วลีเด็ดน่าศึกษาจากวงการบันเทิง

62 6
หลายๆครั้ง เมื่อเราติดตามข่าวgossip ก็นึกอยากจะได้ Celebrity  Dictionary มาช่วยถอดความหมายของบางถ้อยคำที่คนดังเลือกมาใช้  โดยเฉพาะคำจากแถลงการณ์ในเรื่องความสัมพันธ์ที่ต้องประดิษฐ์คำให้ฟังแล้วหรูๆ งงๆบอกไม่ถูก !  

ลองมาศึกษาวลีเด็ดสไตล์คนดังกันค่ะ 


Entanglement

จากกรณี   -   Jada Smith  แอบแซ่บกับหนุ่มหล่อรุ่นราวคราวลูก

หลังจากJada Smith ถูกบีบคั้นจากข่าวลือเรื่องคบชู้สู่ชาย   ทั้งๆที่มักนำเสนอภาพชีวิตคู่แสนหวานกับสามีพระเอก A List    ถึงจะเคยปฏิเสธ  แต่สามีภรรยา Smith ก็สร้างเรื่อง surprise ด้วยการจัดรายการยอมรับแบบแมนๆไปเลยว่า เคยแซ่บกับนักร้องหนุ่มหล่อ   August Alsina  จริงๆ

แม้เธอจะไม่ได้ยอมรับว่ามีชู้ เพราะหันไปสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนของลูกชายที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปีในช่วงที่กำลังแยกกันอยู่กับ Will แบบลับๆ ไม่ได้ประกาศให้สังคมรับรู้ เธอบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ August ว่า เป็น"ความเกี่ยวพันยุ่งเหยิงในรูปแบบต่างๆ" (entanglement)


Willได้ยินจากปากภรรยา ก็ยังต้องให้อธิบายชัดๆว่า ไอ้เรื่องยุ่งเหยิงเนี่ย ตกลงคืออะไร

เธอจึงยอมรับแบบกระอักกระอ่วนใจว่า  มันคือความสัมพันธ์ฉันหญิงชายนั่นเองจ้ะ


แหม่ เล่นประดิษฐ์คำซะขนาดนี้ มีเหรอคะที่จะไม่มี meme ตามมา แน่นอนว่าเราจะได้เห็น meme ราพันเซล และภาพอารมณ์ขันร้ายๆจากชาวเน็ทที่ร่วมล้อเลียนJada

 ไม่ได้นอกใจนะจ๊ะ  แค่ entangled !
มันได้กลายเป็นวลีเด็ดของชาวเน็ทไปซะแล้ว   บ้างก็นำมาใช้ระบุสถานะความรักของตัวเอง    ไม่ต้องยึดติดกับคำว่าโสดหรือไม่โสดอีกต่อไป  คุณสามารถเลือกสถานะ entangled ให้ตัวเองได้ด้วย!
Dictionary ชื่ออดังบางเจ้าได้อัพเดทความหมายของคำให้เข้าท่วงทันเทรนด์  อย่าง cambridge.org ที่แปลเอาไว้ว่า    "สถานการณ์หรือความสัมพันธ์ที่คุณเข้าไปข้องเกี่ยวแล้วตีตัวหนีห่างออกมาได้ยาก"



Self-Partnered  

คำนิยามสถานะความสัมพันธ์ของ Emma Watson

อดีตแม่มดน้อยแห่ง Harry Potter มีชีวิตเดทแบบ low key มาตลอด เธอคบทั้งหนุ่มนอกวงการและคนที่เป็นนักแสดงเหมือนกัน  แต่ก็ไม่เคยควงคู่ออกงานหรือโชว์ความหวานผ่าน social media    เธอรักษาความสัมพันธ์ให้ห่างจากความอยากรู้อยากเห็นของสื่อนับตั้งแต่กลายเป็นสาวเต็มตัว และยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงปลงใจมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง  


เมื่อได้รับคำถามจาก VOGUE UK ถึงสถานะความสัมพันธ์ปัจจุบัน เธอก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่า

" กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลานานนะคะ แต่ตอนนี้ชั้นมีความสุขที่เป็นโสด ชั้นขอเรียกมันว่า การเป็นคู่ครองของตัวเองค่ะ"

คนเรายึดตัวเองเป็นคู่ชีวิตได้ไหม ?     หมอ Carla Marie Manly   จิตแพทย์จากCalifornia ได้ชี้แจงกับ   NBC News ว่า

" แนวคิดการเป็นคู่ชีวิตของตัวเองจะมุ่งโฟกัสกับความสุขและรู้สึกสมบูรณ์แบบจากการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง คนที่มีตัวเองเป็นคู่ครองจะรู้สึกเติมเต็มอย่างเต็มที่จากตัวพวกเค้าเอง และไม่รู้สึกโหยหาคนอื่นมาเป็นคู่ครองเพื่อเติมเต็มชีวิต "


แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเค้าจะไม่ออกเดทหรือตัดความคิดเรื่องการแต่งงานหรือสร้างครอบครัวกับใครบางคนไปเลย แต่พวกเค้าแค่ให้ความสำคัญกับใช้เวลาที่จะเรียนรู้ในตัวตนของพวกเค้าก่อนสิ่งอื่น หมอ Manly ยังแนะว่า จะดูให้ออกใครมีตัวเองเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ก็ให้สังเกตว่า พวกเค้าจะทุ่มเทเวลาและพลังงานไปกับการพัฒนาตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีคนหันมาใช้สถานะ self - partnered เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ



Emma ในวัย 30 ได้กลายมาเป็นต้นแบบของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ และได้รับความนับถือจากผู้คน  ทั้งงานการแสดง  การทำหน้าที่นักเคลื่อนไหวเพื่อคววามเท่าเทียม  และยังมีบทบาทใหม่ในฐานะหนึ่งในบอร์ดบริหาร "ด้านความยั่งยืน" ของ Kering  อาณาจักรธุรกิจแฟชั่นยักษ์ใหญ่ที่ต้อการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรให้เข้ากับสังคมที่เรียกร้องการยอมรับความหลากหลาย จากเด็กหญิงที่มีภาพลักษณ์ขยันเรียนเธอได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตที่complete โดยไม่ต้องมีคำว่าแต่งงานมากดดัน   คือดี!




Taking respectful, loving space

จากกรณี   Katy Perry  และ Orlando Bloom เลิกกัน 


พวกเราต่างก็ทราบกันว่า ตอนที่เซเลบตกลงแยกทางกัน แม้จะเป็นการเลิกราแบบไม่ขุ่นหมองข้องใจ แต่ยังไงพวกเค้าไม่ได้มานั่งบีบมือให้กำลังใจกันตอนเขียนคำแถลงการณ์ประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้เรื่อง คนที่มีหน้าที่ร้อยเรียงถ้อยคำคือตัวแทนคนดังและตัวเลือกทางภาษาของพวกเค้าก็มักจะมากับคำว่า "โลกสวย" 


"แยกไปมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยความรักและนับถือ" นี่คือหนึ่งในนิยามการแยกทางของคนดังที่ฟังดูติดหูของของ Katy และ Orlie เส้นทางความรักนั้นโลดโผนเป็นยิ่งนัก (ใครเล่าจะลืมภาพ "กล้วยตากบนเรือ" ไปได้ ) พวกเค้ามีความรักที่ร้อนแรงแต่ก็ไม่ออกสื่อมากมายนัก จากความชีวิตแต่งงานครั้งแรกที่จบสิ้นไป ทำให้รอบข้างจับจ้องว่าพวกเค้าจะก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่จริงจังในเร็ววันหรือไม่ แต่ก็แยกทางกันไปก่อน อย่างไรก็ตาม อย่างที่ทราบกันว่า คู่นี้กลับมาเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง และครั้งนี้ก็มาพร้อมกับแหวนหมั้น และในเวลาต่อมาคือเบบี๋ในท้อง Katy :)



พวกเค้าได้บรรยายการหมั้นหมายแสนเซอร์ไพรส์นี้ว่า " เบ่งบานอย่างเต็มที่" และ " ชั่วชีวิต" อาจกล่าวได้ว่า การมอบพื้นที่ส่วนตัวแบบที่ยังมีความรักและความนับถือให้กันนั้นกลับเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้พวกเค้ากลับมาหากันก็เป็นได้

