เรื่องน่ารู้ของรางวัลแดซังในวงการเกาหลี

56 4


เมื่อก่อนนั้น เราเคยเข้าใจว่า "รางวัลแดซัง" เป็นชื่อหนึ่งของเวทีรางวัลของคนวงการบันเทิงเหมือนกับรางวัลแพคซังหรือเวทีอื่นๆ แต่หลังจากที่ได้เกาะติด Hallyu Wave มาได้หลายปีก็พบว่า นี่ไม่ใช่รางวัลที่ขึ้นอยู่กับกองการประกวดเจ้าเดียว แต่เป็นเครื่องหมายในการยกระดับคุณภาพคนบันเทิงที่สำคัญ จนอาจจะเปรียบเทียบได้ว่า หากยังไม่สามารถคว้ารางวัลนี้ได้ ก็อาจจะไม่สามารถพูดได้ว่าเป็น superstar ที่เจิดจรัสครบทุกด้านอย่างแท้จริง


ลองมาติดตามเรื่องราวน่าสนใจของรางวัลแดซังกันได้เลยค่ะ




รางวัลแดซังคืออะไร



รางวัลแดชํง คือรางวัลสูงสุดของการประกาศรางวัลเกียรติคุณจากเวทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายการแสดง หรือสายดนตรี แม้ว่าจะมีการจัดหมวดหมู่รางวัล "ยอดเยี่ยม" ไว้แล้ว แต่รางวัลแดซังนั้นจะเทียบกับรางวัลเกียรติยศสูงสุดประจำปีที่มีเพียงรางวัลเดียว ไม่แยกชาย-หญิง ในการประกวดที่ยิ่งใหญ่อย่างแพคซัง ผู้เข้าชิงไม่จำเป็นต้องเป็นนักแสดง ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้อาจจะเป็นพิธีกร ผู้กำกับ นักเขียนบท กล่าวได้ว่า กว่าจะได้รางวัล ก็ต้องฝ่าฟันการแข่งขันจากผู้แข่งขันร่วมวงการทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง  เฉือนกันอย่างลำบากยากเย็นขึ้นไปอีก

สำหรับรางวัลแดซังสายดนตรี    เวที่ต่างๆจะมีเกณฑ์ในการวัดความนิยมของศิลปิน เช่น ตัวเลขยอดขายต่างๆ  การโหวตจากแฟนๆและคะแนนจากรรมการ  ด้วยมาตรฐานการวัดความนิยมสูงสุดของแต่ล่ะเวทีที่แตกต่างกัน ทำให้ในบางครั้งแฟนๆอาจไม่พอใจในผลการตัดสินเพราะเชื่อมั่นในตัวเลขยอดขายและการโหวตทางฝั่งตัวเอง   โดยเฉพาะแฟนคลับของไอดอลที่เป็นคู่แข่งกัน    แต่เมื่อถูกเรียกร้องขอความเป็นธรรม ผู้จัดก็ได้ให้เหตุผลว่า มีการคำนวณการคัดเลือกผู้คว้ารางวัลที่สุดแห่งปีอย่างเที่ยงธรรมแน่นอน


การคว้าแดซังที่ทำให้สายจิ้นต้องเขินแทน


ที่จริงแล้วก่อนที่จะตอกย้ำความสำเร็จจาก Crash Landing On You ฮยอน บิน เคยได้รับรางวัลแดซังมาหลายปีก่อนหน้า และเป็นแดซังจากเวทีที่มีชื่อเสียงเก่าแก่อย่างการประกาศรางวัลแพคซังอีกด้วยค่ะ เขาสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดนี้ได้จาก Secret Garden ผลงานที่ยังตราตรึงใจแฟนๆ K Drama ที่ต่างประเทศยังดังมากขนาดนี้ กระแสตอบรับในเกาหลีเข้าขั้น fever พวกสินค้าที่เกี่ยวกับ Secret Garden คือเทรนด์ดังแห่งปี และทำให้ฮยอนบินก้าวมาถึงรางวัลแดซัง ( จากที่เคยรับบทนำในคิม ซัมซุน ซีรีส์เรตติ้งสูงเป็นประวัติการณ์เกิน 50%)

แต่แม้ว่าจะโด่งดังถล่มทลายขนาดนั้น  ภาพการรับแดซังของฮยอน บินก็ไม่ได้ดูสวยหรูนัก  เนื่องจากเจ้าตัวยังรับใช้ชาติในกรมทหาร  ได้แต่ส่งภาพวีดีโอมาแสดงความยินดีและขอบคุณทุกฝ่ายด้วยท่าทางเข้มแข็ง

