ลำดับการลงสกินแคร์ขั้นพื้นฐานที่ควรรู้ 🙏😊

54 14
สวัสดีครับวันนี้เวฟไม่ได้มารีวิวสกินแคร์ แต่อยากจะมาพูดถึงลำดับขั้นตอนการลงสกินแคร์ขั้นพื้นฐานที่ถูกต้องกันครับ ทุกครั้งที่เข้ากลุ่มรีวิวสกินแคร์ เวฟมักเห็นคำถามซ้ำๆ ได้แก่ “ใช้อะไรก่อนหลังดี? รบกวนเรียงลำดับสกินแคร์ให้หน่อย? ใช้แบบนี้ถูกต้องไหม?” เวฟเองก็แปลกใจที่หลายๆท่านมีสกินแคร์กันเยอะ แต่ยังสับสนเรื่องการใช้

การใช้สกินแคร์ เรียกอีกอย่างว่า Skincare Routine เวฟคิดว่าเพื่อนๆคุณเคยกับคำนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีหลายคนที่สับสน เวฟยอมรับว่าปัจุบันนี้สกินแคร์ไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนเหมือนอดีต เนื้อผลิตภัณฑ์มีการพัฒนามามากมายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ โดยคำนึงที่สภาพผิว และความรู้สึกจากเนื้อสัมผัสอีกด้วย ด้วยเหตุนี้การเกิดความสับสนในการลงสกินแคร์จึงเกิดขึ้นได้ โดยที่บางครั้งตัวเวฟเองก็สับสนบ้าง บางสกินแคร์เวฟเองก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้ให้สอดคล้องกับสภาพผิวและการใช้ชีวิตประจำวันครับ

ทำไมการลงสกินแคร์ถึงต้องมีลำดับขั้นตอนเป็น Step 1,2,3...หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะ หากเราลงสกินแคร์ไม่ถูกต้อง ผลิตภัณฑ์ที่เราทาลงบนผิวก็จะไม่สามารถแทรกซึม และไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพี่สูงสุดได้ นั้นหมายความว่า คุณกำลังใช้สกินแคร์ไปอย่างเปล่าประโยชน์ครับ เรื่องลำดับการลงสกินแคร์ที่เวฟนำมาพูด เวฟได้ใช้เวลาในการศึกษาและลองผิดลองถูกกับตัวเวฟเอง สิ่งที่เวฟอธิบายเป็นแค่พื้นฐานของการใช้สกินแคร์หลักๆเท่านั้นครับ ไม่ได้แยกย่อย เพื่อลดความสับสน เพราะอย่างที่กล่าวข้างต้นว่า ปัจจุบันสกินแคร์มีความล้ำหน้ามาก มีลูกเล่นมากมายครับ

เวฟจะขอพูดพอสังเขปก่อนว่า การลงสกินแคร์ให้ดูที่จุดประสงค์ และก็เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นหลักครับ โดยจะแบ่งออกเป็นการดูแลผิวในช่วงกลางวันและกลางคืน

การลงสกินแคร์ในช่วงเวลากลางวัน หรือ ตอนเช้า
สำหรับช่วงเช้า หัวใจหลักของการลงสกินแคร์ คือ การปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะ เราไม่จำเป็นต้องทาอะไรมากมาย แต่ให้เน้นครีมกันแดดเป็นหลัก โดยเริ่มจาก

1) Facial Cleanser (โฟม เจล หรือ น้ำยาล้างหน้า เลือกตามสภาพผิวครับ) เพื่อล้างทำความสะอาดผิว ช่วงเช้าผิวหน้าเราไม่ได้สกปรกมาก ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ควรมีสครับหรือสารกลุ่มผลัดเซลล์ผิวผสม เพราะจะเพิ่มโอกาสการระคายเคืองจากแสงแดดได้

2) Moisturizer ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นการให้ความชุ่มชื่นเป็นหลัก เพราะกลางวันสภาพอากาศร้อน การสูญเสียน้ำจะมีมาก ท่านที่มีปัญหาหน้ามันก็เลือกใช่สูตร Oil-Free ครับ ทั้งนี้มอยเจอร์ไรเซอร์ในที่นี้ เวฟรวมถึง Eye Cream ด้วยครับ สำหรับท่านที่มีปัญหา

3) Sunscreen (ครีมกันแดด) แนะนำให้เลือกใช้ที่มีค่า SPF 50+, PA+++, กัน UVA, UVB, Blue Light ได้ครับ

3 ขั้นตอนนี้ คือ การลงสกินแคร์เบื้องต้นสำหรับช่วงเช้า ท่านไหนที่ต้องการลง โทนเนอร์ เซรั่ม ก็ทำได้ครับ แต่ไม่ได้มีความจำเป็นแบบ Must Do

การลงสกินแคร์สำหรับเวลากลางคืน หรือ ก่อนนอน

1) Oil Cleanser, Cleansing Balm หรือ Micellar Cleansing Water สำหรับทำความสะอากเครื่องสำอางค์ระหว่างวัน และครีมกันแดด

2) Facial Cleanser ขั้นตอนการล้างหน้า ซึ่งในส่วนนี้อาจจะมีการใช้สครับขัดผิวร่วมด้วย ไม่ควรสครับผิวหน้าทุกวัน เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง ส่งผลต่อรูขุมขนที่กว้างขึ้นได้

3) Wash Off Mask สำหรับขั้นตอนการมาร์คหน้าชนิดล้างออก เป็นการทำความสะอาดแบบล้ำลึก หลังใช้ต้องมั่นใจว่าล้างด้วยน้ำได้สะอาด ไม่ทิ้งเศษคราบมาร์คไว้

4) Toner ทำหน้าที่ทำความสะอาดผิวและเตรียมสภาพผิว โดยปรับค่า pH ให้เป็นกลางเพื่อการบำรุงในขั้นตอนถัดไป

