ผิวสวยสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย Bella Aura ใช้แล้วสิวดีขึ้น แบบไม่มโน
Wave1992 47 9
สวัสดีครับ คืนนี้เวฟกลับมารีวิวสกินแคร์ที่ใช้แล้วประทับใจกันอีกแล้ว รอบนี้บอกเลยว่าเป็นตัวเด็ดสำหรับคนที่มีปัญหาสิวผด ผิวระคายเคืองง่าย มีรอยแดง จะบอกว่ามันดีจริงๆครับ ไม่ใช่แค่กระแสที่มาแรง แต่คุณภาพก็แรงด้วยเช่นกัน
ตัวที่เวฟกำลังพูดถึงก็คือ Bella Aura ครั้งนี้เวฟขอเลือกมารีวิวเพียงแค่ 1 ตัวก่อนนะครับ ซึ่งตัวนี้เวฟใช้แล้วประทับใจมากที่สุด ชื่อเต็มๆก็คือ Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir สกินแคร์ตัวนี้เนื้อบางเบา ไม่หนัก เหมาะกับทุกสภาพผิวครับ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้อารมณ์พืชพรรณ ป่าสน เนื้อผลิตภัณฑ์จะออกเป็นสีเทา ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมัน นอกจากนี้เวฟก็ประทับใจในส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่มาในขวดสีดำทึบแสง มีหลอดหยด แม้จะมีโอกาสปนเปื้อนได้บ้าง แต่โดยรวมทำมาได้ดีมากครับ และถ้าวิเคราะห์ไปถึงสารประกอบ เวฟบอกเลยว่าดีงาม กราบเบญจางคประดิษฐ์ พร้อมเดินถอนสายบัว ดีจริง!!!
มาดูที่ส่วนผสมหลักกันนะครับ
1. Norvegian Spruce Extract สารสกัดจากต้นสนนอร์เวย์ ที่มีสารสำคัญ ได้แก่ lignans และ Polyphenolic โดยสารทั้งสองมีการวิจัยและได้รับการยอมรับว่า สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างเกราะป้องกันชั้นผิวได้ จึงช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้ ทำให้ผิวแข็งแรงดูสุขภาพดี
2. Micro Silver สารต้านจุลินทรีย์ทางธรรมชาติ ที่สามารถลดการระคายเคืองของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลดโอกาสการแพ้ ผิวอักเสบ อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหนัง และป้องการการเสื่อมสภาพตามช่วงอายุวัย
3. Ecocert ส่วนผสมออแกนิก อันได้แก่
⁃ Blackcurrant seed oil หรือ Ribes Nigrum Seed Oil ช่วยคงสภาพความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อผิว ซ่อมแซมผิวหนังและลดผดผื่นได้
⁃ Carthamus Tinctorius (Safflower) Oleosomes หรือ สารสกัดดอกคำฝอย ประกอบด้วยวิตามินอี ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันการเสื่อมสภาพของชั้นคอลลาเจน และยังช่วยในการสมานแผลได้เร็วขึ้น
⁃ Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil หรือ น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ซึ่งมีกรดไขมันดีที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพ
⁃ Rosemary Leaf Extract สารสกัดจากใบโรสแมรี่ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดภาวะผิวไหม้จากแสงแดด และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
⁃ Balloon Vine Extract สารสกัดโคกกระออม สารที่เปี่ยมด้วยคุณสมบัติในการฟื้นฟูและปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ลดการอักเสบของผิว พร้อมยังช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว
จะเห็นได้ว่าส่วนผสมแต่ละตัวได้เลือกสรรมาอย่างดี และมีความปลอดภัยกับทุกสภาพผิวครับ สำหรับตัวนี้ใครที่มีปัญหาเรื่องสิวและต้องการมีผิวแข็งแรง เวฟแนะนำเลยครับ สกินแคร์กลุ่มรักษาสิวส่วนใหญ่มักจะทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน แต่ตัวนี้กลับมอบความชุ่มชื้นควบคู่ไปกับการปลอบประโลมผิวจากปัญหาสิวได้ดีครับ
วิธีการใช้ คือ ให้ลงเป็นตัวแรกหรือลงหลังโทนเนอร์และน้ำตบแล้ว หลักการเดียวกับการลงเซรั่มทั่วไปครับ หลังการทาให้รอสัก 1 นาที เพื่อให้สารซึมสู่ชั้นผิว ก่อนจะลงสกินแคร์ในขั้นตอนอื่นๆต่อครับ
สำหรับ Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir ตัวนี้เวฟใช้มาได้เดือนกว่าๆ เกือบจะหมดขวดแล้ว ไม่มีข้อข้องใจในผลลัพธ์ เวฟใช้คู่กับไลน์เดียวกันอีก 2 ตัว คือ Antioxidant Booster และ Hydra Revive Treatment ซึ่งทั้ง 3 ตัวทำงานร่วมกันได้ดีครับ แต่ถ้าใครสนใจและอยากจะเริ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ชิ้นแรกของ Bella Aura เวฟข้อแนะนำให้เริ่มจาก Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir ตัวนี้ครับ ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่คุณภาพคุ้มค่ามากครับ
ใครมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ การรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ผิวแต่ละคนต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์อาจจะต่างกันด้วย ยังไงก็ไปลองทดสอบผลิตภัณฑ์กันก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
ตัวที่เวฟกำลังพูดถึงก็คือ Bella Aura ครั้งนี้เวฟขอเลือกมารีวิวเพียงแค่ 1 ตัวก่อนนะครับ ซึ่งตัวนี้เวฟใช้แล้วประทับใจมากที่สุด ชื่อเต็มๆก็คือ Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir สกินแคร์ตัวนี้เนื้อบางเบา ไม่หนัก เหมาะกับทุกสภาพผิวครับ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้อารมณ์พืชพรรณ ป่าสน เนื้อผลิตภัณฑ์จะออกเป็นสีเทา ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมัน นอกจากนี้เวฟก็ประทับใจในส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่มาในขวดสีดำทึบแสง มีหลอดหยด แม้จะมีโอกาสปนเปื้อนได้บ้าง แต่โดยรวมทำมาได้ดีมากครับ และถ้าวิเคราะห์ไปถึงสารประกอบ เวฟบอกเลยว่าดีงาม กราบเบญจางคประดิษฐ์ พร้อมเดินถอนสายบัว ดีจริง!!!