การขึ้นเวทีมารับรางวัลของนักแสดงนั้นจะผ่านการร้อยเรียงถ้อยคำมาอย่างสวยงาม  บางคนจะพรรณนา ถึงความผูกพันที่มีต่อตัวละครที่ทำให้พวกเค้าได้รับรางวัล  ฮยอน ยินก็เป็นหนึ่งในนั้น   เมื่อได้รับการประกาศชื่อว่า เป็นผู้ชนะรางวัลแดชังจากเวที APAN Star Awards   เขาบรรยายว่ายุน เซรี ที่เป็นคู่รักที่ดีงามที่สุดสำหรับรี จองฮยอก  และขอบคุณซอน เยจินที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วยให้บทรี ของฮยอกโดดเด่นขึ้นมาได้   บรรยากาศที่อบอวลรอบตัวพระเอกหนุ่มหล่อก็ดูจะเป็นสีชมพูขึ้นมาทันที   เพราะหลังจากที่ชาวเน็ทเชียร์กันอย่างเต็มที่   ทั้งคู่ก็ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ที่หวานล้นออกมานอกจอ จากเพื่อนร่วมงาน ก้กลายมาเป็นคู่รัก superstar  และยังสร้างความอื้ออึงด้วยข่าวลือการสละโสดในเร็วๆนี้!


ไม่น่าแปลกใจที่ซอน เยจินไม่ได้เข้าร่วมการประกาศรางวัล  เธอฝากขอโทษขอโพยที่จัดตารางงานไม่ลงตัว  แต่หลายคนก็เดาว่า  ด้วยแบบแผนการรักษาชื่อเสียงของคนดังเกาหลีที่จะเก็บเรื่องความสัมพันธ์ไว้อย่างลึกลับ  ถึงจะแต่งงานแต่งการกันไปก็ไม่ได้ออกงานแพคคู่ให้เป็นเป้าสายตาสื่อกันบ่อยเท่าใด    ตอนนี้ข่าวการคบกาอย่างเป็นทางการของคู่นี้ยังเป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายจับตามองกันอย่างใกล้ชิด     เราจึงไม่ได้เห็นพวกเค้าจับคู่ออกงานเหมือนช่วงโพรโมทซีรีส์  แม้ว่าซอน เยจินจะได้รับบรางวัล KT Seezn Star  (รางวัลที่ได้รับการโหวตจากคนทางบ้าน) จากเวทีเดียวกันก็ตาม



ดาราดาวรุ่งมีสิทธิ์คว้าแดซังหรือไม่ ?

ระบบอาวุโสที่ขึ้นชื่อลือชาของเกาหลีนั้นอาจจะทำให้บางคนกังขาว่า ในวงการ K Drama นั้น นักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่ได้มีผลงานโด่งดังมากมายมาก่อนหน้าจะมีโอกาสได้เข้าชิงแดซังหรือไม่


