หนาวนี้ผิวต้องรอด!!! ด้วย 4 ไอเท็มช่วยปกป้องผิวแห้ง ตึง แตก ลอก แบบอยู่หมัด

64 16

สวัสดีค่ะทุกคนนนนนน 


ในที่สุดประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูหนาวซะทีนะคะ เพราะไม่กี่วันผ่านมาต้องยอมรับเลยว่าอากาศบ้านเราหนาวม๊ากกกกก หนาวมากจริง หนาวจนรู้สึกเหมือนแกล้งกัน ฮ่าๆๆๆ


อากาศหนาวๆ แบบนี้ก็มาพร้อมกับความชื้นที่ลดลง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆ คนจึงมีผิวหน้าตึง แตก และแห้งลอก


แต่ผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำของเรา... รอดนะ

วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ไอเท็มที่คัดมาแล้วว่าช่วยป้องกันผิวตึงแตกแห้งลอกแบบอยู่หมัดมาฝากทุกคนกันค่ะ



แกงค์ที่เราหยิบมาในวันนี้ น้อยชิ้นแต่ให้ผลดีเอาเรื่อง

La Mer The Treatment Lotion 


ยกให้เป็นโลชั่นเทพ น้องเป็นโลชั่นที่บางเบาแต่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวดีงามขั้นสุดจริงๆ ค่ะ อากาศร้อนสุด หนาวสุดผิวก็รอด เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น แต่ไม่ชอบใช้อะไรที่หนักผิว เหนอะผิว ตัวนี้ตอบโจทย์มากเลย เราชอบลงแบบ 2 เลเยอร์ เพราะรู้สึกว่าผิวนุ่มเด้งสุดกว่าการลงแค่ครั้งเดียว เค้ามี Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแม้จะลง 2 เลเยอร์ ก็ยังรู้สึกเบาสบายผิวอยู่ ขวดนี้มีสารสกัดที่เรียกว่า The Revitalizing Ferment ที่มีสาหร่าย Marine Algae และแร่ธาตุจากท้องทะเล ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ ช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุล ปลอบประโลมผิว มีครั้งนึงที่อยู่ๆ ผิวหน้าของเรามีอาการคันยุบยิบและแดงเป็นปื้นๆ เราเลยลองลงน้องเค้าไปหลายๆ เลเยอร์ ไม่ถึง 1 ชม. อาการคันยุบยิบและปื้นแดงหายไปเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย งงมาก น้องคนนี้ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปด้วยนะคะ ให้ผิวเนียนนุ่ม เรียบเนียน ช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ใช้ทุกวันเช้า-เย็น จะได้ผิวละเอียด รูขุมขนกระชับม๊ากกก เมคอัพแน่นตึ๊บติดทนตลอดทั้งวัน 

PANPURI Lotus Defense™  Face Treatment Oil


Clean Beauty แบรนด์ดังของไทย มีส่วนผสมของธรรมชาติ และออร์แกนิค 100% น้องเค้าคือออยล์บำรุงผิวหน้าที่ให้ความชุ่มชิ้นอย่างล้ำลึก คนที่มีสภาพผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำแบบเราถูกใจสิ่งนี้มากค่ะ  ออยล์แต่ละตัวจะให้สัมผัสที่แตกต่างกัน สำหรับ PANPURI ตัวนี้ ครั้งแรกที่ได้ลองคือว้าวมาก เพราะเนื้อสัมผัสละมุนๆ นุ่มๆ บางเบา ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักผิว ให้ผิวโกลว์ดูสุขภาพดี เราใช้มาระยะนึงแล้วนะคะรู้สึกว่าช่วยให้ผิวโดยรวมดูเนียนละเอียดมากขึ้น กระจ่างใสมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวด้วยนะ จากสารสกัดที่ได้จากไวท์ ลูพิน สารสกัดจากดอกบัวหลวง และสารสกัดแดนดิไลออนที่เคลมว่าอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ อากาศหนาวๆ เย็นๆ แห้งๆ  แบบนี้น้องเค้าช่วยให้ผิวของเราผ่านด่านผิวแห้งลอกมาได้ ... เลิฟเลย

Kiehl's Pure Vitality Skin Renewing Cream


ใครที่ชอบความเป็นธรรมชาติตัวนี้ตอบโจทย์เพราะเป็นครีมบำรุงจากส่วนผสมธรรมชาติ ถึง 99.6% ส่วนผสมหลักของเค้าคือ น้ำผึ้งมานูก้า ราชินีแห่งน้ำผึ้งจากนิวซีแลนด์ และ รากโสมแดง ราชาสมุนไพร หนึ่งในตำรับบำรุงผิวพรรณอายุนับพันปีจากเกาหลี อะเหื้อ!! เคลมมาแบบจุกๆ น้องคนนี้จะช่วยฟื้นฟูปราการปกป้องผิวให้แข็งแรง ต่อต้านการสูญเสียความชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง เรียบเนียน และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ เราชอบใช้น้องเค้าทั้งเช้าและก่อนนอนเลย โดยเฉพาะอากาศเย็นๆ แบบนี้เหมาะกับครีมแบบนี้สุดๆ แหละ เนื้อสัมผัสจะเข้มข้นหน่อยนะคะ ดังนั้นใครรู้สึกว่าหนักผิวเกินไปให้วอร์มลงบนฝ่ามือและค่อยๆ กดลงบนใบหน้าเบาๆ หรือจะใช้วิธีการนวดก็ได้ เราเคยใช้แบบไม่วอร์มน้องเค้าแอบอุดตัน แง้!! แต่พอเปลี่ยนวิธีใช ้ก็ไม่เกิดการอุดตันอีกเลยค่ะ 

La Mer Crème de la Mer and The Moisturizing Soft Cream


วงการลาแมร์เป็นอีกวงการที่เข้าแล้วออกไม่ได้ 555 ทั้งสองสูตรนี้เป็นเนื้อครีมเข้มข้นช่วยฟื้นบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์และให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก สิ่งที่ดึงดูดเราไว้ก็คือ Miracle Broth™ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารจากสาหร่ายทะเล วิตามินซีและอี รวมถึงน้ำมันสกัดจากผลซิทรัส ยูคาลิปตัส และอัลฟาฟ่า ที่จะช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ช่วยให้เส้นริ้วและริ้วรอยลดเลือนลง ผิวกระชับ รูขุมขนแคบลง ช่วยปลอบประโลมผิวให้กลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เสริมปราการการปกป้องผิวตามธรรมชาติ ในทันทีที่ใช้จะสัมผัสได้เลยว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เหมาะแก่การหยิบมาใช้ทุกสภาพอากาศเลย ผิวแห้งลอกจากอากาศแห้งและหนาวเย็นคุณเค้าเอาอยู่ ผิวแห้ง แสบ แดง ระคายเคืองจากแสงแดดคุณเค้าก็เอาอยู่ ในวันที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันหนักหน่วงเราจะหยิบเจ้าลาแมร์นี่แหละมาใช้เป็นหลักเลย นอกจากนี้เค้ายังช่วยปรับปราการในชั้นผิวของเราให้แข็งแรงทนทานสมบุกสมบันต่อทุกสภาพอากาศและทุกมลภาวะด้วยนะ


Crème de la Mer  ต้องวอร์มครีมก่อนใช้ ส่วน The Moisturizing Soft Cream ทาครีมตามปกติ ไม่ต้องวอร์ม ถ้าให้เราเลือกใช้สูตรใดสูตรหนึ่งในสองสูตรนี้ เราขอเลือก Crème de la Mer เพราะเราชอบฟิลลิ่งตอนวอร์ม กลิ่นเอย เนื้อสัมผัสเอย อื้อหือ!! ฟิน ส่วน The Moisturizing Soft Cream สะดวกใช้ในวันที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือหมดเร็ว 555

สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะไม่เหมือนกัน เห็นผลช้าเร็วแตกต่างกัน และอย่าลืมเทสก่อนใช้ ปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ 





ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

แล้วพบกันใหม่

บ๊ายบายคร้า


Junjaowkha review

Junjaowkha review

สวัสดีค่ะ เราชื่อเล่นจันทร์เจ้านะคะหรือเรียกว่าอินก็ได้ค่ะ ในตอนนี้อายุของเราก็เข้าสู่เลข 3++ แล้ว ผิวหน้าก็แลดูจะย่ำแย่ ไม่อึดถึกทนเหมือนตอนสาวๆ ตั้งแต่ ปี 2019 นี้ จึงถือว่าเป็นปีที่เป็นการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเลือกใช้สกินแคร์ที่พิถีพิถันมากขึ้นเพราะเราเชื่อว่าการเลือกใช้สกินแคร์ดีๆ เป็นการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง

ช่องทางการติดตามหรือติดต่องาน

FB Page : Junjaowkha review
IG : junjaowkhareview
Youtube : Junjaowkha review
Line : intirala

FULL PROFILE