MARTIDERM | Black Diamond Skin Complex ไม่เข้มข้น เราไม่นอน!!

ด้วยวัยที่ใกล้จะเลข "3" เข้าไปทุกทีเราเลยเริ่มหาผลิตภัณฑ์กลุ่ม Anti Aging ที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพมากพอ เพื่อชะลอริ้วรอยให้มาช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งหลังจากที่แสวงหามาซักพักใหญ่ๆ ก็ลงตัวที่ MARTIDERM Black Diamond Skin Complex ที่ทำเอาเราว้าวตั้งแต่แรกเห็น สุดท้ายก็กดสั่งอย่างไม่มีสติ และหลังจากที่เราลองใช้มาตลอด 1 เดือน ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวพอสมควรเลยตัดสินใจหยิบมาทำรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เผื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเน้อ เอาเป็นว่าไปชมกันเลยฮะ....

The Claim

MARTIDERM Black Diamond Skin Complex : เป็นผลิตภัณฑ์ในไลน์ Black Diamond ซึ่งเป็นแอมพูลที่มีความเข้มข้นและมีวิตามินที่หลากหลายรวมกันถึง 20% และมีสารสกัดลิขสิทธิ์ที่เป็นสูตรเฉพาะของ MartiDerm อันทรงพลังจึงช่วยให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนช่วย Anti-oxidant หรือต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายผิว มอบความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยกระชับผิว กระชับรูปหน้า ให้ผิวเด้งตึง ลดริ้วรอยได้ดีเยี่ยม ช่วยลดรอยด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระจางลง

Texture / Scent / Packaging

• Texture : เห็นเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไวแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วให้ความชุ่มชื้นได้มากพอตัวทีเดียวหละ ถ้าคืนไหนที่เราใช้ 1 Ampoule เต็มๆ คืนนั้นเราจะเลือกใช้ Moisturizer ที่เนื้อเบาสบายผิว เพราะไม่งั้นจะรู้สึกว่าหนักหน้าจนเกินไป
• Scent : เราได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเนื้อผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่ามีส่วนผสมของน้ำหอม แต่จากที่เราใช้มาตลอด 1 เดือนก็ไม่เกิดอาการแพ้/ระคายเคืองแต่อย่างใดครับ

• Packaging : บรรจุภัณฑ์มาในรูปแบบ "Ampoule" หลอดแก้วสีชา ที่สามารถคงคุณค่าของสารสกัดและวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในกล่องยังมีอุปกรณ์ในการเปิดแอมป์ ฐานสำหรับวางผลิตภัณฑ์ รวมถึงปลอกและฝาสำหรับเก็บใช้ในครั้งถัดไปมาให้ ซึ่งก็ถือว่าสะดวกดีทีเดียวฮะ

Key Ingredients

• Proteum 89+ : ทางแบรนด์เคลมว่าสารตัวนี้คือ Proteoglycans ความเข้มข้น 5% ที่มีขนาดเล็กดูดซึมได้ดี ซึ่งเจ้า Proteoglycans นั้นเป็นส่วนประกอบหลักในการทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นและคงความยืดหยุ่นได้ดี อีกทั้งยังได้รับการยอมรับแล้วว่าช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV เพื่อลดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสี และขัดขวางการดูดกลื่นเม็ดสีเข้าสู่เซลล์ผิวจึงเป็นไวท์เทนนิ่งได้ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย 

• Double Vitamin C 15% : ทางแบรนด์เลือกใช้ Vitamin C ทั้ง 2 ฟอร์มไม่ว่าจะเป็น 
  • L-ascorbic acid ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในฟอร์มทั้งหมด แถมยังมีงานวิจัยรองรับมากมายว่าช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งหากให้เราเดาจากการจัดลำดับแล้วหละก็ทางแบรนด์น่าจะใส่เข้ามาประมาณ 10-12% เลยทีเดียวครับ
  • 3-O-Ethyl Ascorbic Acid อนุพันธ์วิตามินซีที่มีฤทธิ์เหมือน L-Ascorbic Acid แต่สามารถละลายในน้ำได้โดยตรง มีความเสถียรสูง สามารถทนอุณหภูมิสูงได้ดี จากการทดลองพบว่า 3-O-ethyl ascorbic acid มีฤทธิ์ให้ผิวกระจ่างใส ด้วยกระบวนการลด Tyrosinase ซึ่งส่งผลให้ลดการเกิดเม็ดสี Melanin นอกจากนี้ ยังสามารถลดเม็ดสีเมลานิน ที่เกิดขึ้นแล้วได้ด้วย  ส่งผลให้เหมาะสำหรับการใช้ในสูตรลด aging spot ได้เป็นอย่างดี ซึ่งปริมาณที่ใส่มาก็น่าจะอยู่ราวๆ 3-5% ขอรับ