 




"Loving  Exploration"




จากรณีผู้ก่อตั้ง Amazon สวมเขาให้เมีย
Jeff Bezos  คือชายที่รวยที่สุดในโลก  เขามีทรัพย์สินมากกว่า ฺBill Gates  ไม่เพียงแต่การกุมบังเหียนเหนือ Amazon   ภาพของเจ้าพ่อธุรกิจที่ทรงอิทธิพลเหนื่อสื่อหลายเจ้าอาจจะทำให้หลายคนคิดว่าอาจจะไม่มีใครกล้าเล่นข่าวชีวิตส่วนตัวของเขา



แต่ไม่ใช่ National Inquirer  สื่อคู่แข่งกับธุรกิจในเครือของ Bezos  ที่ก้าวเข้ามานำเสนอมหกรรมแฉพฤติกรรมแสนฉาวโฉ่จนสั่นสะเทือนวงการมหาเศรษฐี
Bezos แต่งงานกับ MacKenzie  นักประพันธ์สาวมาก่อนที่จะก่อตั้ง Amazon  พวกเค้าสร้างความครัวที่ดูมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยกัน   ก่อนแต่ไหนแต่ไรมาก็ถูกมองว่าเป็นชายปราดเปรื่องที่ดู Nerdy ไม่ต่างจาก มหาเศรษฐีอย่าง Mark Zuckerberg และ ฺBill  Gate แต่ว่ากันว่า แม้แต่ geekที่เก็บตัวลึกลับ ก็ยังพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของ Hollywood
ทันทีที่ได้ประกาศดำเนินเรื่องหย่ากับ Mackenzieในปีที่แล้ว  สื่อจอมแฉ  National Enquirer ก็ได้ปล่อยหมัดหนักด้วยการพาดหัวว่าเขาแอบคบหากับ Lauren Sanchez  ผู้ประกาศสาววัย 50 เจ้าของรางวัล Emmy ที่ดูร้อนแรงผิดแผกจากภรรยา ติดตามสืบเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนคู่นี้มาอย่างไม่กระโตกกระตากเป็นเวลาหลายเดือน และปล่อยข้อมูลเด็ดเป็นข้อความติดเรท รวมถึงภาพใต้สะดือที่พวกเค้าส่งหากันเป็นเวลานานก่อนที่ Bezos จะยื่นเรื่องหย่า!


เรื่องนี้ทำให้วงการงงงันไปตามกันว่า  สื่อเจ้านี้สามารถล้วงลับหาtext เหล่านี้ด้วยวิธีใด!   เพราะ Bezos เป็นเจ้าพ่อธุรกิจทาง internet และสื่อที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวลากดิน เหตุไฉนจึงมีช่องว่างให้สื่อคู่อริล้วงตับเอามาประจานเป็น scandal ระดับชาติ 
และเมื่อย้อนกลับไปอ่านคำแถลงการณ์เรื่องการหย่าที่ระบุว่า


" หลังจากที่ร่วมเดินทางสำรวจเส้นทางความรักมาเป็นระยะเวลายาวนาน พวกเราตัดสินใจที่จะหย่ากัน"

นี่อาจจะทำให้หลายคนยิ้มหยัน นี่หรือคือนิยามที่สวยหรูของพฤติกรรมนอกใจเมีย! อาจจะเป็นการสำรวจหา "ถ้ำ"ใหม่ไปพักพิงให้สบายใจ แต่ที่ฉาวไปกว่านั้นคือ เธอที่คนนี่ก็ไม่ใช่สาวโสด แต่มีครอบครัวเป็นตัวตน เมื่อ Bezosตกลงเรื่องการแบ่งทรัพย์สินและสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกได้แล้ว


