บอกต่อสูตรผิวขาวใสเนียนนุ่มกับสบู่เดอลีฟ ทานาคา (De Leaf Thanaka)
Beem Chuennapa 55 16 WITH <strong>Thanaka</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)ฮัลโหลวววว สวัสดีค่าสาวๆชาวจีบัน
วันนี้บีมมาบอกต่อเคล็ดลับที่บีมได้ลองใช้แล้วรู้สึกปลื้มมากกกก สาวๆหลายคนอาจจะกำลังมีความฝันที่อยากมีผิวขาว กระจ่างใส แต่จะขาวอย่างเดียวไม่พอผิวต้องดูสุขภาพดี ผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วยใช่มั้ยคะ วันนี้บีมมาแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวที่บีมลองแล้วว่าดี มาบอกต่อกับเพื่อนๆค่า
ผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวของบีมมีสามตัวหลักตัวนี้เลยค่ะ
ตัวช่วยของผิวกายเราครั้งนี้ก็จะมี
น้ำเกลือ น้ำเกลือที่มีขายทั่วไปตาม 7-11 เลยค่ะ น้ำเกลือไม่ได้แค่ช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดแผล แต่เขาช่วยในเรื่องของผิวกายและผิวหน้าได้อีกด้วยค่ะ ตัวนี้บีมเอาไว้เช็ดผิวก่อนอาบน้ำไม่ว่าจะเป็นหลังคอ ข้อพับแขน ข้อพับขา ข้อศอก หัวเข่า หรือตรงที่มีขี้ไคลเยอะๆเขาก็สามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกได้ในระดับนึงเลย ใครที่เป็นสิวก็สามารถเอามาเช็ดหน้าก่อนล้างหน้าได้ด้วยนะ
เบบี้ออยล์ ตัวนี้ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น และเขามี VitaminE ที่ช่วยบำรุงให้ผิวเนียนนุ่มอยู่ตลอดเวลา ช่วยลดการระคายเคืองของผิว ตัวนี้บีมจะใช้ทาผิวหลังอาบน้ำเช้าเย็นทุกครั้งเลยค่ะ แถมกลิ่นก็หอมซากุระด้วย
และมาที่นางเอกของเรา! De Leaf Thanaka Moisturizing & Whithening Soap (เดอ ลีฟ ทานาคา มอยซ์เจอไรซิ่ง แอนด์ ไวเทนนิ่ง โซป) ตัวนี้ก็คือหาซื้อได้ง่ายเช่นกันที่ 7-11 เลยราคาที่นักศึกษาสามารถเอื้อมถึง
หน้ากล่องของเค้าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยค่ะเพราะมาในรูปแบบธรรมชาติ เข้าไปเซเว่นหาไม่ยากแน่นอนค่ะ
เรามาดูส่วนผสมเขามั้งกันเลยดีกว่า
-ตัวหลักๆที่ขึ้นชื่อของแบรนด์นี้เลยก็คือ ทานาคา (Thanaka) ช่วยบำรุงผิว ป้องกันสิวอักเสบ ลดผดผื่น ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และมีสารต้านอนุมูลอิระอยู่มาก
- ตัวที่สองคือ ขมิ้นชัน (Turmeric) ตัวช่วยในการต้านแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ รักษารอยสิว และเขายังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้อีกด้วยค่ะ
-ต่อกันที่ตัวที่สาม Vitamin B3นั่นเอง ช่วยฟื้นฟูผิว ลดอาการแดง และระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวของเรานั้นชุ่มชื้น เขาช่วยให้ผิวของเราเรียบเนียนมากขึ้นด้วยค่ะ และเขายังช่วยกระชับรูขุม ควบคุมความมัน สาวผิวมันก็ใช้ได้เลย
-และเขายังมีVitamin E ช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นมากขึ้น ลดการเกิดริ้วรอย และช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
และสาวๆคนไหนที่ผิวแพ้ง่ายก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ เขา No Sodium Lauryl Sulfate (SLS) , Sodium Laureth Sulfate (SLES) ปราศจากสารทำให้เกิดฟอง ที่ทำให้ลดแรงตึงผิวของน้ำ ที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
ด้านในเขาใส่ซองมาให้อีกทีค่ะ คลีนๆสบายตามากที่สำคัญกลิ่นหอมๆแบบธรรมชาติ สบู่ก้อนใหญ่มากบีมคาดว่าน่าจะใช้ได้นานถึงสองเดือนเลยค่ะ บอกเลยว่าถูกแต่ดีที่แท้ทรู!
ด้านหน้าสบู่มีการแกะสลักเป็นรูปโลโก้ด้วยค่ะ น่ารักมาก ทำออกมาได้น่าใช้มากเลยทีเดียว ถูๆไปก็จะมีฟองขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าใครอยากได้ฟองเยอะๆ สามารถนำตาข่ายมาตีฟองถูตัวได้เลยนะคะ ฟองนุ่มมั๊กกก
ขณะใช้เรารู้สึกว่าเขาอ่อนโยนมากเลยอ่ะ ไม่กัด ไม่แสบผิวเลย สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย รู้สึกเพลินๆกับการอาบน้ำไปเลย กลับบ้านมาเหนื่อยๆพอได้อาบน้ำแล้วได้กลิ่นสบู่หอมๆก็คือรู้สึกสมองปลอดโปร่งมาก
และเรามาดูสูตรที่บีมทำเป็นประจำกันดีกว่า~~
เริ่มด้วยการตัดก้อนสบู่ออกมาเล็กน้อยค่ะ
ใส่ก้อนสบู่ที่ตัดไว้ลงไปในขวดค่ะ ตามด้วยการเทน้ำเกลือและเบบี้ออยล์ลงไปในปริมาณพอเหมาะนะคะ หลังจากนั้นเขย่าให้สบู่ละลายให้ดีเลยค่ะ
เมื่อน้องละลายดีแล้วเราก็นำมาอาบได้เลยค่า~
ผลลัพธ์ที่ได้หลังใช้ ประมาณ 1 เดือนก็คื้อออ สุดปัง นางเอาเรื่องอยู่น๊า รู้สึกว่าผิวเราเนียนขึ้นเยอะมาก แล้วเหมือนเค้าจะดูกระจ่างใสขึ้นด้วย บีมใช้ทั้งสามตัวนี้ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็นเลยค่ะ แต่จะได้ผิวแบบนี้เพราะสามตัวนี้อย่างเดียวไม่ได้เลยต้องควบคู่กับการมีวินัยกับตัวเองมากๆ ที่สำคัญก็คือ ทานน้ำเยอะๆ แล้วก็ช่วงนี้บีมจะชอบติดทานผลไม้ที่มีวิตามินซี กับวิตามินอี เยอะมากๆ อาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของผิวร่วมด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือการทาครีมกันแดด ใส่เสื้อแขนยาวคลุมก่อนออกจากบ้านทุกครั้งค่ะ ก็แดดที่ประเทศไทยไม่เคยอ่อนโยนกับผิวของเราเลยนี่คะ TT
De Leaf Thanaka Moisturizing & Whithening Soap (เดอ ลีฟ ทานาคา มอยซ์เจอไรซิ่ง แอนด์ ไวเทนนิ่ง โซป) ก็คือให้คะแนนแบบ 10/10 ไปเลย สบู่ที่ถูกและดีก็คือมีอยู่จริง อยากให้ทุกคนได้เปิดใจลองสบู่ตัวนี้มากๆค่ะ เพราะเป็นสบู่สมุนไพรด้วย อ่อนโยนต่อผิวด้วย คุ้มค่าแบบนี้ไม่ลองไม่ได้แล้วนะคะสาวๆ
และใครที่อยากลองทำตามบีมด้วยการใช้สูตรนี้ ก็อย่าลืมไปลองทำตามกันได้นะค่า
ฝากเน้นย้ำ ว่าอาหารการกินและความมีวินัยของเราก็สำคัญเช่นกัน
อยากได้ผิวสวยๆมาครอบครอง เราต้องอดทนนะคะสาวๆ