เจาะตำนานไอดอล Johnny's Jr.

53 14
Johnny & Associates     talent agency ที่สร้างอิทธิพลในวงการบันเทิงญี่ปุ่นด้วยการปั้นศิลปินชายให้ก้าวมากอบโกยความสำเร็จและได้รับความรักอันล้มหลามจากแฟนๆมาตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ   ในบ้านเราเอง หลายคนคุ้นเคยกับ Johnny's Jr  ด้วยภาพลักษณ์ของไอดอลที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และความสามารถ   แต่เส้นทางของศิลปินหนุ่มเหล่านั้นมีความซับซ้อนกว่าภาพที่พวกเราได้เห็นในจอ  

ลองมาติดตามกันได้เลยค่ะ



วัฒนธรรมไอดอลที่มีรูปแบบเฉพาะตัวของ Johnny's Jr ที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ยุค 60s


หลังจากที่ทำให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ถึง "ปาฏิหารย์ทางเศรษฐกิจ" หลังพ่ายแพ้สงคราม ญี่ปุ่นได้พลิกสู่ความ modern ในหลากหลายด้าน ภาคอุตสาหกรรมบันเทิงนั้น จอห์นนี่ คิตากาวะ ผู้บริหารที่ได้ล่วงลับไปแล้วของ Johnny & Associates ได้บุกเบิกปั้นบอยแบนด์มาสั่นสะเทือนวงการตั้งแต่เกือบๆ 80 ปีที่แล้ว เดากันเล่นๆสิคะว่าเค้าตั้งชื่อวงว่าอะไร ?



บอยแบนด์ยุค 60s ของญี่ปุ่นที่มีคนปั้นชื่อ Johnny ก็ต้องมีชื่อวงว่า Johnnys  มันแน่อยู่แล้ว! (รึเปล่านะ)

ชาวญี่ปุ่นได้เปิดในรับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างเต็มที่    หนุ่มสาวนิยมเต้นtwist และฟังเพลงสากล  ในยุคนั้น  The Beatles   ได้สร้างความคลั่งไคล้ในหมู่ชาวญี่ปุ่นจนเรียกได้ว่าอยู่ในระดับปรากฏการณ์   แน่นอนว่า   หากใครที่มีความสามารถทางดนตรีสากลย่อมเป็นเรื่องโก้เก๋

วง Johnnys มาพร้อมกับภาพลักษณ์หนุ่มใสที่ดูอินเตอร์ พวกเค้าเคยโชว์ประสานเสียงเพลงภาษาอังกฤษ และยังตั้งชื่ออัลบั้มว่า  Johnnys and an American Journey  น่าจะเป็นการประกาศวิสัยทัศน์หัวก้าวหน้าของผู้ก่อตั้งนั่นเอง
ก่อนที่จะได้ก่อตั้งบริษัทใหญ่โตทรงอิทธิพล  จอห์นนี่ คิตากาวะใช้วิธีเฟ้นหาศิลปินอย่างเรียบง่าย คือการลงพื้นที่เป็นแมวมอง ชักชวนนักเบสบอลหนุ่มใสให้มาตั้งวงดนตรี และตั้งตัวเป็นผู้จัดการ เมื่อเริ่มต้นสร้างความสำเร็จจากวง Johnnys ก็ขยับขยายกิจการ  จนทุกวันนี้  เหล่าผู้ปกครองและเด็กๆเองจะต้องเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามารับการออดิชั่นกับ Johnny & Associates  เพื่อคว้าโอกาสที่จะกลายมาเป็น Johnny's Jr. ที่โด่งดังที่สุด


ทิศทางความสำเร็จของ Johnny's Jr. มีความชัดเจนขึ้นจากความสำเร็จของ  สี่หนุ่มใบไม้หรือ Four Leaves  ที่ได้รับความนิยมจนได้รับเเชิญให้ร่วมแสดงในานประชันเพลงขาว-แดง หรือ Kouhaku Uta Gassen ในยุค 70s     แม้ว่าพวกเค้าจะครองความโด่งดังไปได้ราวๆ 10  ปีแล้วก็ค่อยๆแผ่วลงไปจนต้องยุบวง  แต่มันก็ไม่ใช่เวลาเพียงสั้นๆเลย   ดูเหมือนว่าสูตรสำเร็จในการปั้นศิลปินมัดหัวใจชาวญี่ปุ่นในแบบฉบับจอห์นนี่ คิตากาวะนั้นเริ่มต้นได้สวยงามได้ตั้งแต่แรกๆที่เขาได้ก่อตั้งบริษัทเลยทีเดียว 