มาดูที่ส่วนผสมหลักกันนะครับ
1. Norvegian Spruce Extract สารสกัดจากต้นสนนอร์เวย์ ที่มีสารสำคัญ ได้แก่ lignans และ Polyphenolic โดยสารทั้งสองมีการวิจัยและได้รับการยอมรับว่า สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างเกราะป้องกันชั้นผิวได้ จึงช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้ ทำให้ผิวแข็งแรงดูสุขภาพดี
2. Micro Silver สารต้านจุลินทรีย์ทางธรรมชาติ ที่สามารถลดการระคายเคืองของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลดโอกาสการแพ้ ผิวอักเสบ อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหนัง และป้องการการเสื่อมสภาพตามช่วงอายุวัย
3. Ecocert ส่วนผสมออแกนิก อันได้แก่
⁃ Blackcurrant seed oil หรือ Ribes Nigrum Seed Oil ช่วยคงสภาพความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อผิว ซ่อมแซมผิวหนังและลดผดผื่นได้
⁃ Carthamus Tinctorius (Safflower) Oleosomes หรือ สารสกัดดอกคำฝอย ประกอบด้วยวิตามินอี ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันการเสื่อมสภาพของชั้นคอลลาเจน และยังช่วยในการสมานแผลได้เร็วขึ้น
⁃ Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil หรือ น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ซึ่งมีกรดไขมันดีที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพ
⁃ Rosemary Leaf Extract สารสกัดจากใบโรสแมรี่ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดภาวะผิวไหม้จากแสงแดด และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
⁃ Balloon Vine Extract สารสกัดโคกกระออม สารที่เปี่ยมด้วยคุณสมบัติในการฟื้นฟูและปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ลดการอักเสบของผิว พร้อมยังช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว
จะเห็นได้ว่าส่วนผสมแต่ละตัวได้เลือกสรรมาอย่างดี และมีความปลอดภัยกับทุกสภาพผิวครับ สำหรับตัวนี้ใครที่มีปัญหาเรื่องสิวและต้องการมีผิวแข็งแรง เวฟแนะนำเลยครับ สกินแคร์กลุ่มรักษาสิวส่วนใหญ่มักจะทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน แต่ตัวนี้กลับมอบความชุ่มชื้นควบคู่ไปกับการปลอบประโลมผิวจากปัญหาสิวได้ดีครับ
วิธีการใช้ คือ ให้ลงเป็นตัวแรกหรือลงหลังโทนเนอร์และน้ำตบแล้ว หลักการเดียวกับการลงเซรั่มทั่วไปครับ หลังการทาให้รอสัก 1 นาที เพื่อให้สารซึมสู่ชั้นผิว ก่อนจะลงสกินแคร์ในขั้นตอนอื่นๆต่อครับ
สำหรับ Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir ตัวนี้เวฟใช้มาได้เดือนกว่าๆ เกือบจะหมดขวดแล้ว ไม่มีข้อข้องใจในผลลัพธ์ เวฟใช้คู่กับไลน์เดียวกันอีก 2 ตัว คือ Antioxidant Booster และ Hydra Revive Treatment ซึ่งทั้ง 3 ตัวทำงานร่วมกันได้ดีครับ แต่ถ้าใครสนใจและอยากจะเริ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ชิ้นแรกของ Bella Aura เวฟข้อแนะนำให้เริ่มจาก Bella Aura Skincare Rapid Repair Clarifying Elixir ตัวนี้ครับ ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่คุณภาพคุ้มค่ามากครับ
ใครมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ การรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ผิวแต่ละคนต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์อาจจะต่างกันด้วย ยังไงก็ไปลองทดสอบผลิตภัณฑ์กันก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