ไม่อยากชักแต่อยากสวย จากประสบการณ์ส่วนตัว
lookmaiiilm
51
6
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอเเนะนำตัวก่อนนะคะ ลูกไม้ ค่ะ
วันนี้นำเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตมาแบ่งปันกับทุกคนค่ะ จากปกติเป็นเข้ามาส่อง
ไม่เคยโพสต์อะไรเลย :)
ขอเริ่มจากประสบการณ์การที่เกิดขึ้นกับตัวเองนะคะ เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2561 หรือเกือบ 2 ปี ที่แล้ว ได้มีอาการชัก ทั้งชักแบบกระตุก และชักแบบนิ่ง เหม่อลอย ทั้งสองอาการนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน (ต.ค. พ.ศ.2561 - เม.ย. พ.ศ.2562) ได้ไปปรึกษาเเพทย์และได้ทำการตรวจอย่างละเอียดได้แก่ การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram: EEG), การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram: EEG) และ การเอกซเรย์เอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging: MRI) ได้ผลการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก ซึ่งในตอนนั้นอายุ 20 กว่า ๆ ได้มีการปรึกษากับแพทย์ถึงสาเหตุของการเป็นโรคนี้ได้ เพราะส่วนตัวไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับความกระทบกระเทือนบริเวณศรีษะ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีอาการชักมากก่อนเหมือนกัน จากการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก เเพทย์ได้ให้ยา 2 ตัว คือ DILANTIN 100 mg กับ foLIC acid และเริ่มกินยาในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2562 โดยแพทย์ได้เจาะเลือดเราไปตรวจว่าแพ้ยาอีกตัวไหม สรุปว่าเลือดเราเเพ้ เลยเป็นยาตัวนี้จริงจังเลย แพทย์ได้บอกกับเราว่าอาจจะเกิดผลกระทบจากยาด้วยในผู้ป่วยบางคน แต่ถ้าเราเป็นคนไม่ได้ติดเรื่องอะไรหรือกังวลเรื่องความสวยงามมากหนัก ผลกระทบจากยานั้นจะไม่ได้มีผลอะไรกับเราเท่าไหร่
จากการเริ่มกินยามาเรื่อย ๆ ก็มีผลกระทบแบบยาทั่วไป คือ ง่วงนอนในช่วงแรก ๆ แต่พอผ่านไปซักระยะหนึ่งเราก็ปรับตัวได้ และอีกสองสิ่งก็เริ่มตามมาให้เราประหลาดใจ (ในหัวนึกถึงคำที่เเพทย์เคยบอกว่าเราไม่ได้กังวลเรื่องผลกระทบ เรื่องความสวยงามทางด้านร่างกายมากนักใช่ไหม แล้วเราตอบไปว่าใช่ ในตอนนั้นเหมือนภาพในหัวลอยมากเลย ) โดยเรารู้สึกว่าตัวเองมีขนขึ้นเพิ่มมากขึ้น และตรงบริเวณจมูกเป็นขุย สะเก็ดแดงนิดหน่อย ปกติเเล้วเป็นคนที่มีขนคิ้ว ขนตา ขนบริเวณลำตัวอยู่แล้วไม่ได้มาก พอปกคลุม (:
จากเรื่องประหลาดใจของเราเลยไปปรึกษาเเพทย์อีกครั้งได้ความว่า ขนที่ขึ้นเพิ่มขึ้นของเราเป็นผลกระทบจากยา และขุย สะเก็ด รอยแดงบริเวณรอบจมูกของเรานั้นก็เป็นผลกระทบของยาเหมือนกัน โดยแพทย์บอกว่าอาการแบบนี้คือ โรคเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis ส่วนใหญ่จะเป็นผลกระทบจากการกินยาที่เรากินอยู่แล้ว มีงานวิจัยในเรื่องนี้อยู่ด้วย และจากการปรึกษากับแพทย์แล้วนั้น ทุกอย่างเราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นผลกระทบอะไรมากนัก เราแอบชอบที่ขนตาดูหนา ยาวขึ้นด้วยซ้ำ จากก่อนหน้านี้หน้าออกหมวย ๆ ตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนแนวบ้างก็ดี (แต่ขนบริเวณอื่นคงทำได้แค่มองบน)
เวลาผ่านไปรู้สึกขนตาขึ้นชิดสุดหัวตาทั้งตาบนและตาล่าง จนบางครั้งรู้สึกเหมือนขนตาเข้าไปจิ้มในตาเราเอง จนได้เริ่มมีการส่องรีวิวที่ดัดขนตาไปเรื่อย ๆ เเล้ว ส่องไปส่งจนได้ลองที่ดัดขนตาตัวนี้มา Shu uemura S curler จากรีวิวส่วนใหญ่ค่อนข้างบอกว่าเหมาะกับการดัดขนตาเฉพาะจุด ซึ่งของเราคือบริเวณหัวตาใช้มาซักระยะหนึ่ง และที่เล่ามาทั้งหมดในข้างต้นของเราเป็นเรื่องที่เราอยากแชร์กับทุกคน ทุกเรื่องมีความสัมพันธ์กันหมดจริง ๆ จากสุขภาพ ความสวยงาม และในเรื่องความสวยงามที่เข้ากับเพจจีบันแล้วนั้น จากผู้หญิงที่ไม่ได้สนใจที่ดัดขนตาเท่าไหร่แถบจะไม่ค่อยได้ ดัดขนตาเลยมาเป็นผู้หญิงที่ดัดขนตาไปเลย ด้วยความคิดดัดไม่ให้ขนตาเข้าไปจิ้มในตาด้วยและดัดด้วยความคิดว่า เอ้า...ดัดไป เผื่อสวย... :)
ป.ล. บทความนี้ไม่ได้ตั้งใจพาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เกิดความเสียหายและถ้าบทความนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจในเรื่องอะไรก็ตามขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