รวบรวมนักแสดง"คุณป้า" ที่มีฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา #2
Panchud Thammachat 41 6
3.Michelle Pfeiffer
เกิด:29 เมษายน 1958(ปัจจุบันอายุ62ปี)
บ้านเกิด:เมืองSanta Ana รัฐCalifornia สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1978
เกิด:29 เมษายน 1958(ปัจจุบันอายุ62ปี)
บ้านเกิด:เมืองSanta Ana รัฐCalifornia สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1978
นักแสดงหญิงมาดนางพญา ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งงานออสการ์ และEmmy Awards และได้รับรางวัลจากงานลูกโลกทองคำ และBAFTA Awards
ป้าPfeiffer เกิดในครอบครัวที่มีหลากหลายทางเชื้อชาติ จบการศึกษาจากโรงเรียนFountain Valley High School หลังจากเรียนจบไฮสคูล ป้าPfeiffer ก็รับทำงานเป็นCheck-out girl อยู่ที่ซุเปอร์มาร์เก็ตVons จนได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยGolden Valley พร้อมๆกับการเข้ามาทำงานเป็นนักแสดง
ป้าPfeiffer เคยเข้าประกวดนางงามMiss California เมื่อปี1978 ได้ที่6ของการประกวดในปีนั้น
ป้าPfeiffer เกิดในครอบครัวที่มีหลากหลายทางเชื้อชาติ จบการศึกษาจากโรงเรียนFountain Valley High School หลังจากเรียนจบไฮสคูล ป้าPfeiffer ก็รับทำงานเป็นCheck-out girl อยู่ที่ซุเปอร์มาร์เก็ตVons จนได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยGolden Valley พร้อมๆกับการเข้ามาทำงานเป็นนักแสดง
ป้าPfeiffer เคยเข้าประกวดนางงามMiss California เมื่อปี1978 ได้ที่6ของการประกวดในปีนั้น
กว่าจะโด่งดัง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ป้าPfeiffer เริ่มต้นงานแสดงจากผลงานทีวีซีรีส์ตั้งแต่ปี1978 จนมาในปี1982 ก็ได้รับบทนำให้กับภาพยนตร์เรื่องGrease 2 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนภาคแรก(Grease)ที่นำแสดงโดยลุงJohn Travolta และป้าOlivia Newton-John
ปี1983 โอกาสแจ้งเกิดของป้าPfeifferก็มาถึง เมื่อเจ้าตัวได้รับบทเป็นElvira หญิงสาวขี้ยาในภาพยนตร์เรื่องScarface จนกลายเป็นที่รู้จักทันที และทรงผมบ็อบประบ่าหน้าม้าที่ป้าPfeifferไว้เพื่อบทElvira ก็กลายเป็นทรงผมสุดIconic ที่สาวๆหลายคนอยากทำทรงนี้จนถึงปัจจุบัน
ป้าPfeiffer เริ่มต้นงานแสดงจากผลงานทีวีซีรีส์ตั้งแต่ปี1978 จนมาในปี1982 ก็ได้รับบทนำให้กับภาพยนตร์เรื่องGrease 2 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนภาคแรก(Grease)ที่นำแสดงโดยลุงJohn Travolta และป้าOlivia Newton-John
ปี1983 โอกาสแจ้งเกิดของป้าPfeifferก็มาถึง เมื่อเจ้าตัวได้รับบทเป็นElvira หญิงสาวขี้ยาในภาพยนตร์เรื่องScarface จนกลายเป็นที่รู้จักทันที และทรงผมบ็อบประบ่าหน้าม้าที่ป้าPfeifferไว้เพื่อบทElvira ก็กลายเป็นทรงผมสุดIconic ที่สาวๆหลายคนอยากทำทรงนี้จนถึงปัจจุบัน
ช่วงยุค80s ป้าPfeifferมีผลงานภาพยนตร์หลากหลายแนว มีดังนี้