• 5% Multi-Vitamins : ประกอบด้วย Vitamins ถึง 4 ชนิดได้แก่

นอกจากนี้ยังใส่ Acetyl Hexapeptide-51 Amide : เป็นเปปไทด์ที่มีชื่อทางการค้าว่า Juveleven โดยบริษัท Lipotec ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่าช่วยปกป้อง DNA จากการถูกรบกวนโดยสภาพแวดล้อมภายนอกและมลภาวะ และเสริมกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติ ช่วยคงสภาพผิวที่ดีและความอ่อนเยาว์ของผิว

Let's Try...

จากที่เราได้ลองใช้ MARTIDERM | Black Diamond Skin Complex อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆ โดยใน 1 แอมป์เราจะแบ่งใช้ 2 ครั้ง และใช้เฉพาะเวลากลางคืน เนื่องจากมีส่วนผสมของ Retinyl Palmitate(Vitamin A) ที่ช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ส่งผลให้ผิวไวต่อแสง  ซึ่งหลังจากที่ได้ลองใช้เราพบว่า....

จะเห็นว่าหลังใช้ MARTIDERM | Black Diamond Skin Complex ครบ 1 เดือนเราขอสรุปทีละประเด็นตามความรู้สึกของเรา และภาพ Before - After ดังนี้ :

• ความกระจ่างใส : ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โทนผิวดูไบร์ทขึ้น (แต่ไม่ใช่ขาวขึ้นเน้อ)
• ความชุ่มชื้น : ความชุ่มชื้นในผิวอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าดีเลยทีเดียวหละ นอกจากนี้เรายังรู้สึกว่าผิวดูละเอียดขึ้น อิ่มฟูขึ้นด้วยหละ
• ริ้วรอย : อาจเพราะเรายังไม่มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดๆ ดังนั้นเราจึงยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนขอรับ
• รอยแดงจากสิว : เราคาดว่าน่าจะมาจากการใช้ทั้ง MARTIDERM | Black Diamond Skin Complex และ BIO-TACHES serum ร่วมกับการทากันแดดมาโดยตลอด จึงส่งผลให้รอยแดงจางลงได้มากขนาดนี้

ก็เรียกว่าเป็น Ampoules อีกแบรนด์ที่ทำส่วนผสมออกมาได้เข้มข้น และดีทีเดียว เมื่อเทียบกับราคา/ปริมาณ สามารถใช้เป็น Daily Use หรือใช้บูสต์ผิวต่อเนื่องก่อนออกงานก็ทำได้ เอาเป็นว่าก็ลองไปปรับใช้กันดูแล้วกันนะครับ 

อ๋อ! เราเสริมให้อีกนิดนึงแล้วกันว่าสำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ไม่หมดในครั้งเดียวทางแบรนด์แจ้งว่าสามารถเก็บไว้ใช้ได้มากสุด 4 ครั้ง แต่ถ้าให้เราแนะนำควรใช้ให้หมดภายใน 24ชม. หลังเปิดใช้ครับ โดยอาจแบ่งครึ่งใช้เฉพาะตอนกลางคืนเหมือนที่เราทำก็ได้ฮะ

ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดนี้ Based-on สภาพผิวของเรา รวมถึงไลฟ์สไตล์ และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เป็นหลัก แน่นอนว่าผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนคำถามที่ว่า "ใช้แล้วจะแพ้ไหม อุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือเปล่า ?" เราไม่สามารถตอบให้ได้ เนื่องจากแต่ละคนล้วนมีสภาพผิว และปัจจัยการแพ้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นทุกครั้งที่จะลองผลิตภัณฑ์ใหม่ เราแนะนำให้ลองเทสต์อาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอ ก่อนใช้จริงบนใบหน้าจะดีที่สุดครับ