ใครบอก ว่าหน้าเป็นสิวผิวมัน ใช้ Oil ไม่ได้ !?
Sunsaek Songkumarn 49 11ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า
เมื่อก่อน เป็นคนแอนตี้ การใช้ Face Oil มาตลอดชีวิต เพราะคิดว่า ใช้น้ำมันทาลงไปที่หน้า ยังไงก็สิวขึ้นร้อยเปอร์เซนต์ ไม่มีทางรักษาสิวได้ Beauty Blogger ที่บอกว่า Oil ตัวนี้ดี บลาๆ ในใจคิดมาตลอดว่าอวย Sponsor แน่ๆ 55555
จนวันนึงได้ซื้อ Rosehip Oil ตอนไปต่างประเทศมาใช้ด้วยความจำเป็นบางอย่าง ก่อนใช้ ได้ทำใจไว้แล้วว่าสิวขึ้นแน่ๆ แต่ผลสรุปว่า สิวไม่ขึ้นเลยยยย ตื่นมาหน้าฟู นุ่มมาก เลยใช้ต่อด้วยความกลัวๆกล้าๆจนครบสองอาทิตย์ รอยสิวจางลงอย่างเห็นได้ชัดดด Oh My Goddddd ?
หลังจากนั้นเลยศึกษา และปรึกษาเพื่อนสนิทที่เป็นหมอ ก็เลยได้คำตอบมาดังนี้
* คำเตือน
ตรงนี้มีความวิชาการ และภาษาต่างดาว อาจทำให้ปวดหัวและงงได้ ถ้าใครอยากอ่านสรุป ข้ามตรงนี้ไปได้เลย *
น้ำมัน หรือ Oil เป็นส่วนผสมของโครงสร้างผิวคนเราอยู่แล้วตามธรรมชาติ เรียกว่า Skin Barrier Lipids คอยป้องกันผิว ไม่ให้ถูกทำร้าย ป้องกันไม่ให้หน้าเสียความชุ่มชื้น และมีสภาพสมดุล เช่นนั่งเครื่องบิน ✈ อากาศแห้งมากกกก แต่ทำไมหน้ามันกว่าปกติ? หน้ามันนะ แต่ก็มีความแห้งๆตึงๆ งงปะ55555 คือ ผิวเราจะเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายมาก ผิวหนังเราเลยผลิต Sebum (น้ำมัน)มาเคลือบเพิ่มกว่าปกติ ป้องกันการสูญเสียน้ำจากชั้นผิว หรือที่Bloggerฝรั่ง เรียกว่า Transepidermal water loss
สังเกตได้ว่าถ้าเทน้ำมันลงในน้ำ น้ำมันจะลอยอยู่บนน้ำ คล้ายกับผิวเรา น้ำจะไม่สามารถผ่านชั้นไขมันในผิวออกไปได้
ถ้าเมื่อไหร่ที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำร้ายผิวเกินไป ล้างหน้าสะอาดเอี๊ยดเกินไป จะทำให้หน้าเราเสียสมดุล และผลิต Sebum ขึ้นมาจนอาจะทำให้เกิดสิวได้
ดังนั้นการใช้ Face Oil "ที่เหมาะกับผิวแต่ละคน" ก็สามารถช่วยลดปัญหาขาดสมดุลของผิวหน้าได้
ไม่ใช่ว่า เห็น Oil ตัวนี้ดัง Oil ตัวนี้ดี คนนู้นคนนี้ใช้กันเยอะ เลยซื้อตามเค้า เค้าบอกกันว่าดี..
อย่านะ
ห้ามนะ
ถือว่าเตือนแล้วนะ !!
