คู่รักที่สุดจิ้นในจอ แต่ได้แค่ friendzone ในชีวิตจริง
candy 53 3
.
TOM HOLLAND AND ZENDAYA
คู่รักในจอจากหนังดังที่แฟนๆทั้งเชียร์ทั้งบิ๊วให้ออกเดทกันในชีวิตจริงอยู่นานสองนาน แต่ทั้งน้อง Zen และน้อง Tomต่างก็ยังมั่นคงกับสถานะที่ไม่ข้าม friendzone มาตลอด
เพราะเป็นคู่พระนางที่แฟนๆให้ความเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีชาวเน็ทที่ขยันส่งทฤษฎีออกมาว่าทั้งสองแอบคบกันอย่างลับๆ หรือจะเป็นสื่อใหญ่อย่าง Us Weekly และ PageSix ที่ยืนยันว่าทั้งสองตกหลุมรักกันและคบหากันมานานเป็นปี และ Tom ก็ไปพบกับครอบครัวของ Zendaya แล้ว
แต่นั่นมันขัดกับภาพชีวิตรักสไตล์คนดัง Hollywood มากๆค่ะ เพราะถึงขนาดว่าคบหากันมาเป็นปี ย่อมต้องมีภาพromanceของคู่รักหลุดรอดออกมาบ้าง แม้แต่ดาราที่หวงความเป็นส่วนตัวที่สุดก็ตาม ทั้งคู่ดูสนุกสนานเฮฮาด้วยกันในกองถ่ายและการออกงานในฐานะนักแสดงนำด้วยกัน มีสัมผัสเนื้อต้องตัวกันบ้างและไม่ถึงขนาดกับหวานแหวว ไปไหนมาไหนกันแบบเป็นกลุ่ม และมักจะเป็นช่วงที่ถ่ายทำหนัง Spider man ( นอกเหนือจากนั้น แน่นอนว่าดาราวัยรุ่นเนื้อหอมอย่างนี้ย่อมต้องยุ่งกับตารางงานแน่นๆ) จากนั้น Zen ก็ออกมาโต้แบบขำๆว่า ที่บอกว่าเคยไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันน่ะโป๊ะนะ เธอไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยมาเป็นปีๆ แล้วก็ถาม Tom ว่า แล้วเธอล่ะ เคยไปเที่ยวอะไรบ้างรึเปล่า เจ้าหนูแมงมุมจึงตอบเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยว่า เดินทางโพรโมทหนังนี่นับว่าเที่ยวได้มั้ย!
Zen ให้สัมภาษณ์ว่า Tom เป็นหนึ่งในเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ พวกเค้ามีโมเมนท์แบบเพื่อนอย่างการจิกกัดกันเรื่องรองเท้าที่ควรใส่ขึ้นเครื่อง หรือไม่ก็ล้อเลียนกันเรื่องความสูงของฝ่ายชาย
นักแสดงคู่พระนางจาก Spider-Man ในสองรุ่นก่อนต่างก็ออกเดทกัน แต่สำหรับเวอร์ชั่นล่าสุด Peter และ MJ คงจะแสดงความรักที่ so cute ผ่านหน้าจอเท่านั้น แม้ chemistry จะทำให้แฟนๆจิ้นด้วยความตื่นเต้นถึงขั้นที่มีคนพยายามนำเสนอคอนเทนท์ผ่าน social media ว่าด้วยการตีความภาษาท่าทางของทั้งคู่มาวิเคราะห์ว่าต้องแอบรักกันอยู่แน่มาเป็นฉากๆ ( บน YouTube มีหลากหลาย part เชียวค่ะ แฟนบอยแฟนเกิร์ลกันเต็มที่จริงๆ) แต่ลงท้าย พวกเค้าก็พบรักกับคนอื่น และไม่ได้ปิดบังความสัมพันธ์ซะด้วย (แค่ไม่ออกตัวแรงเท่านั้น)