5) Essence หรือ น้ำตบโลชั่น หน้าที่หลักคือ ช่วยปลอบประโลมผิว มอบความชุ่มชื่น และเตรียมผิวหน้าเพื่อการบำรุงที่มีประสิทธิภาพ การให้ความชุ่มชื่นในส่วนนี้จะทำให้สารบำรุงในการลงสกินแคร์ทำงานได้ดีและแทรกซึมสู่ผิวได้ง่าย

6) Serum เซรั่มคือหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์ในแต่ละไลน์ มีความเข้มข้นของสารสูง ในส่วนนี้สารมารถเลือกใช้ตามสภาพผิวหรือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข

7) Sheet Mask สำหรับคนที่ใช้ชีสมาร์คหน้าก่อนนอน ก็ให้ใช้ก่อนลงตัวเวรั่ม หรือ จะข้ามขั้นตอนการลงเซรั่มก็ได้ เนื่องจากสารในชีสมาร์ดมีความเข้าข้นเพียงพอในการบำรุงเทียบเท่าหรือมากกว่าเซรั่มครับ

8) Eye Cream ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตา

9) Moisturizer ก่อนนอนเราสามารถลงครีมบำรุงได้อย่างเต็มที่ โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและอุณภูมิห้องของเรา ถ้าห้องร้อน เปิดพัดลม การพอกครีมหลายๆชั้นคงจะไม่เหมาะ เพราะหน้าจะมันเยิ้ม และอาจก่อสิวอุดตันได้ ในขณะคนที่นอนในห้องแอร์ก็ต้องบำรุงให้ดี เน้นสารให้ความชุ่มชื่น เพื่อลดการขาดน้ำของผิวที่ระเหยผ่านความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ

10) Night Mask มาร์คชนิดพอกหน้าค้างคืน ตัวนี้ใช้เพื่อการบำรุงขั้นสุด ปลอบประโลม ปลุกผิวที่โทรมให้ฟื้นฟู ดูมีชีวิตชีวาต้อนรับวันใหม่ (สำหรับเวฟ ไม่ค่อยมีความจำเป็นครับ แต่ถ้าใครชอบ ก็เพิ่มขึ้นตอนการบำรุงนี้ได้ครับ)

11) Facial Oil น้ำมันบำรุงผิวหน้า เวฟแนะนำให้วอร์มที่ฝ่ามือก่อนทาทุกครั้ง การทาให้ใช้วิธีการกดประคบครับ ใช้ประมาณน้อยๆ 2-3 หยดก็พอแล้วครับ ทั้งนี้ Facial Oil หมายถึง น้ำมันบำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะ เวฟไม่ได้หมายถึงกลุ่มเซรั่มกึ่งน้ำมันนะครับ เพราะโมเลกุลมีความเข้มข้นหนักเบาที่ต่างกัน

นอกจากก็ยังมีกฎที่สำคัญในการลงสกินแคร์ ดังนี้

1) ลงผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสารเบาที่สุด ไป หนาที่สุด

2) มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก (Water Based) ไปถึง มีน้ำมันเป็นส่วนผสม (Oil Based)

3) ค่า pH จากน้อย ไป มาก

4) เลี่ยงการผสมผลิตภัณฑ์ในครั้งเดียวแล้วทาหน้า เช่น มีเซรั่ม 5 ขวด เพื่อปัญหาที่ต่างกัน คุณจะขี้เกียจแล้วบีบลงฝ่ามือทุกขวด ผสมกันแล้วทาหน้าทีเดียว อันนี้ไม่ควรทำ เพราะบางผลิตภัณฑ์มีค่า pH โดด อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับสภาพ ฉะนั้นควรทาสกินแคร์ทีละชั้น และทิ้งช่วงให้กันครับ

ทั้งหมดก็คือเรื่องของ Skincare Routine ลำดับการทาครีมให้ได้ผลดี แต่อย่างที่บอกไปว่า เราสามารถประยุกต์การใช้ได้ เช่น Facial Oil เอามาผสมกับ Moisturizer เป็นต้น เพียงแค่รู้หลักการง่ายๆ เราก็จะสามารถใช้สกินแคร์ที่เรามีได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

เวฟหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ

ปล. เวฟขออนุญาตใช้ภาพประกอบเพื่อเป็นความรู้จาก Jeban และ Twinspiration (ภาพนี้มาจากเวปไซด์ทางฝั่งยุโรป บางขั้นตอนจึงไม่เหมาะสม จำต้องประยุกต์ใช้กับสภาพอากาศในบ้านเรา เช่น Facial Oil เวฟจะลงหลังครีมบำรุง แล้วตามด้วยครีมกันแดดครับ ไม่ได้ใช้ตามแผนผัง เนื่องจากอากาศเมืองไทยร้อน เดี๋ยวจะเยิ้ม แต่งหน้าไม่สวยเอา ถ้าจะใช้ออย์ ก็ทา 1-2 หยดพอสำหรับเวลากลางวันครับ)

ฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ FB: WaveSkincareReview


Wave1992

Wave1992

สวัสดีครับ ชื่อ เวฟ ครับ เวฟชอบสกินแคร์ มีความสุขกับการดูแลตัวเอง เวฟเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนมีความสวยหล่อในแบบของเรา สามารถดูแลและพัฒนาความงามกันได้ แค่เราใส่ใจ เข้าใจการดูแล การมีใบหน้าและผิวพรรณที่สุขภาพดีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ การดูแลผิวคือจริตที่ทุกคนพึงมี ปัญญาจะเกิดเมื่อเราหมั่นศึกษา ความงามจะมาเมื่อเรารักสกินแคร์ ????

FULL PROFILE