เปิดกรุน้ำหอมที่ใช้แล้วชอบ กลิ่นไม่ฉุน ไม่เวียนหัว!
mintra nana
57
10
สวัสดีค๊า!! ชาวจีบันนิสต้าทุกคน ส่วนใหญ่นานาจะรีวิวแต่พวกสกินแคร์เนอะ วันนี้ขอมารีวิวน้ำหอมกันบ้าง น้ำหอมที่จะรีวิวในวันนี้เป็นน้ำหอมที่ใช้แล้วชอบและปัจจุบันยังใช้อยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นแนวๆหอมสดชื่น ไม่ฉุนไม่เวียนหัว เพราะนานาเป็นคนที่จมูกไวต่อกลิ่นมาก ใช้กลิ่นแรงๆฉุนๆไม่ได้เลยรู้สึกคัดจมูกทุกที คิดว่าหลายๆคนน่าจะมีปัญหาแบบนี้เหมือนกัน เลยอยากจะมาแชร์น้ำหอมที่เราใช้แล้วรู้สึกโอเคฉีดบนตัวแล้วไม่เวียนหัว มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลย
1. DKNY Be Delicious Fresh Blossom (EDT)
เราชอบกลิ่นนี้มากเลยเป็นกลิ่นแบบสดชื่นน่ารักๆปนสดใส เป็นกลิ่นที่ฉีดได้ในวันสบายๆ ฟี๊ดแรกที่ฉีดกลิ่นจะออกแนวฟรุ๊ตตี้ๆเปรี้ยวๆประมาณกลิ่นของซีตรัสทิ้งไว้สักพักจะได้กลิ่นของดอกไม้ชัดขึ้น สำหรับตัวนี้ base note จะเป็นกลิ่นแอปเปิ้ลแต่ส่วนตัวเราว่ากลิ่นแอปเปิ้ลจะไม่ค่อยชัดเท่าตัวสีเขียวนะ แต่รวมๆแล้วคือหอมมากกฉีดได้ทุกวัน แต่กลิ่นจะไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่
Top Notes: Grapefruit, Cassis, Apricot
Middle Notes: Lily-of-the-valley, Rose, Jasmine
Base Notes: Woodsy Notes, Red apple
2. Cute Press Shades Of Me กลิ่น Miss Red (EDT)
วันก่อนไปเดินดูของที่ร้าน Cute Press มา เราก็ลองหยิบน้ำหอมในร้านดมไปเรื่อยจนมาเจอกลิ่นนี้ถูกจริตมาก พี่ที่ร้านเค้าบอกว่าตัวนี้เป็นกลิ่นใหม่ของทาง Cute Press กลิ่นไม่ฉุนเลย กลิ่นแนวฟลอรัลเฟรช เหมาะกับคนชิคๆคูลๆ ฉีดได้ทุกวัน ทุกโอกาส ตัวนี้ Top notes เป็น เกรปฟรุ๊ตเหมือน DKNY แต่กลิ่นจะไม่ออกเปรี้ยวนะ เราว่าตัวนี้กลิ่นดอกไม้ชัดกว่า หอมแบบสะอาดๆเฟรชๆ ตัวนี้กลิ่นติดทนนานอยู่น๊า ฉีดแล้วรู้สึกอยากดมตัวเองทั้งวัน เอาจริงนี่ไม่คิดว่าแบรนด์ไทยจะทำน้ำหอมออกมาได้ดีขนาดนี้ กลิ่นแบบน้ำหอมแพงๆเลย แพคเกจก็ดีงามทีเดียว ไม่ไก่กา สุดท้ายเลยสอยน้องกลับมาจนได้ ซื้อแบบไม่ต้องคิดมากเลย
Top Notes: Freesia, Grapefruit
Middle Notes: Lily-of-the-valley
Base Notes: White musk, Sandalwood
3. Radiance by Britney Spears (EDP)
สำหรับน้ำหอมคอลเลคชั่นของคุณแม่บริทนีย์ สเปียร์ เราว่ากลิ่นนี้ดีสุด จริงๆเมื่อก่อนใช้อีกตัวนึง Britney Spears Curious แต่หาซื้อไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าเลิกผลิตไปแล้วรึปล่าว เลยมาใช้ตัวนี้แทน ตัวนี้กลิ่นจะเป็นแนวฟลอรัลฟรุ๊ตตี้ ตอนฉีดตอนแรกจะได้กลิ่นเปรี้ยวของผลไม้ตามด้วยกลิ่นหอมหวานจากมวลดอกไม้แต่ไม่ได้หวานเลี่ยนนะ เราว่ากลิ่นนี้เหมาะกับวัยรุ่น-วัยทำงาน กลิ่นติดทนทั้งวันไม่ต้องฉีดเพิ่มเลย ชอบแพคเกจตัวนี้นะเหมือนอัญมณีสวยหรูดูแพง
Top Notes: Red Berries
Middle Notes: Iris, Jasmine, Tuberose, African Orange Flower
Base Notes: Musk, Cashmere Wood, Amber
4. Victoria’s Secret Love Spell (EDT)
ตัวนี้กลิ่นจะเบาๆ ชิลๆไม่ได้ติดทนอะไรมากมาย กลิ่นพีชเด่นมาก ภาพรวมกลิ่นจะประมาณเหมือนน้ำพั้นช์ เป็นกลิ่นฟรุ๊ตตี้ชัดเจน ฉีดแล้วให้ฟีลประมาณเป็นผู้หญิงขี้เล่น น่ารักๆไรงี้ ส่วนตัวชอบเอามาฉีดหลังอาบน้ำก่อนนอนให้ความรู้สึกเหมือนทาโลชั่นหอมๆ
Top Notes: Peach, Cherry blossom, Red apple
Middle Notes: Lily-of-the-valley, Lilac, Jasmine
Base Notes: Musk, White Woods, Tamarind
5. Davidoff Cool Water (EDT)
ตัวนี้จริงๆเป็นน้ำหอมผู้ชาย แต่สาวๆหลายคนก็ชอบกันเยอะนะ ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ เป็นกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นเย็นๆ ละมุน กลิ่นไม่ได้แมนมากใช้ได้ Unisex เลย เวลาแฟนฉีดทีไรคือหลงไม่ไหว เหมือนเป็นฟีโรโมนเสพติดกลิ่นนี้ บางวันเราก็เอามาฉีดใช้เอง แต่ชอบดมเวลาแฟนฉีดมากกว่า ฟินน เอาจริงเป็นน้ำหอมที่ผู้ชายควรมี นี่ว่ากลิ่นนี้หอมมากกว่า Davidoff ตัวที่เป็นกลิ่นสำหรับผู้หญิงนะ
Top Notes: Sea water, Lavender, Mint, Green Notes,
Coriander, Rosemary, Calone
Middle Notes: Sandalwood, Jasmine, Neroli, Geranium
Base Notes: Musk, Oakmoss, Cedar, Tobacco, Amber
*****************
สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าพอจะช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจในการเลือกน้ำหอมได้ไม่มากก็น้อย ไว้คราวหน้าจะมาเปิดกรุน้ำหอมกลิ่นโทนอื่นกันบ้าง ขอบคุณที่ติดตามกันจนจบนะค๊า ^^