- รับบทเป็นIsabeau d'Anjou ในภาพยนตร์เรื่องLadyhawk(1985) ภาพยนตร์ดาร์คแฟนตาซียุคกลางจากฝีมือการกำกับของ คุณปู่Richard Donner
- รับบทเป็นSukie Ridgemont ในภาพยนตร์เรื่องThe Witches of Eastwick(1987) ภาพยนตร์แนวตลก-ดาร์คแฟนตาซีดัดแปลงจากนิยาย กำกับโดยลุงGeoge Miller (หลังจากกำกับภาพยนตร์ชุดMad Max ทั้ง3ภาคก็ขอเปลี่ยนแนวบ้าง) นำแสดงโดยคุณปู่Jack Nicholson,ป้าCher,ป้าSusan Sarandon และป้าMichelle Pfeiffer
- รับบทเป็นมาดาม Marie de Tourvel ในภาพยนตร์เรื่องDangerous Liaisons(1988) ภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่าย้อนยุคดัดแปลงจากนิยายสัญชาติฝรั่งเศส เรื่องราวของหญิงสาวเจ้าเล่ห์ กับชาวหนุ่มเพลย์บอย ที่ต้องพนันกันโดยมีเซ็กซ์เป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่หญิงสาวไร้เดียงสาก็ถูกดึงเข้ามาเอี่ยวโดยที่เธอไม่รู้ นำแสดงโดยป้าGlenn Close,ลุงJohn Malkovich,ป้าMichelle Pfeiffer,คุณUma Thurman และคุณKeanu Reeves
- รับบทเป็นSusie Diamond ในภาพยนตร์เรื่องThe Fabulous Baker Boys(1989) นี่คือตัวละครที่ทำให้ป้าPfeiffer คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภท ภาพยนตร์ดราม่า เรื่องราวของ2พี่น้องที่เกิดตกหลุมรักนักร้องสาวในบาร์ ซึ่งนอกจากป้าPfeiffer แสดงนำแล้ว 2พี่น้องตระกูลBridges(ลุงJeff และลุงBeau) ก็ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
Catwoman ที่"เริ่ด"ที่สุด
ก่อนที่ป้าPfeifferจะมารับบทเป็นSelina Kyle/Catwoman ในภาพยนตร์เรื่องBatman Return ที่เข้าฉายเมื่อปี1992นั้น มีนักแสดงที่เตรียมที่จะมารับบทนี้ นั่นก็คือ...ป้าAnnette Bening แต่ในตอนนั้นป้าBening กำลังตั้งครรภ์อยู่ ส้มหล่นไปอยู่ที่ป้าPfeiffer
ความลำบากของบทนี้คือ ชุดรัดรูปที่เคลื่อนไหวได้ลำบาก แต่ป้าPfeifferกลับทนรับความลำบากนี้ได้แบบผ่านฉลุย(ป้าทนได้ เรื่องแค่เนี๊ยะ) จนทำให้ป้าPfeiffer กลายเป็นนักแสดงหญิงที่รับบทเป็นCatwoman ได้ดีที่สุด จากการสำรวจของแฟนคลับภาพยนตร์ชุดBatman (รองลงมาคือพี่Anne Hathaway)
ก่อนที่ป้าPfeifferจะมารับบทเป็นSelina Kyle/Catwoman ในภาพยนตร์เรื่องBatman Return ที่เข้าฉายเมื่อปี1992นั้น มีนักแสดงที่เตรียมที่จะมารับบทนี้ นั่นก็คือ...ป้าAnnette Bening แต่ในตอนนั้นป้าBening กำลังตั้งครรภ์อยู่ ส้มหล่นไปอยู่ที่ป้าPfeiffer
ความลำบากของบทนี้คือ ชุดรัดรูปที่เคลื่อนไหวได้ลำบาก แต่ป้าPfeifferกลับทนรับความลำบากนี้ได้แบบผ่านฉลุย(ป้าทนได้ เรื่องแค่เนี๊ยะ) จนทำให้ป้าPfeiffer กลายเป็นนักแสดงหญิงที่รับบทเป็นCatwoman ได้ดีที่สุด จากการสำรวจของแฟนคลับภาพยนตร์ชุดBatman (รองลงมาคือพี่Anne Hathaway)
ภาพยนตร์ยุค90s ที่มีป้าPfeiffer ร่วมแสดง มีดังนี้
- รับบทเป็นท่านเคานท์เทส Ellen Olenska ในภาพยนตร์เรื่องThe Age of Innocence(1993) ภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่าย้อนยุด ดัดแปลงจากนิยายที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี1920 กำกับโดยลุงMartin Scorsese นำแสดงโดยลุงDaniel Day-Lewis,ป้าMichelle Pfeiffer และคุณWinona Ryder
- รับบทเป็นLaura Alden ในภาพยนตร์เรื่องWolf(1994) ภาพยนตร์โรแมนติก-สยองขวัญ เรื่องราวของชายวัยกลางคนที่ขับรถชนหมาป่า แต่ดันโดยหมาป่ากัดจนทำให้เขาต้องถูกคำสาปมนุษย์หมาป่าทันที ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างคุณปู่Jack Nicholson และป้าMichelle Pfeiffer
- รับบทเป็นLouAnne Johnson ในภาพยนตร์เรื่องDangerous Minds(1995) สร้างจากเรื่องจริงของการเป็นคุณครูของLouAnne Johnson อดีตทหารเรือU.S. Marine
อีกครั้งกับภาพยนตร์สยองขวัญ และ เรื่องราวสุดซึ้งที่ทำให้เข้าใจผู้ป่วยออทิสติก
- What Lies Beneath(2000) ภาพยนตร์สยองขวัญ-เหนือธรรมชาติ เรื่องราวของคู่สามี-ภรรยาที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีความลึกลับซ่อนอยู่ นำแสดงโดยลุงHarrison Ford และป้าMichelle Pfeiffer กำกับโดยลุงRobert Zemeckis
- I Am Sam(2001) ภาพยนตร์ตลก-ดราม่า เรื่องราวของชายที่เป็นผู้ป่วย"ออทิสติก" ยื่นคำร้องต่อศาลเรื่องการเป็นผู้ปกครองของลูกสาววัย8ขวบ โดยมีทนายความหญิงเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ นำแสดงโดยลุงSean Penn ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และSAG Award จากบทSam Dawson และเป็นการแจ้งเกิดของน้องDakota Fanning ในบทLucy Dawson
ห่างหายไป ไม่เคยบอกกัน แต่กลับมาแล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
ป้าPfeifferกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อปี2007 หลังจากห่างหายไปตั้งแต่ปี2003 ด้วยปัญหาสุขภาพ ซึ่งภาพยนตร์เพลงรีเมคเรื่องHairspray กับภาพยนตร์แฟนตาซีดัดแปลงจากวรรณกรรมเรื่องStardust ทำรายได้น่าพอใจ
ป้าPfeifferกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อปี2007 หลังจากห่างหายไปตั้งแต่ปี2003 ด้วยปัญหาสุขภาพ ซึ่งภาพยนตร์เพลงรีเมคเรื่องHairspray กับภาพยนตร์แฟนตาซีดัดแปลงจากวรรณกรรมเรื่องStardust ทำรายได้น่าพอใจ
- Hairspray(2007) ภาพยนตร์ตลก-มิวสิคคัลที่รีเมคมาจากฉบับภาพยนตร์ปี1988 และดัดแปลงมาจากละครเวที ซึ่งเป็นการรับบทเป็น"หญิง"ครั้งแรกของลุงJohn Travolta ยังร่วมด้วย พี่Amanda Bynes,คุณJames Marsden,ลุงChristopher Walken,พี่Zac Efron,คุณQueen Latifah และป้าMichelle Pfeiffer
- Stardust(2007) ภาพยนตร์แฟนตาซี ดัดแปลงจากนิยาย ซึ่งเป็นผลงานการกำกับเรื่องที่2ของคุณMatthew Vaughn นำแสดงโดยคุณClaire Danes,พี่Charlie Cox,พี่Sienna Miller,ลุงRobert De Niro,ป้าMichelle Pfeiffer และลุงRupert Everett
ทศวรรษ2010s คลื่นลูกใหม่มากันมากมาย แต่ทำอะไรป้าPfeifferไม่ได้
ป้าPfeifferมีผลงานภาพยนตร์ในช่วงทศวรรษ2010s ได้แก่
ป้าPfeifferมีผลงานภาพยนตร์ในช่วงทศวรรษ2010s ได้แก่
- Dark Shadows(2012) ภาพยนตร์ตลก-สยองขวัญของผู้กำกับงานภาพสุดดาร์ด ลุงTim Burton ดัดแปลงจากซีรีส์ทีวีน้ำเน่าในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย คุณJohnny Depp,คุณHelena Bonham Carter,คุณEva Green,น้องChloe Grace Moretz,คุณJonny Lee Miller เป็นต้น
- Murder on the Orient Express(2017) ภาพยนตร์สืบสวน ดัดแปลงจากวรรณกรรมของท่านAgatha Christie ซึ่งลุงKenneth Branagh พ่วง2ตำแหน่งคือ ผู้กำกับและผู้รับบทเป็นHercule Poirot
- Ant-Man and the Warp(2018)ภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องAnt-Man(2015) นำแสดงโดยคุณPaul Rudd,คุณEvangeline Lily,ลุงMichael Douglas,พี่Hannah John-Kamen และลุงLaurence Fishburne
- Maleficent:Mistress of Evil(2019) ภาพยนตร์ภาคต่อของเรื่องMaleficent(2014) นำแสดงโดย คุณAngelina Jolie,น้องElle Fanning,คุณChiwetel Ejiofor และป้าMichelle Pfeiffer
งานให้เสียงพาทย์ตัวละคร
ผลงานการพาทย์เสียงของป้าPfeiffer ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายDreamwork ดังนี้
ผลงานการพาทย์เสียงของป้าPfeiffer ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายDreamwork ดังนี้
- ให้เสียงเป็นTzipporah จากภาพยนตร์เรื่องThe Prince of Egypt(1998)
- ให้เสียงเป็นEris จากภาพยนตร์เรื่องSinbad:Legend of the Seven Seas(2003)
ชีวิตครอบครัว
ป้าPfeiffer แต่งงานรอบแรกกับลุงPeter Horton ที่เมืองSanta Monica เมื่อปี1981 แต่ชีวิตคู่เริ่มระหองระแหงกัน และรุนเรงจนถึงขั้นแยกทางกันเมื่อปี1988
จนเมื่อปี1993 ป้าPfeiffer ได้คบหาดูใจกับลุงDavid E. Kelley ผู้เขียนบทโทรทัศน์ จนได้แต่งงานกันในปีเดียวกัน ทั้งคู่มีลูกชายสายเลือดเดียวกัน1คน และลูกสาวที่ได้รับเป็นบุตรบุญธรรมอีก1คน
ป้าPfeiffer แต่งงานรอบแรกกับลุงPeter Horton ที่เมืองSanta Monica เมื่อปี1981 แต่ชีวิตคู่เริ่มระหองระแหงกัน และรุนเรงจนถึงขั้นแยกทางกันเมื่อปี1988
จนเมื่อปี1993 ป้าPfeiffer ได้คบหาดูใจกับลุงDavid E. Kelley ผู้เขียนบทโทรทัศน์ จนได้แต่งงานกันในปีเดียวกัน ทั้งคู่มีลูกชายสายเลือดเดียวกัน1คน และลูกสาวที่ได้รับเป็นบุตรบุญธรรมอีก1คน
4.Jamie Lee Curtis
เกิด:22 พฤศจิกายน 1958(ปัจจุบันอายุ61ปี)
บ้านเกิด:เมืองSanta Monica รัฐCalifornia สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1977
เกิด:22 พฤศจิกายน 1958(ปัจจุบันอายุ61ปี)
บ้านเกิด:เมืองSanta Monica รัฐCalifornia สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1977
นักแสดงหญิงที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องHalloween ที่เข้าฉายเมื่อปี1978 กับบทLaurie Strode
ป้าCurtis เป็นลูกสาวของคุณตาTony Curtis กับคุณยายJanet Leigh(ผลงานของคุณยายLeighที่ดังๆก็คือภาพยนตร์เรื่องPsycho) โดยทั้งคู่ต่างก็เป็นนักแสดงดังในยุค50s ซึ่งเป็นยุคOld Hollywood คือผลงานภาพยนตร์เริ่มรุ่งเรืองหลังจากผ่านเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่2
ป้าCurtis ได้อาศัยอยู่กับแม่และพี่สาวหลังจากพ่อแม่ได้แยกทางกันเมื่อปี1962(ตอนนั้นป้าCurtisเพิ่งอายุได้3-4ขวบ)
ช่วงปี1976 ป้าCurtis ได้ดรอปเรียนด้านกฎหมาย มาเป็นนักแสดงตามรอยพ่อแม่
ป้าCurtis เป็นลูกสาวของคุณตาTony Curtis กับคุณยายJanet Leigh(ผลงานของคุณยายLeighที่ดังๆก็คือภาพยนตร์เรื่องPsycho) โดยทั้งคู่ต่างก็เป็นนักแสดงดังในยุค50s ซึ่งเป็นยุคOld Hollywood คือผลงานภาพยนตร์เริ่มรุ่งเรืองหลังจากผ่านเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่2
ป้าCurtis ได้อาศัยอยู่กับแม่และพี่สาวหลังจากพ่อแม่ได้แยกทางกันเมื่อปี1962(ตอนนั้นป้าCurtisเพิ่งอายุได้3-4ขวบ)
ช่วงปี1976 ป้าCurtis ได้ดรอปเรียนด้านกฎหมาย มาเป็นนักแสดงตามรอยพ่อแม่
Halloween ภาพยนตร์สุดระทึก พาป้าCurtis แจ้งเกิด
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ภาพยนตร์ต้นตำรับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าแหลกอย่างเรื่องHalloween ฉบับปี1978 ทำให้ป้าCurtisได้แจ้งเกิด
ภาพยนตร์ฉบับปี1978 กำกับโดยลุงJohn Carpenter เรื่องราวของMichael Myers ฆาตกรต่อเนื่องที่จะมาฆ่าเหยื่อในคืนวันฮัลโลวีน(31 ตุลาคม) Laurie Strode นักเรียนไฮสคูลมีความรู้สึกผิดปกติบางอย่าง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ภาพยนตร์ต้นตำรับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าแหลกอย่างเรื่องHalloween ฉบับปี1978 ทำให้ป้าCurtisได้แจ้งเกิด
ภาพยนตร์ฉบับปี1978 กำกับโดยลุงJohn Carpenter เรื่องราวของMichael Myers ฆาตกรต่อเนื่องที่จะมาฆ่าเหยื่อในคืนวันฮัลโลวีน(31 ตุลาคม) Laurie Strode นักเรียนไฮสคูลมีความรู้สึกผิดปกติบางอย่าง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
แล้วป้าCurtis ก็รับบทนี้ต่อในภาพยนตร์เรื่องHalloween II(1981),Halloween H20:20 Years Later(1998) และHalloween:Ressurection(2002)
ส่วนภาพยนตร์เรื่องHalloween ฉบับปี2018นั้น เป็นภาคต่อที่แท้จริงของภาพยนตร์ฉบับปี1978 โดยทางBlumhouse Productions เป็นผู้จัดสร้าง
โดยเรื่องราวจะเป็นไทม์ไลน์เดิมจากปี1978 ในอีก40ปีต่อมา เรื่องราวของLaurie Strode ที่คอยเฝ้าระวังฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวของเธอเมื่อ40ปีก่อน
ล่าสุด ป้าCurtis ได้เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องHalloween Kills เข้าฉายในเดือนตุลาคม 2021
ส่วนภาพยนตร์เรื่องHalloween ฉบับปี2018นั้น เป็นภาคต่อที่แท้จริงของภาพยนตร์ฉบับปี1978 โดยทางBlumhouse Productions เป็นผู้จัดสร้าง
โดยเรื่องราวจะเป็นไทม์ไลน์เดิมจากปี1978 ในอีก40ปีต่อมา เรื่องราวของLaurie Strode ที่คอยเฝ้าระวังฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวของเธอเมื่อ40ปีก่อน
ล่าสุด ป้าCurtis ได้เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องHalloween Kills เข้าฉายในเดือนตุลาคม 2021
ภาพยนตร์ที่ทำให้ป้าCurtis ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ
True Lies(1994) ภาพยนตร์แอคชั่น-คอเมดี้ จากการร่วมงานกันครั้งที่3 ระหว่างลุงArnold Schwarzenegger กับลุงJames Cameron ที่พ่วงตำแหน่งทั้งผู้กำกับ,ผู้อำนวยการสร้าง(โปรดิวเซอร์)และเขียนบทภาพยนตร์
เรื่องราวของHarry Tasker ชายที่ต้องปกปิดอาชีพสายลับเพื่อไม่ให้Helen ผู้เป็นภรรยารู้ ด้วยการอ้างว่าทำงานเป็นเซลล์แมน วันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่คนร้ายได้ติดตั้งระเบิดนิวเคลียร์พร้อมกับลักพาตัวลูกสาวของทั้งคู่ไป เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
ป้าCurtis รับบทเป็นHelen Tasker ภรรยาผู้ที่คอยสงสัยในตัวของสามีอย่างHarry(รับบทโดยลุงSchwarzenegger) ซึ่งป้าCurtisแสดงบทนี้ได้ทั้งดราม่า,ตลก และบู๊ในคราวเดียว จึงได้คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ(Golden Globe Awards) สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง ถือว่าเป็นรางวัลลูกโลกทองคำตัวที่2 ของป้าCurtis
True Lies(1994) ภาพยนตร์แอคชั่น-คอเมดี้ จากการร่วมงานกันครั้งที่3 ระหว่างลุงArnold Schwarzenegger กับลุงJames Cameron ที่พ่วงตำแหน่งทั้งผู้กำกับ,ผู้อำนวยการสร้าง(โปรดิวเซอร์)และเขียนบทภาพยนตร์
เรื่องราวของHarry Tasker ชายที่ต้องปกปิดอาชีพสายลับเพื่อไม่ให้Helen ผู้เป็นภรรยารู้ ด้วยการอ้างว่าทำงานเป็นเซลล์แมน วันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่คนร้ายได้ติดตั้งระเบิดนิวเคลียร์พร้อมกับลักพาตัวลูกสาวของทั้งคู่ไป เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
ป้าCurtis รับบทเป็นHelen Tasker ภรรยาผู้ที่คอยสงสัยในตัวของสามีอย่างHarry(รับบทโดยลุงSchwarzenegger) ซึ่งป้าCurtisแสดงบทนี้ได้ทั้งดราม่า,ตลก และบู๊ในคราวเดียว จึงได้คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ(Golden Globe Awards) สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง ถือว่าเป็นรางวัลลูกโลกทองคำตัวที่2 ของป้าCurtis
ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่มีป้าCurtis ร่วมแสดง
- A Fish Called Wanda(1988) ภาพยนตร์ตลก-โจรกรรม เรื่องราวของแก๊งโจรที่เตรียมตัวจะไปปล้นเพชร แต่ดันมีแผนซ้อนแผนคือ แก๊งโจรทั้ง4ต่างหักหลังกันเอง เรื่องราวจะป่วนขนาดไหน ต้องติดตาม นำแสดงโดย คุณตาJohn Cleese,ป้าJamie Lee Curtis,ลุงKevin Kline และลุงMichael Palin
- My Girl(1991) ภาพยนตร์ตลก-ดราม่า ธีมComing-to-Age ซึ่งเป็นผลงานแจ้งเกิดของพี่Anna Chlumsky นักแสดงเด็กที่โด่งดังในยุคนั้น ร่วมด้วยพี่Macaulay Culkin,ลุงDan Aykroyd และป้าJamie Lee Curtis
- Freaky Friday(2003) ภาพยนตร์ตลกที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจในความสัมพันธ์ของแม่และลูก เรื่องราวของAnna Coleman ลูกสาวสุดเฮ้วกับDr.Tess Coleman คุณแม่บ้างานที่ไม่ค่อยลงรอยกัน จนวันหนึ่ง ทั้งสองแม่ลูกดันถูกสลับร่างกัน เรื่องราวป่วนๆจึงเกิดขึ้น นำแสดงโดย พี่Lindsey Lohan และป้าJamie Lee Curtis
- Knives Out(2019) ภาพยนตร์สืบสวนตลกร้าย ผลงานการกำกับโดยคุณRian Johnson เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมHarlan Thrombrey หลังวันคล้ายวันเกิดครบ85ปีของเจ้าตัว Benoit Blanc นักสืบผู้ทำคดีนี้ ก็ได้รู้ว่า ฆาตกรในคดีนี้เป็นคนในครอบครัว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม นำแสดงโดย คุณDaniel Craig,พี่Chris Evans,พี่Ana de Armas,คุณปู่Christopher Plummer,ป้าJamie Lee Curtis,คุณMichael Shannon เป็นต้น
ผลงานซีรีส์ทีวีที่มีป้าCurtis ร่วมแสดง
รู้หรือไม่ว่า ป้าCurtis มีผลงานชิ้นแรกๆคือ การแสดงซีรีส์ทีวี ซึ่งผลงานซีรีส์ทีวีที่มีบ้าCurtis ร่วมแสดง มีดังนี้
รู้หรือไม่ว่า ป้าCurtis มีผลงานชิ้นแรกๆคือ การแสดงซีรีส์ทีวี ซึ่งผลงานซีรีส์ทีวีที่มีบ้าCurtis ร่วมแสดง มีดังนี้
- Operation Petticoat(1977-1978) ซีรีส์แนวซิกคอมธีมทหาร ดัดแปลงจากฉบับภาพยนตร์ปี1959 แต่โดนตัดจบทั้งๆที่ออกอากาศไม่ครบซีซั่น ซึ่งป้าCurtis ร่วมแสดงในซีซั่นแรก
- Anything but Love(1989-1992) ซีรีส์แนวซิกคอม ธีมชีวิตประจำวันที่นำแสดงโดยลุงRichard Lewis และป้าJamie Lee Curtis ออกอากาศทั้งหมด4ซีซั่น และซีรีส์เรื่องนี้ส่งผลให้ป้าCurtis คว้ารางวัลลูกโลกทองคำตัวแรก ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์โทรทัศน์ตลกหรือเพลง
- Scream Queens(2015-2016) ซีรีส์ตลกแนวฆ่าต่อเนื่อง ซึ่งออกอากาศทั้งหมด2ซีซั่น นำแสดงโดย พี่Emma Roberts,พี่Lea Michele,น้องAbigail Brestin,พี่Billie Lourd(ลูกสาวคนเดียวของป้าCarrie Fisher) และKeke Palmer
ชีวิตครอบครัว และชีวิตส่วนตัว
ป้าCurtis แต่งงานกับลุงChristopher Guest นักแสดง,ผู้เขียนบท และผู้กำกับ ตั้งแต่ปี1984 ทั้งคู่ได้รับอุปการะเด็กให้เป็นลูกบุญธรรมทั้งหมด2คน
ช่วงที่พ่อสามีได้เสียชีวิต สามีได้แต่งตั้งยศให้เป็น"ท่านบารอนHaden-Guestที่5" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เป็นเกียรติมากที่สุดของป้าCurtis
ป้าCurtis เคยเข้ารับการบำบัดอาการติดเครื่องดึ่มแอลกฮอลล์และยาระงับอาการปวดเมื่อปี1999 จนอาการดีขึ้น
นอกจากนี้ ป้าCurtis เป็นแฟนคลับซีรีส์เกมWorld of Warcraft อีกด้วย
ป้าCurtis แต่งงานกับลุงChristopher Guest นักแสดง,ผู้เขียนบท และผู้กำกับ ตั้งแต่ปี1984 ทั้งคู่ได้รับอุปการะเด็กให้เป็นลูกบุญธรรมทั้งหมด2คน
ช่วงที่พ่อสามีได้เสียชีวิต สามีได้แต่งตั้งยศให้เป็น"ท่านบารอนHaden-Guestที่5" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เป็นเกียรติมากที่สุดของป้าCurtis
ป้าCurtis เคยเข้ารับการบำบัดอาการติดเครื่องดึ่มแอลกฮอลล์และยาระงับอาการปวดเมื่อปี1999 จนอาการดีขึ้น
นอกจากนี้ ป้าCurtis เป็นแฟนคลับซีรีส์เกมWorld of Warcraft อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia ขอบคุณรูปบางส่วนจากIMDb