สูตรสำเร็จการสร้างไอดอลที่ประสบความสำเร็จมาเนิ่นนาน
 

แฟนๆ K Pop คงคุ้นเคยกับการเก็บตัวฝึกฝนของเหล่าtraineeจะต้องพิสูจน์ความสามารถให้ค่ายยอมรับและคัดเลือกให้เดบิวท์พร้อมกับคนอื่นด้วยรูปแบบของบอยแบนด์ แต่สำหรับญี่ปุ่น ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ จะรับ Johnny's Jr มาอาศัยร่วมกันเพื่อฝึกฝน หรือที่เรียกว่า กัสชูกุ โดยมากแล้วจะเริ่มตั้งแต่ยังเป็นเด็กชาย ความโดดเด่นก็คือ เด็กๆเหล่านี้จะได้รับหน้าที่เป็น backup dancer ให้กับศิลปินรุ่นพี่ที่ได้เดบิวท์ไปแล้ว และเป็นรุ่นพี่นั่นเองที่จะคอยช่วยเหลือฝึกฝนและชี้นำให้Johnny's Jrรุ่นเล็กได้ฝ่าฟันเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นดาวเหมือนที่พวกเค้าทำได้


สิ่งที่สำคัญก็คือ หนุ่มน้อยที่บริษัทเห็นแววจะได้รับการผลักดดันมาตั้งแต่ยังไม่เดบิวท์ ไม่ใช่มีแต่เพียงเป็นdancer ให้กับวงรุ่นพี่ แต่ยังมีงานvariety show โฆษณา ถ่ายแบบนmagazine นั่นหมายความว่า แฟนๆจะเริ่มรู้สึกใกล้ชิดกับ Johnny's Jr. มาตั้งแต่ยังเสียงไม่แตก กลุ่มแฟนเป้าหมายย่อมเป็นเด็กสาววัยรุ่น แต่มีคนทำงานวัยผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่เฝ้าติดตามพัฒนาการของพวกเค้าตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ จนสามารถเดบิวท์และคอยสนับสนุนผลงานให้ยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นไปเรื่อยๆ






เริ่มเทรนกันตอนยังเด็กขนาดไหน ก็ดูจากทักกี้&สึบาสะจากภาพได้   โดยเฉพาะทักกี้ที่กลายมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัท  เขาเคยเปิดเผยว่า จอห์นนี่ คิตากาวะเป็นผู้ติดต่อแจ้งผลการออดิชั่นให้เขาได้รู้ด้วยตัวเอง  และทำให้ได้กลายมาเป็นนักเต้นรุ่นเยาว์ให้กับ Kinki Kid  บอยแบนด์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้สมัครเข้าออดิชั่น  เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นก็ได้เป็นผู้นำของเหล่า Jr. นับร้อย อาจจะด้วยบุคลิกของผู้นำที่มีตามธรรมชาติก็เป็นได้ที่ทำให้เขาได้รับหน้าที่นี้  แต่ก็กดดันมากจนเคยติดจะลาออกจากค่าย  เพราะเมื่อ Jr. ทำผิดกฎ  เขาต้องกลายมาเป็นคนรับผิดชอบทั้งๆที่มีอายุได้เพียง 15-16 เท่านั้น  ซึ่งภาพที่ปรากฏตามสื่อ  เด็กๆจะดูสนิทสนมกันมากจนแทบจินตนาการดราม่าที่อยู่เบื้องหลังไม่ออกเลย

magazine จะตามสัมภาษณ์และเก็บภาพเด็กๆเหล่านี้ให้แฟนๆตามสะสม  และยังสามารถเกาะติดความน่าเอ็นดูได้จาก variety show   ที่เปิดโอกาสให้แต่ล่ะคนแสดงความสามารถและ character ที่น่าประทับใจ   ดูเป็นกลุ่มเด็กผู้ชายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก   หลังจากเดบิวท์จนกลายมาเป็นไอดอลโด่งดังแล้ว พวกเค้าก็ต้องรักษาภาพลักษณ์นี้ไว้ให้เหนียวแน่น   


เทรนด์หนุ่ม"บิโชเน็น" กำหัวใจสาวญี่ปุ่น


คุณอาจจะได้ยินคำพรรณาจากการ์ตูนญี่ปุ่นหรือจากในฉากละครต่อเด็กหนุ่มที่มีรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายคลึงกับผู้หญิง แม้ว่าค่านิยมเรื่อง masculinity ที่ทำให้ชาวญีปุ่นให้ความสำคัญต่อการแสดงออกของชายที่แข็งแกร่ง พึ่งพาได้ แต่การสืบทอดแนวคิดจากสมัยโบราณผสมผสานกับค่านิยมตะวันตกทำให้ความงามแบบ androgynous ได้นับความนิยม สาวๆต่างเพ้อฝันถึงหนุ่มใสที่มีผิวพรรณเรียบเนียน ขนตายาว ตาสวย ลำคอยาวระหง พวกเค้าคือบิโชเน็น หรือหนุ่มหน้าสวยนั่ยเองค่ะ

บิโชเน็นนั้นมักถูกใช้กับหนุ่มวัยทีน และแน่นอนว่าพวกเค้าคือหนึ่งในขุมพลังสำคัญของ Johnny's Jr.

   

ทักกี้เคยเล่าว่า คิดว่าตัวเองจะไม่ผ่านออดิชั่นเพราะเต้นโชว์ไปแค่นิดหน่อยและแนะนำชื่อตัวเองเท่านั้น    แต่เขาไม่รู้มาก่อนว่า จอหฺนนี่ คิตากาวะได้ร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย และเพียงอาทิตย์ต่อมาเขาได้พบว่า ตัวเองได้เป็น Johnny's Jr. แล้ว    ถ้าให้สันนิษฐาน  นอกเหนือจากการเโชว์ความสามารถในการแสดงสั้นๆ    รูปลักษณ์แบบบิโชเน็นของทักกี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฝ่าย casting ตัดสินใจรับเขาเข้าสู่ training    หนุ่มน้อยหน้าสวยในวันนั้นคงไม่ได้คิดฝันมาก่อนว่าจะได้ก้าวมาเป็นรองประธานบริษัทคนปัจจุบัน

Cross-dressing ในละครและรายการ TV เป็นสิ่งที่เราได้เห็นได้ตลอด  ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่นั้น Johnny's Jr. บางคนจะแต่งได้สวยเป๊ะสร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ   เมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ก็จะดูเข้มขึ้นตามวัย  ช่วงเวลาที่เป็นหนุ่มสวยใสจึงมีไม่นานนัก




อายุการทำงานอันแสนยาวนานของ Johnny's Jr ระดับ top
การสร้างความผูกพันกับไอดอลตั้งแต่ก่อนจะได้เดบิวท์ทำให้เกิดวัฒนธรรมแบบ loyal fan แม้เวลาจะผ่านไปทำให้พวกเค้าไม่ได้มีรูปลักษณ์หนุ่มหล่อใสอีกต่อไป แต่ก็ยังมีงานชุก กลายเป็นตัวพ่อของวงการไปหลายคน ซึ่งสวนทางกับระบบในตะวันตกที่อายุในการทำงานของบอยแบนด์ค่อนข้างสั้น เมื่อขึ้นสู่ความ peak แล้วไม่นานจากนั้นก็จะแยกวงกัน และสมาชิกที่เด่นที่สุดในวงก็อาจจะได้โลดแล่นในวงการต่อในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่สำหรับ Johnny's Jr หากคว้าหัวใจแฟนๆไว้ได้แล้ว  ถึงจะแก่ตัวจนสามารถเรียกตัวเองว่าโอจิซังหรือคุณลุง  แต่ก็ยังมีลูกเด็กเล็กแดงชมชอบว่าเป็นโอจิซังสุดเท่  เพราะได้แรงจูงใจจากผู้ใหญ่ในครอบครัวนั่นเอง

แม้จะยุบวงกันไปหลายปีก่อน  และอายุอานามก็เข้าขั้นป๋ากันทุกคน  แต่อดีตสมาชิกวง SMAP ก็ยังโลลดแล่นในวงการอย่างสวยงาม   บางคนที่ไม่ได้คอยติดตามอาจจะติดว่ามีแต่ทาคุยะ คิมูระที่งานชุก  แต่เพื่อนๆต่างก็ประสบความสำเร็จในวงการแสดงและรายการ TV เช่นเดียวกัน   แม้จะจิกตัวเองฮาๆว่าเป็นโอจิซังแล้ว แต่แฟนๆก็ยังรักไม่เสื่อมคลาย  ถึงขนาดว่าตอนแยกวงก็แสดงท่าทีรับไม่ได้กันยกใหญ่  ทั้งๆที่รู้ดีว่าพวกเค้าทำงานร่วมกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว ก็ยังยากจะหักใจ


ไอดอลที่ไม่ได้มีดีที่หน้าตาเพียงเท่านั้น
ขึ้นชื่อว่าไอดอล  ก็อาจจะทำให้หลายคนมั่นใจว่าจะต้องเป็นหนุ่มเบ้าหน้าขั้นเทพที่ผ่านการฝึกฝนการแสดง ร้อง เต้น เล่นดนตรีมาอย่างหนักหน่วง  แน่นอนว่าพวกเค้าจะต้องทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต้องหลงรัก

แต่ที่จริงแล้ว พวกเค้าต้องพิสูจน์ตัวเองจากอคติเช่นเดียวกัน จากรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น รวมถึงความทรงอิทธิพลของ Johnny & Associates ที่ผลักดันศิลปินให้ปรากฏตัวทุกหนทุกแห่ง ทั้งรายการ TV magazine ป้ายโฆษณา ไปจนถึงหนังละคร ถึงขนาดว่าถูกกล่าวหาและมีการสืบสวนเรื่องการใช้อำนาจและเส้นสายเพื่อตัดเส้นทางของคู่แข่ง และอวยศิลปินจากค่ายตัวเอง หลายคนไม่สงสัยเลยว่า เหล่า Johnny's Jr. เส้นใหญ่นั้นมีอภิสิทธิ์คว้าบทละครดีๆ แม้ว่าอาจจะมีตัวเลือกนักแสดงคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ไอดอลที่โด่งดังจากฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งเคยพบกับคำปรามาสเรื่องฝีมือการแสดงมาก่อน และพวกเค้าจะต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ไม่ได้เป็นเพียงหนุ่มหล่อเส้นก๋วยจั๊บที่เรียกเรตติ้งด้วยหน้าตาเท่านั้น
นับแต่ยุค 90s เป็นต้นมา ไอดอลชื่อดังจากเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่แห่งนี้จะได้เข้าวงการแสดงกันแทบทุกคน    หลายคนได้โลดแล่นสร้างชื่อเสียงในบทพระเอกมาตลอดหลายปี  สำหรับเหล่า Johnny's Jr.   ถึงจะไม่ใช่หนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเป๊ะโดนใจที่สุด ก็สามารถสร้างชื่อเสียงในวงการแสดงจากบทที่ท้าทาย      เมื่อพูดถึงไอดอลที่สร้างความโด่งดังจากผลงานละคร TV  หลายคนคงนึกถึง ทาคุยะ คิมูระเป็นคนแรกๆ    แต่ยังมีศิลปินร่วมเอเจนซี่เดียวกันอีกหลายคนที่แสดงฝีมือในวงการแสดงจนเปรี้ยงสุดๆ

  • ทักกี้เคยสร้างเสียงฮือฮาด้วยการรับบทเด็กมัธยมที่มีความสัมพันธ์กับครูสาว   เป็นผลงานที่ทั้งได้รับเสียงต่อต้าน แต่ก็โกยเรตติ้งไปได้สูง  ในเวลานั้นเขาเดบิวท์ได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

  •  โทโมยะ นากาเสะ ที่ทั้งตัวสูงและหล่อคมโดดเด่น มีผลงานมามากกว่าสี่สิบเรื่อง และหลายครั้งก็ไม่ห่วงหล่อเอาซะเลย  และสมาชิกจาก Tokio คนอื่นๆก็ active ในวงการแสดงเช่นเดียวกัน    

  •  ยามะพีคือไอดอลผู้ได้ขึ้นชื่อเรื่องใบหน้าสวยทุกองศา  แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตาม J Pop ก็คงคุ้นเคยกับบทบาทการแสดงมากกว่าภาพของไอดอลร้องเต้นเล่นดนตรี


 
พัฒนาตัวเองจนขึ้นสู่ชั้นแนวหน้า

ไอดอลหลายคนอาจจะถูกครหาว่าว่าเป็นเหมือนกับ "สินค้า" ที่ต้นสังกัดป้อนโพรแกรมให้ทำตามทุกอย่างเพื่อกอบโกยรายได้จากกลุ่มแฟนที่จงรักภักดี หรือถูกเปรียบเทียบว่าทำหน้าที่ไม่ต่างจากหุ่นเชิดของนายทุน เพราะไม่สามารถมีปากมีเสียง หรือสร้างสรรค์ผลงานเองแต่มีทีมงานคอยรองรับทุกอย่าง

สารภาพตามตรงว่า หากไม่ได้ดู documentary ARASHI's Diary -Voyage ทาง Netflix ก็นึกภาพหนุ่มๆเตรียมงาน concert กันหน้าดำคร่ำเครียด ทั้งออกแบบเวที ลำดับการแสดง แม้แต่ costume ที่ต้องมาตรวจเนื้อผ้า คลุกวงในกับทีมงานจนดึกดื่น โดยเฉพาะมัตสึจุนที่มาตรฐานสูงลิบ เก็บรายละเอียดทุกอย่างด้วยความเข้มงวด ทุกคนต่างทุ่มเทกันสุดตัว แม้จะเห็นความเหนื่อยล้าจากแววตา แต่เมื่อนึกได้ว่า นี่คือมืออาชีพที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ยังไม่เป็นหนุ่มเต็มตัว และโบยบินขึ้นมาถึงระดับชั้นนำในระยะเวลากว่ายี่สิบปี ไม่ได้แค่ฝึกฝนทักษะการแสดงรูปแบบต่างๆเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆเท่านั้น แต่ยังทำงานร่วมกับคนหลากหลายสายอาชีพจนดูเชี่ยวชาญ

ที่สำคัญ หนุ่มๆก็เข้าวัยสามสิบปลายกันแล้ว ไม่ได้นำเสนอภาพลักษณ์ของหนุ่มหน้าใสเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังเป็นขวัญใจทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เสียงกรี๊ดจากผู้ชมที่แน่นโดมทำให้รู้ว่า วันเวลาที่หมุนเปลี่ยนนั้น ไม่ทำให้แฟนๆถอดใจเลย   เค้ารักศิลปินได้เหนียวแน่นกันจริงๆ


สิ่งที่ต้องแลกกับการสถานะศิลปินอันเป็นที่รักของแฟนๆอย่างมั่นคงเนิ่นนาน
ไอดอลที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆจนได้เดบิวท์และกลายมาเป็นศิลปินชื่อดังยาวนานข้ามทศวรรษนั้นถูกคาดหวังให้ครองตัวเป็นแบบอย่างอันดีงาม    ช่วงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ  พวกเค้าต้องปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวด อย่าให้ถูกจับได้เด็ดขาดว่าได้มั่วสุม เหล้า บุหรี่ ผู้หญิง     แต่กระนั้นก็เกิด scandal  เมื่อ Johnny's Jr. ถูกบริษัทลงโทษพักงาน หรือโดนไล่ออกเพราะพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่บ่อยๆ     แต่ถ้าเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว  หากภาพหลุดหรือข่าวฉาวอยู่ในระดับที่ "พอรับได้"  ก็อาจจะได้รับการลงโทษตามสมควร แต่ไม่ถึงกับถูกขับออกจากบริษัท   แม้แต่วงระดับ ARASHI ก็เคยเจอดราม่าภาพหลุดมาก่อน  

แม้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆไม่ให้สื่อได้ระแคะระคายถึงชีวิตส่วนตัว แต่ไอดอลชั้นนำอย่างมามะพีก็เคยพลาดพลั้ง จนชื่อเสียงอันยาวนานต้องมัวหมองลง เพราะถูกตามจับผิดว่า ร่วมสังสรรค์กับเด็กสาววัย17ที่ยังเป็นผู้เยาว์ตามกฎหมายญี่ปุ่น และมีคนจับภาพเด็กสาวคนดังกล่าวที่ตามเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมเดียวกับเขา แม้ว่าJohnny & Associates จะแถลงว่า ยามะพีไม่ทราบเรื่องอายุของอีกฝ่ายมาก่อน แต่ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองลงไปจากข้อกล่าวหาว่า นี่คือการล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์
หลังจากโลดแล่นในวงการด้วยภาพลักษณ์สง่างามมาได้เนิ่นนานโดยไม่ได้เจอกับ scandal  ร้ายแรงมาก่อน  อนาคตในวงการของยามะพีสั่นคลอนอย่างหนัก    ทั้งๆที่ไม่นานก่อนหน้านี้  กระแสความนิยมจากการกลับมาจับคู่กับคาซึยะ คาเมะนาชิจะจะสร้างกระแสได้เกรียวกราวจนมี project ใหม่ร่วมกัน   แต่ไม่นานหลังจากเกิดข่าวฉาวนี้ ต้นสังกัดก็ได้ประกาศว่า เขาได้ยกเลิกสัญญาเพื่อโฟกัสกับการทำงานที่ต่างประเทศ

นั่นเป็นเป็นเพราะว่า อย่าพูดถึงความสัมพันธ์แบบ one night stand กับสาววัยทีนเลย แม้แต่ไอดอลที่ค่ายผลักดันเต็มที่อย่างจิน อากานิชิที่แอบมีความสัมพันธ์กับนางเอกสาวสวย เมสะ คุโรกิ และแต่งงานหลังจากเธอตั้งครรภ์โดยไม่แจ้งบริษัท จากกระแสต่อต้านจากสังคมและการละเมิดข้อตกลงทำให้ Johnny & Associates ยกเลิก solo tour ของเขา และในที่สุดก็เลือกแยกทางกันเดิน จากที่เคยเป็นไอดอลที่มาแรงสุดๆจนโกอินเตอร์ได้ ชื่อของจินก็ค่อยๆแผ่วหายไป แม้จะยังทำงานดนตรีอยู่ แต่ก็มีแผนเฉพาะกลุ่ม แตกต่างจากกระแสในช่วงที่เป็นไอดอลลิบลับ


นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เราแทบไม่ได้ยินข่าวบรรดาหนุ่มๆ Johnny ออกเดทหรือแต่งงาน แม้ว่าจะผ่านเข้าสู่วัยสร้างครอบครัว บางคนเชื่อว่า พวกเค้าบางคนอาจจะเก็บเรื่องครอบครัวเป็นความลับจากสาธารณชนเพื่อป้องกันไม่ให้คนรักถูกรบกวน แต่อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญก็คือ ยังมีแฟนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญกับสถานะโสดของศิลปิน และยังไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คั่งแค้นใจหากไอดอลคนโปรดมีคนรัก บางคนยอมรับว่ารู้สึกเหมือนกับถูกทรยศ เพราะไอดอลควรจะเป็นที่รักของทุกๆคน ไม่ควรมีผู้หญิงคนใดตีตราเป็นเจ้าของ


จอห์นนี่ คิตะกาวะ เคยประกาศในงานแต่งงานของไทจิ โคคุบุนแห่งวง Tokio ไว้ว่า เมื่อไอดอลมีอายุที่เหมาะสม พวกเค้าก็ควรจะแต่งงานได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบ


แต่เหล่าไอดอล "วัยสมควร" หลายคน ต่างก็ไม่ได้ปริปากต่อสถานะการแต่งงานของตนเองแต่อย่างใด


ดูเหมือนว่า ข้อยกเว้นในการประกาศสละโสดจะเกิดขึ้นกับคุณคิมูระเท่านั้น  แม้จะเป็นการประกาศแบบฟ้าผ่าและช็อกผู้คนมากมาย ถึงขั้นที่ว่า มีผู้ปล่อยข่าวโจมตีชิซูกะ คุโด ผู้เป็นภรรยามาตลอดหลายปี  และยังมีเสียงแช่งชักให้เลิกกันมาตลอด   แต่พอลูกสาวคนสวยทั้งสองของพวกเค้าเติบโตเป็นสาวและเข้าวงการ  เราก็อยากจะเชื่อว่า  อคติต่อตัวภรรยาศิลปินก็น่าจะจางหายไปหมดแล้ว  
  The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE