Celeb ที่เคยฉาวเรื่องนอกใจ แต่ก็ไม่กระทบต่อความนิยม

Ashton Kutcher  

พระเอกผู้สร้างชื่อจากหลากหลายผลงาน comedy อาจจะมีชีวิตคู่ที่ดูแสนสุขกับนางเอกดัง Mila Kunis จนทำให้หลายคนลืมเลือนไปแล้วว่า เขาเคยพัวพันกับข่าวฉาวหนักเพียงใด คุณอาจจะเคยพบเรื่องราวความรักที่ดูเหมือนพรหมลิขิตของคู่นี้ พวกเค้าเคยแสดงซีรีส์ sit-com ชื่อดังด้วยกัน และเขาคือผู้ชายที่ผู้ฝากจูบแรกให้กับเธอที่อายุเพียง 14! และในที่สุด เส้นทางความรักก็วนเวียนมาบรรจบจนกลายมาเป็นคู่สามีภรรยาที่อินเลิฟโดยไร้ข่าวเสียหายมากวนใจ



แต่นีไม่ใช่การแต่งงานครั้งแรก   เขาเคยสร้างความฮือฮาด้วยการเข้าพิธีวิวาห์กับ Demi Moore ที่มีอายุมากกว่า  16 ปี   แม้ว่าในช่วงปีแรกๆ ในชีวิตแต่งงาน พวกเค้าจะดูรักกันปานจะกลืนกิน  แต่สื่อก็เริ่มรายงานข่าวตรงกันว่าฝ่ายชายมีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์      หลายคนเชื่อว่ามันเป็นสาเหตุสำคัญที่พวกเค้าต้องแตกหักกันในที่สุด   และยังไม่ได้จบกันด้วยดี แต่กลายเป็นความทรงจำอันเจ็บปวดของฝ่ายหญิง         ไม่นานมานี้  นางเอกสาวสองพันปีก็ได้เปิดเผยข้อมูลสุดช็อคผ่านการเขียนหนังสืออัตชีวประวัติว่า  ประสบการณ์ของการเป็นภรรยา Ashton Kutcher  นั้นหนักหนาสาหัสเพียงใด  รวมไปถึงเรื่อง sex หมู่ แบบ 3 คน!

มหกรรมการแฉและภาพหลุด

แม้แทบลยอด์จะโชว์ภาพของAston ที่มีสาวๆรุมล้อมในnightclub ะไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเขามีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่น    แต่ผู้หญิงที่ปรากฏในภาพก็ได้แสดงตัวกับสื่อและเปิดเผยว่า   พระเอกดังมีsexdy[เธอแบบขอเบิ้ล และยังกล่อมให้เพื่อนเธอเข้าร่วมกิจกรรมบนเตียงแบบหญิงสองชายหนึ่ง      ซึ่งที่จริงก่อนหน้านี้ ผู้หญิงสาววัยยี่สิบรายหนึ่งได้อ้างว่า Ashton พาเธอเข้าบ้านเพื่อไปมีอะไรกันตอนที่ Demi  ไม่อยู่   แต่ Aston ก็ยืนกรานปฏิเสธและแนะนำชาวเน็ทว่าอย่าไปเชื่อข่าวลือง่ายๆ

และพยานที่ขาเม้าไม่คาดคิดก็ได้โผล่ขึ้นหลังจาก scandal ได้ซาลงไปจนผู้คนลืมเลือนไปแล้วหลายปี   Scott  Eastwood  พระเอกหนุ่มหุ่่นล่ำทายาทผู้กำกับดังได้แฉว่า    แฟนเก่าของเขาคือหนึ่งในผู้หญิงจาก nightclub ที่ร่วมหลับนอนกับ Aston   และเขาก็เชื่อว่าเรื่องนี้ทำให้ Demi ตัดสินใจหย่าในที่สุด

คำกล่าวหาเหล่านี้ได้สอดคล้องกับหนังสือชีวประวัติที่ Demi เปิดใจถึงเรื่องชีวิตแต่งงานกับ Ashton แบบหมดเปลือก เธอยืนยันว่าถูกนอกใจ และอดีตสามีเด็กก็ยังขอให้มี sex แบบสามคนร่วมกับผู้หญิงคนอื่นด้วย เพื่อเอาอกเอาใจเขา เธอก็ยอมทำเรื่องสุดเหวี่ยงบนเตียงตามคำ request ไปสองครั้ง แต่กลายเป็นว่า ได้มารับรู้ข่าวการนอกใจจากสื่อแทบลอยด์ ซึ่งเธอเชื่อมั่นว่าตำพูดของมือที่สามเป็นความจริง และเมื่อเผชิญหน้ากับ Ashton เพื่อพูดคุยเรื่องความประพฤติที่ไม่ซื่อสัตย์นี้ เขากลับไม่รู้สึกผิดใดๆ และอ้างว่า ยังไงก็เคยหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่นโดยที่ Demi ยินยอมมาแล้ว


ในที่สุดชีวิตแต่งงานของพวกเค้าก็สิ้นสุดลงหลังจากข่าวรั่วไหลถึงสื่อประมาณหนึ่งเดือน

ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือ แม้จะห่างจากเหล้ามาได้หลายปี แต่เมื่อ Demi Moore ในวัย 42 ตั้งท้องลูกของ Ashton แล้วแท้งเมื่ออายุครรภ์ได้ 6 เดือน เธอก็รู้สึกเหมือนแตกสลายอยู่ภายใน จากนั้นพวกเค้าพยายามมีลูกกันด้วยวิธี IVF แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ความทุกข์ที่หญ่หลวงนี้ทำให้เธอหันกลับมาพึ่งเหล้าอีกครั้ง

แต่ Ashton ไม่ได้คิดว่าอาการติดเหล้าเป็นเรื่องร้ายแรง เขาบอกเธอว่าแค่ดื่มแบบพอดีๆก็ไม่มีปัญหาแล้ว แม้ Demi จะยืนยันว่า Ashton ไม่มีส่วนผิดที่ทำให้เธอกลับมาติดเหล้าอีก แต่เธอก็เสียใจและอับอายที่เขาได้ถ่ายภาพเธอตอนที่ใส่ชุดชั้นในกำลังก้มอาเจียนหลังจากที่ดื่มหนักใน party แล้วยังนำมาโพสท์บน Twitter ให้โลกได้รับรู้

( ทำไมถึงกล้าทำอะไรแบบนี้ได้นะ)

แม้จะมีการพูดเรื่องราวตรงกันหลายคน  แต่Ashton ก็ยืนยันอย่างหนักแน่นเหมือนเดิมว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกใส่ร้าย  เขาถึงกับประกาศเบอร์โทรศัพท์ให้ชาวเน็ทส่งข้อความไปหาเพื่อที่จะได้อธิบายความจริงจากฝั่งตัวเอง   เขาแย้มๆว่า  ยังไงความจริงก็ต้องถูกเปิดเผย  แม้จะอยากโต้ตอบหนักกว่านี้ แต่พอเห็นหน้าลูกเมียแล้วก็คิดว่าไม่ดีกว่า

แน่นอว่า ครอบครัวอันอบอุ่นของ Ashton  ได้รับผลกระทบจากข้อกล่าวหาจากเรื่องในอดีต   ภรรยาคนปัจจุบันอย่าง Mila Kunis ได้รับคำถามไม่สิ้นสุดว่า เธอรู้สึกอย่างไรกับ scandal ของสามีที่ถูกแฉว่าเคยนอกใจกับสาวเอ๊าะและยังโปรดปราน sex แบบสามคน    แทบลอยด์ยังพยายามขายข่าวว่าชีวิตคู่ของพวกเค้ากำลังถุงทางตันมาแล้วหลายครั้งหลายหน  แต่ก็มีแหล่งข่าวคนสนิทยืนยันกับสื่อดังว่า   หลังจากแต่งงานกับ Mila     Ashton  ก็ถอดเขี้ยวเล็บของชายเจ้าชู้ไปหมดสิ้น   เขากลายเป็น family man ที่ซื่อสัตย์กับภรรยา    ส่วนเรื่องในอดีตนั้นไม่ได้เป็นปัญหาต่อ Mila เพราะเธอได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้มาก่อนที่ Demi จะเขียนหนังสือชีวประวัติซะอีก  

Brad Pitt   and Angelina Jolie  

ตอนที่มีข่าวฮือฮาเรื่อง Brad Pitt ได้พบกับภรรยาเก่าในงานประกาศรางวัลและพูดคุยกันสั้นๆ และยังไปร่วมฉลองงานวันเกิดของอดีตภรรยา  นั่นทำให้กองเชียร์จำนวนมากรู้สึกตื่นเต้น หวังจะให้พวกเค้สกลับมาคืนดีกัน


แต่ก็มีหลายคนที่ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องมีเสียงเชียร์ให้ลมพัดหวนล่ะ ในเมื่อ Jen เคยต้องทุกข์ทนกับการนอกใจที่เป็น scandal ระดับชาติจนตัวเองเป็นฝ่ายถูกแฟนคลับของอีกฝั่ง bully มาจนถึงปัจจุบันซะด้วยซ้ำ!


นั่นสิคะ!

เพราะแม้ว่าคู่ Brangelina จะยืนกรานว่าเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กันหลังจากที่ฝ่ายชายประกาศแยกทางกับภรรยาไปแล้ว   (ทั้งๆที่ถูกเม้าจากในกองถ่ายหนักมากว่าปิ๊งกันจนเก็บอาการไม่ได้)    แต่หลายปีหลังจากที่พวกเค้าคบกันออกหน้าออกตาก็ยอมรับในที่สุดว่า  ได้เกิดความรักกันในระหว่างการถ่ายทำ Mr.&Mrs. Smith  จริงๆ  และตอนนั้น Brad ก็ไม่ได้อยู่ในระหว่างช่วงแยกทางกับ Jen    ที่ชัดเจนคือ สาเหตุของการแยกทางก็คือนางเอกสาวปากอิ่มสุด sexy นี่แหละ

อย่างที่ทุกคนได้ทราบว่า  Brangelina คืออดีตไปแล้ว  จุดจบชีวิตคู่ของพวกเค้ามาพร้อมกับการต่อสู้เพื่อเจรจาเรื่องสิทธิ์การ"เยี่ยม" ลูกๆ  และข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงของฝ่ายชาย  และมันเป็นกระบวนการที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง   ยื่นหย่ามาเป็นปีๆแล้ว ก็เพิ่งจะมีข่าวดีว่า ทั้งสองเริ่มรอมชอมกันมากขึ้น   ส่วนความสัมพันธ์กับลูกๆ ก็ยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ต้อง work กันต่อไปค่ะ  สื่อดังได้รายงานตรงกันว่า ลูกที่อยู่ในวัยรุ่นแล้ว (ซึ่งเป็นลูกนอกสาบเลือกทั้งหมด ) ไม่สามารถทำใจข้ามเรื่องราวความบาดหมางได้และตัดสินใจจะไม่ติดต่อกับพ่ออีก  ส่วนน้องๆที่ยังเด็กก็ยังได้พบกับพ่อเป็นบางครั้ง

แต่ถ้าคุณยังทันช่วงที่ผู้คนยังแบ่งเป็น Team Jolie และ Team Aniston นั้นก็น่าจะจำได้ว่า คนที่ถูกยกให้เป็น "เมียหลวง" ถูกด่าพอๆกับคนที่แอบสวมเขา เธออาจจะเปิดใจว่ารู้สึกเจ็บปวดต้องสูญเสียคนรักไปออกสื่อ แต่สิ่งที่สะท้อนกลับคือถ้อยคำถากถางว่า "สมควรแล้วที่ถูกทิ้งไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า" ด้วยข้อกล่าวหาเหล่านี้

- เกลียดเด็ก ไม่ยอมมีลูกจนสามีนอกใจไปหาผู้หญิงที่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่มากกว่า

(ข้อกล่าวหานี้รุนแรงมากค่ะ แม้ว่า Jen จะออกมาปฏิเสธหลายต่อหลายครั้งว่ามันไม่จริง แต่ยังมีคนที่โยงเรื่องที่เธอแต่งงานกับ Brad มาสี่ปีว่าเป็นผู้หญิงเกลียดเด็กและมันสมควรแล้วที่ ฺBrad จะทิ้งเธอไปสร้างครอบครัวกับ Angie แลถ้ามีฝ่ายใดไม่พร้อมที่จะมีลูก เรื่องการนอกใจก็ไม่เคยเป็นทางออกสำหรับการจบความสัมพันธ์ แต่เป็นข้ออ้างสำหรับพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ต่างหาก)

- hater จำนวนมากยังโจมตี Jen เรื่อยมาว่า เธอหงายการ์ด "เหยื่อผู้ถูกนอกใจ" เพื่อเรียกร้องความสนใจ ทั้งๆที่เธอเปิดใจกับสื่อเรื่องความเจ็บปวดจากการหย่าร้างเพียงไม่กี่ครั้ง และเมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ยังร้องขอให้ผู้คนที่มองเธอในภาพของ " Jen ผู้น่าสงสาร" ได้เปลี่ยนความคิด เพราะเธอก้าวผ่านอดีตโดยไม่คอยจมปลักอมทุกข์ แต่ก็ยังมีมีความคิดที่ฝังหัวบางคนว่า เธอใช้ชีวิตอย่างขื่นขมเพราะไม่เคยทำใจจาก Brad ได้

แต่หากลองคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็อาจจะเข้าใจความรู้นึกของคนที่ต้องพัวพันในสถานการณ์รักสามเส้าแบบนี้ หากคุณได้เป็นคู่รักเซเลบที่ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยภาพลักษณคู่สามีภรรยาสุด perfect แล้วสามีได้ร่วมงานกับนางเอกสาวร้อนแรงที่สุดในวงการ หนังยังไม่ทันออกฉายก็มีข่าวลือกระหึ่มออกมาว่าทั้งสองข้ามเส้นความเป็นเพื่อนร่วมงานและพยายามปิดบังความสัมพันธ์ไม่ให้คนนอกรู้ แต่สุดท้ายเรื่องก็แดงจนทำนำไปสู่การหย่าร้าง คุณก็อาจจะเจ็บปวดจนอยากจะระบายออกมา และกลายเป็นว่า คุณต้องถูกสังคมโจมตีเรื่องเรียกร้องความสนใจ !



  

แม้จะพยายามหลบเลี่ยงคำกว่าวหาเรื่องเป็นชู้ด้วยการยืนยันว่า รักษาความสัมพันธ์ไว้ในระดับเพื่อร่วมงานโดยไม่ล้ำเส้น แต่สี่ปีหลังจากนั้น เมื่อสังคมได้ยอมรับ ฺBrangelina เป็นคู่รักยอดนิยมแล้ว เป็นตัว Angelina เองที่ยอมรับเองว่าได้ก้าวข้ามเส้นชองเพื่อนร่วมงาน แม้จะไม่ได้พูดว่าเป็นการนอกใจอย่างตรงไปตรงมาก็ตาม

" หนังเรื่องนี้ได้นำพาพวกเรามาทำอะไรที่เหลือเชื่อด้วยกัน ชั้นว่าเราได้ค้นพบมิตรภาพและความเป็นคู่คิดที่แปลกประหลาด อยู่ดีๆมันก็เกิดขึ้นเอง ใช้เวลาไม่กี่เดือน ก็ทำให้ชั้นคิดว่า พระเจ้า ชั้นแทบรอจะไปถ่ายหนังไม่ไหวแล้ว ทุกสิ่งที่เราทำด้วยกัน มันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เป็นทีมเวิร์คที่แท้จริง พวกเรากลายเป็นคู่ซี้กันค่ะ"

" กว่าที่ชั้นจะเริ่มคิดพัฒนาความสัมพันธ์ก็ตอนที่เกือบจะถ่ายหนังเสร็จแล้ว เราทั้งสองต่างตระหนักว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นสิ่งที่ต้องคิดพิจารณาอย่างจริงจัง"

สิ่งที่ต้องพิจารณาที่ Angie หมายถึง ก็คือสถานะ "แต่งงานแล้ว" ของ Brad นั่นเองค่ะ Brad กับ Jen ยังไม่ได้อยู่ในช่วงของการแยกกันอยู่ และการเล่าเรื่องราวความรักกลางกองถ่ายนี้ก็ทำให้ Jen อดไม่ไหว ให้สัมภาษณ์โต้กลับผ่าน Vogue ว่า

"ไอ้ตรงที่เธอบอกว่า แทบจะรอคอยไปถ่ายหนังด้วยกันไม่ได้เนี่ย มันไม่เข้าท่าเอาซะเลย"

