สังคมเกาหลีกับความคลั่งไคล้ส่วนสูง
candy 47 12
มีสำนวนหนึ่งที่คนเกาหลีน่าจะคุ้นเคย นั่นคือ พริกเม็ดยิ่งเล็กก็ยิ่งเผ็ด อาจจะตรงกับคำพูดแบบไทยๆว่า เล็กพริกขี้หนู ซึ่งหมายึง แม้จะมีไซส์เล็ก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จได้
แต่ในยุคแห่ง Hallyu Wave คำกล่าวนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับคนเกาหลีในเรื่องส่วนสูงได้อีกต่อไป จากความค่านิยมที่ทำให้ผู้คนยึดมั่นว่า นี่คือหนึ่งเครื่องมือที่จะเป็นใบเบิกทางสู่โอกาสมากกว่าคนตัวเล็ก
แต่ในยุคแห่ง Hallyu Wave คำกล่าวนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับคนเกาหลีในเรื่องส่วนสูงได้อีกต่อไป จากความค่านิยมที่ทำให้ผู้คนยึดมั่นว่า นี่คือหนึ่งเครื่องมือที่จะเป็นใบเบิกทางสู่โอกาสมากกว่าคนตัวเล็ก
ในสังคมตะวันตก อาจจะมีคนมากมายที่ล้อเลียนเรื่องความสูงของ Tom Cruise (170 cm) หรือมหาซีรีส์อย่าง Game Of Thrones ที่ย้ำเรื่องฮีโร่ร่างเล็กอย่าง Jon Snow ( 173 cm) หรือจะเป็น Spider-Man คนล่าสุดอย่าง Tom Holland ที่ต้องจับคู่กับZendaya นางเอกที่สูงปรี๊ดจนมีโมเมนท์ที่ต้องก้มลงมอง
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ในโลกตะวันตก แม้ส่วนสูงจะเป็นคุณสมบัติชวนถวิลหามากกว่า แต่ยังมีนักแสดง/นักร้องที่ก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงโด่งดังในระดับนานาชาติโดยที่ส่วนสูงไม่ได้ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ อาจจะมีคนเยาะเย้ยให้เจ็บใจบ้าง แต่ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยเจอเรื่อง shaming ?
แฟนๆต่างรู้ดีว่า Ariana Grande และ Lady Gaga เป็นสาวไซส์มินิ แม้พวกเธอจะชื่นชอบจะใส่รองเท้าแพลทฟอร์มเพิ่มความสูงขึ้นมาอีกหลายนิ้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการสร้างความนิยมในหมู่แฟนๆ และยังสามารถเล่นมุกเรื่องส่วนสูงของตัวเองได้อย่างชิลๆ
เมื่อมีหลายคนในสังคมเกาหลีหันมาเชื่อว่า ความเตี้ยคือสัญลักษณ์หนึ่งแห่งความล้มเหลว
แม้ว่าจะมีผลสำรวจว่า วัยรุ่นเกาหลีตัวสูงมากขึ้น แม้แต่นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนกรุงโซลก็ยังออกปากว่า เด็กนักเรียนที่เดินตามท้องถนนหรือสถานีรถไฟดูสูงเกินคาด แต่การสำรวจส่วนสูงของชายชาวเกาหลีในช่วงอายุที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะพบว่าตัวเลขยังอยู่ที่ 170 -173 cm ส่วนผู้หญิงจะสูงเฉลี่ยนที่ 160 เศษๆ เช่นเดียวกัน
นั้นหมายความว่า มันเป็นเรื่องปกติที่จะได้พบชายเกาหลีที่สูงต่ำกว่า 175 cm
แต่สำหรับโจจองซอก พระเอกหนุ่มที่ถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยในวงการแสดง เพราะสูง 174 cm นักเขียนบทซีรีส์เคยใส่ฉากแฟนเก่าจิกกัดเขาว่าเป็นเจ้าเตี้ยเลยทีเดียว!
