Tutorial101 เสกผิวให้สวยปัง..ไม่ว่าจะสายเกา หรือสายฝอ.
talach.makeup
66
23
Jeban x Estee Lauder
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน วันนี้อยู่กับตี้ TALACH MAKEUP ARTIST
คิดว่าเพื่อนๆคงคิดถึง หรือบางคนอาจจะลืมกันไปแล้ว จะบอกว่าไม่ได้หายไปไหนค่ะ ยังคงอ่าน TOPIC ต่างๆของเพื่อนๆชาวจีบันอยู่ แต่แค่ไม่ได้ออกมาเขียน วันนี้ได้โอกาสดีๆ เลยจะพามาชม Tutorial101 ที่ตี้ตั้งใจทำมาเป็นฮาวทูสอนแต่งหน้าที่ง่ายมากๆ และทุกคนสามารถแต่งตามได้แน่นอนค่ะ
วันนี้ตี้พาถึง 2 ลุคเลยค่ะนั้นก็คือ..
KOREAN MAKEUP VS WESTERN MAKE
การแต่งหน้าสไตล์สายเกา และ สายฝอ.
โดยทั้ง 2 ลุคจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยสายเกาในวันนี้ที่ตี้จะพามาแต่งจะเป็นลุคที่เรียกได้ว่าแต่งไปใช้ชีวิตประจำวันได้แน่นอนค่ะ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ชอบแต่งหน้าแต่ไม่อยากให้ดูแต่งหนัก ลุคนี้คือเหมาะมาก ต่อมาในส่วนของลุคสายฝอ. บอกเลยว่าจัดเต็ม ฝอ.แล้วต้องฝอ.ให้สุด ใครที่อยากเป็นสายฝอ.เต็มตัว เตรียมจดและแต่งตามได้เลยค่ะ ซึ่งบอกเลยว่า ปังแน่นอน และที่สำคัญ แต่งตามได้ง่าย วิธีการไม่ซับซ้อน
พร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ..
ไม่ว่าจะลุคไหนๆ ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการลงผิวยังไงให้ตอบโจทย์กับลุคนั้นๆ วันนี้ตี้เลือกใช้
ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE
เพื่อนๆหลายๆคนคงรู้ว่าทาง Estee Lauder เขามีตัวที่พูดถึง และเด่นมากๆ คือเจ้ารองพื้น Double Wear Foundation ตัวที่ตี้จะมาใช้ในวันนี้นั้นเองค่ะ รองพื้นที่เรียกได้ว่ายืนหนึ่งยาวนานมาจนถึงตอนนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาเป็นเรื่องพื้นที่เหล่าเมคอัพทั้งในไทย และระดับโลกเลือกใช้ จะปังขนาดไหน วันนี้ตี้จะพามาชมค่ะ…
ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE
ราคาขวดละ 2,000 บาท 30 ml
รองพื้นเนื้อลิควิด ที่เมื่อใช้แล้วจะให้ผิวที่เนียนเรียบไร้ที่ติ ให้ความปกปิด ติดทนยาวนาน แถมยังกันน้ำกันเหงื่อได้ดีมากๆ มีSPF10 เหมาะสำหรับสภาพผิวสาวเอเชียมากๆค่ะ มีเฉดสีมากถึง 20 เฉดสี ตี้บอกเลยว่าครอบคลุมเฉดสีผิวของสาวไทยแน่นอนค่ะ ด้วยความที่เขากันน้ำกันเหงื่อได้ดี ยิ่งเหมาะมากๆกับสภาพแวดล้อมที่อากาศร้อนอย่างประเทศไทย ตี้กล้าพูดเลยว่าปัญหาหน้าสังขยาจะหมดไปอย่างแน่นอนค่ะ ไม่ทำให้ผิวมัน และที่ตี้ชอบมาก คือเขาปกปิดได้ดีเยี่ยม แต่ยังคงให้ความบางเบา ไม่อึดอัดผิวค่ะ
ซึ่งวันนี้ตี้มีมาให้ชมกัน 3 เฉดสี (NC ประมาณ 25-27)
2N1 Desert Beige
3W1 Tawny
3N1 Ivory Beige
N : เนื้อโทน Neutral ให้สีที่ไม่ชมพูไม่เหลืองไป
W : เนื้อโทน Warm ให้สีออกไปในโทนสีเหลือง
ตี้ลองเอามาสวอซลงบริเวณใบหน้าช่วงกราม เทคนิคนี้จะช่วยให้เพื่อนๆได้สีรองพื้นที่ตรงกับเรามากที่สุด ตี้นำทั้ง 3 สีข้างบนมาลงบริเวณกราม จะเห็นได้ว่าสี 2N1 เข้ากับสีหน้าของตี้มากที่สุด แต่!!!!
แต่จะเห็นว่า 3N1 จะเข้ากับสีกรอบหน้าของตี้ เพราะอะไร.. เพื่อนๆหลายๆคนคงเจอปัญหาแบบเดียวกับตี้ คือการที่ใบหน้าเราสีไม่สม่ำเสมอ เพื่อนๆลองสังเกต ถ้าเห็บใบหน้าของเรากลางหน้าสว่างกว่ากรอบหน้า นั้นแสดงว่าคุณมีเฉดสีผิวหน้าที่ไม่เท่ากัน และไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นในเคสแบบเดียวกับตี้ การเลือกรองพื้นจะแยกไป 2 กรณี คือ
1.เลือกเฉดที่ขาว 2N1 : ถ้าอยากได้สีที่พอดีกับกลางหน้า นั้นเท่ากับบริเวณกรอบหน้าจะสว่างสีปกติ
2.เลือกเฉดที่พอดีกับหน้า 3N1 : ถ้าอยากได้สีที่พอดีกับทั้งใบหน้าให้เลือก 3N1 แล้วช่วงกลางหน้าถ้าสีไม่หมองก็ถือว่าเลิศ แต่ถ้าเกิดหมองแค่ใช้คอนซิลเลอร์สีสว่าง ใบหน้าของเราก็จะได้เฉดที่พอดีกับใบหน้าแล้วค่ะ..
ว่าแล้วไม่ให้เสียเวลา ไปดูลุคแรกกันดีกว่าค่ะ
KOREAN LOOK - ลุคเบสิคตามฉบับสายเกา
ตี้เลือกใช้ ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE สี 2N1 ผสมกับเซรั่มตัวโปรดของตี้อย่าง ESTEE LAUDER - ADVANCED NIGHT REPAIR เหตุผลที่ตี้นำทั้งสองตัวมาผสมเนื่องจาก ตี้อยากได้งานผิวที่ให้ทั้งความปกปิด และการบำรุงไปในตัว บอกเลยว่านำทั้งสองตัวมาผสมกัน เนื้อรองพื้นเราจะบางเบามากขึ้น การปกปิดลดลง แต่จะได้งานผิวที่เรียกได้ว่าผิวฉ่ำมากๆค่ะ
ตี้ทำการลงทั่วใบหน้าและใช้ฟองน้ำในการกดรองพื้น ค่อยๆกด เนื้อรองพื้นที่เราผสมกับเซรั่มจะค่อยๆเนียนไปกับผิว บอกเลยเทคนิคนี้แนะนำมากๆ ตี้ลองแล้วสบายผิวทั้งวันเลยค่ะ.. สุดท้ายแล้วเราจะได้ผิวที่ดิวอี้ และใสเหมือนดื่มน้ำมันละ 8 แก้วเลยค่ะคุณ…
ต่อด้วยการเพิ่มการปกปิด ตี้เลือกใช้ ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE สี 2N1 สีเดิมลงบริเวณใต้ตา แล้วใช้แปรงหัวพุ่มๆค่อยๆเกลี่ย เนื้อเขาจะเพิ่มความปกปิดของใต้ตาได้ดียิ่งขึ้น รองพื้นตัวเดียว จบครบ.. สะดวกมา ตี้ไม่ต้องใช้คอนซิลเลอร์เพิ่มเลยค่ะ..
ตี้เทียบให้ชมกับก่อนและหลังลงผิวด้วย ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE กล้าให้ซูมดูผิวเลยว่าให้ความฉ่ำจริงๆ แถมดูเป็นผิวที่ดูไม่หนา แถมยังดูสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ..
ต่อด้วยการเซ็ทด้วยแป้ง (Three - Translucent powder #02) ตี้จะไม่เซ็ททั้งหน้าแต่จะเลือกใช้การเซ็ทเฉพาะจุด นั้นคือบริเวณใต้ดวงตา และร่องจมูก จากนั้นจะทำการปัดแก้ม ตี้จะเลือกใช้บลัชออนสีชมพูอ่อนๆ (3CE Face Blush #pure cake) ลงบริเวณหน้าแก้ม แต่จะไม่ลงต่ำ และลงเป็นวงกลม การลงแบบนี้จะช่วยลดอายุของใบหน้าเราลงด้วยนะคะ
ต่อจากนั้นตี้จะทำการคอนทัวร์จมูกและกรอบหน้าด้วยสีน้ำตาล (Lilybyred - Mood it palette #01) จะเก็บจมูกบริเวณปีกจมูกเบาๆ และเกลี่ยให้ฟุ้ง ส่วนกรอบหน้าจะลงด้วยแปรงพุ่มใหญ่ๆ ปัดให้นัวร์ๆ จะได้กรอบหน้าที่มีมิติมากขึ้นค่ะ
ในส่วนของด้วยตา ลุคนี้ไม่เน้นอะไรมากมาย แต่งตามได้ง่าย
เลือกใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอมแดง (Bbia - Final Shadow Palette #04) ลงเบาๆบริเวณทั่วเปลือกตาบน
ลงสีเดียวกันบริเวณตาล่าง
ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอมเทาเข้ม ลงชิดโคนขนตา เพื่อเป็น Guide line ก่อนกรีดเส้นไลเนอร์
ใช้อายไลเนอร์ชนิดเจล (Loreal - Super liner 24H #02) เขียนเส้นไลเนอร์ เริ่มต้นจากหางตา
แล้วลากไลเนอร์ยาวตามความต้องการ ขั้นตอนนี้ต้องใจเย็นๆ จะได้เส้นที่คมและสวยมากค่ะ
ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า (Heroine Make - long and curl mascara)
ปัดขนคิ้ว (4U2 - Brow Coat) ให้ตั้งอย่างเป็นธรรมชาติ
ใช้ที่เขียนคิ้วแบบพู่กัน (Browit - Duo brow and eyeliner) เขียนวิงหางและเติมส่วนที่ขาดหายของคิ้ว
เรียบร้อยแล้วค่ะ ดวงตาและคิ้วที่เกาหลีสุดๆ
สุดท้ายก็เติมลิป ตี้เลือกเป็นสีชมพูอมม่วงๆนิดๆ (Bbia - Last Velvet Lip Tint #37) ทาเบาๆแล้วเกลี่ยด้วยแปรงให้ฟุ้ง แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับลุคนี้ บอกเลยว่าง่ายมากๆ
เป็นยังไงกันบ้างเพื่อนๆชอบลุคสายเกากันไหมเอ่ย.. ถ้าชอบก็อย่าลืมแต่งตามแล้วแท็กไอจีมาอวดกันด้วยนะคะ แต่ถ้าใครชมแล้ว แต่ยังไม่ใช่ ยังไม่ถึงใจ แนะนำลุคต่อไปค่ะ
WESTERN LOOK - ลุคปังๆตามฉบับสายฝอ.
ตี้เลือกใช้ ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE สี 2N1 บริเวณกลางใบหน้า และเลือกใช้ DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE สี 3W1 บริเวณกรอบหน้าและบริเวณที่ต้องการสีเข้มขึ้น จากนั้นตี้จะใช้ฟองน้ำเกลี่ยเหมือนเดิมทั่วทั้งใบหน้า เริ่มจากกลางหน้าและค่อยๆขยับออกไปค่ะ
ต่อจากนั้นตี้จะใช้ DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE สี 2N1 ลงบริเวณใต้ตาเพิ่ม เพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตา และใช้แป้ง (Three - Translucent powder #02) ลง BAKED บริเวณใต้ตา กลางหน้าผาก และใต้จุดคอนทัวร์กรอบหน้า จากนั้นตี้จะทำการใช้แปรงปัดออกค่ะ
ตี้มาเทียบให้ชมกัน ระหว่างก่อนลงผิวและหลังลงผิว เห็นความแตกต่างชัดเจน เขาปกปิดผิวได้ดีมาก ที่สำคัญไม่หนักผิวเลย ตี้สบายผิวมาก เหมือนไม่ทาอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าเลยค่ะ.. โอ้ยย ประทับใจมากๆ
ต่อด้วยขั้นตอนการทุบหน้า ตี้ทำการคอนทัวร์จมูกและกรอบหน้า (Dior - Backstage Contour Palette 001) รอบนี้จะเรียกว่าทุบ ไม่ปัดใสใสเหมือนสายเกาแล้วค่ะ บริเวณจมูกจะเก็บปีกจมูก ปลายจมูกและลากเชื่อมกับบริเวณหัวคิ้วเพื่อความเนียน ในส่วนอขงกรอบหน้า ก็จะลงต่ำกว่าโหนกลงมานิดหน่อย ไมต่ำจนเกินไปค่ะ
ต่อจากนั้นตี้จะทำการปัดแก้ม (Hourglass - Ambient lighting blush quad #ghost) ที่เรียกได้ว่าปัดยังไงให้ปัง คือการปัดนัวร์ๆวนๆให้สีปัดแก้มเราผสมเข้ากับคอนทัวร์ ใบหน้าของเราจะมีเฉดสีที่สวยมากยิ่งขึ้น จากนั้นตี้จะลงไฮไลท์บริเวณโหนกแก้ม ปลายจมูก และริมฝีปาก เพื่อให้แสงตกกระทบลงมาสวยฉ่ำ!!
มาต่อที่การแต่งตาลุคนี้กันบ้าง หัวใจหลักคือไลเนอร์ที่คมชัดและขนตาที่สะพรึ่งค่ะ
ตี้เลือกใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอมส้มอ่อนๆ (Natasha Denona - mini nude palette) ลงบริเวณทั่วๆเปลือกตาบน และตาล่าง
จากนั้นเลือกใช้สีน้ำตาลอมแดงลงเป็นไกด์ไลน์สำหรับทำสโมคกี้
ใช้สีน้ำตาลอมแดง (Natasha Denona - mini nude palette) ลงบริเวณที่เราจะทำการสโมคกี้ รวมถึงใต้ตาล่างด้วยค่ะ
ใช้อายไลเนอร์ (D.UP - silky liquid eyeliner) วิงหางออกไป และวาดกรอบกลับมา เราจะได้บริเวณที่จะเขียนอายไลเนอร์ วิธีนี้จะทำให้เส้นเราคม และกำหนดขอบเขตเท่ากันทั้ง 2 ดวงตาค่ะ
ทำการวาดบริเวณที่เราทำกรอบไ้ว้
จากนั้นนำอายแชโดว์ที่เป็นชิมเมอร์ (Natasha Denona - mini nude palette) ลงบริเวณหัวตาและตาล่าง เพื่อเพิ่มมิติให้กับเปลือกตา
ติดขนตาที่ยาวแต่ฟุ้ง ไม่หนามาก (CHICHI Lashes - 3D Fluffy)
เขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้ว (Browit - Brow Pencil) เริ่มจากการวาดโครงและเติมให้สวยงาม และที่ขาดไม่ได้คือการเขียนเส้นขนคิ้วบริเวณหัวคิ้วให้ตั้งๆ จะได้ทรงคิ้วที่ฝอ.มากๆค่ะ
จบท้ายด้วยการปัดคิ้วตั้ง (4U2 - Brow Coat) ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
สุดท้ายตี้ทำการเลือกใช้ลิปสีนู้ดอมส้ม (QOO - Liquid Ink #10) ทาทั่วๆริมฝีปาก ตี้จะเขียนหรือวาดให้เกินขอบปากปกติ เราจะได้ปากที่ฝอ.มากขึ้นค่ะ เพียงเท่นี้ เราก็จะได้ลุคฝอ.สุดปัง ย้ำว่าปังแน่นอนค่ะ..
เพื่อนๆหลายๆคนคงจะได้ลุคที่ชอบกันไปแล้ว อย่าลืมไปแต่งตามกันนะคะ เห็นใช่ไหมคะว่าง่ายๆไม่ยากเลย ทุกอย่างมีขั้นตอน สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่เพิ่งเริ่มก็ค่อยๆแต่งไป ตี้เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้แน่นอนค่ะ
ว่าแล้วขอมาสรุปความรู้สึกหลังจากลองใช้ ESTEE LAUDER - DOUBLE WEAR STAY-IN-PLACE กันหน่อยนะคะ..
ตี้ประทับใจมากๆ ซึ่งตี้ได้ลองใช้ก่อนหน้าจะมาทำฮาวทูนี้แล้ว ตี้เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนไม่กล้าใช้ เพราะคิดว่าน้องจะหนาและหนักผิว แต่จริงๆแล้วกลับกันเลย เขาไม่หนักผิวเลยสักนิด และไม่หนาเลย สบายผิวมากๆ ตี้ใช้แต่งไปทำงาน ผิวสวยแถมทนตลอดทั้งวันจริงๆค่ะ ในเรื่องของการปกปิดเขาปกปิดแบบขั้นสุดเลยก็ว่าได้ค่ะ ถึงจะลงเบาๆ แต่เขาก็ทำการปกปิดได้ดีมากค่ะ การคุมมันให้ไป 10/10 คุมมันแบบเรียกได้ว่าไม่มีน้ำมันออกมาจากหน้าเลย และที่สำคัญไม่อุดตันผิวด้วย ระหว่างวันที่ใช้ไม่มีอาการคันยิบๆบริเวณใบหน้า เป็นรองพื้นตัวนึงที่ประทับใจแบบขั้นสุดค่ะ ส่วนเรื่องเฉดสี หายห่วง ครอบคลุมได้ดีมากๆ
มาถึงส่วนที่แอบไม่ชอบกันบ้าง ตี้ชอบทุกอย่างยกเว้นรูปแบบของแพคเกจจิ้ง เขาเป็นแบบเท ซึ่งตี้เองก็ไม่เคยกะปริมาณการไหลออกมาได้สักครั้งเลย ในส่วนนี้อาจจะต้องใช้ความชำนาญ แต่ตี้แอบแถมทริคให้ วิธีการนำเนื้ออกมาใช้ง่ายๆคือใช้นิ้วโป้งปิดตรงปากขวด แล้วเขย่าให้เนื้อรองพื้นมาโดนนิ้ว จากนั้นก็นำมาแต่งหน้าได้เลยค่ะ ออกมาน้อยแต่ดีกว่าหกนะคะ…
ยังไงตี้ก็ขอฝากฮาวทู และรีวิวครั้งนี้ไว้ด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสดีๆจะมาทำฮาวทูเปรียบเทียบลุคต่างๆให้ชมกันอีกค่ะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