Arnon Milchan โพสดิวเซอร์หนัง Mr.&Mrs. Smith ได้เปิดเผยว่า Brad ปลื้ม Angie ตั้งแต่ตอน casting แล้ว จากในตอนแรกที่เขาไม่พอใจกับการเลือก Nicole Kidman มาเป็นนางเอก และขอถอนตัวออกจากโพรเจคท์นี้เพราะคิดว่านักแสดงมีเคมีที่ไม่เข้ากัน แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Angie ก็ทำให้เขายินดีกลับมารับบทนำ

" ในตอนแรก Jen ไม่เชื่อเลยว่า Brad จะมีใจให้กับ Angelina เธอเริ่มตั้งคำถามกับคนรอบข้าง แต่ไม่มีใครเลยที่บอกความจริงกับเธอ เพระาพวกเขาต่างก็จงรักภักดีกับ Brad เธอจึงถามเขาแบบตรงไปตรงมา แต่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริง"


แม้ชีวิตคู่ของBrad และ Jen จะถูกสั่นคลอนอย่างหนัก แต่พวกเค้าก็ตัดสินใจไปพักผ่อนกับเพื่อนสนิทเพื่อหาหนทางในการรับมือกับปัญหา เป็นฝ่าย Brad ที่ตัดสินใจบอกความจริงในระหว่างทริปว่า เขาหลงรัก Angieเข้าไปเต็มเปา สร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับ Jen จนประกาศแยกกันอยู่ในเวลาไม่นานต่อมา

แม้จะหย่ากันท่ามกลาง scandal ที่ทำให้ชาวบ้านนินทากันไปเป็นปีๆ  ทั้งสองไม่เคยพูดถึงกันในทางที่เสียหาย    อย่างไรก็ตาม  ดูเหมือนว่า จะมีเพียงฝ่ายชายเท่านั้นที่ลอยตัวจาก "การตีตรา"     Jen ถูกโจมตีว่า play victim  ส่วน Angie ก็ไดรับตำแหน่ง home wrecker          ส่วน  Brad   ก็ยังเป็นหนุ่มหล่อในฝันของแฟนๆมากมาย   สื่อมักจะชื่นชมเขาในฐานะพระเอกภาพลักษณ์ดีงาม  ข่าวฉาวไม่สามารถดึงให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองได้เลย   แม้ว่าจะเกิด "เหตุการณ์บางอย่าง" บนเครื่องบินส่วนตัวจนทำให้ Angie ลุกมาฟ้องหย่า

แม้ดราม่ารักสามเส้านี้จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ผู้หญิงทั้งสองก็ยังมีภาพพจน์ในด้านลบแบบสลัดทิ้งไม่ได้ ภรรยาคนแรกได้รับการขนานนามว่า "Jen ผู้น่าสงสาร" "Jen ผู้เศร้าโศก" หรือ " Jen ผู้อับโชคในความรัก" แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยันว่า ชีวิตเธอไม่ได้เป็นเหมือนกับที่ภายนอกตัดสิน ส่วนภรรยาคนที่สอง หลายคนก็ยังฝังใจว่าเธอคือ "มือที่สาม" ที่ทำลายชีวิตคู่คนอื่นและแย่งมาเป็นของตัวเอง


แต่สำหรับคุณผู้ชาย   ไม่ว่าจะผ่านข่าวอื้อฉาวมามากเพียงใด  เขาก็ยังเป็นที่นิยมชมชอบของแฟนๆ เป็นหนุ่มใหญ่สุด sexy   ที่ทำให้ Kendall Jenner เขินมากจนไม่กล้าสู้หน้า ทั้งๆที่แอบคลั่งไคล้เขามาตั้งแต่ยังเอ๊าะๆ

ในบางสังคม การนอกใจอาจจะเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนดังที่อาจจะต้องสูญสิ้นชื่อเสียงดีๆและแรงสนับสนุนจากประชาชน เรียกว่าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในวงการอีกเลย แต่ในอีกสังคมที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน แม้คนดังจะมีเรื่องส่วนตัวจะฉาวโฉ่สักเพียงใด แต่ก็ยังมีคนมากมายที่ไม่ใส่ใจและเลือกจะติดตามแต่ผลงาน เมื่อข่าวซาลงจนไม่ได้เป็น hot topic อีกต่อไป พวกเค้าก็สามารถกลับมาสร้างความโด่งดังได้มากกว่าเดิมซะอีก แล้วคุณล่ะ ทำใจยอมรับเซเลบที่นอกใจคู่ครองได้รึเปล่า ?





จบ