ไม่น่าเลย รวมดาราHollywood กับบทซุเปอร์ฮีโร่และวายร้ายที่ไม่น่าจดจำ #1
Panchud Thammachat 41 7
สวัสดีค่ะ ช่วงที่ผ่านมาภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่มาแรงมาก จนขนาดที่ว่าปีๆหนึ่งมีภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่เข้าฉายมากกว่า3เรื่อง
แต่ในบทความนี้ เราจะมารวบรวมดาราHollywoodที่ไม่ปังกับบท"ซุเปอร์ฮีโร่"และ"วายร้ายในภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่" จะมีใครบ้าง ไปดูกันเลย
1.David Habour รับบทเป็นHellboy
ระดับความ"พัง":8.5/10
เหตุผล:คุณDavid Habour นักแสดงหน้าเข้มหุ่นหมีที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างกับบทJim Hopper ตำรวจหน้าเข้มเพื่อนสนิทของJoyce Byers(รับบทโดยคุณWinona Ryder)จากซีรีส์Strenger Things ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คุณHabourกล้ามารับบทนี้ ทั้งๆที่รูปร่างไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ระดับความ"พัง":8.5/10
เหตุผล:คุณDavid Habour นักแสดงหน้าเข้มหุ่นหมีที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างกับบทJim Hopper ตำรวจหน้าเข้มเพื่อนสนิทของJoyce Byers(รับบทโดยคุณWinona Ryder)จากซีรีส์Strenger Things ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คุณHabourกล้ามารับบทนี้ ทั้งๆที่รูปร่างไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
โดยภาพยนตร์เรื่องHellboyฉบับปี2019นั้นกำกับโดยคุณNeil Marshall ผู้กำกับซีรีส์ดังอย่างGame of ThroneและWestworld ภายใต้การดูแลโดยค่ายLionsgate ซึ่งTrailerของภาพยนตร์เรื่องนี้เคลมว่าเป็นภาพยนตร์เรตR คือ มีฉากนองเลือดและพูดหยาบคาย แต่พอเข้าฉายจริงเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว กลับทำรายได้เพียงแค่44ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากทุนสร้าง50ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ถึงแม้มีคุณMilla JovovichกับคุณDaniel Dae Kimมาเสริมทัพก็ตาม
ซึ่งการที่ภาพยนตร์Hellboyฉบับนี้เข้าฉาย ก็เอาไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์Hellboyฉบับปี2004 ซึ่งกำกับโดยคุณGuillermo del Toro และบทHellboyซึ่งรับบทโดยลุงRon Perlman
ตอนถ่ายทำภาพยนตร์Hellboyฉบับปี2004นั้น การแต่งหน้าเอฟเฟ็คท์เหล่านักแสดงและการออกแบบสัตว์ประหลาดก็ใช้ความปราณีตมาก ถึงขนาดร่างกายและใบหน้าของHellboyนั้น ทำมาจากยางขึ้นรูปค่ะ
ต่างจากฉบับปี2019ที่เน้นเรื่องCGIมากไปจนทำให้การแต่งหน้าเอฟเฟ็คท์ตัวละครHellboyให้กับคุณHabourนั้น ไม่ค่อยประณีตเท่าที่ควร บวกกับเนื้อเรื่องที่สะเปะสะปะดันมาพีคตอนช่วงท้ายๆ และปัญหาระหว่างการถ่ายทำ ทำให้ทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เสริม:ล่าสุดคุณDavid Habourได้เข้าสู่MCUเป็นที่เรียบร้อย โดยได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องBlack WidowในบทRed Guardian/Alexei Shostakov
แต่ทางทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้บอกใบ้ให้ว่า1ใน3ตัวละครหลัก(ถ้าไม่นับNatasha RomanovหรือBlack Widowซึ่งรับบทโดยพี่Scarlett Johanssonนะคะ) จะเป็น"ผู้ทรยศที่เป็นสมาชิกกลุ่มHydra"ในตอนท้ายๆ
เท่าที่เราดูTrailerภาพยนตร์เรื่องนี้นะ บทYelena Balovaซึ่งรับบทโดยน้องFlorence Pughก็ไม่เข้าข่ายที่จะเป็นผู้ทรยศได้เลย
แต่ทางทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้บอกใบ้ให้ว่า1ใน3ตัวละครหลัก(ถ้าไม่นับNatasha RomanovหรือBlack Widowซึ่งรับบทโดยพี่Scarlett Johanssonนะคะ) จะเป็น"ผู้ทรยศที่เป็นสมาชิกกลุ่มHydra"ในตอนท้ายๆ
เท่าที่เราดูTrailerภาพยนตร์เรื่องนี้นะ บทYelena Balovaซึ่งรับบทโดยน้องFlorence Pughก็ไม่เข้าข่ายที่จะเป็นผู้ทรยศได้เลย
เราตัดYelena Balovaออกไป เหลือเพียง2ตัวละครนี้ คือMelina Vostokoff(รับบทโดยคุณRachel Weisz)กับRed Guardian(รับบทโดยคุณDavid Habour) ที่เข้าข่ายเป็นผู้ทรยศ
แต่จะจริงตามที่เราคาดการณ์หรือไม่ ต้องติดตามเพราะเรื่องนี้เข้าฉายปลายเดือนตุลาคมนี้
แต่จะจริงตามที่เราคาดการณ์หรือไม่ ต้องติดตามเพราะเรื่องนี้เข้าฉายปลายเดือนตุลาคมนี้
2.Ryan Reynolds รับบทเป็นGreen Lantern/Hal Jordan
ระดับความ"พัง":7.5/10
เหตุผล:คุณRyan Reynolds นักแสดงมาดกวนชาวแคนาดาซึ่งแสดงภาพยนตร์ได้หลากหลายแนว เช่น บทชายที่ต้องนอนในโลงศพฝังทั้งเป็นในภาพยนตร์เรื่องBuried(2010),บทเจ้าหน้าที่CIAในภาพยนตร์เรื่องSafe House(2012) เป็นต้น
ระดับความ"พัง":7.5/10
เหตุผล:คุณRyan Reynolds นักแสดงมาดกวนชาวแคนาดาซึ่งแสดงภาพยนตร์ได้หลากหลายแนว เช่น บทชายที่ต้องนอนในโลงศพฝังทั้งเป็นในภาพยนตร์เรื่องBuried(2010),บทเจ้าหน้าที่CIAในภาพยนตร์เรื่องSafe House(2012) เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณReynoldsยังเคยรับบทเป็นHannibal Kingในเรื่องBlade:Trinity(2004)และเป็นเจ้าของบทDeadpool มนุษย์กลายพันธุ์จอมเกรียน ปากหมาแต่สกิลสุดโหดจนเป็นขวัญใจใครหลายๆคน
แต่เมื่อปี2011คุณReynoldsได้แสดงภาพยนตร์เรื่องGreen Lantern ซุเปอร์ฮีโร่ค่ายDC Comic แต่ไม่ค่อยปังเท่าที่ควร
โดยภาพยนตร์เรื่องGreen Lanternเป็นผลงานการกำกับของลุงMartin Campbell ที่เคยกำกับภาพยนตร์James Bond 007ทั้งหมด2เรื่อง ได้แก่GoldenEye(1995)และCasino Royale(2006) และภาพยนตร์หน้ากากZorroทั้ง2เรื่อง(The Mask of Zorro เมื่อปี1998กับThe Legend of Zorro เมื่อปี2005)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ยังใช้CGIและการแต่งหน้าเอฟเฟ็คท์ตลอดการถ่ายทำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือ ค่อนข้างไปทางน่ากลัว บวกกับเนื้อหาค่อนข้างมั่วซั่วและการรับบทเป็นHal JordanของคุณReynoldsที่บุคลิกต่างจากฉบับComicไปพอสมควร
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปเพียง219ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนสร้าง200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(เป็นภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดของลุงCampbellไปแล้วค่ะ)
ด้านคุณReynoldsก็ได้ตอบชาวทวิตเตอร์เรื่องที่ภาพยนตร์เรื่องนี้วางจำหน่ายทางApple TVในราคา0.99ดอลลาร์ เมื่อวันที่26 เมษายนว่า"หนีไป"
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปเพียง219ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนสร้าง200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(เป็นภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดของลุงCampbellไปแล้วค่ะ)
ด้านคุณReynoldsก็ได้ตอบชาวทวิตเตอร์เรื่องที่ภาพยนตร์เรื่องนี้วางจำหน่ายทางApple TVในราคา0.99ดอลลาร์ เมื่อวันที่26 เมษายนว่า"หนีไป"
เอ่อ...คุณReynoldsคะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ได้แต่งงานรอบสองกับพี่Blake Livelyเมื่อปี2012 และมีลูกสาวถึง3คนแล้วนะคะ
3.Geoge Clooney รับบทเป็นBatman/Bruce Wayne
ระดับความ"พัง":9.5/10
เหตุผล:ช่วงที่ลุงGeoge Clooneyตัดสินใจรับบทเป็นBatmanในภาพยนตร์เรื่องBatman & Robin(1997)นั้น ก่อนหน้านี้ลุงClooneyดังเป็นพลุแตกจากซีรีส์เรื่องราวของบุคลากรทางการแพทย์เรื่องER
แต่เพราะอะไรหลังจากภาพยนตร์เรื่องBatman & Robinเข้าฉายแล้ว ลุงClooneyก็ไม่รับแสดงภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่อีกเลย
ระดับความ"พัง":9.5/10
เหตุผล:ช่วงที่ลุงGeoge Clooneyตัดสินใจรับบทเป็นBatmanในภาพยนตร์เรื่องBatman & Robin(1997)นั้น ก่อนหน้านี้ลุงClooneyดังเป็นพลุแตกจากซีรีส์เรื่องราวของบุคลากรทางการแพทย์เรื่องER
แต่เพราะอะไรหลังจากภาพยนตร์เรื่องBatman & Robinเข้าฉายแล้ว ลุงClooneyก็ไม่รับแสดงภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่อีกเลย
เหตุผลข้อแรกคือ การลาออกจากบทBatmanของลุงVal Klimer หลังจากภาพยนตร์เรื่องBatman Forever(1995)เข้าฉาย เนื่องจากคิวงานไม่ลงตัว
ปัจจุบันลุงKlimerกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งลำคอ(สังเกตที่ช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ ลุงKlimerต้องสวมผ้าพันคอตลอด) และกำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องTop Gun:Marverick(ภาคต่อของภาพยนตร์Top Gunที่เข้าฉายเมื่อปี1986) มีกำหนดเข้าฉายปลายปี2020นี้
ปัจจุบันลุงKlimerกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งลำคอ(สังเกตที่ช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ ลุงKlimerต้องสวมผ้าพันคอตลอด) และกำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องTop Gun:Marverick(ภาคต่อของภาพยนตร์Top Gunที่เข้าฉายเมื่อปี1986) มีกำหนดเข้าฉายปลายปี2020นี้
เหตุผลข้อที่2 คือ การปรับเปลี่ยนโทนเรื่องให้ดูฉูดฉาดมากกว่าเรื่องBatman Forever ซึ่งเหล่าแฟนๆที่ติดตามBatmanในฉบับComicก็ส่ายหัวกับโทนเรื่องของภาพยนตร์เรื่องBatman & Robin
เหตุผลข้อสุดท้ายก็คือ การออกแบบชุดBatmanให้กับลุงClooney เข้าขั้นหายนะเลยจ้า
ไม่รู้ว่าคนออกแบบเสื้อผ้าคิดยังไงจึงใส่"หัวนม"ให้กับชุดBatmanในเวอร์ชั่นนี้
ภาพยนตร์เรื่องBatman & Robin ทำรายได้ไป238.2ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนสร้างระหว่าง125-160ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนคำวิจารณ์ถือได้ว่า"แย่" เพราะในเว็บRotten Tomatoesให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเพียง11%
ไม่รู้ว่าคนออกแบบเสื้อผ้าคิดยังไงจึงใส่"หัวนม"ให้กับชุดBatmanในเวอร์ชั่นนี้
ภาพยนตร์เรื่องBatman & Robin ทำรายได้ไป238.2ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนสร้างระหว่าง125-160ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนคำวิจารณ์ถือได้ว่า"แย่" เพราะในเว็บRotten Tomatoesให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเพียง11%
4.เหล่านักแสดงหลักจากภาพยนตร์เรื่องFantastic Four(2015)
ระดับความ"พัง"(โดยเฉลี่ย):9/10
เหตุผล:หลังจากFantastic Four:Rise of the Silver Surferเข้าฉายไปเมื่อปี2007 ทางค่าย20th Century Fox(ปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายDisney) ได้มีมติว่า สมควรจะรีบู๊ตFantastic Fourซะใหม่ โดยให้พี่Josh Trank ซึ่งแจ้งเกิดจากการกำกับภาพยนตร์เรื่องChronicle(เรื่องนี้แจ้งเกิดให้กับพี่Dane DeHaan,พี่Alex Russellและพี่Michael B. Jordan)เมื่อปี2012 มากำกับฉบับรีบู๊ต
ระดับความ"พัง"(โดยเฉลี่ย):9/10
เหตุผล:หลังจากFantastic Four:Rise of the Silver Surferเข้าฉายไปเมื่อปี2007 ทางค่าย20th Century Fox(ปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายDisney) ได้มีมติว่า สมควรจะรีบู๊ตFantastic Fourซะใหม่ โดยให้พี่Josh Trank ซึ่งแจ้งเกิดจากการกำกับภาพยนตร์เรื่องChronicle(เรื่องนี้แจ้งเกิดให้กับพี่Dane DeHaan,พี่Alex Russellและพี่Michael B. Jordan)เมื่อปี2012 มากำกับฉบับรีบู๊ต
แต่เมื่อFantastic Four ฉบับรีบู๊ตทำรายได้ขาดทุนและได้รับคำวิจารย์ในเชิงลบเนื่องจากเนื้อหาเละเทะ ธาตุแท้ที่ไม่ค่อยดีของพี่Trankก็เผยออกมา ทั้งการวิพากย์วิจารณ์ภาพยนตร์จากMarvel Studio การไม่อยากสานต่อภาพยนตร์Chronicleที่เจ้าตัวกำกับเอง เป็นต้น
ส่วนรายได้และคำวิจารย์ภาพยนตร์เรื่องนี้ เราอธิบายไว้ในบทความนี้แล้ว⬇️
https://www.jeban.com/topic/291873
ส่วนนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็โดนวิพากย์วิจารณ์เช่นกัน
ส่วนรายได้และคำวิจารย์ภาพยนตร์เรื่องนี้ เราอธิบายไว้ในบทความนี้แล้ว⬇️
https://www.jeban.com/topic/291873
ส่วนนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็โดนวิพากย์วิจารณ์เช่นกัน
4.1 Miles Teller รับบทเป็นMr.Fantastic/Reed Richards
ระดับความ"พัง":3.5/10
เหตุผล:หลังจากที่พี่Tellerแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องWhiplash(2014) ทำให้ได้แสดงภาพยนตร์ชุดDivergent Series แต่ก็มีความด่างพร้อยในอาชีพนักแสดงของพี่Tellerอยู่เช่นกัน คือการรับบทเป็นMr.Fantasticในภาพยนตร์Fantastic Four ฉบับรีบู๊ต
แต่บทที่พี่Tellerแสดงนั้นกลับถูกวิพากย์วิจารณ์น้อยที่สุด
ระดับความ"พัง":3.5/10
เหตุผล:หลังจากที่พี่Tellerแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องWhiplash(2014) ทำให้ได้แสดงภาพยนตร์ชุดDivergent Series แต่ก็มีความด่างพร้อยในอาชีพนักแสดงของพี่Tellerอยู่เช่นกัน คือการรับบทเป็นMr.Fantasticในภาพยนตร์Fantastic Four ฉบับรีบู๊ต
แต่บทที่พี่Tellerแสดงนั้นกลับถูกวิพากย์วิจารณ์น้อยที่สุด
4.2 Kate Mara รับบทเป็นInvisible Woman/Susan Storm
ระดับความ"พัง":5/10
เหตุผล:พี่Kate Mara เป็นพี่สาวของนักแสดงสาวที่ได้เข้าชิงออสการ์ถึง2ครั้งอย่างพี่Rooney Mara
หลังจากที่พี่Maraได้แจ้งเกิดจากซีรีส์American Horror Story:Murder House เมื่อปี2011 ก็มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ทีวีเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่Maraได้รับบทเป็นInvisible Womanในภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่แฟนๆที่ติดตามจากฉบับภาพยนตร์เวอร์ชั่นก่อน มองว่าบทInvisible Womanที่พี่Maraรับบทนั้น มีเสน่ห์น้อยกว่าตอนที่พี่Jessica Albaรับบทนี้ซะอีก
ระดับความ"พัง":5/10
เหตุผล:พี่Kate Mara เป็นพี่สาวของนักแสดงสาวที่ได้เข้าชิงออสการ์ถึง2ครั้งอย่างพี่Rooney Mara
หลังจากที่พี่Maraได้แจ้งเกิดจากซีรีส์American Horror Story:Murder House เมื่อปี2011 ก็มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ทีวีเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่Maraได้รับบทเป็นInvisible Womanในภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่แฟนๆที่ติดตามจากฉบับภาพยนตร์เวอร์ชั่นก่อน มองว่าบทInvisible Womanที่พี่Maraรับบทนั้น มีเสน่ห์น้อยกว่าตอนที่พี่Jessica Albaรับบทนี้ซะอีก
4.3 Michael B. Jordan รับบทเป็นHuman Torch/Johnny Storm
ระดับความ"พัง":9/10
เหตุผล:หลังจากที่พี่Jordanแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องChronicle(2012) เขาก็ได้ร่วมงานกับพี่Josh Trankอีกครั้ง แต่ตัวละครที่เขาได้รับบทนั้น แฟนๆฉบับComicหลายคนถึงกับอารมณ์ขึ้น
เพราะว่าในฉบับComicนั้น Human Torchเป็นคนผิวขาว แต่เอเจนซี่จัดหานักแสดงเลือกพี่Jordanให้มารับบทนี้ และนี่คือ1ในสาเหตุที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ล้มเหลว และเป็นสาเหตุที่พี่Jordan ไม่ขอร่วมงานกับพี่Trank ผู้กำกับติกส์แตกอีกเลย
ระดับความ"พัง":9/10
เหตุผล:หลังจากที่พี่Jordanแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องChronicle(2012) เขาก็ได้ร่วมงานกับพี่Josh Trankอีกครั้ง แต่ตัวละครที่เขาได้รับบทนั้น แฟนๆฉบับComicหลายคนถึงกับอารมณ์ขึ้น
เพราะว่าในฉบับComicนั้น Human Torchเป็นคนผิวขาว แต่เอเจนซี่จัดหานักแสดงเลือกพี่Jordanให้มารับบทนี้ และนี่คือ1ในสาเหตุที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ล้มเหลว และเป็นสาเหตุที่พี่Jordan ไม่ขอร่วมงานกับพี่Trank ผู้กำกับติกส์แตกอีกเลย
4.4 Jamie Bell รับบทเป็นThe Thing/Ben Grimm
ระดับความ"พัง":8.5/10
เหตุผล:พี่Jamie Bell แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องBilly Elliot เมื่อปี2000 หลังจากนั้นก็มีผลงานภาพยนตร์มากมาย เช่น King Kong(2005),Jumper(2008) เป็นต้น
บทThe Thingในภาพยนตร์เรื่องนี้ พี่Bellได้รับบทนี้หลังจากที่เขาหย่าขาดกับพี่Evan Rachel Woodเมื่อปี2014 ด้วยเหตุผลเรื่องทัศนคติ แต่ร่างที่แท้จริงของThe ThingในฉบับComic เป็นชายร่างกำยำ ไม่ใช่ชายร่างอ้อนแอ้น
แต่ข่าวดีที่ตามมาคือ 2ปีต่อมา พี่Bellได้แต่งงานรอบสองกับพี่Kate Mara และมีลูกสาวด้วยกัน ซึ่งเป็นลูกคนที่2ของพี่Bell แต่เป็นลูกคนแรกของพี่Mara
ระดับความ"พัง":8.5/10
เหตุผล:พี่Jamie Bell แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องBilly Elliot เมื่อปี2000 หลังจากนั้นก็มีผลงานภาพยนตร์มากมาย เช่น King Kong(2005),Jumper(2008) เป็นต้น
บทThe Thingในภาพยนตร์เรื่องนี้ พี่Bellได้รับบทนี้หลังจากที่เขาหย่าขาดกับพี่Evan Rachel Woodเมื่อปี2014 ด้วยเหตุผลเรื่องทัศนคติ แต่ร่างที่แท้จริงของThe ThingในฉบับComic เป็นชายร่างกำยำ ไม่ใช่ชายร่างอ้อนแอ้น
แต่ข่าวดีที่ตามมาคือ 2ปีต่อมา พี่Bellได้แต่งงานรอบสองกับพี่Kate Mara และมีลูกสาวด้วยกัน ซึ่งเป็นลูกคนที่2ของพี่Bell แต่เป็นลูกคนแรกของพี่Mara
ขอบคุณข้อมูลจากWikipedia และขอบคุณภาพบางส่วนจากIMDb