BLACKPINK Girl Group ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Girl Group
candy 69 6
อีกด้านของ Blackpink ที่ไม่ได้อยู่แต่วงจรธุรกิจเงินสะพัดของ K Pop เท่านั้น
พวกเธอเป็นศิลปินที่ถูกมองเป็นนกน้อยในกรงทองของค่ายใหญ่
เป็น trendsetter ที่แม้แต่คัมภีร์ไบเบิ้ลแห่งโลกแฟชั่นยังให้ความสนใจ
เป็นกลุ่มเด็กสาวที่นำดนตรีที่ได้รับความนิยมในเอเชียให้ไปสู่สายตาชาวตะวันตก
เป็นผู้ที่ต้องรับมือกับดราม่าสารพัด ตั้งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไปจนถึงความกดดันระหว่างสองประเทศที่มีกรณีพิพาทกัน
พวกเธอเป็นศิลปินที่ถูกมองเป็นนกน้อยในกรงทองของค่ายใหญ่
เป็น trendsetter ที่แม้แต่คัมภีร์ไบเบิ้ลแห่งโลกแฟชั่นยังให้ความสนใจ
เป็นกลุ่มเด็กสาวที่นำดนตรีที่ได้รับความนิยมในเอเชียให้ไปสู่สายตาชาวตะวันตก
เป็นผู้ที่ต้องรับมือกับดราม่าสารพัด ตั้งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไปจนถึงความกดดันระหว่างสองประเทศที่มีกรณีพิพาทกัน
ลองมาติดตามกันค่ะ
จากจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ก้าวทะยานข้ามสู่ความสำเร็จระดับโลก
"Blackpink คือ 2NE1 ในเวอร์ชั่นที่สวยกว่า ?"
นี่คือ topic ที่ Netizenเกาหลีเคยถกเถียงกันอย่างดุเดือดเมื่อได้รู้ว่า YG ได้ปั้นสี่สาวไอดอลเพื่อก้าวขึ้นมาครองความนิยมจากแฟนๆ K Pop เหมือนกับ 2NE1 เคยสร้างปรากฏการณ์ไว้ได้ แรงกดดันก็ถาโถมมาสู่พวกเธอทันที แม้ว่าซิงเกิ้ลแรกๆของพวกเธอจะประสบความสำเร็จมาก แต่ก็ต้องพบกับคำครหาว่า ใช้ sound และ style ของ 2NE1 มาสร้างความโด่งดัง บางคนปรามาสไว้ว่า พวกเธอจะไม่สามารถก้าวข้ามความสำเร็จของวงรุ่นพี่ไปได้ แม้กระทั่ง Yang Hyun-Suk ก็ยอมรับว่า ตั้งใจคัดเลือกเด็กสาวหน้าเป๊ะมาปั้นเป็นดาวดวงใหม่ อันเป็นข้อแตกต่างจาก 2NE1 ที่แม้ว่าทุกคนจะมีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ แต่อาจจะไม่ได้ตรงกับมาตรฐานความงามที่สมบูรณ์แบบของของชาวเกาหลีกันทุกคน
คนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอาจไม่คาดคิดว่า นี่คือคำพูดของ ผู้บริหารที่ต้องการปั้น girl group หน้าใหม่ขึ้นมา เพราะมันฟังดูไม่ต่างอะไรจากเสียงวิจารณ์จาก hater ว่า Blackpink เป็นวงโฟกัสแต่การขายหน้าตา เขาได้ประกาศออกสื่อในช่วงโพรโมทของเดบิวท์ของสี่สาวไอดอลไว้ว่า ....