Zendaya มีภาพหวานเจี๊ยบกับ Jacob Elordi หลังจากที่ร่วมงานกันใน Euphoria จะบอกว่าสองคนนี้เป็นคู่จิ้นก็คงไม่ใกล้เคียงนัก เพราะบทมันห่างจากรักใสๆหัวใจมัธยมใน Spider-Man มาก แต่ภาพก็น่าจะยืนยันความรักของพวกเค้าได้เป็นอย่างดี แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้เป็นข่าวเกรียวกราวเหมือนตอนที่สื่อประกาศว่า Zen และ Tom เป็นแฟนกัน ทั้งๆที่เธอไปเที่ยวต่างประเทศกับ Jacob และเคยเจอกับครอบครัวของเขาไปแล้ว
ส่วน Tom ที่เคยเดทกับสาวนอกวงการจนชาวเน็ทและสื่อกอสสิปต้องร้อนรนตามค้นหาข้อมูลของฝ่ายหญิงจนต้องตั้งค่าบัญชีsocial media เป็น private ได้ประกาศว่า ไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยที่กลายมาเป็นเป้าหมายของหัวข้อข่าวซุบซิบ แต่หลังจากที่เลิกรากับสาวคนดังกล่าว เขาก็ได้เปิดเผยเป็นนัยๆบน Instagram ว่ากำลังดูใจกับนักแสดงสาว Nadia Parkes ด้วยการโพสท์ภาพในวันเดียวกันฝ่ายหญิง และน่าจะเป็นการยืนยันว่าพวกเค้าได้ใช้เวลาด้วยกันในช่วงโรคระบาดตามที่สื่อนำเสนอนั่นเอง
LEE JUNKI AND IU
แม้ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo จะเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ถูกกระแสการวิพากวิจารณ์จากชาวเน็ทเกาหลีใต้จนเรตติ้งต่ำจนน่าผิดหวัง ทั้งยังถูกกดดันจนต้องมีการถ่ายทำปรับเปลี่ยนบทต่างๆเข้าไป แต่กระแสการตอบรับจากผู้ชมต่างชาตินั้นกลับดีงาม เต็มไปด้วยเสียงชื่นชมถึงคุณภาพและทักษะการแสดงของคู่พระนาง แม้แต่ประเทศจีนซึ่งเป็นเจ้าของต้นฉบับที่ทางผู้สร้างเกาหลีนำมาปรับเรื่องราวใหม่ก็ยังมีการเข้าชมถึงหลักพันล้านครั้ง รวมไปถึงไต้หวันและฮ่องกงที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ก็กวาดเรตติ้งได้สูงปรี๊ด และมันช่างสร้างความประหลาดใจให้เราเมื่อได้รู้ว่าผู้ชมเกาหลีทั้งจับผิดและมีอคติต่อซีรีส์สนุกๆเรื่องนี้มากแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราติดใจนักหนาคือความรักที่แสนซาบซึ้งและเจ็บปวดขององค์ชาย 4 กับแฮซู นั่นเองค่ะ
เคมีเข้ากันขนาดนี้ และยังมีภาพที่ดูสนิทสนมกันที่ให้ความรู้สึกจริงใจ ไม่ใช่แกล้งทำเป็นคู่จิ้นเรียกกระแส แน่นอนว่าย่อมมีข่าวลือเรื่องการปิ๊งกันนอกจอตามมา เพราะเป็นช่วงที่ IU แยกทางกับแฟนพอดิบพอดี บางคนจึงสันนิษฐานเอาเองว่า เธอหลงเสน่ห์พระเอกตาเรียวจึงสลัดแฟนเก่าทิ้ง
คุณอาจจะได้ยินข่าวเล่าลือเรื่องการสร้างกระแสแบบ contract couple ของคนดังเกาหลี แม้กระทั่งในซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของคนบันเทิงก็ยังเสียดสีเรื่องการสร้างภาพ relationship แบบปลอมๆ เพื่อกระตุ้นความนิยม ชาวเน็ทเกาหบีมักจะตื่นเต้นกับภาพของพระเอกที่คอย take care นางเอกอยู่นอกจอ และสามารถจินตนาการภาพพวกเค้าเข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างมีความสุข แต่นักแสดงหลายคน แม้จะดูสนิทสนมกันดีในช่วงโพรโมทผลงาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะไม่ได้เห็นพวกเค้าโคจรมาเจอกันอีก
แต่ก็มีคู่พระนางที่ยังรักษามิตรภาพไว้อย่างเหนียวแน่น แม้จะไม่ได้ออกเดทกัน แต่ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่ สร้างความอสบอุ่นใจให้กับแฟนคลับ หนึ่งในนั้นก็คือ Lee Jun Ki และ IU นั่นเองค่ะ ต้นสังกัดของพระเอกหนุ่มหล่อได้ยืนยันหนักแน่นว่าทั้งคู่ไม่ได้คบหาเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน แต่ก็ดูเหมือนว่า พวกเค้าจะไม่ได้รู้สึกกดดันจากการจับผิดจากชาวเน็ท ยังคงคบหากันในฐานะพี่ชายและน้องสาวที่สนิทกันต่อ
อาจจะดูเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนดังเกาหลีไปแล้ว แต่ภาพของนักแสดงชื่อดังทั้งสองที่ส่งรถบรรทุกอาหารไปยังกองถ่ายเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่ายก็ดูจะสร้างความดีอกดีใจให้กันเป็นอย่างดี
ถึงซีรีส์จะจบไปหลายปีแล้ว แต่พวกเค้าก็ยังคุยกันผ่านsocial media สม่ำเสมอ ไม่ได้เป็นคู่จินสร้างภาพแน่นอน
EMMA WATSON AND RUPERT GRINT
EMMA WATSON AND TOM FELTON
คู่รักจากหนังแฟนตาซีในดวงใจของผู้คนมากมายทั่วโลก แน่นอนว่าแฟนเกิร์ลของ Ron และ Hermione ก็มีเพียบเช่นกัน นั่นมาจากการเฝ้ามองตัวละครที่ค่อยๆเติบโตมาด้วยกัน กลายมาเป็นความผูกพันและคาดหวังให้พวกเค้ารักกันในชีวิตจริงด้วย
แต่คงเป็นเพราะโตมาด้วยกันจริงๆ ความสัมพันธ์ของพวกเค้าจึงไม่ได้ก้าวหน้าไปทางอื่นนอกจากความเป็นเพื่อน เคมีที่ดูน่ารักๆในหนัง Harry Potter ให้อารมณ์แบบรักใสๆ ไม่ใช่ความรักที่เร่าร้อนเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้หลงไหล เมื่อหนังปิดตัวลงไป เราก็ไม่ได้เห็น Emma กับ Rupert ด้วยกันนัก
กลายเป็นว่า เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กระแสจิ้นที่ไม่ยอมจางหายกันไปได้ง่ายๆ กลับเป็นคู่ Emma และ Tom ที่เป็นศัตรูคู่แค้นกันในเรื่อง ใช่แล้วล่ะ มีแฟนเกิร์ลและแฟนบอยอีกมากมายที่จิ้นคู่ Hermione กับ Malfoy บ้างก็แต่งภาพให้เหมือนว่าพวกเค้าหวานกันนอกจอ บ้างก็ทุ่มเทแต่งนิยายในเวอร์ชั่นที่ตัวเองจิ้น เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการยอมรับจาก Emma เองว่า เธอเคยแอยชอบ Tom เมื่อตอนที่ยังเด็กๆมาก่อน สองคนนี้ถ่ายรูปคู่กันเมื่อไร ข่าวลือก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วว่าคบกันสมใจกองเชียร์
ดูเหมือนว่า Emma และ Tom จะหาโอกาสมาเจอกันเรื่อยๆ ภาพที่พวกเค้าเล่นกีตาร์ในชุดนอนทำให้หลายคนเชื่อว่านี่คือการประกาศยืนยันความสัมพันธ์ที่ก้าวออกจาก friendzone
แต่ทว่า ....
แต่ทว่า ....