Oil สำหรับสกินแคร์ที่มีขายในตลาด แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันมาก โดยวันนี้จะพูดที่สำคัญๆ โดยแต่ละชนิดจะมีเปอร์เซนต์ของ กรด Linoleic และ กรด Oleic ที่ต่างกัน ทำให้มีผลกับการใช้บนหน้าที่ต่างกัน สำหรับสภาพหน้าที่ต่างกัน
คนผิวมัน เป็นสิว
คนที่เป็นผิวประเภท Acne Prone Skin หรือผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่ายมากกก ขึ้นเก่ง ขึ้นบ่อย ขึ้นจังเลยยยยยยย แตะนิดแตะหน่อยสิวก็มาละ บางคนเกิดจากบนหน้า มีน้ำมันก็จริง แต่.. มีปริมาณ Linoleic Acid บนผิวหน้าที่น้อย และที่สำคัญร่างกาย ไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ เหมือน Oleic จึงควรใช้ Oil ที่มี Linoleic Acid ในอัตราส่วนที่มากกว่า Oleic โดยจะมีความเบา บาง ซึมง่ายกับผิว จึงเหมาะกับคนผิวมัน มีสิว ผิวผสม มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
Oil ชนิดนี้ได้แก่
- Rosehip Seed Oil
- Argan Oil
- Grape Seed oil
- Saf Flower oil
- Rasberry Seed oil
- Black Currant Seed oil
คนผิวแห้ง ลอก ครีมเอาไม่อยู่
ควรใช้ Oil ที่มี Oleic Acid มากกว่า Linoleic Acid เพราะมีความหนา และข้นกว้าแบบแรก แต่ก็ไม่ทำให้สิวขึ้น
ตัวอย่างเช่น
- Avocado oil
- Shea butter
- Jojoba oil
- Palm oil, red
- Marula oil
- Argan oil
จำง่ายๆว่า Linoleic ( L เท่ากับ เหลว เหลวๆบางๆ)
Oleic ( O เท่ากับ โอโหห หนาจัง)
ROSE HIP OIL
มีปริมาณกรด Linoleic 44%
มีปริมาณกรด Oleic 13.9%
เพราะฉะนั้นลองทายดูสิว่า Oil ตัวนี้เหมาะกับผิวแบบไหน ?
และยังมี Provitamin A (ในรูปเบต้าแคโรทีน)
วิตามิน C
(Vitamin A พวก Retinol ช่วยผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นกาสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และรอยด่างดำ Vitamin C ช่วยการสร้างคอลลาเจน และเป็นสาร Whitening)
สรุปง่ายๆ สั้นๆ คือ
คนผิวมัน มีสิว ควรใช้ Rosehip Oil, Rasberry Seed Oil, Argan Oil, Grape Seed Oil, Evening Primrose Oil
คนผิวแห้งล่ะ ใช้อะไรดี ?
แนะนำ Squalane
ตัว a
Squalane
Squalane
ย้ำว่าตัว a
Squalane
แต่ไม่แนะนำ Squalene (ตัวe)
Oil ที่วางขายในตลาดตอนนี้มีทั้ง Squalane และ Squalene แต่ห้ามสับสนกัน เพราะถ้าใช้ผิด ชีวิตเปลี่ยน
ถือว่าเตือนแล้วนะ
*คำเตือน
หลังจากนี้จะเป็นภาษาต่างดาว ใครไม่อยากปวดหัว ข้ามได้*
Squalene (ตัว e )
พบได้ตามธรรมชาติ ในน้ำมันมะกอก น้ำมันปาล์ม น้ำมันตับปลา มีความไม่เสถียร สามารถเกิด Oxidation ได้ เรียกได้ว่า Highly Oxidative เลยจ้าาา โดยเฉพาะเวลาเจอพวกมลพิษ ควันบุหรี่ โอโซน UVA UVB
Oxidize แล้วยังไง? Oxidize แล้ว Squalene จะเปลี่ยนเป็นพวก Peroxide สามารถส่งผลร้ายกับผิวได้ เช่น Inflamation(อักเสบ), สิว, รอยด่างดำ, มีการสร้างเม็ดสีที่เพิ่มขึ้นเกินควร หรือผิวด้าน
Sqaulane (ตัว a )
ได้มาจากตัว Squalene ตัว e ด้านบน แต่เสถียรกว่ามากกกกก
เหมาะกับผิวแห้ง กร้าน ลอก ขุย
อีกทั้งยังมีฤทธิ์ Anti Bacteria หรือ ต้านแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของสิว
ช่วยสมานปราการผิวให้เรียงตัวกันปกติ และแข็งแรง