" ถ้าบอกผมให้บอกความแตกต่าง Blackpink จาก 2NE1 ผมก็อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้ตั้งใจสร้างพวกเธอให้แตกต่างกันครับ หรือถ้าบอกว่ามีความแตกต่างจา girl group วงอื่นอย่างไรบ้าง บอกเลยว่า มันไม่ใช่ความตั้งใจที่ทำให้พวกเธอฉีกแนวออกไป ผมสร้างgirl group ในเวอร์ชั่นที่เคยสร้าง 2NE1 ขึ้นมา แต่คราวนี้ ผมต้องการจะปั้นเด็กสวยๆและมีความสามารถ "
แม้ Producer ของ Blackpink คือ Teddy Park ผู้เขียนเพลงที่โด่งดังติดหูตลอดกาลของ 2NE1 อย่าง I'm the Best,Ugly และ Can't Nobody แต่ Yang Hyunsuk ก็ยืนยันว่า พวกเธอไม่ได้เป็นโคลนของวงรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ
" มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เปรียบเหมือนกับคนที่ใส่ชุดเดียวกันแต่ยังไงก็ดูแตกต่าง ทั้งสองวงมีเสียงร้องและลุคที่ไม่เหมือนกันครับ"
แม้ Producer ของ Blackpink คือ Teddy Park ผู้เขียนเพลงที่โด่งดังติดหูตลอดกาลของ 2NE1 อย่าง I'm the Best,Ugly และ Can't Nobody แต่ Yang Hyunsuk ก็ยืนยันว่า พวกเธอไม่ได้เป็นโคลนของวงรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ
" มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เปรียบเหมือนกับคนที่ใส่ชุดเดียวกันแต่ยังไงก็ดูแตกต่าง ทั้งสองวงมีเสียงร้องและลุคที่ไม่เหมือนกันครับ"
ช่วงเวลาการเดบิวท์ของ Blackpink ไปทาบทับอยู่กับอยู่กับดราม่าการแยกวงแบบจบไม่สวยของ 2NE1 แม้พวกเธอจะได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น แต่ความเศร้าเสียใจของแฟนๆได้เปลี่ยนมาเป็นความโกรธเกรี้ยว พวกเค้าจำได้ไม่ลืมว่า Yang Hyun-Suk นี้เคย bully เรื่องหน้าตาของสาว ๆ 2NE1 มาก่อน ตัว CL เองก็ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังมากที่ถูกฉีกหน้าท่ามกลางสายตาทีมงาน ( เขายังกล้าพูดใน reality show ของพวกเธอด้วยซ้ำไป ) ทัศนคติของผู้บริหารได้ทำให้ชาวเน็ทหลายคนเกิดอคติกับ Blackpink ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงปัจจุบันนี้ หากคุณgoogleว่า 2NE1 แยกวงเป็นภาษาอังกฤษ หนึ่งในผลการค้นหาที่พุ่งตามประโยคนี้ขึ้นมาคือวลีว่า "เป็นเพราะ Blackpink" แน่นอนว่าพวกเธอจะต้องพบกับความกดดันอย่างหนักหน่วงจากคำกล่าวหาในสิ่งที่พวกเธอไม่ได้ก่อ
วงการ K Pop จะส่ง girl group ที่โด่งดังมาก่อนหน้า Blackpink มาแล้วหลายวง แต่การคัดเลือกศิลปินที่มีรูปร่างเพรียวบางและยังสูงไล่เลี่ยกันมารวมกลุ่มแสดงความสามารถนั้นสร้างความฮือฮา โดยเฉพาะสังคมที่ให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์แบบ สาวๆที้ง 4 คนสวยเริ่ดไม่ผิดไปจากที่ผู้บริหารได้บรรยายไว้ เรียกได้ว่า หากจะวัดจาก "บทบาท" ของสมาชิกวง K Pop ได้จำแนกไว้ว่าจะต้องมีคนที่เป็น* "หน้าตา" ของวง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด พวกเธอสามารถทำหน้าที่นี้ได้ทุกคน ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งสวยขึ้นกินกันไม่ลง