เท่าที่สำรวจมา  ดูจะมีโอกาสไม่สูงเลยค่ะ...   ส่วนใหญ่นักแสดงที่เคยรับรางวัลนี้จะเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในวงการและพิสูจน์ความสามารถจากมากมายหลายรางวัลมาก่อน แต่ก็กเคยมีนักแสดงวัยยี่สิบที่ได้แดซังมาแล้วเช่นกัน
 อี บย็อนฮ็อนผู้ที่นับเป็นนักแสดงที่ชาวเกาหลีภาคภูมิใจอาจจะได้รับรางวัลมาแล้วเยอะแยะไปหมด  เริ่มต้นเข้าวงการในยุค 90s เขาก็กวาดรางวัลรัวๆ  ไม่ว่าจะเป็นรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมหรือยอดนิยม  แต่กว่าจะมาคว้าแดซังมาได้เป็นครั้งแรกก็เมื่ออายุ 33   เรียกได้ว่า บารมีนักแสดงชั้นนำเจิดจ้าเต็มที่ สมศักดิ์ศรีรางวัล ไม่ต้องมีดราม่าตามมา
ใน Hollywood   คุณอาจจะได้เห็น Jennifer Lawrence คว้ารางวัล Oscar ในวัย 22  และโด่งดังเป็นพลุแตก   ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ในวงการบันเทิงเกาหลี  แต่รางวัล
สูงสุดอย่างแดซัง  จะเป็นนักแสดงที่เป็นที่ยอมรับเรื่องฝีมือการแสดง และผลงานที่มีเรตติ้งสูงลิบลิ่วและกระแสความนิยมจากแฟนๆ     คิม ซูฮยอน เป็นพระเอกที่คว้าแดซังจากเวทีต่างๆมาแล้วถึงหกครั้ง  และได้รับเกียติสูงสุดนี้ตั้งแต่ในช่วงอายุยี่สิบ     การันตีความโด่งดังในระดับ A Lister โดยไม่สามารถโต้เถียงได้เลย
คิม ซูฮยอนเคยได้เข้าชิงรางวัลแดซังจากผลงานพีเรียดเรตติ้งสูงปรี๊ด Moon Embracing the Sun ในขณะที่มีอายุเพียงยี่สิบต้นๆ   และคว้าแดซังแรกจากการแสดงจากซีรีส์ยอดฮิตอย่าง My Love From the Star       แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนแปลกใจก็คือ  ผลงานที่ทำให้เขาได้รับแดซังจากสามเวทีการประกวดก็คือ Producers   ซีรีส์ที่เรตติ้งเครื่องติดช้า กว่าจะเลย 15% ไปได้ก็ถึงตอนจบแล้ว ( และยังมีเพียง 12 ตอน ไม่ใช่ 16 ตอนตามปกติของซีรีส์เกาหลี)    หลังจากที่เขาคว้าแดซังรัวๆจากเรื่องนี้ก็ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อึ้ออึง เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับบทที่ซับซ้อนของนักแสดงคนอื่นๆที่ร่วมชิงชัย โดยเฉพาะจี ซองที่รับบทหนุ่มหลายบุคลิกใน Kill Me Heal Me    บทของ producer หนุ่มขี้อายดูจะไม่ได้ส่งเสริมความสามารถทางการแสดงให้เฉิดฉายเหมือนกับผลงานเรื่องที่ผ่านมา

แต่ล่าสุดที่เขาได้แดซังมาประดับชั้นวางอีกตัวจากผลงาน It's Okay to Not Be Okay ก็ยิ่งตอกย้ำสถานะพระเอกค่าตัวแพงที่สุดของวงการไว้อย่างแจ่มแจ้ง







นางเอกที่เป็นผู้ชนะรางวัลแดซังที่เด็กที่สุด


 ด้วยประสบการณ์ทำงานแสดงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก  อาจจะทำให้พูดไม่ได้ว่า มุน กึนยองเป็นดาราดาวรุ่งเมื่อที่ได้รับแดซังจาก SBS ในวัยเพียง 21 ปี   แต่มันก็กลายเป็นภาพในความทรงจำ  เมื่อสาวใสช็อคมากจนต้องช่วยลุ้นให้เธอรวบรวมคำพูดออกมาให้ได้  หากให้เดาว่า เหตุใดเธอจึงตื่นตระหนกมากขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะชื่อเสียงของแดซังที่ถูกจัดไว้สูงสุด   ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับลำดับอาวุโสเป็นอย่างยิ่งนั้น  รางวัลนี้อาจจะสร้างความกดดันให้เธอได้มากมายเช่นกัน  แม้จะปลาบปลื้มกับความสำเร็จมากเพียงใด  แต่ท่ามกลางสายตานักแสดงรุ่นพี่และคนที่อาวุโสกว่ามาก  มุนกึนยองจึงประหม่าจนต้องสะอึกสะอื้น พูดขอบคุณแบบฟังไม่ได้ศัพท์นัก

มุน กึนยองที่รับบทจิตรกรสาวจากซีรีส์พีเรียด Painter of the Wind ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์จากการร่ำไห้  เธอขอบคุณไป ร่ำไห้ไป  ดูน่าสงสารและน่าเข้าไปโอ๋สมกับฉายาน้องสาวแห่งชาติจริงๆค่ะ  



แดซังจากเวทีแพคซังที่ได้รับความน่าเชื่อถือว่าศักดิ์สิทธิ์จากมาตรฐานสูงลิบลิ่ว


ในเกาหลีใต้ มีเวมีรางวัลต่างๆ ผุดขึ้นมาใหม่ๆอีกหลายเจ้า รวมถึงการประกาศรางวัลของสถานีโทรทัศน์ Big 3 อย่างKBS, SBS และ MBC ที่จัดแยกกัน แต่ละเจ้าจะเพิ่มรางวัลพิศษเข้าไปราวกับว่าเป็นการเฉลี่ยให้ได้รางวัลกันอย่างทั่วถึง แต่จะมีรางวัลหนึ่งที่เรียกได้ว่าต้องขับเคี่ยวเชือดเฉือน มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่ากระแสความนิยม นั่นคือเวทีแพคซัง หรือ Baeksang Arts Awards ที่ถูกยกให้เป็นรางวัล Oscar แห่งเกาหลีใต้
ผู้ทีจะก้าวเข้ามารับรางวัลแดซังจากเวทีแพคซังแบบเดี่ยวๆได้นั้น บอกได้เลยว่าต้องมีบารมีดาราชั้นนำเต็มที่ เพราะบางครั้ง ผู้ชนะจะมาในนามของหนังหรือซีรีส์แบบยกทีม ไม่เจาะจงให้ดารานำเป็นพิเศษ เป็นเรื่องปกติที่รางวัลจะไปอยู่ในมือของคนเบื้องหลังอย่างผู้กำกับดังปีล่าสุดที่ บง จุนโฮ ผู้กำกับหนัง Oscar ที่ได้รับแดซังจากแพคซังไปแบบไร้ข้อกังขา

หรืออีกกรณีที่ตอกย้ำความศักดิ์สิทธิ์ก็คือ ผู้ชนะแดซังในหมวดโทรทัศน์ประจำ 2017 คือนักเขียนบทซีรีส์ Goblin คิม อึนซุก ไม่ใช่กง ยู ที่เป็นพระเอก  แต่เขาก็สามารถคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมที่ได้รับการยกย่องไม่น้อยหน้ากัน
สำหรับนักแสดงระดับ superstar ที่เคยได้รับรางวัลแพคซัง  คือจวน จีฮยอน จาก My Love From The Stars    บางคนอาจจะประเมินบท comedy  ไว้ไม่สูงนัก  แต่จริตสุดมั่นของชอน ซงอียังตราตรึงหัวใจแฟนๆ  หากเป็นคนอื่นก็ไม่อาจจะฟันธงได้เต็มที่ว่าจะทำให้ผู้ชมหลงรักและเฝ้าติดตามได้ในระดับที่เธอทำไว้ได้  หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือ  เป็นซีรีส์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการ remake  เพราะมันยากจะก้าวข้ามกับแบบฉบับเดิมจริงๆ


แต่ผู้ที่ครอบครองตำแหน่งราชินีแดซังก็คือ Kim Hye-ja นักแสดงอาวุโสที่เป็นนักแสดงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลแดซังจากเวทีแพคซังมาแล้วถึงสี่ครั้ง! วันเวลาที่หมุนไปอาจจะทำให้เธอเป็นที่รู้จักจากบทแม่ แต่ The Light in Your Eyesทำให้เธอได้ก้าวมารับรางวัลทรงเกียรติจากเวทีแพคซังอีกครั้ง และนั่นไม่ใช่บทแม่เหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นบทหญิงสาวที่ต้องอาศัยในร่างกายที่แก่ชรา ความสำเร็จของซีรีส์เคเบิลที่หลายคนมองว่าเป็นผลงานจากช่องเคเบิลนอกกระแสที่เรตติ้งไม่ได้สูงจนสร้างความฮือฮามาแต่แรก แต่กลับสร้างความนิยมได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับเสียงชื่นชมว่า นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว


มาตรฐานการตัดสินรางวัลของเวทีแพคซังได้ล้มล้างแนวคิดของหลายคนที่ยังเชื่อว่าว่า   แดซังเป็นรางวัลในหมวดหมู่ "ยอดนิยม"  หรือมีไว้เพื่อ "ปลอบใจ"ผู้ที่พลาดไปจากรางวัลใหญ่สาขาอื่นๆเท่านั้น แต่เป็นรางวัลที่ถูกยกให้อยู่สูงสุดที่ศิลปินในวงการพยายามก้าวไปให้ถึง   



ดราม่ารางวัลแดซังจากเวที MBC

เครดิตความศักดิ์สิทธิ์ของแดซังจากแต่ละเวทีก็ไม่ได้เหมือนกันไปหมด อย่างสถานี MBC ที่ตัดสินใจมอบรางวัลนี้ให้กับนักแสดงโดยตัดสินจากการโหวตจากแฟนๆนับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่า นี่ไม่ได้แตกต่างจากรางวัลยอดนิยม และที่จริงแล้ว การประกาศรางวัลที่มุ่งคัดเลือกให้แต่ศิลปิน/คนทำงานเฉพาะจากสถานีที่เป็นผู้จัดงานเป็นหลักก็ดูน่าเชื่อถือน้อยกว่าการประกวดที่ยอมรับผลงานจากทุกค่ายอย่างเปิดกว้างอยู่แล้ว ตัวนักแสดงที่คว้าแดซังจากการโหวตของทางบ้านก็อาจจะถูกพาดพิงในแง่ลบด้วยซ้ำไป


ดราม่าทิ้งท้ายก่อนที่ MBC จะเปลี่ยนมาใช้การตัดสินแดซังด้วยกรรมการดังเดิมก็คือ รางวัลแดซังของอี จองซอกจากผลงานเรื่อง W: Two Worlds เนื่องจากชาวเน็ทหลายคนจิกกัดอย่างเผ็ดร้อน หลังจากเขากล่าวขอบคุณอย่างสั้นๆ ไม่ได้บรรยายให้เห็นภาพเยิ่นยาวเหมือนที่นักแสดงอีกหลายคนได้ตระเตรียมคำพูดมาให้ฟังซาบซึ้งกินใจ ทำให้พระเอกภาพลักษณ์ดีต้องถูกกล่าวหาว่าไม่ให้เกียรติรางวัลและผู้ชม


ดังที่พวกเราได้ยินมาตลอดว่าสังคมเกาหลีตั้งความหวังให้ดารานักนักร้องแสดงภาพที่สมบูรณ์แบบจนขึ้นชื่อลือชา ลี จองซอกต้องรับมือกับเสียงโจมตีและยังถูกขยี้เรื่องวิธีการตัดสินรางวัลสูงสุดของการประกวดด้วยการโหวต กลายเป็นว่า รางวัลแดชังแรกของพระเอกหนุ่มคนนี้ต้องมีถูกลากมาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวมัวหมอง การคว้าแดซังโดยไม่ได้ขอบคุณยาวเหยียดทำให้อี จองซอก ถูกตำหนิว่าเป็นพวกหลงตัวเอง ไม่มีมารยาท และซ้ำเพิ่มว่าไม่ได้แสดงเก่งกาจมากพอที่จะได้รับรางวัลสูงสุด ซึ่งเมื่อได้ชมก็น่าจะรู้สึกได้ไม่ยากค่ะว่า ในวินาทีนั้น เค้ารู้สึกตื่นเต้นและประหม่าจนอาจจะนึกคำพูดไม่ออก ได้แต่ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน และแฟนๆ รวมถึงสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานต่อไป

 หลังจากนั้นเค้าก็ได้ชี้แจงชัดเจนว่า ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตจนอาจจะไม่ได้กล่าวขอบคุณอย่างเหมาะสมออกไป     แต่คำประนามรุนแรงของชาวเน็ทจำนวนมากยิ่งชี้ชัดถึงความกดดันของคนดังที่ต้องวางตัวไร้ที่ติตามที่สังคมคาดหวัง 



กง ฮโยจินโลดแล่นในวงการยี่สิบปีกว่าจะได้แดซังตัวแรก


แฟนๆบ้านเรายกให้เธอเป็นนางเอกเคมีสาธารณะมาเนิ่นนานหลายปี   เธอมีหลากหลายผลงานเรตติ้งสูงลิบลิ่วและยังคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมาจากหลายเวที  และนั่นรวมถึงความสำเร็จจาก The Greatest Love ที่แฟนๆ "คลื่นเกาหลี"ในช่วงสิบปีที่แล้วยังจดจำความสนุกสนานได้ดี  เธอได้ขึ้นรับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีแพคซังอย่างภาคภูมิใจ  กง ฮโยจินได้นำเสนอฝีมือทางการแสดงไม่หยุดยั้งและเฉิดฉายในฐานะราชินี Romantic Comedy  ในขณะที่ผู้ชมหลายคนมีความเห็นว่า เธอไม่ใช่นางเอกเกาหลีที่สร้างแรงดึงดูดใจจากใบหน้าที่สวยเป๊ะตามมาตรญานความงามของชาติเกาหลี  แต่ยามที่ได้แสดงหน้ากล้องกลับมีเสน่ห์จับใจผู้คน  เรียกว่าเป็นจุดแข็งของเธอก็ไม่ผิดนัก



เมื่อเธอก้าวเข้าสู่วัยใกล้สี่สิบ ก็อาจจะมีคนที่คิดว่า  กง ฮโยจินได้ก้าวผ่านความ peak ไปแล้ว   ผลงานต่างๆก็อาจจะไม่ได้โกยเรตติ้งเหมือนที่แล้วมา  แต่ในปี 2019   เธอได้สร้างความฮือฮาด้วยการรับบทนางเอกหนัง Crazy Romance  ที่เล่าเรื่องราวความรักของผู้ใหญ่วัยทำงาน เพียงห้าวันแรกที่หนังลงโรงก็ขายตั๋วไปได้เกินล้านใบและสามารถขายลิขสิทธิ์ออกไปยังหลายประเทศ แต่ผลงานที่ทำให้เธอเอื้อมถึงแซังได้สำเร็จคือ When the Camellia Blooms   ซีรีส์ที่มีส่วนผสมอันแปลกใหม่ทั้งdrama , feel good และ thriller   จากที่เริ่มด้วยเรตติ้งที่ดูแผ่วๆแบบเลขตัวเดียวก็ปิดท้ายอย่างสวยงามที่ 23.8% เป็นอันดับหนึ่งในซีรีส์ที่ออนแอร์ในช่วงเวลาเดียวกัน  

หลังจากที่มีเสียงประกาศชื่อของเธอให้ขึ้นมารับรางวัลแดซังแห่ง KBS กง ฮโยจินก็ไม่ได้แสดงอาการที่ประหม่านัก แต่เมื่อพูดถึงความรู้สึกและความซาบซึ้งใจต่องเพื่อนร่วมงาน เธอก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ ส่วนกระแสตอบรับจากชาวเน็ทก็เต็มไปด้วยความยินดีและเชื่อว่านี่คือผลงานที่สมศัศักดิ์ศรีแดซังแล้ว แม้แต่นักเขียนบทก็ยังสร้างตัวละครดงแบ็คจากภาพของกงฮโยจิน แต่ด้วยตารางการถ่ายหนังที่ไม่ลงตัวทำให้เธอปฏิเสธไม่รับบทนี้ไปแล้ว นักเขียนไม่ได้ยอมแพ้ ส่งบทให้กง ฮโยจินดูเพิ่มเติมและพยายามชักจูงให้เธอเปลี่ยนใจรับบทดงแบ็ค ผลสรุปของเรื่องราวก็ดังที่พวกเราทราบ รางวัลแดซังตัวแรกของกง ฮโยจินนั่นเอง






ความกดดันของผู้ชนะ


แทบทุกครั้งที่นักแสดงพูดว่า "ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองคู่ควรกับรางวัลที่แสนยอดเยี่ยมอันนี้" ก็ดูจะเหมือนคำพูดถ่อมตนของสุภาพชน แต่สำหรับพัค เฮจิน เขาบรรยายชัดเจนว่า ตัวเองน่าจะมีโชคมากกว่าที่คว้าแดซังมาครอง แม้จะยินดีมาก แต่กลับไม่คิดว่าฝีมือของตัวเองเป็นสาเหตุหลักที่ได้รับชัยชนะ

" ผมคิดว่า50% มาจากโชค 40% มาจากคุณภาพของซีรีส์ และตัวผมคงจะช่วยอีก 10% เท่านั้นครับ" เขาถึงกับส่งข้อความถึงคนรู้จักเพื่อขอฌทษที่ตัวเองเป็นคนได้รับรางวัล และเข้าใจความรู้สึกของนักแสดงที่เปิดเผยความรู้สึกที่กดดันและความไม่แน่ใจในตัวเอง และทำให้เขารู้สึกหลายอย่างสับสนปนเปไปหมด ไม่ใช่แค่ความปลาบปลื้มอย่างเดียว แต่เฝ้าถามตัวเองว่า นี่กำลังตกที่นั่งลำบากอยู่รึเปล่า ต่อไปจะทำอย่างไร






รางวัลสูงสุดตัวนี้ฟังดูซับซ้อนไม่ใช่เล่น นักแสดงเจ้าของรางวัลแดซังผู้ใดที่คุณปลาบปลื้ม อย่าลืมมาเล่ให้ฟังด้วยนะคะ


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE