ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอีกครั้งด้วย norame translucent serum

norame translucent serum :  Makes the ideal skin possible

วันนี้ขอมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เฟินเริ่มใช้ในการฟิ้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงขึ้น ด้วยอายุเฟินที่เพิ่มขึ้นรวมถึงอายุผิวที่เริ่มเปลี่ยนไป การดูแลผิวในแบบเดิมเหมือนตอนเราอายุ 20 ต้นๆ คงยากหน่อยค่ะ รู้สึกได้เลยว่า ผิวเราไม่ได้ฟื้นตัวไวเหมือนแต่ก่อน หรือแม้กระทั่งการรีเฟรชผิวตัวเองก็ต้องใช้เวลา หลังๆ เฟินเพิ่งเริ่มหันมาใส่ใจตัวเองในเรื่องของ Skin Barrier มากขึ้น เพราะเพิ่งเข้าใจว่าจริง ๆว่า การมีรากฐานผิวที่ดี มันสำคัญกับเรามาก ต่อให้เราโบกครีมต่าง ๆมากมายในการแก้ปัญหาจุดอื่น แต่ถ้ารากฐานผิวไม่แข็งแรง ปัญหาเดิมก็จะวนซ้ำกลับมาเกิดอยู่เรื่อย ๆ

norame translucent serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่เฟินนำมาใช้ในการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้นค่ะ
เป็นแบรนด์ที่เฟินชอบตั้งแต่คำนิยามของเค้าที่ว่า “Makes The Ideal Skin Possible” ซึ่งเป็นความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนมีผิวสวย เหมือนผิวในอุดมคติ

วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึง 14 วันในการใช้ norame translucent serum เพื่อให้เค้าได้ทำหน้าที่หลักในการซ่อมแซมและฟื้นฟู Skin Barrier ให้ผิวหน้าแข็งแรง กักเก็บน้ำให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นและ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญกับคำว่า Skin Barrier
Skin Barrier หรือที่เรียกว่า เกราะกำบังให้กับผิวของเรา เพราะผิวหนังของเราบอบบางและถูกทำร้ายได้ง่ายจากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ เชื้อโรค อากาศ หรือการที่เราอาบน้ำร้อนในแต่ละวันก็สามารถทำร้ายผิวได้ตลอดเวลา แต่ผิวหนังของเรามีเกราะป้องกัน ซึ่งเป็นเซลล์ผิวหนังที่ประกอบด้วยชั้นไขมันหรือ Lipid ที่มี ceramide เป็นส่วนประกอบหลัก ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นกำแพงที่คอยปกป้องผิวของเรา ดังนั้น Skin Barrier จึงสำคัญต่อเรามาก และเป็นสิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญ

หากรากฐานผิวของเราไม่แข็งแรงตั้งแต่แรก คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะให้ความสำคัญกับจุดอื่นก่อนและหากรากฐานผิวเราแข็งแรงแล้ว นอกจากจะไม่เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ยังง่ายต่อการบำรุงผิวส่วนอื่นๆด้วย

My own opinion after 14 days with norame translucent serum

เฟินใช้ผลิตภัณฑ์มาแล้ว 14 วันค่ะ ก่อนเริ่มใช้เฟินจะหยุดใช้สกินแคร์ตัวอื่นก่อนหน้า 3 วันค่ะ และจึงเริ่มใช้ norame translucent serum ทาทั้งเช้า-ก่อนนอน วันที่ 2-3 เป็นต้นไปจะเห็นได้ชัดคือเรื่องรูขุมขนกระชับค่ะ โดยเฉพาะบริเวณที่รูขุมขนกว้างเป็นพิเศษตรงเนื้อแก้มข้างจมูก สังเกตเห็นได้ว่ารูขุมขนเล็กลงและค่อยๆกระชับขึ้นเรื่อย ๆ

ในส่วนของของความชุ่มชื้นที่มีมากขึ้น เฟินเริ่มเห็นได้ชัดเจนในช่วงวันที่ 4-5 ชุ่มชื้นจนตื่นนอนมาจากการดูซีรี่ย์ 6 EP. ถึงตี 2 คุณแม่ก็ทักว่า “ทำไมหน้าชุ่มจังเลย” ให้ความรู้สึกผิวฉ่ำน้ำเลยค่ะ เช้ามาเฟินทาแค่ norame translucent serum และครีมกันแดด หลังจากนั้นลงแป้งฝุ่นบาง ๆ ผิวหน้ายังรู้สึกชุ่มชื้นอยู่ตลอดทั้งวัน

