Skincare Routine Update: อัพเดตสกินแคร์สุดหรูที่ให้งานผิวสวยฉ่ำเนียนเด้ง
Norawit Suwannakarn 77 15สวัสดีครับ
หลังจากที่เพื่อน ๆ หลายคนถามผมเข้ามาว่าผมใช้ผลิตภัณฑ์อะไรดูแลผิวบ้าง ถึงได้ดูฉ่ำโกลว์ วันนี้วันดีผมเลยถือโอกาสมารีวิว Skincare Routine ของผมในช่วงนี้ให้เพื่อน ๆ ทุก ๆ คนได้มึนยากันครับ
สำหรับตัวแรก ไม่สิขั้นตอนแรกของผมก็จะเป็นเจ้า Bichup Essence จากทาง THE HISTORY OF WHOO เฟิร์สเอสเซนส์ที่อุดมไปด้วยสมุนไพรสกัดสูตรจักรพรรดินีเกาหลี ซึ่งจะมาช่วยในเรื่องการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้เกิดฟื้นฟูที่ผิวของเรา ให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการลดรอยแดง-เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและเตรียมผิวให้พร้อมกับบำรุงในขั้นตอนต่อไปครับผม
โดยส่วนตัวแล้วผมต้องขอสารภาพเลยว่าซื้อน้องเขาเพราะขวดจริง ๆ ครับ ขวดนี้เป็นขวดเซรามิกเครื่องลายคราม ลาย Limited ของปี 2018 ไม่เคยอ่านรีวิวก่อนเลย เห็นขวดปุป ซื้อปัป แต่พอได้ใช้จริง ก็คือต้องบอกเลยว่าดีรจริง ๆ ครับ แนะนำเลย ถ้าหากใครกำลังหาพรีเอสเซน หรือ พรีเซรั่ม อยู่ในช่วงนี้ (ผมดองน้องเขาอยู่นานมากครับ ไม่ได้ใช้เลย จนเห็นว่ามันจะหมดอายุปีหน้าแล้ว เลยรีบหยิบมาใช้ครับ 555+)
2) Dior Prestige La Micro Serum De Rose Yeux
ขั้นตอนต่อมาคือการดูแลรอบดวงตาครับ ผมค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องดวงตาของผมมาก เพราะผมเป็นคนนอนดึกทำให้ตาผมค่อนข้างคล้ำ ผมเลยเลือกเซรั่มบำรุงตาจากทาง Dior ครับ เพราะผมชอบลูกเล่นของเขาที่เหมือนมีเครื่องนวดดวงตาในตัว เรียกว่าตอนลงที่ตาคือฟินมาก ๆ ครับ เหมือนได้ทำสปารอบดวงตาไปในตัว
โดยสำหรับเจ้าตัวเซรั่มเนี่ย เป็นเซรั่มที่ได้จากสารสกัดจากดอกกุหลาบกร็องวิลล์ ดอกกุหลาบตัวชูโรงของทาง Dior Prestige เลย ที่จะช่วยเติมสารอาหารกระตุ้นผิวรอบดวงตาของเราให้ดูกระจ่างใส รวมไปถึงลดอาการบวมและรอยคล้ำที่ตาครับ ที่สำคัญตัวเซรั่มกลิ่นดีมากและเนื้อไม่หนักเลยครับ ซึมเร็วมาก พร้อมลงตัวต่อไปเลย
3) Dior Prestige La Micro-Huile De Rose Advanced Serum
ในขั้นตอนการลงเซรั่ม ผมใช้เซรั่มสารสกัดดอกกุหลาบกร็องวิลล์จากทาง Dior เหมือนอายเซรั่มครับ เพราะตัวเซรั่มนี้เป็นเหมือนการเติมสารอาหารให้กับผิวของเราครับ ด้วยสารอาหารระดับไมโครกว่า 22 ชนิดในรูปแบบเม็ดไมโครเพิร์ลเล็ก ๆ เต็มขวด พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำมันกุหลาบช่วยให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายครับ
โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของเราคือการบำรุง ปรับสมดุลและซ่อมแซ่มผิวของเราให้แข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ เนียนนุ่ม และกระชับผิวหน้าครับ ซึ่งผมชอบมาก ๆ เลยสำหรับน้องตัวนี้ ในตอนแรกผมได้มาในขนาดขวดทดลองเล็ก ๆ แต่ผลลัพธ์คือดีมากเลยครับ ผิวหน้าดูละเอียดและเนียนขึ้น เรียกว่าต้องไปหาขวดใหญ่มาใช้ต่อเลยทีเดียว ส่วนเนื้อก็ไม่ได้รู้สึกหนักหรือเหนียวจนเกินไป สบายผิวมากครับผม
4) Lancôme Absolue Crème Fondante Soft Cream with Grand Rose Extracts & Premium Massaging Petal
เรายังคงอยู่ในธีมสารสกัดจากดอกกุหลาบจากฝรั่งเศส แต่คราวนี้เราย้ายค่ายมาทาง Lancôme แทนกับ Soft Cream ครีมเนื้อเบาสีชมพูอ่อนนวล จากสารกลัดของ Grand Rose Extract ของทาง Lancôme จากการคัดสรรจากดอกกุหลาบนานาพันธุ์และผสมผสานกันได้อย่างลงตัว กลายเป็นครีมเนื้อเบาตัวนี้ครับ โดยคุณสมบัติของน้องเขาเนี่ยจะช่วยผิวของเราแข็งแรง อิ่มฟู เนียนกระชับ ดูเด็ก และช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวอีกด้วย เรียกว่าไม่ต้องกลัวหน้าแห้งระหว่างวันเลย
และถ้าหากได้ลงครีมควบคู่ไปกับเจ้า Massaging Petal หรือที่นวดทรงกรีบกุหลาบสีทองที่ทำจากเซรามิกชั้นดีของ Lancôme ด้วยแล้วก็คือฟินมากกกกกกก เพราะนอกจากเขาจะช่วยนวดหน้าแล้วยังช่วยให้ครีมซึมลงผิวได้เร็วขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะที่ผิวหน้าเลย
5) Lancôme Absolue Precious Cells Global Youth Protector SPF 50 PA+++ 12H UVB/ UVA PPD
ถึงแม้เราจะลงสกินแคร์ไปครบแล้วหรือเยอะแค่ไหน แต่สิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยคือกันแดดครับ สกินแคร์ที่เราลงไปแทบจะไล่ผลเลยถ้าเราไม่ปกป้องผิวเราจากแสงแดดครับ โดยเฉพาะเมืองไทยของเราที่แดดจัดตลอดปี โดยผมขอแนะนำกันแดดจากทาง Lancôme ครับ กับเจ้า Global Youth Protection กันแดดเนื้อเบา แต่สามารถป้องกันผิวของเราจากแสงแดดได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง รวมไปถึงการกันมลพิษต่าง ๆ ภายนอกและยังช่วยบำรุงผิวอีกด้วยครับ ซึ่งส่วนแล้วผมชอบนะครับ เพราะเนื้อของน้องเขาเบาจริง ๆ ทากันแดดแล้วก็แต่งหน้าต่อได้เลย ไม่รู้สึกหนักหน้าหรือเป็นคราบ-หมองระหว่างวันด้วย แนะนำเลยครับ
และนี้ก็คือสภาพผิวของผมในช่วงนี้นะครับผม และหากใครสนใจตัวไหนก็ไปตำหรือลองกันได้เลยที่เคาน์เตอร์ของแบรนด์นั้น ๆ นะครับ แต่ที่สำคัญผมอยากฝากว่าการบำรุงผิวจะต้องใช้ระยะเวลาสักหน่อย อาจจะเป็นสัปดาห์ หรือ เป็นเดือนเลยก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าผลที่ออกมาต้องคุ้มกับที่เพื่อน ๆ ลงทุนแน่นอนครับ
สำหรับวันนี้ไปก่อนนะครับผม บะบาย