National Inquirer สามารถตามเก็บข้อมููลได้ถึงขนาดสถานที่ออกเดท รังรักที่แอบนัดเจอกัน      พวกเค้าจะแก้ต่างว่า  เป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ในขณะที่อยู่ในสถานะแยกกันอยู่กับคู่ครองตามกฎหมายของตน  ในทางปฏิบัติแล้วไม่ได้ถือเป็นการนอกใจ      แต่การแอบคบกันอย่างลับๆมาหลายเดือนก็ไม่ได้ทำให้ภาพที่ออกมาดูดีมากเท่าใด   .Benoz และ Sanchez  ก็ยังถูกสังคมมองว่าแอบกินกัน เพราะก่อนที่จะประกาศหย่าเพียงไม่นาน   ฺBesoz ยังฉลองวันครบรอบแต่งงานครบ 25 ปีพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอยู่แท้ ๆ 


ว่ากันว่าการยุติ  "เส้นทางสำรวจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก" ของ Bezos จะทำให้ทรัพย์สินของเขาลดฮวบฮาบ และอาจจะเป็นการถือกำเนิด "ผู้หญิงที่รวยที่สุดโลก" นามว่า Mackenzie ก็เป็นได้





Conscious Uncoupling


จากกรณีการเลิกกันแบบคูลคูลของ Chris Martin และ  Gwyneth Paltrow


อดีตสามีภรรยา  A List ที่เลิกกันมานานจนลูกเต้าโตเป็นหนุ่มเป็นสาว  และต่างฝ่ายต่างก็ move on ไปนานแล้ว  แต่วลี   Conscious Uncoupling  ก็ยังโด่งดังมาถึงปัจจุบัน  และหลายคนยังเชื่อว่า Gwynneth อาจจะเป็นคนให้นิยามสถานะนี้ขึ้นมาเองก็ได้  เพราะมันฟังเข้ากับภาพลักษณ์สาวไฮโซหัวสูงของเธอเป็นที่สุด

" ยุติสถานะคู่ครองด้วยความสมัครใจ"

" เลิกกันอย่างมีสติสัมปชัญญะ"

" หย่าร้างด้วยความตระหนักรู้"

สื่อหลายเจ้าต่างนำเสนอคอนเทนท์เพื่อตีความหมายคำว่า Conscious Uncoupling ให้แตก แต่ส่วนมากปฏิกิริยาตอบรับจะเป็นไปไหนทางเดียวกันคือ ....อิหยังคะ ?

เจ๊ Goop จึงเฉลยให้ทุกคนหายคาใจผ่าน Goop.com


ที่จริงแล้ว  คนที่นำเสนอนิยามของ conscious uncoupling  ขึ้นมาคือ Katherine Woodward Thomas  ที่ได้แนะนำถึงห้าขั้นตอนการเข้าสู่การแยกทางที่นำไปสู่ความสุขที่ยั่งยืนให้กับทั้งสองฝ่าย    และหลังจากที่ Gwyneth และ Chris นำวลีนี้ไปใช้เพื่อประกาศการหย่าในปี 2014   เธอก็ได้แต่งหนังสือ self-help ในชื่อเดียวกันขึ้นมา และขายดิบขายดีในะดับ New York Times Bestseller


ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าแม่ wellness อย่าง Gwyneth จะเชื้อเชิญหมอ Habib Sadeghi ผู้ก่อตั้งศูนย์สุขภาพแบบบูรณาการและหมอ Sherry Sami ทันตแพทย์ผู้มีชื่อเสียงจากการเป็น life coachให้มาอธิบายตวามหมายของวลีนี้ให้ชัดๆ

"conscious uncoupling คือการทำความเข้าใจได้ว่า เรื่องราวกระทบกระทั่งและข้อโต้เถียงในชีวิตคู่เป็นสัญญาณที่ส่งมาจากจิตใจภายในของพวกเรา และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นพลังงานด้านลบที่จำเป็นต้องได้รับการเยียวยารักษา"

"เรื่องราวที่อยู่ในปัจจุบันมักจะถุูกระตุ้นด้วยความเจ็บปวดฝังใจในอดีต สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเอาจริงเอาจัง แต่มันคือสิ่งที่สะท้อนถึงบาดแผลในใจจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น หากเรามีความตระหนักรู้ในเรื่องเหล่านี้ในช่วงที่กำลังแยกทางกับคนรัก ก็จะช่วยให้เชื่อมโยงตัวตนภายในของเราว่ามีความสัมพันธ์กับต้นตอปัญหาจริงๆอย่างไร ไม่ใช่เจาะจงแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า"