แต่นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเธอโด่งดังถล่มทลายจนถึงทุกวันนี้จริงหรือ สวยและผอมเท่านั้นน่ะเหรอ วงอื่นก็เป๊ะไม่แพ้กันนี่นา
พวกเธอเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของ 2010s ที่วงการ K Pop ได้พัฒนาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดนตรี production การถ่ายทำ MV ดึงดูดยอดผู้เข้าชมบนonline platform สไตล์การเต้นที่หนักแน่นโดดเด่นออกมาจาก girl group อื่นๆ ในช่วงเวลาไม่กี่ที่ผ่านมา Blackpink ได้ก้าวเข้าสู่ความโด่งดังระดับสากลอย่างที่ girl group อื่นยังไม่สามารถไปถึงได้
*แฟนๆได้แจำแนกไอดอลในวงตามความโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น สายขับร้อง สายเต้น สายแร็พ และยังมีสายหน้าตาอีกด้วย
ความวิตกกังวลจากแฟนๆ ต่อวิธีทางการตลาดของ YG
- การร่วมงานกับ Superstar ระดับโลก
- การแสดงที่ Coachella ที่เเปิดตลาดตะวันตกได้อย่างดงาม
- Fandom ที่ขยายเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจากทั่วทุกทวีป
- ยอดเข้าชม video บน Youtube หลักพันล้าน และการทำลายสถิติต่างๆไม่หยุดหย่อน
- กระแสความนิยมถล่มทลายจนสื่อตะวันตกหันมาให้ความสนใจนำเสนอข่าวทุกการเคลื่อนไหว
- การแสดงที่ Coachella ที่เเปิดตลาดตะวันตกได้อย่างดงาม
- Fandom ที่ขยายเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจากทั่วทุกทวีป
- ยอดเข้าชม video บน Youtube หลักพันล้าน และการทำลายสถิติต่างๆไม่หยุดหย่อน
- กระแสความนิยมถล่มทลายจนสื่อตะวันตกหันมาให้ความสนใจนำเสนอข่าวทุกการเคลื่อนไหว
สิ่งเหล่านี้ก็ได้เป็นข้อพิสูจน์ความสำเร็จของทั้งสี่สาวได้อย่างไร้ข้อกังขา และแน่นอนว่า YG จะได้รับเครดิตในการนำเสนอความสามารถของพวกเธอให้โลกได้ประจักษ์ทำให้หลายคนเชื่อมั่นว่า อนาคตของ Blackpink ยังเจิดจ้าไปอีกเนิ่นนาน
แต่ยังมีแฟนๆอีกมากมายที่ยังห่วงใยในขวัญใจไอดอลว่าอาจจะถูกค่ายควบคุมมากเกินไปจนเกิดผลเสียต่อทั้งจิตใจและชื่อเสียงของพวกเธอ ประวัติศาสตร์ของศิลปิน K Pop ที่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมก็ชวนให้หวั่นใจว่า อาจจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยก็เป็นได้ ดังกรณีของ 2NE1 ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานความโด่งดังของค่ายก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางที่อาจจะไม่ได้สวยงามนัก
นายทุนยักษ์ใหญ่แห่งวงการ K Pop ไม่ได้มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่โปร่งใสเสมอไป ท่ามกลางสายตาเรดาร์ของชาวเน็ท หากค่ายสร้างกระแสให้ศิลปินอย่างไม่จริงใจ อย่างการประกาศว่า บัตรคอนเสิร์ตของ Blackpink ในยุโรปและอเมริกาขายหมดเกลี้ยง แต่ชาวเน็ทบางคนยืนยันว่า ในบางคอนเสิร์ต ยังสามารถเข้าไปจองตั๋วได้ตามปกติ และมีที่นั่งเหลืออีกมาก เรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือ hater แต่เหล่า Blink เองก็ไม่ปลื้มที่ความทะเยอทะยานเพื่อความสำเร็จของค่าย อาจจะนำความอับอายมาสู่ศิลปิน ทั้งๆที่พวกเธอไม่ได้เป็นผู้อวดอ้างว่าตั๋วขายหมดเกลี้ยงแต่อย่างใด
แต่ยังมีแฟนๆอีกมากมายที่ยังห่วงใยในขวัญใจไอดอลว่าอาจจะถูกค่ายควบคุมมากเกินไปจนเกิดผลเสียต่อทั้งจิตใจและชื่อเสียงของพวกเธอ ประวัติศาสตร์ของศิลปิน K Pop ที่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมก็ชวนให้หวั่นใจว่า อาจจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยก็เป็นได้ ดังกรณีของ 2NE1 ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานความโด่งดังของค่ายก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางที่อาจจะไม่ได้สวยงามนัก
นายทุนยักษ์ใหญ่แห่งวงการ K Pop ไม่ได้มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่โปร่งใสเสมอไป ท่ามกลางสายตาเรดาร์ของชาวเน็ท หากค่ายสร้างกระแสให้ศิลปินอย่างไม่จริงใจ อย่างการประกาศว่า บัตรคอนเสิร์ตของ Blackpink ในยุโรปและอเมริกาขายหมดเกลี้ยง แต่ชาวเน็ทบางคนยืนยันว่า ในบางคอนเสิร์ต ยังสามารถเข้าไปจองตั๋วได้ตามปกติ และมีที่นั่งเหลืออีกมาก เรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือ hater แต่เหล่า Blink เองก็ไม่ปลื้มที่ความทะเยอทะยานเพื่อความสำเร็จของค่าย อาจจะนำความอับอายมาสู่ศิลปิน ทั้งๆที่พวกเธอไม่ได้เป็นผู้อวดอ้างว่าตั๋วขายหมดเกลี้ยงแต่อย่างใด
วิธีการโพรโมทอย่างไม่จริงใจย่อมเปิดโอกาสให้ hater เข้ามาทับถม Blackpink มากขึ้นไปอีก allkpop ได้แสดงความเห็นของชาวเน็ทชาวเกาหลีที่ไม่ยอมรับว่า Blackpink โด่งดังในะดับ top เป็นภาษากฤษ และคิดว่ามันเป็นแค่ fake news ( เหลือเชื่อ แต่ก็มีคนแดกดันแบบนี้จริงๆ)
นี่คือส่วนหนึ่งแห่งความเห็นน่าสะพรึงของ netizen เกาหลี...
- ในเกาหลี พวกหล่อนไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นด้วยซ้ำ นี่จะทัวร์ต่างประเทศเลยรึ แค่ติดอันดับหนึ่งใน digital chart ก็เพราะอยู่ค่ายใหญ่เท่านั้นแหละ
- YG คิดว่าจะทำให้พวกเธอเป็นเหมือน BTS ได้ กะอีแค่ใช้สื่อเป็นเครื่องมือเท่านั้นเหรอ
- แฟนคลับพวกนางก็ตลกนะ ยังไม่ทันก้าวเท้าลงไปที่อเมริกาได้ทั่ว แฟนๆก็เห่อเว่อวัง พอมีบทความเรื่องพวกนางเมื่อไร แฟนๆก็ทำเหมือน Blackpinkเป็นซุปตาร์ระดับโลก แต่ความเป็นจริงคือ พวกนางไม่ชนะรางวัล Daesang ในเกาหลีด้วยซ้ำ ยังมีหน้ามาทำเหมือนกับตัวเองยืนหนึ่งมาเลย
- ให้ Blackpink แจกตั๋วฟรีๆในเกาหลี ที่นั่งในคอนเสิร์ตก็ยังไม่เต็มหรอกจ้า จะเอาอะไรกับคอนเสิร์ตในอเมริกา
- ในที่สุดก็มีคนเผยความจริงซักที YG แค่จัดฉากทำทัวร์นี้เพื่อแหกตาผู้ถือหุ้นบริษัทและใช้สื่อเป็นเครื่องมือช่วยแต่งเสริมเติมแต่ง แต่ยังไงก็ยินดีสำหรับคอนเสิร์ตที่ไม่มีคนดูนะ
อย่างไรก็ตาม คำพูดแดกดันว่าพวกเธอไม่ดังพอที่จะดึงดูดคนดูจากต่างประเทศได้นั้นห่างไกลจากตัวเลขที่ได้รับการสำรวจอย่างชัดเจน แม้ชาวเน็ทได้แสดงหลักฐานว่าบางคอนเสิร์ตไม่ได้มีคนเข้าชมเต็มเหมือนกับที่ค่ายได้อ้างไว้ แต่ Blackpink World Tour (In Your Area) ในปี 2019 กลายมาเป็นทัวร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ girl group เกาหลี ทั้จำนวนผู้ชมและรายได้
ส่วนตัวเลขในรัฐต่างๆที่อเมริกานั้น ไม่ได้ "โหรงเหรง" ตามที่ถูกโจมตี จากตั๋วที่ขายได้มากกว่า22,000ที่นั่งใน New York และรัฐอื่นๆที่มีตัวเลขที่เก้าพันไปจนถึงหมื่นกว่าๆไม่ได้แตกต่างจากจำนวนตั๋วที่ขายได้ในหลายประเทศในเอเชีย ในออสเตรเลียทั้งสองรัฐก็มีคนเข้ามาชมเกินหมื่น ที่ไทยนั้นจำนวนพุ่งไปเกือบๆ30,000 เลยทีเดียว แต่ถ้าขั้นถล่มทลายคือญี่ปุ่น เฉพาะในโอซาก้าก็ขายตั๋วไปได้มากกว่า 81,000 โตเกียวอีก 50,000 (ส่วนที่ขายตั๋วได้น้อยลงมาจะเป็นส่วนยุโรปอย่างเมือง Manchester Paris และ Amsterdam )
แต่แม้ว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญที่พิสูจน์ว่า พวกเธอได้เปิดตลาดเข้าสู่ดินแดนตะวันตกได้อย่างสวยสดงดงาม แต่ก็มักจะถูก hater นำความสำเร็จของ BTS ไอดอลระดับ top แห่งวงการ K Pop มาข่มราวกับว่าพวกเธอต้อยต่ำซะเหลือเกิน
ส่วนตัวเลขในรัฐต่างๆที่อเมริกานั้น ไม่ได้ "โหรงเหรง" ตามที่ถูกโจมตี จากตั๋วที่ขายได้มากกว่า22,000ที่นั่งใน New York และรัฐอื่นๆที่มีตัวเลขที่เก้าพันไปจนถึงหมื่นกว่าๆไม่ได้แตกต่างจากจำนวนตั๋วที่ขายได้ในหลายประเทศในเอเชีย ในออสเตรเลียทั้งสองรัฐก็มีคนเข้ามาชมเกินหมื่น ที่ไทยนั้นจำนวนพุ่งไปเกือบๆ30,000 เลยทีเดียว แต่ถ้าขั้นถล่มทลายคือญี่ปุ่น เฉพาะในโอซาก้าก็ขายตั๋วไปได้มากกว่า 81,000 โตเกียวอีก 50,000 (ส่วนที่ขายตั๋วได้น้อยลงมาจะเป็นส่วนยุโรปอย่างเมือง Manchester Paris และ Amsterdam )
แต่แม้ว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญที่พิสูจน์ว่า พวกเธอได้เปิดตลาดเข้าสู่ดินแดนตะวันตกได้อย่างสวยสดงดงาม แต่ก็มักจะถูก hater นำความสำเร็จของ BTS ไอดอลระดับ top แห่งวงการ K Pop มาข่มราวกับว่าพวกเธอต้อยต่ำซะเหลือเกิน
อคติจากแนวคิดชาตินิยมที่พุ่งทำร้ายศิลปินอย่างไม่หยุดหย่อน
เพราะอะไร Lisa ทีได้รับความนิยมจากแฟนๆชาวจีนสูงจนได้รับเชิญไปทำหน้าที่ mentor รายการค้นหาไอดอลหน้าใหม่จึงต้องเผชิญกับ cyberbully ?
ประเด็นนี้อาจจะทำให้บางคนสับสน ก็แม่จีนมิใช่หรือที่เปย์หนักมือและขึ้นชื่อว่าหวงห่วงน้องเป็นที่สุด แล้วเหตุใด เธอจึงถูกชาวเน็ทจีนดูหมิ่นอย่างรุนแรงจนแฟนๆ ต้องแปะแฮชแทก #ApologizeToLalisa และ#RespectLalisa จนติด trending
แต่ยิ่งศิลปินได้รับความรักมากเท่าใด antifan ก็ดูจะแผลงฤทธิ์ร้ายกาจขึ้นเท่านั้น หลังจากที่ Lisa ต้องเผชิญกับ cyberbully จาก antifan เกาหลีที่เหยียดหยามเชื้อชาติและรูปลักษณ์ว่าเธอ"ไม่ควรค่า" พอที่จะเป็นสมาชิก girl group ที่โด่งดังที่สุดของเกาหลี เมื่องานที่แผ่นดินใหญ่กำลังไปรุ่ง ก็มีการเปิดเผยว่า antifan จีนได้เปิดห้องแชทกลุ่มที่มีสมาชิกถึงห้าพันคนเพื่อด่าว่าธอด้วยถ้อยคำร้ายกาจ ทั้งเหยียบย่ำเรื่องการศึกษา ความเป็นคนไทย รูปร่างหน้าตา ด่าพ่อล่อแม่กันอย่างสนุกปาก
แน่ล่ะว่า ผู้คนจำนวนมากสัมผัสได้ถึงความอิจฉาริษยาและความประสงค์ร้ายต่อตัวไอดอลสาวไทยที่กำลังพยายามทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุดเท่านั้น บางคนอาจจะมองว่า Lisa อาจจะต้องปล่อยวางไม่ให้ cyberbully มาสั่นคลอนจิตใจของเธอได้ แต่ยังมีแฟนๆอีกมากมายที่ต้องการร่วมกันแสดงพลังเพื่อปกป้อง Lisa และแสดงให้เห็นว่า เธอจะได้รับกำลังใจล้นหลามจากพวกเค้าอยู่เสมอ
ความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อไอดอล
แม้ K Pop จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย แต่ตลาดผู้บริโภคใหญ่อย่างจีน (ที่แม้แต่ Hollywoodก็ยังพยายามเข้าหาเต็มที่) ก็ปิดโอกาสไม่ให้ศิลปินเดินทางมาโพรโมทสร้างชื่อเสียง ด้วยความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดของรัฐบาลจีนและเกาหลีที่มีข้อพิพาทจากประเด็น ขีปนาวุธ (THAAD) ในอดีต และยังเป็นการป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมบันเทิงถูก"กลืน" โดยอิทธิพลของ Korean wave แม้จะผ่อนปรนมาตรการลงมาในปีหลังๆ แต่ก็ยังจำกัดกิจกรรม เช่น การแสดงบนเวทีและmeetingสำหรับแฟนๆ จากที่จีนเคยเปรียบดั่งเหมืองทองของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี ความขัดแย้งนี้ก็ทำให้กระแส K Pop ชะลอตัวลงไป
Lisa ได้รับข้อเสนอให้มารับตำแหน่งmentor ที่ได้แสดงถึงความยอมรับนับถือในความสามารถจากสังคมชาวจีน แม้ว่าเธอจะเป็นไอดอล K Popที่โด่งดัง ด้วยความความเป็นคนไทยเธอนี่เองที่ทำให้แฟนๆชาวจีนอ้าแขกต้อนรับเธอได้อย่างสนิทใจ
แต่พายุดราม่าก็ตามมาอีกระลอกจนได้
ผลงานทางรายการTV ของ Lisa อาจจะได้รับเสียงชื่นชมและเปิดโอกาสให้เธอต่อยอดความสำเร็จที่แผ่นดินใหญ่ได้ไกลกว่านี้ แต่ก็มีดราม่าใหม่ตามมาอีก เมื่อ Pepsi ได้ประกาศชื่อพรีเซนเตอร์กลุ่มใหม่ว่าไม่ใช่ใครอื่นไกล Blackpink นั่นเอง ฟังดูแล้วก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะแม้จะมีเรื่องจำกัดกิจกรรมในจีน แต่แฟนๆชาวจีนที่ถูกเรียกว่า C -Blink ก็ยังให้การสนับสนุนจนยอดขายเพลงของพวกเธอพุ่งปรี๊ดไปหลายล้าน เป็น fanbase ที่ทุ่มเทไม่แพ้ชาติอื่น
นั่นอาจจะทำคิดได้ว่าจะมีเสียงชื่นชมอย่างพร้อมเพรียงจากชาวจีนที่ได้เห็นศิลปินเกาหลีมารับงานโฆษณาในจีนอีกครั้ง แต่ปฏิกิริยาตอบรับดูจะปะปนกันไป บ้างก็สนับสนุนพวกเธออย่างจริงใจ แต่ชนวนความบาดหมางของสองประเทศที่ยังคุกรุ่นก็ทำให้คนกลุ่มหนึ่งฉะแหลกว่า ไอดอลเกาหลีรับงานโฆษณาจีนเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์! บางคนก็ขู่ว่า boycott น้ำดำเจ้านี้ไปเลย
"แค่หายใจก็ยังผิด" ประโยคนี้อาจจะตรงกับกระแสโจมตีที่ Blackpink ต้องรับมือ เพราะก่อนหน้าที่จะเปิดเผยเรื่องการร่วมงานกับ Pepsi G-DRAGON ก็เคยก้าวข้ามชนวนข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ และรับงานโฆษณาสินค้าในจีนมาแล้ว และยังเป็นเครื่องดื่มของจีน หาใช่น้ำอัดลมที่มาจากบริษัทต่างชาติ แต่กลับไม่มีรายงานกระแสต่อต้านใดๆ เรื่องนี้ทำให้ Blink บางคนปรี๊ดจัด และฟันธงว่า นี่เป็นเรื่องสองมาตรฐานที่ศิลปินหญิงในวงการ K Pop ต้องเผชิญนั่นเอง
ความสำเร็จที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายทำให้แฟนๆปลาบปลื้มใจและต้องการสนับสนุนพวกเธอให้ยิ่งก้าวไปสูงกว่าเดิม แต่ก็รู้สึกกังวลต่อแรงกดดันที่บีบคั้นพวกเธออยู่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมจนไร้อิสระเหมือนกับที่รุ่นพี่เคยเจอมาก่อน รวมไปถึงความ toxic จากทั้ง antifan และ blink ที่ขาดวุฒิภาวะ
ไม่มีใครเลี่ยงความจริงไปได้ว่าไอดอลสาวทั้งสี่ก็มีหัวใจและเลือดเนื้อ ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่ถูกดีไซน์มาเพื่อทำเงินให้กับนายทุน ไม่ได้เป็นตุ๊กตาไร้ความรู้สึกเมื่อถูกคำพูดจากคนแปลกหน้าทิ่มแทงใส่ ไม่ว่าคุณจะชื่นชม Blackpink หรือไม่ สิ่งที่พึงกระทำคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ละเว้นการใช้คำพูดมาเป็นอาวุธทำร้ายกัน เราไม่มีทางรู้หรอกว่า ภายใต้รอยยิ้มที่สดใสเต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก พวกเธออาจจะต้องผ่านเรื่องหนักหนาสาหัสมามากขนาดไหน
เป็นกำลังใจให้ทั้งสี่สาวนะคะ...