หลายคนอาจจะลืมเลือนไปว่า Emma เดทผู้ชายมาหลายคน ทั้งหนุ่มในวงการและนอกวงการ แต่ไม่เคยมีภาพหวานกับเพื่อนร่วมงานจาก Harry Potter เลยค่ะ อย่างมากก็แค่ภาพ reunion แบบเพื่อน อย่างล่าสุดที่ถ่ายภาพคู่ Tom จนแฟนเกิร์ลเอาไปลือสารพัด อีกไม่กี่วันต่อมาเธอก็จุ๊บเพื่อนชายผมยาวแบบชิลๆ ดับฝันของกองเชียร์ไปแบบวูบสนิท
เป็นการยุติข่าวลือคู่จิ้นได้แน่นอนและหนักแน่นโดยไม่ต้องออกมาแก้ข่าว และเธอก็ให้นิยามสถานะของตัวเองในสัมภาษณ์ล่าสุดไว้ว่า เธอคือคู่ใจของตัวเอง และเอนจอยกับชีวิตโสดเอามากๆ เป็นการตอกย้ำว่า เธอไม่ได้ออกจากกรอบของ friendzone ไปรักกับเพื่อนจาก Harry Potter เหมือนกับที่หลายคนคาด
แม้จะนัดพบปะกันหลายครั้งจนสร้างความสงสัยว่าพวกเค้าแอบคบกันแบบลับๆ แต่ที่ผ่านมานั้น ทั้งคู่ต่างออกเดทแบบเปิดเผย อาจจะไม่ได้ confirm ออกสื่อว่าคบใครหรือลงรายละเอียดชีวิตส่วนตัวลึก แต่ก็เห็นๆกันอยู่ว่า ทั้ง Tom และ Emma ผ่านประสบการณ์ความรักกันมาแล้ว และพวกเค้าก็ไม่คอยมาปิดบังด้วยซ้ำ หากหันมารักกันเองจริงๆ จะต้องทำเป็นฟอร์มว่าเป็นแค่เพื่อนไปทำไม ?
Tom ยืนยันว่า เขาและ Emma เจอกันบ่อยกว่าที่ทุกคนคิด แค่ไม่ได้คอยอัพเดทลง social media แต่บางครั้งก็หายหน้าหายตาไปทีละนานๆ อย่างวีดีโอเล่นสเกตบอร์ดด้วยกันที่ทำให้แฟนๆใจละลายนั้น ก็เป็นการพบกันในรอบหลายเดือน และก็ออกมาเล่นสนุกตามประสาเพื่อนเท่านั้น แต่ก็ยังต้องถามจากสื่อต่อไปว่า ตกลงแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเค้าเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วหรือยัง
Tom ยืนยันว่า เขาและ Emma เจอกันบ่อยกว่าที่ทุกคนคิด แค่ไม่ได้คอยอัพเดทลง social media แต่บางครั้งก็หายหน้าหายตาไปทีละนานๆ อย่างวีดีโอเล่นสเกตบอร์ดด้วยกันที่ทำให้แฟนๆใจละลายนั้น ก็เป็นการพบกันในรอบหลายเดือน และก็ออกมาเล่นสนุกตามประสาเพื่อนเท่านั้น แต่ก็ยังต้องถามจากสื่อต่อไปว่า ตกลงแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเค้าเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วหรือยัง
PAUL MESCAL AND DAISY EDGAR JONES
Connel และ Marianne แห่ง Normal People ได้สร้างความปรากฏการณ์เรตติ้งในอังกฤษและเสียงกล่าวขวัญถึงความรักที่แสนซาบซึ้งราวกับว่าพวกเค้ากำลังอยู่ในห้วงความรักอันแสนเจ็บปวดจริงๆ นั่นได้สร้างความสงสัยให้กับแฟนๆว่า แสดงได้สมจริงขนาดนี้ พวกเค้าตกหลุมรักกันระหว่างการถ่ายทำหรือไม่ ?
หลังจากที่ได้พบกับกระแสที่ร้อนแรงในระดับ break the internet ของ Normal People ก็ต้องเสียดายเป็นที่สุด เพราะเค้าเกรียวกราวกันที่ต่างประเทศ ทั้งอังกฤษ อเมริกา แคนาดายุโรป รวมไปถึงออสเตรเลียที่สามารถเข้าถึงซีรีส์ฮิตจาก BBC และ บริการ streaming อื่นๆ แต่ไม่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย!! มันช่างให้ความรู้สึกว่าตามไม่ทัน เค้าอินกับอะไรกันแน่ จึงไปเสาะหามาชมจนได้ค่ะ และเราก็ get โดยทันทีว่า เพราะอะไรสองตัวละครนี้จึงสร้าความตราตรึงใจให้กับแฟนๆ ชมแบบ 12 ตอนรวด และไม่มีโมเมนท์ไหนเลยที่ทำให้เราอยากเท!
ถ้าเราบอกคร่าวๆแต่เพียงว่า Normal People ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ Connell และ Marianne หนุ่มสาววัยมัธยมต่างชนชั้นที่ค่อยๆเติบโตไปพร้อมกับความสัมพันธ์แบบรักๆเลิกๆ แบบนั้นมันอาจจะไม่ดึงดูดใจเท่าไร แต่ถ้าบรรยายเพิ่มอีกหน่อยว่า ความเปราะบางของหนุ่มสาวคู่นี้ได้นำไปสู่การทรยศหักหลังจนต่างฝ่ายต่างต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดฝังใจ และก้าวเข้าสู่ลูปความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อนเมื่อต้องมาพบกันอีกครั้งเมื่อเข้าศึกษาต่อระดับมหาลัย นำไปสู่ความบับอันดำมืดที่สั่นสะเทือนความรู้สึกจนบรรยายไม่ถูก
แบบนี้หลายคนอาจจะเริ่มอยากหามาชมกันบ้างแล้ว ยิ่งคนที่ได้อ่านหนังสือที่สร้างปรากฏการณ์มาก่อน ขอยืนยันว่าพลาดไม่ได้เลยจริงๆ
ส่วนหนึ่งรีวิวจากสื่อและคนดังเต็มไปด้วยเสียงชื่นชม กระแสอลังการมากจริงๆจนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่อยู่เมืองไทย หาดูได้ยาก ทั้งๆที่magazineชื่อดังส่วนมากแสดงความชื่นชมผลงานเรื่องไปในทางดีงามเหมือนกัน นักวิจารณ์หลายคนโฟกัสไปที่การแสดงของคู่พระนางที่ทำให้ทั้งมีความสุขและเจ็บปวดราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
New York Times - ความรักของพวกเค้าจะทำให้คุณใจสลาย
The Wall Street Journal - ปราดเปรื่องแบบไม่จำเจ ซับซ้อนและเป็นความหดหู่ที่เย้ายวนให้เข้าหา
James Corden - ผมคิดว่า Normal People ได้เปลี่ยนชีวิตผมไปแล้วจริงๆ มันคือละครที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้ชมมา Daisy Edgar Jones และ Paul Mescal นั้นช่างยอดเยี่ยม
(ขอยกมาเพียงเท่านี้ค่ะ เพราะสื่ออเมริกาแทบหลายๆเจ้าจะรีวิวคล้ายกัน )
New York Times - ความรักของพวกเค้าจะทำให้คุณใจสลาย
The Wall Street Journal - ปราดเปรื่องแบบไม่จำเจ ซับซ้อนและเป็นความหดหู่ที่เย้ายวนให้เข้าหา
James Corden - ผมคิดว่า Normal People ได้เปลี่ยนชีวิตผมไปแล้วจริงๆ มันคือละครที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้ชมมา Daisy Edgar Jones และ Paul Mescal นั้นช่างยอดเยี่ยม
(ขอยกมาเพียงเท่านี้ค่ะ เพราะสื่ออเมริกาแทบหลายๆเจ้าจะรีวิวคล้ายกัน )
สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้คือฉากติดเรทของเรื่องนี้นั่นเองค่ะ สื่ออย่าง Vanity Fair อาจจะจิกกัดว่าดูดึงดูดใจแบบหื่นๆ แต่ไม่เนื้อหากลับไม่ล้ำเหมือนกับเวอร์ชั่นหนังสือ (แม้ว่าผู้ประพันธ์จะได้รับตำแหน่ง executive producer ด้วย) แต่สื่อเจ้าเดียวกันนี่แหละที่ตามไปเจาะลึกเรื่องฉากบนเตียงของคู่พระนาง
เพราะอะไรเรื่อง sex scene ใน Normal People จึงกลายเป็นประเด็นสุดร้อน จน Katy Perry ต้องเอ่ยปากด้วยความทึ่ง!
- การแสดงที่สมจริงจากการโค้ชจากกูรูเรื่่องการร่วมรัก ไม่ว่าจะเป็นการหายใจ เสียคราง ท่าทางที่ตื่นเต้นจนปลดบราอย่างเงอะงะ เลือดที่สูบฉีดไปทั่วใบหน้า การหัวเราะแบบเขินๆใส่กัน และอีกหลายดีเทลที่พิมพ์เองก็ยังอายเอง !