เมื่อตกผลึกความคิดค้นหาต้นตอปัญหาตามคำแนะนำนี้ได้ การทะเลาะเบาะแว้งที่มุ่งจะห้ำหั่นกันจะลดความรุนแรงไป เพราะทั้งคู่ไม่ยัดเยียดให้อีกฝ่ายเป็นคนผิด และนำมาสู่ความพยายามในการแก้ปัญหาร่วมกัน แม้จะเดินข้างกันในฐานะคู่ชีวิตต่อไม่ไหว แต่ก็ยังมีความนับถือและความเข้าใจให้กันนั่นเองค่ะ









Like ... Realizing stuff .

 
จาก New Year resolution ของ Kylie  Jenner


เมื่อขึ้นปีใหม่ 2016 ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ชาวเน็ทประเมินค่าของ Kylie Jenner ไว้ต่ำเตี้ย เธอกำลังรุ่งก็จริง แต่เชื่อเถอะว่า ณ เวลานั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าน้องเล็กคนสุดท้องของบ้าน KarJenner จะสามารถสร้างความโด่งดังแซงหน้า Kim K และกลายมาเป็นคนที่รวยที่สุดในหมู่พี่น้อง โดยเฉพาะตอนที่เธอพูดถึง New Year Solution อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของหลายคนในการวางเป้าหมายเพื่อสร้างความสุขและพัฒนาตนเองให้แตกต่างไปจากอดีตด้วยการอธิบายสั้นๆว่า...

"Like, I feel like every year has a new energy, and I feel like this year is really about, like, the year of just realizing stuff. And everyone around me, we're all just, like, realizing things."

หลายต่อหลายครั้ง สมาชิกบ้าน KarJenner จะให้สัมภาษณ์หรือแสดงความเห็นออกสื่อจาก script ที่มีทีมประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่ร้อยเรียงคำพูดที่เสริมสร้างภาพลักษณ์มาให้ แต่การแสดงความเห็นแบบ casual ทั้งสำเนียง การแทรก like ลงไปแทบทุกประโยค รวมถึงวิธีพูดแบบกับเด็กน้อยที่ดูวกวนก็ทำให้ internet ตอบรับอย่างเกรียวกราว เรียกได้ว่า ก่่อนที่จะได้รับคำว่า self-made billionaire Kylie คือ queen of realizing stuff ,realizing things มาก่อน และตอนนี้คำนี้ก็เป็นหนึ่งใน trademark ของเธอไปแล้ว แต่จวบจนปัจจุบัน ผู้คนก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ตกลงเธอใช้เวลาในปี 2016 realize เรื่องอะไรบ้าง


แน่นอนค่ะว่ามี meme ออกมาล้อเลียนเธออยู่หลายอัน  ตัวที่เป็น viral คือการตัดต่อภาพของประธานาธิบดีObama มอบเหรียญรางวัลจากการ realizing stuff ในปี 2016  ( ที่ยังมีคนเข้าใจผิดว่าเธอได้รับเหรียญจริงๆ)

 แต่ Kylie  หาได้แคร์การการประชดประชัน   เธอใส่ cat suit  จาก Chanel  จิกกล้องแตกแล้วลงภาพบน Instagram ให้ชาวโลกได้ประจักษ์ว่า  นี่แหละ  realizing stuff ในแบบของเธอ
อาจจะมีชาวเน็ทจำนวนมากที่เย้ยหยันเรื่องสติปัญญาของเธอ  แต่เมื่อมีโอกาส  ทำไมจะไม่ฉวยไว้ซะเลยล่ะ  วลีนี้ไม่ไดัฟังดูเป็นคำพูดที่ปราดเปรื่องก็จริง   แต่ก็จับมาพิมพ์บนเสื้อยืดขายได้จนปัจจุบันนี้ก็แล้วกัน!  ( ไม่ต่างจากตอนร้องเพลง rise and shine  ปลุกลูกที่เจอจิกกัดหนักพอสมควร  แต่มันเป็นวลีที่ดังไปแล้ว ก็ขอ trademark ทำสินค้าออกขายโกยเงินเข้ากระเป๋าไปอื้อซ่า)


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE