♥ REVIEW ♥ Olio-E-Osso Balm No.3 Crimson บาล์มสุดฮิตที่เห็นแล้วอดใจไม่ไหวจนต้องซื้อมาลอง

52 19

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาพูดถึง Lip&Cheek Balm ตัวดังที่เป็นกระแสในช่วงก่อนหน้านี้
นั่นก็คือ "Olio-E-Osso" นั่นเอง! แรกเริ่มเห็นแบรนด์นี้จากพี่เนต Nettytitiya ตามมาด้วยพ่อบ้านธานอส (พี่ฟลุค Alwaysfluke) เท่านั้นยังไม่พอยังมีรีวิวจากสาวๆจีบันอีกหลายคน กระแสแรงแบบนี้จะอดใจไม่ลองได้ยังไง
สุดท้ายก็ไปโฉบเคานเตอร์ สาขา Siam Discovery และได้น้องเบอร์ 03 กลับมา

สำหรับบาล์มตัวนี้มีสีสันให้เลือกเยอะม๊ากก มีสีทั้งสี Clear (จะบอกว่าตัวนี้เป็นบาล์มอเนกประสงค์เลยเพราะว่าทาได้ทั้งริมฝีปาก ผมแตกปลาย จัดทรงผม คิ้วหนวด แถมยังทาศอกที่แห้งกร้านได้อี๊ก), สีขาว (ทาปากก็ได้แถมใช้เป็นยาดมได้เพราะมีกลิ่นเมนทอล) และ สีแดง สีส้ม สีชมพูโทนธรรมชาติไปจนถึงเฉดสีเข้มที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับบนใบหน้ามากขึ้นค่ะ

♥  Ingredients

ส่วนผสมหลักก็จะมีส่วนผสมต่างๆจากธรรมชาติที่ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นกับผิว
ทั้ง Shea Butter, Olive Oil และ Beeswax นอกเหนือจากนี้จะมีน้ำมันจากผลไม้ต่างๆ และน้ำหอม ใครระคายเคืองง่ายกับน้ำหอมก็ต้องลองพิจารณากันดูนะคะ แต่ว่ากลิ่นเขาหอมเหมือนลูกอมผลไม้ น่ากัดมากเลยแหละ และอีีกส่วนผสมที่เพิ่งได้มาอ่านทีหลังและหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วสะดุ้งเล็กน้อยก็คือ *Carmine* ที่มาของสีแดงชาดสวยใสระเรื่อแบบนี้มาจากแมลงตัวน้อยที่เขานำมาทำเป็นพิกเมนต์ผสมลงไปในบาล์มตัวนี้เพื่อให้ได้เป็นสีแดงระเรื่อ น่ารักๆแบบนี้นี่เอง พอเจอแบบนี้ก็ค้นต่อก็เจอว่ามีอีกหลายหลายแบรนด์ที่เราคุ้นเคยที่ใช้ส่วมผสมนี้ก็เลยทำให้ทราบเพิ่มเติมว่าสีสวยๆแบบนี้มาจากแมลงตัวน้อยนะ ใครที่กังวลเรื่องนี้อยู่ขอให้ข้ามไปเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมนี้ไปน้าา แต่สำหรับเราที่ซื้อมาแล้วก็ขอบคุณน้องแมลงที่สละชีวิตและสีสวยๆของน้องมาแต่งแต้มความสวยบนหน้าพี่ๆน้า พี่จะใช้ให้คุ้มค่าค่ะ

♥ NO.3 Crimson 

จะเห็นได้ว่าสีของเค้าเป็นสีแดงใส น่ารักมากๆเลย ขอบคุณเจ้าน้องแมลงที่เกิดมาสีสวยขนาดนี้

♥ PACKAGING

แพคเกจจิ้งดีมากเลยแหละเป็นพลาสติกอย่างหนา ทนไม้ทนมือแน่นอน วิธีการใช้ก็หมุนๆผลิตภัณฑ์ขึ้นมา ถ้าหมุนขึ้นมาเยอะไปก็หมุนกลับได้ไม่มีปัญหาใดๆค่าา

♥ SWATCH

เห็นบนแท่งสีแดงแบบนั้นแต่ปาดออกมาแล้วได้สีแดงใส ระเรื่อๆ
อารมณ์ประมาณผื่นขึ้นแขนเลยค่ะ55555  ให้สีที่เป็นธรรมชาติเหมือนมีเลือดฝาด ดูสุขภาพดีค่ะ

มาดูตอนอยู่บนใบหน้ากันบ้างนะคะ เราทาลงบนผิวที่ทาครีมกันแดดอย่างเดียวไม่ได้ลงรองพื้นแล้วก็ไม่เซตแป้งนะคะ วันนี้ไม่ได้ไปไหน แต่งหน้าเบาๆอยู่บ้าน ไปไกลสุดคือปากซอย 5555 ก็จะได้ลุคใสๆสบายๆเหมาะกับวันเบาๆที่ไม่อยากแต่งหน้าเยอะแต่ก็ไม่อยากให้หน้าซีดค่ะ
ถามว่าติดทนมั้ยสำหรับเรารู้สึกว่าเขาติดไม่ทนนะ ด้วยความที่อากาศร้อนแล้วเขาเป็นเนื้อบาล์มใสๆด้วยแหละ ถ้าใช้ตอนช่วงที่อากาศเย็นๆน่าจะติดทนกว่านี้ค่ะ อ้อ..ถ้าใครอยากเซตด้วยแป้งฝุ่น สีก็จะจางลงไปอีกก็อาจจะต้องปาดให้เข้มๆไว้ก่อนเนอะ
แต่สิ่งที่เราชอบก็คือสีที่แดงใส ระเรื่อ ทาแล้วดูสุขภาพดี ยิ่งเนื้อเป็นแบบบาล์มมันๆเงาๆยิ่งทำให้ดูเป็นธรรมชาติกลืนไปกับน้ำมันบนผิวค่ะ และสำหรับสีนี้+เนื้อบาล์มแบบนี้เมื่ออยู่บนปากแล้วดูสุขภาพดีม๊ากก (ตอนซื้อมาใหม่ๆเราเห่อทาอยู่ 2-3 วันเลยค่ะ เอามาทาก่อนนอนด้วย เห่อขนาดไหน ฮ่าๆๆ)

สำหรับราคาค่าตัวของ Oilo-E-Osso Balm แท่งนี้อยู่ที่ 1,150 บาท (เราซื้อใน Siam Discover ถ้ามีบัตร Vizcard ได้ลดเพิ่ม 10% นะคะ) แอบรู้สึกว่าราคาสูงไปนิ๊ดดด ใครสนใจไปลองปาดๆเทสสีเทสเนื้อที่เคาน์เตอร์กันก่อนนะคะ

มีเพื่อนๆคนไหนได้ลองใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง หรือมีสีอื่นๆนอกจากนี้แล้วอยากแนะนำบ้างมั้ยน้า มาแชร์กันได้เลยนะคะ <3


KanKan

KanKan

28 years old girl who is still passionate with make up and skincare <3
หมดยุคสวยคนเดียวแบบเงียบๆแล้ว..เพราะยุคนี้เราจะต้องสวยไปด้วยกันนะคะ

FULL PROFILE