MY SKINCARE ROUTINE : เมื่อต้องรับมือกับรอยดำจากสิวใต้แมสก์ ใช้ตามนี้คือปังจริง!
Lazymonday
47
11
สวัสดีค่ะ ทุกคนนนนน :D
วันนี้เราจะมาแชร์ Skincare Routine ในช่วงนี้ ที่ผิวหน้ามีปัญหาสิวอย่างหนักที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ เพราะเกิดจากการแพ้แมสก์ นอกจากจะมีสิวขึ้นมาอย่างเยอะแล้ว ปัญหาที่ตามมาคือรอยสิวค่ะ
* มีสกินแคร์บางตัวที่เราตัดออก เพราะส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่าทำหน้าที่คล้ายกับบางตัว
และตัวที่เลือกมาเห็นผลมากกว่าค่ะ *
เราเลยจะมาแชร์วิธีดูแลผิวหน้าแบบเรา
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิว ลดการเกิดสิว และลดรอยดำที่ฝากไว้จากสิวค่ะ
เลี่ยงการแต่งหน้า : วันไปทำงานเราจะไม่แต่งหน้าเลยค่ะ ทากันแดดแป้งฝุ่นจบเลย เพราะสังเกตตัวเองแล้ววันไหนที่แต่งหน้าแล้วใส่แมสก์จะสิวขึ้นตลอด เลยงดการแต่งหน้าไปเลยค่ะ
เลือกแมสก์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า : ส่วนตัวเราใช้แมสก์กระดาษที่แข็งๆแล้วรู้สึกว่าขูดผิวหน้า ทำให้ระคายเคืองและเกิดสิวได้ง่ายมากค่ะ เลยเลือกแมสก์ผ้าที่นิ่มๆ ไม่เสียดสีผิวหน้ามาก
เลือกสกินแคร์ที่เหมาะต่อผิว : นอกจากสกินแคร์ที่เหมาะต่อสภาพผิวแล้ว ช่วงนี้เราจะเน้นเฉพาะสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวเท่านั้นค่ะ ไม่ทาเยอะเพราะจะทำให้อุดตันผิวง่ายมากค่ะ
ล้างหน้าให้สะอาด : ยังไงต่อให้ไม่แต่งหน้าก็ยังคำนึงถึงการล้างหน้าให้สะอาดอยู่ค่ะ วันไหนทากันแดดก็ต้องเช็ดด้วยคลีนซิ่งก่อนทุกครั้ง ค่อยต่อด้วยโฟมล้างหน้าค่ะ
________________________________________
ต่อไปก็เป็นขั้นตอนของสกินแคร์
ทุกตัวเราลองใช้เอง และเป็นความรู้สึกส่วนตัวหลังจากลองใช้นะคะ
สภาพผิวช่วงนี้
ผิวผสมค่อนไปทางแห้งบางช่วง จากที่ปกติผิวผสมค่อนไปทางมัน
มีปัญหาสิว และมีรอยดำรอยแดงจากสิวค่ะ
________________________________________
ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้ :
ที่หยิบตัวนี้มาลองเพราะเราเห็นว่าสกินแคร์ส่วนใหญ่เค้าอ่อนโยนต่อผิว และโฟมล้างหน้าสูตรนี้ลดสิว แต่ล้างแล้วไม่แห้งตึง เพราะปกติจะเจอโฟมที่ลดสิวคือทำให้สิวแห้งและปัญหาที่ตามมาคือผิวหน้าแห้งไปด้วยค่ะ
เรื่องความกระจ่างใสยังไม่เห็นผลแต่ชอบที่ล้างเสร็จผิวหน้าจะสดใสขึ้นเท่านั้นค่ะ
ราคา : 125฿
ปริมาณ : 100กรัม.
ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้ :
โทนเนอร์ตัวดังพอๆกับเซรั่มของเขา ตัวนี้ตอนแรกเราคิดว่าจะแรง จะใช้แล้วแพ้รึเปล่า เพราะมีส่วนผสมของ AHA BHA แต่พอใช้แล้วไม่รู้สึกระคายเคืองอะไรเลยค่ะ ไม่มีแสบหน้า แอบรู้สึกว่าพวกสิวอุดตันลดลงด้วยซ้ำ
*ข้อควรระวัง*
บางทีพอเช็ดจะชอบเป็นฟองๆสีขาวเล็กน้อย แต่ก็ซึมไปไม่มีปัญหาค่ะ
ราคา : 480฿
ปริมาณ : 150 มล.
ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้ :
น้ำตบตัวนี้มีสองสูตรนะคะ อีกสูตรจะเป็นสูตรริชเหมาะสำหรับผิวแห้งค่ะ ส่วนตัวที่เราเลือกมาจะบางเบามาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ สบายหน้าแบบใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลยค่ะ
ตัวนี้ช่วยลดพวกรอยดำได้ดี และหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะแต่ต้องใช้เวลาสักระยะเลยกว่าจะเห็นผลเรื่องรอยดำ เราใช้มา 2สัปดาห์ขึ้นถึงเห็นผลค่ะ และตัวนี้มีคนที่ใช้แล้วดีบ้างแพ้บ้างแนะนำให้ลองบริเวณอื่นก่อนลองที่หน้านะคะ เรื่องสกินแคร์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวจริงๆค่ะ
ราคา : 480฿
ปริมาณ : 170 มล.
ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้ :
เซรั่มตัวดัง เราพึ่งได้มาประมาณเดือนที่แล้ว ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่าผลลัพธ์คือเค้าช่วยลดรอยดำจากสิวได้ไว 2สัปดาห์ก็รู้สึกว่ารอยดำจากสิวที่เข้มจางลง และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอกันด้วยค่ะ เนื้อเซรั่มบางเบามาก(ย้ำว่ามากจริงๆ) เราทาได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลย ไม่เหนียวหน้าค่ะ
*เคยอ่านในเพจเค้ามาว่าขวดเซรั่มนี้กันUVได้ด้วยค่ะ ที่ต้องกันUVเพราะจะทำให้คุณค่าของวิตามินซีในขวดคงประสิทธิภาพได้ยาวนาน แม้เปิดใช้งานแล้ว เพราะส่วนใหญ่เราตั้งสกินแคร์ไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งก็อาจมีแสงแดดส่องถึงได้ค่ะ
ราคา : 690฿
ปริมาณ : 30มล.
ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้ :
ครีมสมูทอีอย่างที่รู้กันดีว่าช่วยได้หลายปัญหาสำหรับผิว ช่วยได้ทั้งปัญหาริ้วรอย รอยจุดด่างดำจากสิว และช่วยเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อครีมข้นๆสีขาวเลย เนื้อครีมจะค่อนข้างหนักมาก แนะนำใครที่หน้ามันควรใช้น้อยๆนะคะ ส่วนตัวเราชอบใช้ก่อนนอนเพราะบางทีใช้ตอนเช้าด้วยจะเหนียวหน้าหน่อยๆค่ะ แต่ถ้าวันไหนที่อากาศเย็นๆ ผิวหน้าแห้งก็สามารถใช้ได้ค่ะ
ราคา : 325฿
ปริมาณ : 40กรัม
________________________________________
หลังจากที่เราหันมาดูแลความสะอาดของใบหน้า ลดการแต่งหน้าแล้วสิวก็ลดลง
รวมถึงใช้สกินแคร์ตามที่รีวิวไว้ข้างบน ก็ช่วยลดพวกรอยสิวได้เยอะเลยค่ะ
คำว่าหน้าใสใกล้กลับมาแล้วววว ใครที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันสามารถลองไปปรับใช้ได้นะคะ
ช่วงนี้ปัญหาโควิดกลับมาอีกแล้ว อย่าลืมหมั่นล้างมือ ใส่แมสก์
และดูแลสุขภาพกันด้วยน้าาทุกคน TAKE CARE :D
LAZYMONDAY.CO.TH