- ฉาก sex ที่ต่อเนื่องยาวนาน สร้างสถิติมีฉากแบบนี้นานที่สุดในรายการ TV ของ UK ความเปลือยหมดจดอาจจะชวนสะดุ้งเป็นบางครั้ง แต่หลายเสียงต่างชื่นชมว่าเค้านำเสนอในแง่มุมของศิลปะ ภาพสวยตรึงใจหลายโมเมนท์เลยทีเดียว
- ใครที่เฉยๆกับฉากประเภท พระนางกระโจนใส่กัน แทบจะฉีกเสื้อผ้ากัน กอดจูบกันอย่างเร่าร้อนแบบจูบไปเดินถอยหลังไปหาเตียงก็ยังได้ มาชมเรื่องนี้แล้วอาจจะหน้าแดงกับงานละเมียด สำหรับเราแล้ว มันให้ความรู้สึกราวกับการได้ชมคู่รักที่มี sex แบบpassion เปี่ยมล้นอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว
เรื่องนี้ทำให้ทั้ง Paul และ Daisy ต้องตอบคำถามสื่อซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ทำยังไงถึงเล่นฉากนี้ได้เนียนมากนัก ? พวกเค้านำอินเนอร์ที่หลงไหลกันในชีวิตจริงมาใช้ด้วยรึเปล่า ? เป็นแค่เพื่อนเท่านั้นหรือ ?
คำตอบคือ แค่เพื่อนจริงๆค่ะ แม้ทั้งสองจะใกล้ชิดกันมากจนเรียกกันว่าเป็นเพื่อนสนิทที่อาจจะถูกมองว่าน่าจะพัฒนาไปเป็นคนรักกันได้ แต่ฝ่ายหญิงมีแฟนที่คบกันออกหน้าออกตาอยู่แล้ว และเธอก็ยอมรับว่า แฟนหนุ่มคงไม่อยากจะดู love scene ใน Normal People เท่าไร
การจะเล่นบทรักที่สมจริงขนาดนี้ Daisy บรรยายว่า พวกเค้าต้องเชื่อใจ และชัดเจนกับขั้นตอนต่างๆที่จะเกิดขึ้น ( ความเปลือย ความแนบชิด ระยะเวลาการถ่ายทำที่เนิ่นนาน)
"โชคดีที่เราเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีและยังมีอารมณ์ขันที่คล้ายกัน ทั้ง Paul และชั้นไม่ได้นำเสนอแต่แง่มุมเรื่องเพศ มันเป็นเรื่องราวของความรักของคนหนุ่มสาวค่ะ"
เนื้อเรื่องได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกที่พิเศษแตกต่างจากคนอื่น ราวกับว่าพวกเค้าสามารถเชื่อมต่อกันทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะตอนที่มีอะไรกัน ทั้งคู่เชื่อว่าสามารถอ่านใจกันได้ ต้องเล่นดีเบอร์ไหนถึงทำให้คนดูอินไปกับคำพูดที่ดูเพ้อฝันนี้ได้ ? ต้องลองไปชมกันค่ะ
จากนักแสดงที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก เพื่อนสนิทคู่นี้ก็เกี่ยวก้อยกันก้าวขึ้นสู่ทำเนียบดาวรุ่งพุ่งแรง Paul กลายเป็น internet boyfriend มีแฟนสร้าง account เพื่ออุทิศให้สร้อยคอของ Connell และดึงยอดผู้ติดตามได้นับแสน เขาได้รับเชิญ MV ให้กับวง Rolling Stone ส่วน Daisy ก็ได้ตำแหน่งผู้หญิงทรงอิทธิพลจาก Vogue UK และดูแล้วอนาคตทางการแสดงของพวกเค้าน่าจะรุ่งโรจน์เลยทีเดียว ได้รีวิวชื่นชมเรื่อง acting อย่างพร้อมเพรียงขนาดนั้น แม้ซีรีส์จะจบไปแล้ว แต่แฟนๆมากมายก็ยังหวังว่าจะได้ชม season ที่ 2 ( เพราะนักประพันธ์ก็เขียนเรื่องราวต่อเนื่องไว้แล้ว)