เปรียบเทียบ AINTEROL ไซลิทอล ไมเซลล่า VS AINTEROL หิมาลายัน ไมเซลล่า ต่างกันยังไง?
zowiefuzzy
48
10
สวัสดีค่ะทุกคน ช่วง Weekend ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ช้อปปิ้ง และได้ไปสอย Cleansing Water สูตรใหม่ (รึเปล่าไม่แน่ใจ) ของแบรนด์ AINTEROL มาลอง บอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เราใช้สูตรหิมาลายัน ไมเซลล่าของเค้าอยู่แล้ว ครั้งนี้ได้ตัว ไซลิทอล ไมเซลล่า มาลอง เลยคิดว่าหยิบมาทำรีวิวเปรียบเทียบให้ทุกคนได้ดูด้วยดีกว่า พร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า
เริ่มจาก AINTEROL Himalayan Micellar Cleansing Water ตัวนี้ที่เราใช้อยู่เป็นประจำหมดไปหลายขวดมากๆ ตั้งแต่สูตรแรกที่กลิ่นแรง แล้วมาปรับสูตรให้กลิ่นดีขึ้นแล้ว จนล่าสุดปรับหน้าตา Packaging ก็แล้ว เราก็ยังใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเห็นว่ามีเคยเพื่อนๆ หลายๆ คนรีวิวใน Jeban อยู่แล้ว เลยจะขอ recap เร็วๆ ละกันเนอะ
AINTEROL Himalayan Micellar Cleansing Water เป็น Cleansing Water สูตรธรรมชาติ100% คุณสมบัติเด่นคือ เค้ามีส่วนผสมของ เกลือหิมาลายัน ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุถึง 84 ชนิด ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทั้งยังปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวอย่างพาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารกันเสีย รวมถึงน้ำมันต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดสิวด้วย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบเป็นสิวผด หรือคนที่ผิวแพ้ง่าย แนะนำเลยสำหรับสูตรนี้ค่ะ
มาต่อกันที่สูตรล่าสุดที่เราเพิ่งได้มา AINTEROL Xylitol Micellar Cleansing Water สูตรนี้จะเหมาะกับคนที่โตขึ้นมาหน่อย เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ สูตรนี้จะเด่นในเรื่องช่วยยกกระชับผิว ช่วยลด และชะลอริ้วรอยก่อนวัย ทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ผิวแข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย แน่นอนว่าส่วนผสมยังมาจากธรรมชาติ100% เหมือนเดิม ปราศจากสารเคมี และน้ำมันที่เป็นอันตรายต่อผิว เหมาะกับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย แถมสูตรนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูอิ่มน้ำขึ้น ได้ทั้งเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง และยังได้บำรุงผิวไปในตัวด้วย
ซึ่งส่วนผสมที่สำคัญของสูตร Xylitol Micellar Cleansing Water ได้แก่
Hexapeptide-8 เป็นเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Tripeptide-1 เปปไทด์ที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงซ่อมแซมผิวที่เสีย และต่อต้านริ้วรอย
Sap Water น้ำจากต้น Birch Tree จากประเทศฟินแลนด์ ที่อุดมไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโน และเอมไซม์
Roselle Hydrosol Water ช่วยเผยผิวใส และลดเม็ดสีผิว
Xylitol ช่วยบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น
Sodium Hyaluronate ช่วยเติมน้ำให้ผิว
Glutathione ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
Arginine + Lysine HCl + Glycine บำรุงชั้นผิวภายใน ให้ผิวเฟิร์มกระชับ เรียบเนียน และแข็งแรง
ต่อไปเราจะมาทดสอบประสิทธิภาพในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางดูว่า เค้าทำได้ดีเหมือนสูตร Himalayan Micellar ที่เราใช้เป็นประจำอยู่หรือเปล่าค่ะ
AINTEROL Xylitol Micellar Cleansing Water เป็นน้ำใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีค่ะ
เราลองป้ายเครื่องสำอางที่ใช้เป็นประจำทุกวัน แล้วลองเช็ดให้เห็นกันชัดๆ
พบว่า สามารถเช็คเครื่องสำอางที่ไม่ได้กันน้ำได้ในการเช็ดครั้งแรก แต่ถ้าเป็นพวกอายไลเนอร์ และมาสคาร่ากันน้ำใดๆ คือต้องเช็ดอยู่ประมาณ 3 รอบจึงจะหมดจดค่ะ
ต่อไปเรามาลองเช็ดเครื่องสำอางบนหน้ากันบ้างค่ะ ผิวหน้าหลังกลับจากทำงานกำลังมันเยิ้มได้ที่พอดีเลย
วิธีใช้ ใช้เช็ดเครื่องสำอางตามปกติเลยค่ะ เช็ดตามรูขุมขนออกไปทางกรอบหน้า สามารถเช็ดได้ทั้งหน้า ปาก ตา เลยค่ะ
บริเวณเปลือกตาที่เป็นอายไลเนอร์กันน้ำ เราจะโปะสำลีไว้ประมาณ 20 วินาที แล้วค่อยๆ เช็ดออกอย่างเบามือ แต่ถ้าอย่างมาสคาร่าที่อาจจะเป็นก้อน เช็ดออกยากมากๆ แนะนำว่าให้ใช้ควบคู่กับ Eye Remover จะดีกว่า หลีกเลี่ยงการใช้สำลีเช็ดบริเวณเปลือกตาแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยตามมาได้นะ
เราเช็ดเครื่องสำอางหมดจดทั้งหน้า ใช้สำลีอยู่ที่ 4 แผ่นค่ะ (แผ่นที่ 4 ก็คือแทบจะไม่มีเครื่องสำอางติดอยู่บนสำลีแล้ว)
หลังเช็ดเครื่องสำอางเสร็จเรียบร้อย ถ้าต้องการแต่งหน้าใหม่ก็สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องล้างด้วยโฟมล้างหน้าอีกรอบ สะดวกมากๆ แถมยังไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึงด้วยนะ
AINTEROL Xylitol Micellar Cleansing Water ขนาด 300 ml./ ราคา 555 บาท ตอนนี้ใน Shopee มีโปร 1 แถม 1 อยู่ด้วย ใครอยากลองรีบไปหาเพื่อนหารเลย ก่อนหมดโปรนะจ๊ะ
สรุป ความแต่งต่างของทั้ง 2 สูตร สำหรับคนขี้เกียจอ่าน
AINTEROL Himalayan Micellar Cleansing Water เป็น Cleansing Water ที่มีส่วนผสมของเกลือหิมาลายัน เด่นในเรื่องช่วยลดการระคายเคืองของผิว
AINTEROL Xylitol Micellar Cleansing Water เป็น Cleansing Water ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ที่เด่นในเรื่องการยกกระชับผิว ชะลอ และลดริ้วรอย
ทั้ง 2 สูตร เป็น Cleansing Water สูตรธรรมชาติ 100% เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย บอบบาง ไม่มีสารเคมีอันตรายที่ก่อให้เกิดการแพ้ รวมถึงไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ทำให้อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว
สำหรับเรื่องการทำความสะอาดเครื่องสำอาง ทั้ง 2 สูตร ทำได้ดีไม่ต่างกัน เพื่อนๆ ที่สนใจ ก็สามารถเลือกสูตรให้เหมาะสมกับผิวหน้าของตัวเองได้เลยจ้า
สำหรับวันนี้ ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้นะคะ บ๊ายบาย