกลิ่นกาแฟ ผสมวานิลลา เป็นกาแฟนมที่คงความเข้มข้นของกาแฟได้ดี
กลิ่นที่ 25 Strawberry pound cake ก็เป็นกลิ่นเค้กสตรอเบอรี่ตามชื่อเลย
กลิ่นที่ 26 Pumpkin pecan waffles
เป็นกลิ่นวาฟเฟิลผสมฟักทอง บราวชูก้าและMaple Syrup แต่รวมๆแล้วเรานึกถึงขนมปังที่อบใหม่ๆออกมาจากเตา
3 กลิ่นนี้จุดพร้อมกันจะเหมือนอยู่ในคาเฟ่ที่มีกาแฟสดและเบเกอรี่ทำเอง เป็นการไปคาเฟ่ทิพย์นั่นเอง
กลุ่มสุดท้ายนี้เป็นกลิ่นดอกไม้ที่บางกลิ่นมีแล้ว แต่ container คือสวยมากกก ก็เลยต้องหามาให้ครบเซ็ท โดยกลิ่นใหม่ที่ยังไม่มีคือ
กลิ่นที่ 27 Lavender เป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ ที่มีความหวานปนเผ็ดๆสมุนไพร ดมแล้วนึกถึงเพลง Brown eye ของ destiny's child เป็นเพลงที่มีทำนองอ่อนหวานนุ่มนวล แต่เนื้อเพลงมีความอวดผัวแบบเผ็ดๆ
กลิ่นที่ 28 Cactus Blossom เป็นกลิ่นดอกไม้ คล้ายกับกลิ่น fresh cut lilacs แต่มีความหวานชัดเจนกว่า
กลิ่นที่ 29 Eucalyptus Mint กลิ่นนี้มีเอกลักษณ์มาก ก็คือ กลิ่นยาสีฟัน นั่นเอง จบการรีวิวจ้า
ใครชอบไม่ชอบกลิ่นไหน มีกลิ่นไหนที่แนะนำอีกบ้าง มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ หรือใครมีแบรนด์อื่นแบรนด์ไหนแนะนำก็บอกกันได้ วงการนี้เข้าแล้วออกไม่ได้มีแต่จะเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆจ้า