เรื่องของความขาวกระจ่างใส ไม่ได้เห็นผลรวดเร็วนะคะถ้าเป็นสภาพผิวของเฟิน แต่สิ่งที่สัมผัสได้หลังใช้ 1 สัปดาห์แรกคือ ผิวหน้าโดยรวมดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น ไม่ได้รู้สึกว่าผิวขาวเกินจากระดับสีผิวจริงแต่เป็นสีผิวที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นผิวสุขภาพดี และให้ความรู้สึกผิวโกลว์มากขึ้น ความรู้สึกที่ส่องกระจกแล้วเห็นผิวตัวเองฉ่ำโกลว์ในแบบสีผิวของตัวเอง มันรู้สึกดีมาก ๆเลยนะ แล้วยิ่งผิวเราแข็งแรงขึ้น ปัญหาผิวน้อยลง มันทำให้เราแฮปปี้กับการดูแลผิวให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

เนื้อเซรั่มของเค้ากดออกมาจากขวดคือรู้เลยว่ามีความเข้มข้น และที่ชอบมากคือให้สัมผัสบางเบาเวลาทาที่ใบหน้า เวลากดเค้าออกจากขวดเนื้อเค้าเป็นเหมือนเซรั่มกึ่งครีม แต่เวลาเกลี่ยเนื้อครีม กลับรู้สึกเหมือนเค้าเปลี่ยน texture กลายเป็นน้ำ เลยให้ความรู้สึกบางเบา ไม่หนักหน้าเวลาใช้ค่ะ ซึ่งส่วนตัวแล้วเฟินไม่ค่อยชอบใช้ครีมที่เหนียว หรือหนักหน้าเวลาใช้เท่าไหร่ค่ะ ดังนั้นเค้าค่อนข้างตอบโจทย์เฟินในข้อนี้ เฟินเลยเลือกให้เค้าเป็นกินแคร์ที่เฟินต้องใช้บำรุงผิวหน้าทั้งเช้าและเย็น

โดยรวมแล้ว norame translucent serum ที่เป็นกินแคร์ที่ฟื้นฟูและแก้ปัญหา Skin Barrier ได้อย่างตรงจุดหลักสำคัญเลยค่ะ ทั้งเรื่องความแข็งแรงของผิว และความกระจ่างใสในแบบสีผิวของเรา
*ผลลัพธ์และระยะเวลาการเห็นผลขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะคะ

ข้อดีหลักของ norame translucent serum
[ช่วยฟื้นฟู Skin Barrier]
ทำให้ผิวเราจากที่ขาดน้ำ หรือเริ่มมีปัญหาริ้วรอย กลับมาชุ่มชื้น เพราะผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ให้ผิวได้ดีมากขึ้นและที่สำคัญช่วยให้โครงสร้างของชั้นผิวแข็งแรงขึ้นดังนั้นปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่าย หรือระคายเคืองก็จะดีขึ้นเช่นกัน

จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เฟินศึกษามา เฟินรู้สึกว้าวมากกับส่วนประกอบหลักใน Translucent Serumซึ่งเป็นนวัตกรรมและมีสิทธิบัตรจากประเทศเยอรมนี คือ
1. SK-Influx® V ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จำลองโครงสร้างชั้น Lipid ของผิวหนังชั้นบน ที่จำเป็นต่อเกราะป้องกันผิว ได้แก่ Ceramide 1, Ceramide 3, Ceramide 6 รวมถึง Phytosphingosine, Cholesterol จากพืช และ Fatty Acids ทำให้มีโครงสร้างใกล้เคียงกับ Lipid ของผิวมนุษย์มากที่สุด
2. Lactil ® สารสำคัญที่สร้างจำลอง NMF (Natural Moisturizing Factor) ที่ใกล้เคียงผิวมนุษย์มากที่สุด

[ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส Translucency ให้กับผิว] โดยใช้สารสกัดจากประเทศญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Japanese Summer Plum Extract มาช่วยยับยั้งการเกิดและลดจำนวน Protein Carbonylation ใต้ชั้นผิว ซี่งโปรตีนตัวนี้เกิดจากการสะสมของมลภาวะและแสง UV ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส โดยส่วนประกอบตัวนี้จะทำให้ผิวโปร่งแสง หรือกระจ่างใสขึ้นค่ะทำให้ผิวสวยในแบบของสีผิวเรา ไม่ว่าผิวสีไหนก็สวยและกระจ่างใสในแบบของเราได้