แม้ว่าเขาจะเปิดเผยในรายการ TV ว่า คิดว่าส่วนสูงของตัวเองดูใช้ได้แล้ว แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับมาตรฐานความสูงของพระเอกร่วมวงการคนอื่นๆ โจจองซอกอาจจะสูงเลยระดับบ่าของพระเอกรุ่นน้องหลายคนเพียงนิดเดียว
เมื่อหลายปีก่อน ความเห็นของนักศึกษาหญิงคนเดียวได้กลายเป็นบ่อเกิดของดราม่าระดับชาติ เมื่อเธอให้สัมภาษณ์กับรายการทาง KBS TV,ว่า "ส่วนสูงก็เปรียบเหมือนการแข่งขัน ผู้ชายที่สูงไม่ถึง 180 cm เป็นพวกขี้แพ้" ไม่เพียงแต่จะเรียกเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง นักกฎหมายบางคนได้ออกมาประนามสถานีที่เผยแพร่คำพูดเหยียดหยามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งนี้ออกมา คนดูถึงกับร่วมกัยฟ้องหมิ่นประมาท สำนักงานคณะกรรมการ
แต่นายแพทย์คิม ยางซูที่ได้ดำเนินธุรกิจคลีนิคเพิ่มความสูงแห่งหนึ่งได้ให้ความเห็นกับสื่อว่า นักศึกษาสาวเหล่านี้ก็แค่พูดในสิ่งที่ผู้คนคิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา เพราะที่เกาหลีใต้นั้น ความสูงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้เลยทีเดียว
แต่ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวของผู้คนจากคำพูดเหยียดนี้ ก็ยังมีผู้ที่ได้ยอมรับว่า แม้จะไม่ได้ตัวเตี้ยกว่าค่าเฉลี่ยส่วนสูงของชายคนเกาหลี แต่ก็ก็รู้สึกวิตกกังวลว่าคนรอบข้างจะไม่ยอมรับ ความสูงคือคุณสมบัติของผู้ชายที่ผู้หญิงถวิลหา แม้แต่การพึ่งบริการจากแม่สื่อเพื่อช่วยหาคู่ครอง หากไม่สูงตามค่านิยมก็อาจจะถูกใส่ลงไปในช่อง "ข้อเสีย" เนื่องจากชาวเกาหบีได้ให้ความสำคะญกับรูปลักษณ์เป็นที่สุด หากแต่งงานกับคนที่เตี้ยแล้วก็มีโอกาสที่จะให้กำเนิดทายาทที่เตี้ยตามไปด้วย
เคยมีผู้ชายที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าโกหกเรื่องส่วนสูงกับผู้อื่นมาตลอดและใช้ตัวเสริมในรองเท้าเพื่อให้ดูสูงใกล้เคียง 180 cm ซึ่งเป็นตัวเลขในอุดมคติของชาวเกาหลี มีคนมองว่า ความสูงระดับนี้จึงจะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งมาดแมนและสามารถดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างได้อย่างแท้จริง ความกดดันนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจหากต้องถอดรองเท้าต่อหน้าคนอื่นเพราะอาจจะถูกจับได้ว่าตัวไม่สูงจริง
เคยมีผู้ชายที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าโกหกเรื่องส่วนสูงกับผู้อื่นมาตลอดและใช้ตัวเสริมในรองเท้าเพื่อให้ดูสูงใกล้เคียง 180 cm ซึ่งเป็นตัวเลขในอุดมคติของชาวเกาหลี มีคนมองว่า ความสูงระดับนี้จึงจะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งมาดแมนและสามารถดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างได้อย่างแท้จริง ความกดดันนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจหากต้องถอดรองเท้าต่อหน้าคนอื่นเพราะอาจจะถูกจับได้ว่าตัวไม่สูงจริง
สื่อที่ช่วยกระตุ้นสังคมให้นิยมความสูง
นอกจากจะได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก สื่่อเกาหลีก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับความสูงขึ้นมาก มีรายการ TV มากมายที่นำเสนอคอนเทนท์ความดีงามที่เกิดขึ้นจากความสูง ทั้งรายการบันเทิงหรือจะเป็นสกู๊ปข่าว
ทุกๆปี จะมีหน่วยงานนำเสนอค่าเฉลี่ยส่วนสูงของชาวเกาหลีจากอดีตถึงปัจจุบัน และยังเปรียบเทียบกับประชากรจากประเทศใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศทางตะวันตกที่ประชากรหมู่มากเป็นชาวคอเคเชียนที่มีกรรมพันธุ์และปัจจัยอื่นๆที่ส่งเสริมให้มีรูปร่างสูง มีการเผยแพร่ความรู้และข้อมูลต่างๆเพื่อให้คนเกาหลีได้ปรับ lifestyle และโภชนาการจนทำให้พวกเค้านำหน้าเป็นชนชาติที่สูงที่สุดในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม มาตรฐานความสูงในอุดมคติของชาวเกาหลีนั้นไม่ได้อิงกับค่าเฉลี่ยความสูงของผู้คนส่วนใหญ่ ค่าเฉลี่ยของพระเอก K Drama นั้นไล่เลี่ยกับผู้ชายแถบ Scandinavia จะอยู่ที่ 180 เศษๆ เลยทีเดียว ดูจะอธิบายได้ชัดเจนว่าเหตุใดพระเอกที่มีส่วนสูง 174 cm จึงถูกจิกกัดหน้าจอว่าเป็นหนุ่มเตี้ย ในขณะที่ญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียงกันและมี beauty standard ตรงกันหลายประการนั้นยังมีพระเอกอีกหลายคนที่สูงน้อยกว่า 175 cm
เมื่อใดที่คนดังตัวสูงได้เปิดเผยในรายการ TV ว่าสูงมากขนาดไหน ปฏิกิริยาของคนร่วมรายการจะเต็มไปด้วยความประทับใจ ยิ่งสูงใหญ่ไม่ต่างจากพระเอก superhero จากตะวันตกก็ทำให้ผู้ชมปลาบปลื้ม ยิ่งมี social media ที่ส่งต่อข้อมูลภายในหนึ่งคลิก เสียงร้อง wow เรื่องความสูงของหนุ่มหล่อสัญชาติเกาหลียิ่งกระพือเป็นวงกว้าง
ภาพที่แฟนๆ K Drama คุ้นเคยคืออากัปกิริยาที่เรียกว่า มารยาทการย่อขา ที่เหล่านักแสดงตัวสูงใหญ่จะต้องฉีกขาออกเพื่อให้ช่างแต่งหน้าและสไตลิสต์เอื้อมมือถึง เ แม้คุณอาจจะคิดว่าการหาเก้าอี้มานั่งอาจจะดูสะดวกกว่า แต่มันเป็นภาพเบื้องหลังที่เรียกความสนใจจากแฟนๆได้เสมอ และพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเค้าต้องทำท่าแบบเดียวกันแทบทุกคนไป
การสร้างความโดดเด่นในวงการ K Pop
K Pop ได้ก้าวมาสร้างปรากฏการณ์ความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก แต่ก็เป็นวงการที่คับคั่งไปด้วยเหล่าไอดอลที่ดูจะคล้ายกันไปหมด พวกเค้าเต้นเก่ง รูปร่างเพรียวบาง แต่งกายด้วยสไตล์ที่เห็นก็รู้ทันทีเป็นไอดอล K Pop การสร้างกระแสใน social media เพื่อให้ผู้คนจดจำได้ย่อมเป็นการสร้างโอกาสให้ได้ "เกิด" ในวงการ เมื่อได้ลองคิดว่า ท่ามกลางไอดอลที่ต้องมารวมตัวกันทำกิจกรรมในรายการ TV และ event ต่างๆ สิ่งใดล่ะที่จะทำให้พวกเค้าดูโดดเด่นจนเห็นชัดได้ทันทีโดยไม่ต้องเพ่งว่าใครเป็นใคร
แน่นอนว่า ต้องเป็นส่วนสูงนั่นเอง
แม้วงการ K Pop จะแตกต่างจากวงการแสดงที่มีพระเอกเพียงไม่กี่คนที่สูงต่ำกว่า 180 cm ( แม้กระทั่งพระรอง ตัวร้าย นักแสดงสมทบจะยืนสูงกันเป็น tower กันไปหมดทุกคน) แต่จากการรวบรวมข้อมูลของ https://rlist.io/ ส่วนสูงเฉลี่ยไอดอลชายจำนวน 1,018 คนอยู่ที่ 177.5 cm นับว่าสูงเพรียวเมื่อเทียบกับส่วนสูงเฉลี่ยของคนทั่วไป และมีไอดอลชายเพียง 20% ที่สูงต่ำกว่า 175 cm
สังคมเกาหลีมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการบูชาความงามอันสมบูรณ์แบบ เมื่อก่อนนั้น ผู้หญิงอาจจะไม่ได้ใฝ่ฝันว่าจะต้องสูงปรี๊ดเกินมาตรฐานไปเยอะๆ แต่ทุกวันนี้ social media จะยกย่องความงามของคนดังแบบเจาะกันเป็นส่วนๆ ผม ตา จมูก ปาก รูปหน้า อก เอว มาจนถึงเรียวขา
แฟนๆ K Pop คงทราบกันดีว่า fashion โชว์เรียวขานั้นอยู่คู่กับเกิร์ลกรุ๊ป แม้ว่าพวกเธออาจจะได้สลับมาใส่กางเกงขายาวบ้าง แต่ชุดที่สั้นระดับ micro นั้นจะถือว่าเป็นยูนิฟอร์มของไอดอลหญิงก็ไม่เกินไปนัก แน่นอนว่า ขาที่ดูยาวเรียวไร้ที่สิ้นสุดจะดึงดูดให้ชาวเน็ทมาร่วมวิจารณ์จนฮือฮา ไอดอลสาวที่สูงคล้ายกับนางแบบมักจะได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นเจ้าของรูปร่างสวยสมบูรณ์แบบ และกลายเป็น signature ติดตัว
สิ่งหนึ่งที่ชาวเน็ทรู้สึก "สนุก"ที่สุดคือการเปรียบเทียบสัดส่วนร่างกายของสาวตัวสูงกับอีกคนที่รูปร่างเล็ก ฟังดูแล้วอาจจะไม่แฟร์ ดังที่ได้รู้กันดีว่า ค่านิยมความผอมได้ฝังลึกในสังคมมาเนิ่นนาน หญิงสาวรูปร่างสูงแขนขายาว แม้จะมีน้ำหนักตัวมากกว่าสาวตัวเล็ก ก็อาจจะดูผอมบางกว่า ไอดอลสาวที่สูงเกิน 170 cm มักจะถูกกล่าวขวัญด้วยความชื่นชม ผู้คนจำนวนมากย่อมเล็งเห็นว่า นอกจากจะสวยและมี performance skill แล้ว ส่วนสูงก็เปรียบเหมือน boost ที่ช่วยให้ยิ่งเปล่งประกายกว่าใคร ถึงแม้จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน "วัฒนธรรมติ่ง" แต่แนวคิดบูชาความสูงย่อมพุ่งสูงตามอิทธิพลของ K Pop คนรุ่นใหม่
การขยายตัวของธุรกิจคลีนิคเพิ่มความสูง
เราอาจจะเคยเชื่อว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าวัยรุ่นจะเริ่มวิตกกังวลเรื่องส่วนสูง เพราะนี่คือช่วงเวลาที่คนเราเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์มากขึ้น แต่ที่เกาหลีใต้ โดยเฉพาะสังคมเมือง กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความกดดันเรื่องรูปร่างหน้าตาของบุตรหลาน หลายครอบครัวต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายกวดวิชา ศัลยกรรม และในช่วงปีหลังๆมานี้ ยังต้องมีงบสำหรับการเพิ่มความสูงให้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฮอร์โมนกระตุ้น และการเข้าคลีนิคแพทย์ทางเลือกเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจว่า บุตรหลานของพวกเค้าจะไม่เตี้ยแน่ๆ
หากไม่ถนัดเรื่องวิชาการ ก็ทุ่มเทความขยันและหาติวเตอร์มาช่วยดึงคะแนนให้สูงเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยได้ดี
หากหน้าตาไม่สวยงามตามพิมพ์นิยม ก็ทุ่มเงินให้กับคลีนิคศัลยกรรมจนดูดีขึ้นได้ทุกคน
นี่อาจจะเป็นค่านิยมปกติของชาวเกาหลีในการวางอนาคตให้กับเด็กๆ เรียนดี มีดีกรีที่สังคมยอมรับ รูปร่างหน้าตาสวยงาม นี่คือการปูทางเข้าไปสู่ชีวิตดีๆที่เต็มไปด้วยความสุข
แต่หากขาดความสูงไป พวกเค้าอาจจะถูกตัดโอกาสบางอย่าง เช่น การเข้าสู่วงการบันเทิง การเล่นกีฬาบางประเภท หรือจะเป็นบางอาชีพที่ได้กำหนดส่วนสูงขั้นต่ำเป็นคุณสมบัติในการคัดเลือกเข้าทำงาน ดังนั้นหลายครอบครัวจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะทำให้เด็กๆตัวสูงขึ้น ยิ่งครอบครัวที่มีกรรมพันธุ์ไม่สูงอันเป็นเรื่องปกติของชาวเอเชียน นอกจากจะต้องบำรุงสารอาหารต่างๆ และใช้ฮอร์โมนเติบโต คลีนิคเพิ่มความสูงก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่ผู้ปกครองมากขึ้น
เคยมีการวิเคราะห์ว่า วัฒนธรรมของชาวเกาหลีที่ให้ความสำคัญต่อการยอมรับจากคนส่วนใหญ่นั้นมีบทบาทสำคัญในเรื่องแนวคิดเรื่องความงามจนทำให้ชาติอื่นมองว่าเป็นนครแห่งการทำศัลยกรรม ความเชื่อที่ว่า หากใครมีรูปลักษณ์ที่แตะปริ่มๆอยู่ใต้มาตรฐานของคนทั่วไป ก็อาจจะพบกับความยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการ bully ที่เริ่มตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน การสมัครงาน การหาคู่ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความวิกตกกังวลในหมู่พ่อแม่ชาวเกาหลี รูปร่างเตี้ยอาจจะถูกครหาว่าเป็นความบกพร่องที่ถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม และยังไม่สามารถยอมรับได้ว่าลูกๆจะต้องพบกับความน้อยหน้าคนอื่น พวกเขาจึงต้องทุ่มเทด้วยวิธีต่างๆ เด็กหลายคนได้เข้าโปรแกรมฝึกโยคะ ฝังเข็ม ส่วนเรื่องอาหารเสริม แคลเซียม วิตามิน โสมบำรุงร่างกาย พ่อแม่ก็ต้องพร้อมจ่ายเสมอ
หนุ่มสาวชาวเกาหลีบางคนเคยเปิดเผยว่า เมื่อก่อนนั้น ไม่ได้คิดน้อยเนื้อต่ำใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองหรือคิดว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงให้ดูดึงดูดใจตาม beauty standard แต่เพราะได้รับการปลูกฝังจากพ่อแม่ (โดยเฉพาะแม่) อยู่เมื่อเชื่อวันว่า หากไม่ใส่ใจเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองดูดีมากยิ่งขึ้นก็ย่อมทำให้พลาดโอกาสดีๆหลายอย่างในชีวิต คุณจึงได้เห็นภาพเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ประสาในคลีนิคเพิ่มความสูง
โช ซังฮัน หัวหน้าสำนักข่าว New York Times ประจำกรุงโซลเข้าของพูลิตเซอร์ ได้ตีแผ่ถึง norm อันนี้ว่า พ่อแม่ที่มีฐานะทางการเงินดีจะไม่ลังเลใจที่จะจ่ายเงินให้กับคลีนิคเพิ่มความสูงเพื่อเพิ่มโอกาสดีๆในชีวิตให้กับลูกๆ และป้องกันไม่ให้พวกเค้าต้องพบกับการ bully ที่จะกลายเป็นความเจ็บปวดฝังใจ เด็กๆก็หันมาเชื่อมั่นว่า หากเอื้อมถึงความสูงตามเป้าหมายได้แล้ว สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นตามมา
คลีนิคเหล่านี้ช่วยให้เด็กๆสูงได้สมใจพ่อแม่หรือไม่ ? หลายคนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น เพราะ นอกเหนือจากวงการบันเทิง เด็กรุ่นหลังก็มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากที่เคยถูกมองว่าเป็นชนชาติเอเชียนรูปร่างเตี้ย แต่ในตอนนี้ คุณสามารถพบหนุ่มๆที่สูงใหญ่เหมือนกับเซเลบได้บ่อยๆในกรุงโซล แต่ก็มีคำทัดทานจากนักวิจัยบางคนว่า ไม่ควรเชื่อคำโฆษณาเพียงเพราะเห็นภาพ Before - After เพราะไม่ใช่ว่าผู้เข้าร่วมโปรแกรมเพิ่มความสูงทุกคนจะสมหวัง
ลี ดันบีและโมริก้า ซอค จาก ABC news ได้รายงานข้อมูลจากนายแพทย์คิม ยางซูว่า เด็กๆเกาหลีใต้มี lifestyle ที่ต้องทุ่มเทเวลามากมายไปกับการเรียนอยู่แล้ว การเข้าโปรแกรมเพิ่มความสูงในคลีนิคนั้นย่อมสร้างความเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้นไปอีก วันใดที่ต้องไปคลีนิค กว่าจะได้นอนก็หลังเที่ยงคืน เพราะพวกเค้าไม่ได้มีเวลาว่างมากมายหลังเลิกเรียนเพราะต้องเรียนพิเศษ จึงเบียดบังเวลานอนไป ทั้งๆที่ปัจจัยสำคัญที่มีต่อความสูงคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังเป็นประจำและไม่สร้างความเครียด
ไม่ใช่เพียงแต่วงการบันเทิงที่ต้องเชิดชูเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก มีรายงานว่า ผู้ที่มีตำแหน่ง CEO จำนวนมากกว่า 500 คนที่สูงกว่า 183 cm รวมถึงผู้นำประเทศก็มีรูปร่างสูงใหญ่
ความสูงสามารถพลิกชีวิตให้พบแต่สิ่งดีงามจริงหรือ ?
คุณมีความคิดเห็นเช่นไรบ้างคะ ?
The End