นักแสดงต่างประเทศชื่อดังที่เข้าวงการตั้งแต่วัยเด็ก(6):Neil Patrick Harris
Panchud Thammachat 43 14
เขาคนนี้เข้าวงการก็เข้าสู่ช่วงปลายวัยเด็ก แจ้งเกิดจากซิทคอม และกลับมาดังกับผลงานซิทคอมอีกครั้ง เคยเป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ได้แก่Emmy Awards,Tony Awards และรางวัลออสการ์ แถมไม่ปิดบังเรื่องรสนิยมรักเพศเดียวกัน เขาคนนี้ก็คือ...
Neil Patrick Harris
เกิด:15 มิถุนายน 1973
บ้านเกิด:เมืองAlbuquerque รัฐNew Mexico สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1988
เกิด:15 มิถุนายน 1973
บ้านเกิด:เมืองAlbuquerque รัฐNew Mexico สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1988
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
คุณHarris เป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวทนายความ เกิดที่เมืองAlbuquerque แต่เติบโตที่เมืองRuidoso รัฐNew Mexico
คุณHarris เป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวทนายความ เกิดที่เมืองAlbuquerque แต่เติบโตที่เมืองRuidoso รัฐNew Mexico
ผลงานแรกเริ่ม จนถึงผลงานแจ้งเกิด
คุณHarris เข้าวงการตั้งแต่อายุ14ปี โดยเริ่มจากร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องClara's Heart(1988) ซึ่งนำแสดงโดยป้าWhoopi Goldberg
คุณHarris เข้าวงการตั้งแต่อายุ14ปี โดยเริ่มจากร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องClara's Heart(1988) ซึ่งนำแสดงโดยป้าWhoopi Goldberg
จนปีต่อมา คุณHarris ก็ได้แสดงซิทคอมครั้งแรก แล้วได้รับบทเป็นตัวเอกด้วย
Doogie Howser,M.D.(1989-1993) เป็นซิทคอมการแพทย์ที่มีเป้าหมายผู้ชมคือเด็กและวัยรุ่น
โดยซิทคอมเรื่องนี้จะเป็นกึ่งเรื่องจริง และตัวละครในซิทคอมมีที่มาจากบุคคลจริง
Doogie Howser,M.D.(1989-1993) เป็นซิทคอมการแพทย์ที่มีเป้าหมายผู้ชมคือเด็กและวัยรุ่น
โดยซิทคอมเรื่องนี้จะเป็นกึ่งเรื่องจริง และตัวละครในซิทคอมมีที่มาจากบุคคลจริง
คุณHarris รับบทเป็นDouglas"Doogie" Howser หนุ่มน้อยอัจฉริยะที่ได้มาเป็นแพทย์ตอนก้าวสู่วัยรุ่น และเปิดคลีนิกเพื่อรักษาผู้คน
โดยช่วงที่คุณHarris แสดงซิทคอมเรื่องนี้นั้น ตัวเขาเองกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนLa Cueva High School ซึ่งต้องแบ่งเวลาเรียนและเวลาทำงานเป็นนักแสดงควบคู่กันไป จนได้เรียนจบเมื่อปี1991
โดยช่วงที่คุณHarris แสดงซิทคอมเรื่องนี้นั้น ตัวเขาเองกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนLa Cueva High School ซึ่งต้องแบ่งเวลาเรียนและเวลาทำงานเป็นนักแสดงควบคู่กันไป จนได้เรียนจบเมื่อปี1991
ยิ่งโตขึ้น ยิ่งอยากลองบทบาทใหม่ๆ
หลังจากซิทคอมเรื่องDoogie Howser,M.D. จบลง คุณHarris ก็ไม่มีผลงานชิ้นไหนประสบความสำเร็จเทียบเท่าได้เลย
ปี1997 คุณHarris ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์ไซไฟเรื่องStarship Troopers โดยรับบทเป็นจ่าCarl Jenkins แต่ตัวภาพยนตร์ทำรายได้เท่าทุน และคำวิจารณ์ไปในทางก้ำกึ่ง
หลังจากซิทคอมเรื่องDoogie Howser,M.D. จบลง คุณHarris ก็ไม่มีผลงานชิ้นไหนประสบความสำเร็จเทียบเท่าได้เลย
ปี1997 คุณHarris ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์ไซไฟเรื่องStarship Troopers โดยรับบทเป็นจ่าCarl Jenkins แต่ตัวภาพยนตร์ทำรายได้เท่าทุน และคำวิจารณ์ไปในทางก้ำกึ่ง
ต่อมา คุณHarris ก็ร่วมงานในซิทคอมเรื่องStark Raving Mad(1999-2000) แต่ซิทคอมเรื่องนี้นอกจากจะจบแค่ซีซั่นแรกแล้ว ยังออกอากาศไม่ครบก็โดนตัดจบไปอย่างน่าเสียดาย
กลับมา"ปัง"กับซิทคอมขวัญใจคนยุคมิลเลนเนียม
