มาลองทำตามกันดู กับวิธีดูแลเส้นผมยังไงให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

สวัสดีชาวจีบันทุกท่านค่า ปกติมิ้วจะชอบรีวิวเครื่องสำอางกับสกินแคร์ให้ดูกันบ่อย ๆ แต่ครั้งนี้มิ้วอยากมาแชร์เรื่องที่ตัวเองกังวลมานานอย่างเรื่อง “เส้นผม” เพราะที่ผ่านมามิ้วเจอปัญหาผมเยอะมาก ทั้งผมขาดหลุดร่วง รังแค หนังศีรษะมัน รวมไปถึงปัญหาผมขาวที่มาจากกรรมพันธุ์ (คุณพ่อของมิ้วก็มีผมขาวมาตั้งแต่หนุ่ม ๆ ค่ะ มิ้วเองก็มีผมขาวมาตั้งแต่ม.ต้นเช่นกัน) เคยเบื่อ เคยขี้เกียจดูแลผมจนตัดผมซอยสั้นไปเลยก็มี 555555 

ช่วงนี้กำลังกลับมาไว้ผมยาว บวกกับที่ผ่านมารู้สึกว่าปล่อยปะละเลยตัวเองสุด ๆ มองมาอีกทีคือโทรมไปมาก เลยคิดว่าปีนี้อายุก็จะ 30 แล้ว ต้องปฏิวัติตัวเองสักที นอกจากรูปร่างและผิวพรรณที่ต้องฟื้นฟูแล้ว ก็มีเรื่องของ “ผม” นี่แหละที่ต้องจริงจังกันสักที ครั้งนี้มิ้วเลยขอมาแชร์วิธีการดูแลเส้นผมให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ทำตามกันได้ไม่ยาก มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ ซึ่งมิ้วได้ลองทำแล้วได้ผลจริง ๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลย 

1. เลือกแชมพู - ครีมนวด ที่ช่วยลดการเกิดผมขาดหลุดร่วง

ที่ผ่านมามิ้วไม่ค่อยใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ดูแลผมเท่าไหร่ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นง่าย ๆ คิดว่าใช้แชมพูของอะไรก็ได้ มันก็เหมือน ๆ กันแหละ อีกอย่างคือเป็นคนชอบรวบผมบ่อย ๆ เพราะขี้ร้อน บางทีก็มีลืมตัวเหมือนกันเวลาที่มัดผมแล้วเราอาจจะดึงผมจนตึงเกินไป เลยเป็นสาเหตุให้ผมเกิดการหลุดร่วงได้เช่นกัน และด้วยความเป็นคนง่าย ๆ ใช้แชมพูกับครีมนวดของอะไรสระผมก็ได้ เลยทำให้มันเกิดสิ่งที่เรียกว่า “รังแค” ขึ้นมาค่ะ เรียกว่าเป็นคนที่เจอปัญหาหนังศีรษะแห้งลอกมาตลอดระยะเวลาหลายปีเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าเป็นภาพที่ช่างไม่น่ามองสุด ๆ !!!

ส่วนตัวเปลี่ยนแชมพูมาหลายยี่ห้ออยู่เหมือนกัน ล่าสุดนี่ก็เพิ่งจะได้มาลองผลิตภัณฑ์สระผมที่ช่วยลดการเกิดผมขาดหลุดร่วงโดยตรงเป็นครั้งแรก เป็นของแบรนด์ LYO ค่ะ ความรู้สึกที่ได้ใช้เจ้าตัวนี้ บอกเลยว่าแตกต่างจากแชมพูทั่วไปจริง ๆ แต่ก่อนจะบอกว่าแตกต่างยังไง ขอไปอธิบายดีเทลของแต่ละตัวกันสักหน่อยค่ะ

LYO Shampoo

เป็นยาสระผมที่ช่วยลดเรื่องผมบาง ผมร่วงโดยเฉพาะ ช่วยชะลดการเกิดผมหงอกก่อนวัย ขจัดรังแค และลดอาการคันและการอักเสบของหนังศีรษะ  ส่วนตัวมิ้วไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์แนว ๆ นี้สักเท่าไหร่ แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองในระยะหลัง ทำให้รู้ว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ไม่ดีแน่ ๆ 

ก่อนอื่นมาดูกันก่อนค่ะว่าแชมพูของไลโอตัวนี้เขามีสารสกัดซึ่งแต่ละอย่างมีคุณสมบัติช่วยเรื่องไหนบ้าง

• ว่านหางจระเจ้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม + หนังศีรษะ ลดการแพ้ ระคายเคือง พร้อมช่วยขจัดรังแค

• ทรีทีออยล์ ลดการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรียนบนหนังศีรษะ ลดความมัน อาการคันซึ่งเกิดจากรังแค

• กรดผลไม้ (AHA) ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนหนังศีรษะให้หลุดออก ทำให้เกิดการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• โปรวิตามินบี 5 ช่วยป้องกันการเสียความชุ่มชื้น และเป็นเกราะให้เส้นผม + หนังศีรษะ

• วิตามินอี มอบความชุ่มชื้นบนเส้นผมจากการถูกทำลาย

กลิ่นของแชมพูจะไม่ได้หอมฟุ้งเหมือนกลิ่นแชมพูทั่วไปที่เราซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ พวกนั้นน่าจะมีส่วนผสมของน้ำหอมเยอะอยู่ ของไลโอจะออกแนวสะอาด ๆ เหมือนยาที่มาจากคุณหมอหรือเภสัชกรจริง ๆ

LYO Conditioner

มีแชมพูแล้วก็ต้องมีครีมนวดมาร่วมด้วย อย่างครีมนวดของไลโอ คุณสมบัติเขาจะเหมือนกับแชมพูที่มาคู่กันเลย แต่คุณสมบัติของครีมนวดโดยทั่วไป จริง ๆ คือเขาจะช่วยให้ผมเราไม่กระด้าง และคงความนุ่มลื่น ผมสลวยจัดทรงง่ายค่ะ

ครีมนวดของไลโอ กลิ่นเขาจะอ่อน ๆ ละมุนกว่าแชมพูหน่อย ๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกคลีน ๆ ดูสะอาด ๆ เช่นกันค่ะ

ปกติแล้วมิ้วจะสระผมประมาณ 2-3 ครั้ง โดยพยายามจะไม่เกาหัวแรง ๆ เป็นไปได้ถ้าไม่ได้คันหัวจะไม่ใช้เล็บเกาเลย ส่วนครีมนวด มิ้วจะใช้เวลากับการนวดผมสักหน่อย โดยเน้นบริเวณปลายผมเป็นพิเศษค่ะ ข้อสำคัญอีกอย่างคือทุกครั้งที่อาบน้ำสระผม มิ้วจะไม่ใช่น้ำอุ่นค่ะ แต่จะใช้น้ำตามอุณหภูมิปกติเป็นประจำ มันจะทำให้ผิวและหนังศีรษะของเราไม่แห้งไปด้วย (แต่ถ้าตอนไหนหนาวมากจนทนไม่ไหว ก็ต้องอาบน้ำอุ่นแหละจ้า กลัวหนาวตายซะก่อน 555)

2. ใช้เซรั่มบำรุงผม โดยเน้นที่เป็นพิเศษช่วงปลายผม

สำหรับเซรั่มบำรุงผมที่มิ้วใช้ มิ้วเลือกใช้ Giovanni | Eco Chic Frizz Be Gone ค่ะ ซื้อมาจากร้าน All About You ที่เลือกตัวนี้ก็เพราะเขาสามารถใช้ได้ทั้งตอนที่ผมเปียกและผมแห้ง สามารถลดการเกิดผมชี้ฟู เพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องผมจากความร้อนได้ เนื้อเขาจะเป็นเจลใส ๆ ส่วนมากมิ้วจะชอบเอามาขยุ้มผม โดยเฉพาะตรงปลาย ตอนที่ผมยังเปียกหมาด ๆ ก่อนเป่าผมด้วยไดร์ในขั้นตอนถัดไปค่ะ

3. เป่าผมโดยใช้ความร้อน โดยเป่าให้แห้งจริง ๆ อย่าทิ้งความชื้นเอาไว้

ก่อนจะนอนศีรษะเราก็ควรจะต้องแห้งสนิท ไม่ควรปล่อยให้มันมีความชื้นเอาไว้ เช่นเดียวกันค่ะ เวลาที่เราเป่าผมหลังจากสระเสร็จ ก็ต้องเป่าจนรู้สึกว่าแห้งทั้งหมดจริง ๆ โดยเฉพาะตามบริเวณหนังศีรษะที่ไม่ควรทิ้งความอับชื้นไว้เด็ดขาด จากประสบการณ์ที่เคยเจอคือนอกจากหัวจะเหม็นแล้ว ยังมีรังแคตามมาอีก หลายคนกลัวเรื่องการใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผม แต่สำหรับตัวมิ้วเอง เวลาที่เป่าผมมิ้วจะใช้ลมร้อนนี่แหละ พยายามไม่ให้ไดร์สัมผัสผมโดยตรง ใช้ความร้อนไม่มาก (สำหรับไดร์เป่าผมที่สามารถปรับระดับลมและความร้อนได้) อาจจะนานหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้อับนะ แค่เป่าผมให้แห้งเท่านั้น ไม่ต้องเซ็ทหรือไดร์ผมให้ตรงสลวยสวยเก๋ใด ๆ เลย 

บางทีถ้าไม่ลืม หลังจากเป่าผมเสร็จแล้ว มิ้วก็จะทาเซรั่มตัวเดิม เคลือบเส้นผมไปอีกที เน้นปลายผมอีกสักหน่อยให้ผมไม่แห้งค่ะ

4. ใช้หวีที่ดีต่อสุขภาพของหนังศีรษะหรือเส้นผม

ปลายปีที่ผ่านมา มิ้วเคยรีวิวหวีของ YAO ให้ชมกันมาแล้ว ครั้งนี้ก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่าของเขาดีจริง ๆ ด้วยฐานโปร่ง ๆ ของหวี ใช้แล้วทำให้ผมหลุดร่วงน้อยลง ตัวโครงฐานล้อรับไปกับรูปหัวของเราได้พอดีเหมือนได้นวดหัวไปในตัว เวลาเป่าหรือไดร์ผม ก็ช่วยให้ลมร้อนผ่านได้ดีกว่าเดิม ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น ที่สำคัญคือหวีได้ทั้งตอนเปียกและตอนแห้งได้ด้วย

เท่าที่ลองทำวิธีที่บอกมานี้ รู้สึกได้จริง ๆ ว่าผมขาดหลุดร่วงน้อยลงมาก ปัญหารังแคและหนังศีรษะแห้งลอกก็ลดลงด้วย ผมไม่พันกันยุ่งเหยิง ระหว่างวันแต่ใช้มือสางเบา ๆ ก็เข้าทรงแล้ว โดยรวมคือรู้สึกว่าสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะดีขึ้นมาก จากที่มีปัญหาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และคิดว่าจะต้องดูแลอย่างจริงจังกันต่อไปเรื่อย ๆ แล้วล่ะทีนี้ :)