Mad Hippie Vitamin C Serum | วิตามินซีเซรั่มที่อัด Active Ingredients มาถึง 8 ชนิด!
Wanviset 54 14
หากพูดถึงสกินแคร์ที่เราโปรดปรานแล้วหละก็ คงปฏิเสธิไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มที่มี Active หลักอย่าง Vitamin C มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของเราเสมอ แน่นอนวิตามินซีนั้นงานวิจัยรองรับมาอย่างยาวนานว่ามีประโยชน์กับผิวไม่ว่าจะเป็นด้านการช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยต่อต้านริ้วรอย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดจุดด่างดำ ฯลฯ อีกเพียบ
ตามปกติแล้วเรามักจะใช้ฟอร์ม Ascorbic acid เป็นหลัก แต่ด้วยความจำเจ และอยากลองอะไรใหม่ๆ วันนี้เราเลยเลือกหยิบ Vitamin C Serum จาก Mad Hippie ที่ใช้ Vitamin C ในฟอร์ม Sodium Ascorbyl Phosphate มาลองดู ปรากฏว่าพบลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้ไก่กาเลยนะยูว์ แต่จะเป็นยังไงนั้นไปชมกันเลยฮะ...
ตามปกติแล้วเรามักจะใช้ฟอร์ม Ascorbic acid เป็นหลัก แต่ด้วยความจำเจ และอยากลองอะไรใหม่ๆ วันนี้เราเลยเลือกหยิบ Vitamin C Serum จาก Mad Hippie ที่ใช้ Vitamin C ในฟอร์ม Sodium Ascorbyl Phosphate มาลองดู ปรากฏว่าพบลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้ไก่กาเลยนะยูว์ แต่จะเป็นยังไงนั้นไปชมกันเลยฮะ...
Mad Hippie Vitamin C Serum (30ml./1,680.-)
เซรั่มวิตามิน C อนุพันธ์ STAY C®50 เสถียรกว่าวิตามินซีทั่วไป ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้ากระที่ไม่ลึกมาก และริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระชับรูขุมขน ปรับสมดุลความมัน ลดโอกาสการเกิดสิว นอกจากนี้ยังมี Ferulic ที่ช่วยฟื้นฟูความเสียหายของผิวหน้า จากรังสี UV ได้ถึง 8 เท่า
Texture / Scent / Packaging
- Texture : เนื้อสัมผัสมาในรูปแบบเซรั่มแบบน้ำ สีเหลืองใส ให้ความรู้สึกบางเบาสบายผิวกว่าเซรั่มวิตามินซีหลายๆ ตัวที่มีส่วนของ Vitamin E และ Ferulic acid ที่เราเคยลองใช้มา
- Scent : จากที่เราลองใช้และได้พลิกดูรายละเอียดด้านข้างบรรจุภัณฑ์ ไม่พบส่วนประกอบของน้ำหอม ดังนั้นกลิ่นที่ได้จะเป็นกลิ่นของส่วนผสมแบบฉบับดั้งเดิม ซึ่งก็ไม่ได้รบกวนการใช้งานอะไร
- Packaging : เซรั่มขวดนี้บรรจุอยู่ในขวดแก้วสีชา พร้อมดรอปเปอร์ โดยรวมก็ดูน่าใช้งานดีแหละฮะ แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าถ้ามาในรูปแบบ Airless-Pump น่าจะเหมาะสมกว่าขอรับ
Key Ingredients
นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอื่นๆ อย่าง Vitamin E, Grapefruit, Chamomile Extract และ Clary Sage ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความกระชับ ยืดหยุ่นให้แก่ผิว สร้าง Protective Shield บางๆ ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย รวมถึงช่วยปรับสมดุลความมันให้ผิวไม่แห้งหรือมันจนเกินไป และช่วยต้านแบคทีเรีย/เชื้อโรค/สิ่งสกปกรกต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ได้อีกด้วย
Let's Try & Conclusion
จากที่เราได้ลองใช้ Mad Hippie Vitamin C Serum มาประมาณ 2-3 สัปดาห์ อย่างต่อเนื่องก็ต้องยอมรับว่านี่เป็น Vitamin C Serum อีกแบรนด์ที่ทำเนื้อสัมผัส และความรู้สึกหลังทาออกมาได้ดีมากทีเดียว ไม่ทิ้งความรู็สึกเหอะหนะไว้บนผิว ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ออกแดดแล้วผิวไม่ระคายเคืองเพิ่มขึ้น
ด้านผลลัพธ์ก็เป็นไปตามภาพด้านบน โดยเราขอสรุปให้เข้าใจง่ายเป็นหัวข้อดังนี้ :
แต่แน่นอนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ
- การอักเสบของสิว : ก่อนหน้านี้เรามีสิวขึ้นหลังจากทำ Intensive Detox แน่นอนว่า Mad Hippie Vitamin C Serum ไม่ใช่ยารักษาสิว แต่เราอยากบอกว่าเราระหว่าง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราไม่ใช้ยาแต้มสิวเลย แต่สิวที่ปูดเม็ดนั้นกลับไม่ปะทุและยุบตัวลงในที่สุด แม้ว่าจะหลงเหลือรอยแดงเอาไว้บ้างเล็กน้อยก็ตาม
- ความกระจ่างใสของผิว : เรามองว่าผิวของเรากระจ่างใสขึ้นในระดับที่น่าพึงพอใจทีเดียว เมื่อผิวกระทบกับแสงมีการ Reflect ที่ดีทีเดียวหละ
- ริ้วรอย : เนื่องจากเรายังไม่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยเท่าไหร่นัก บวกกับเราเพิ่งใช้ไป 1 ขวดดังนั้นเราจึงไม่สามารถฟันธงว่าเค้าช่วยได้มากน้อยแค่ไหนในระยะยาวขอรับ
- สมดุลความชุ่มชื้น & ความมัน : ทำออมาได้น่าประทับใจทีเดียว สามารถคงความชุ่มชื้นไว้ได้ดี โดยเฉพาะบริเวณ U-Zone ที่มักจะมีอาการแห้งเป็นพิเศษ ส่วนในด้านความมันด้วยความที่สภาพอากาศช่วงนี้ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่นัก ผิวเราเลยไม่ค่อยมันอยู่แล้วฮะ
แต่แน่นอนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