How I Met Your Mother ซิทคอมตลกแนวชีวิตประจำวัน เป็นซิทคอมที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงทศวรรษ2000s จนถึงยุค2010s โดยว่าด้วยเรื่องราวของTed Mosby(รับบทโดยคุณJosh Radnor) ในช่วงตั้งแต่ปี2005-2013 กับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเพื่อนๆ และการตามหาว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา
How I Met Your Mother ซิทคอมตลกแนวชีวิตประจำวัน เป็นซิทคอมที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงทศวรรษ2000s จนถึงยุค2010s โดยว่าด้วยเรื่องราวของTed Mosby(รับบทโดยคุณJosh Radnor) ในช่วงตั้งแต่ปี2005-2013 กับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเพื่อนๆ และการตามหาว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา
บอกเลยว่า ซิทคอมเรื่องนี้ ถ้าไม่มีBarney Stinson(รับบทโดยคุณNeil Patrick Harris) ซิทคอมเรื่องนี้คงขาดสีสันและมุขตลกไปอย่างน่าเสียดาย
ซิทคอมเรื่องนี้ออกอากาศตั้งแต่ปี2005 จนถึงปี2014 ทางช่องCBS รวมทั้งหมด9ซีซั่น ได้เข้าชิงรางวัลEmmy Awards ทั้งหมด28ครั้ง ได้รับรางวัลถึง9ครั้ง
ซิทคอมเรื่องนี้ออกอากาศตั้งแต่ปี2005 จนถึงปี2014 ทางช่องCBS รวมทั้งหมด9ซีซั่น ได้เข้าชิงรางวัลEmmy Awards ทั้งหมด28ครั้ง ได้รับรางวัลถึง9ครั้ง
ผลงานภาพยนตร์ช่วงยุค2010s
อานิสงค์จากซิทคอมเรื่องHow I Met Your Mother ทำให้คุณHarris มีผลงานภาพยนตร์ระดับBlockbusterมากขึ้น
ภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์เรื่องThe Smurfs(2011) ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกัน
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการใช้ตัวการ์ตูนแบบCGI เข้าไปอยู่ในซีนคนแสดง ทำรายได้ถล่มทลายสวนทางกับคำวิจารณ์ที่ไปในทางลบ
อานิสงค์จากซิทคอมเรื่องHow I Met Your Mother ทำให้คุณHarris มีผลงานภาพยนตร์ระดับBlockbusterมากขึ้น
ภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์เรื่องThe Smurfs(2011) ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกัน
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการใช้ตัวการ์ตูนแบบCGI เข้าไปอยู่ในซีนคนแสดง ทำรายได้ถล่มทลายสวนทางกับคำวิจารณ์ที่ไปในทางลบ
โดยคุณHarris รับบทเป็นPatrick Winslow พนักงานขายร้านเครื่องสำอางที่ต้องจับพลัดจับผลูกับก๊วนSmurfs
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อเข้าฉายเมื่อปี2013 แต่ทำรายได้ลดลงจากภาคแรกไปกว่า200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(เครื่องพิสูจน์ว่า ภาพยนตร์ภาคต่อมักทำรายได้ลดลงจากภาคแรกเป็นความจริง)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อเข้าฉายเมื่อปี2013 แต่ทำรายได้ลดลงจากภาคแรกไปกว่า200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(เครื่องพิสูจน์ว่า ภาพยนตร์ภาคต่อมักทำรายได้ลดลงจากภาคแรกเป็นความจริง)
ปี2014 คุณHarris ก็ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์เรื่องGone Girl ในบทDesi Collings แฟนเก่าของAmy Elliott Dunne(รับบทโดยคุณRosamund Pike)
โดยภาพยนตร์เรื่องGone Girl ดัดแปลงมาจากนิยายขายดี กำกับโดยลุงDavid Fincher เรื่องราวของสามีที่ประกาศตามหาภรรยาที่หายตัวไปในวันครบรอบแต่งงานปีที่5 แต่หารู้ไม่ว่า ภรรยาได้วางแผนทุกอย่างก่อนหน้านั้นแล้ว ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ขอบอกเลยว่า อย่าไว้ใจคนรักแม้แต่ภายในจิตใจ
โดยภาพยนตร์เรื่องGone Girl ดัดแปลงมาจากนิยายขายดี กำกับโดยลุงDavid Fincher เรื่องราวของสามีที่ประกาศตามหาภรรยาที่หายตัวไปในวันครบรอบแต่งงานปีที่5 แต่หารู้ไม่ว่า ภรรยาได้วางแผนทุกอย่างก่อนหน้านั้นแล้ว ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ขอบอกเลยว่า อย่าไว้ใจคนรักแม้แต่ภายในจิตใจ
ทำหน้าที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลด้านสื่อบันเทิงที่ทางหน่วนงานไว้วางใจ
คุณHarris เคยเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลด้านละครเวทีTony Awards ทั้งหมด4ครั้ง ได้แก่
คุณHarris เคยเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลด้านละครเวทีTony Awards ทั้งหมด4ครั้ง ได้แก่
- ครั้งที่63 ถ่ายทอดสดเมื่อปี2009
- ครั้งที่65 ถ่ายทอดสดเมื่อปี2011
- ครั้งที่66 ถ่ายทอดสดเมื่อปี2012
- ครั้งที่67 ถ่ายทอดสดเมื่อปี2013
Count Olaf ที่ลบภาพจำจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิง
A Series of Unfortunate Event(2017-2019) เป็นซีรีส์ทางNetflix ที่นำวรรณกรรมชื่อเดียวกันทั้งหมด13เล่มมาถ่ายทอดเป็นซีรีส์ทั้งหมด3ซีซั่น และกระแสตอบรับดีมาก
โดยคุณHarris รับบทเป็นCount Olaf ตัวร้ายของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งCount Olaf เป็นญาติห่างๆของ3พี่น้องBaudelaire ที่มาบงการชีวิต3พี่น้องตระกูลนี้
A Series of Unfortunate Event(2017-2019) เป็นซีรีส์ทางNetflix ที่นำวรรณกรรมชื่อเดียวกันทั้งหมด13เล่มมาถ่ายทอดเป็นซีรีส์ทั้งหมด3ซีซั่น และกระแสตอบรับดีมาก
โดยคุณHarris รับบทเป็นCount Olaf ตัวร้ายของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งCount Olaf เป็นญาติห่างๆของ3พี่น้องBaudelaire ที่มาบงการชีวิต3พี่น้องตระกูลนี้
ซึ่งฉบับซีรีส์เป็นการยกระดับจากฉบับภาพยนตร์ที่เข้าฉายเมื่อปี2004ได้อย่างสมบูรณ์ และบทCount Olaf ในฉบับซีรีส์ก็ได้ลบภาพจำของบทนี้ในฉบับภาพยนตร์ที่รับบทโดยลุงJim Carrey ไปอย่างราบคาบ
ชีวิตครอบครัว และรสนิยมรักเพศเดียวกัน
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 คุณHarrisได้ประกาศตัวเองว่า เป็น"เกย์"
ต่อมาในงานประกาศรางวัลEmmy Awards ครั้งที่61 เมื่อเดือนกันยายน 2007 คุณHarris ปรากฏตัวพร้อมกับคุณDavid Burtka ซึ่งเป็นคู่หมั้น หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการThe Ellen DeGeneres Showว่า เขากับคุณBurtka เริ่มคบหาดูใจเมื่อปี2004แล้ว
ทั้งคู่มีลูกฝาแฝดชายหญิง จากการอุ้มบุญ โดยลูกฝาแฝดชายหญิงเกิดเมื่อปี2010
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 คุณHarrisได้ประกาศตัวเองว่า เป็น"เกย์"
ต่อมาในงานประกาศรางวัลEmmy Awards ครั้งที่61 เมื่อเดือนกันยายน 2007 คุณHarris ปรากฏตัวพร้อมกับคุณDavid Burtka ซึ่งเป็นคู่หมั้น หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการThe Ellen DeGeneres Showว่า เขากับคุณBurtka เริ่มคบหาดูใจเมื่อปี2004แล้ว
ทั้งคู่มีลูกฝาแฝดชายหญิง จากการอุ้มบุญ โดยลูกฝาแฝดชายหญิงเกิดเมื่อปี2010
คุณHarris พยายามให้ทางการออกกฎหมายเรื่องการแต่งงานเพศเดียวกันออกมาเป็นรูปธรรม โดยกฎหมายนี้ได้เริ่มใช้เมื่อปี2014 ปีเดียวกันกับที่ตัวเขากับคุณBurtkaได้แต่งงานกัน ซึ่งปัจจุบันคุณHarris กับคุณBurtka ยังใช้ชีวิตคู่กันอยู่
บทความนี้ในตอนต่อไป ภาพยนตร์เรื่องBlack Widow จะเข้าฉายอย่างเป็นทางการ(ซะที) ในเดือนกรกฎาคมนี้ เราจะมาพูดถึงพี่Scarlett Johansson พี่สาวสุดสวยและเซ็กซี่
ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความนี้ แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia
ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความนี้ แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia