การใช้ชีวิตอย่างหนักหน่วงทำให้ผิวของเราเหนื่อยล้าสะสมกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็มีผิวที่เสื่อมโทรมลง แถมริ้วรอยต่างๆ ก็ตามมาอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นการเลือกใช้สกินแคร์ในกลุ่มของ Anti-Aging จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในวัย 30 ++ ที่การสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวเนี่ยลดลงไปทุกวัน ที่เรากล้าพูดแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าเราพิสูจน์มาแล้วค่ะ และในวันนี้เราจะมาแนะนำ เซรั่มลดเลือนริ้วรอยสุดปัง ทั้งหมด 4 ตัว เตรียมกระดาษปากกาและเตรียมเงินให้พร้อมกับการป้ายยาเบาๆ ในวันนี้กันเลย

โฉมหน้าของ 4 เซรั่มลดเลือนริ้วรอยสุดปังที่วัย 30 ++++ ไม่ควรพลาด !!!

โดยเราจะเริ่มจากเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาไปจนถึงเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีออยล์เป็นส่วนประกอบนะคะ

สภาพผิวของเรา คือ ผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำ มีริ้วรอยเพียบ แต่รับประกันเลยว่าเจ้าเซรั่มทั้ง 4 ตัวนี้ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ดูลดเลือนลงได้จริงค่ะ

Lancome Advanced Genifique Youth Activating Concentrate

จุดเริ่มต้นของน้องคนนี้เริ่มมาจากขนาดทดลองที่ปรับสูตรใหม่แล้วปังกว่าเดิมมาก เราก็เลยจัดไซส์ใหญ่จุใจ 75 ml มาเลยค่ะ น้องเค้าเป็นเซรั่มต่อต้านริ้วรอยที่ช่วยปรับสมดุลผิวด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Microbiome Sciencec ผสาน Pre-Probiotics 7 ชนิด ที่ร่วมกันปรับสมดุลผิว ดังนั้นจึงช่วยลดปัญหาสิว ผดผื่น ลดการระคายเคือง ลดริ้วรอย เสริมสร้างให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ผิวจึงมีความกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และเรียบเนียนมากขึ้น เซรั่มเพียง 1 หยด อุดมไปด้วย 30 ล้านไมโครไบโอม , Pre & Probiotics 7 ชนิด ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว, Hyaluronic Acid ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส และ Antioxidant อย่าง Vitamins C และ E ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิว เรียกได้ว่าขวดนี้ช่วยฟื้นบำรุงผิวแบบจุกๆ  

เหมาะสำหรับผิวแบบไหน

เหมาะกับทุกสภาพผิว 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่น บางเบา สบายผิว ซึมซาบเร็ว ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ

วิธีใช้

สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเราจะลงเป็นลำดับต่อจากโทนเนอร์นะคะ

ผลลัพธ์ที่ได้

เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องก็จะได้ผิวที่มีสุขภาพดีมากขึ้น ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน กระจ่างใส และแข็งแรงมากขึ้น ปัญหาสิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ ลดลงเยอะมาก ใครเป็นสิวแล้วไม่หายซะทีเราแนะนำว่าต้องลองเลยค่ะ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องก็จะได้ผิวที่มีรูขุมขนกระชับอันนี้เซอร์ไพรส์มาก ส่วนเรื่องของริ้วรอยเรายอมรับว่าน้องเค้าช่วยลดเลือนได้ดีเลยค่ะ โดยเฉพาะริ้วรอยเล็กๆ บางๆ ลดลงชัดมาก ส่วนริ้วรอยร่องลึกต้องให้เวลาเค้าหน่อยเน๊อะ 

ขนาด 30 ml ราคา 3,200 บาท

ขนาด 50 ml ราคา 4,700 บาท

ขนาด 75 ml ราคา 5,500 บาท

Biotherm Life Plankton Elixir

น้องคนนี้เราเคยยกให้เป็นเซรั่มที่สุดของต้นปี 2020 ไปแล้ว และในปีนี้น้องเค้าก็ยังได้อยู่ในกลุ่มของเซรั่มสุดปังในปี 2021 ซึ่งตอนนี้เราใช้ซ้ำเป็นขวดที่ 2 แล้วจ้า เค้าช่วยจัดการปัญหาผิวร่วงโรย ผิวโทรม ได้อย่างตรงจุด จุดเด่นของเค้าคือส่วนผสมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของไบโอเธิร์มอย่างLIFE PLANKTON™ ที่มีความเข้มข้น 5 %ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของแบรนด์ บวกกับส่วนผสมทรงประสิทธิภาพจากธรรมชาติอย่างไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) และวิตามินซี ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยให้ผิวดูแข็งแรงขึ้นมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวที่ร่วงโรย ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ กระจ่างใส กระชับ และเรียบเนียนมากขึ้น โดยเห็นผลหลังใช้อย่างต่อเนื่องเพียง 8 วัน 

เหมาะสำหรับผิวแบบไหน

เหมาะกับทุกสภาพผิว 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

เซรั่มบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยกลิ่นเบาที่สุดในตระกูล Life Plankton ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ

 วิธีใช้

สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในวันที่ผิวระคายเคืองง่าย มีรอยแดง มีผดผื่นคัน จากไหนมาก็ตามเมื่อโบกตัวนี้เข้าไปจะช่วยให้รู้สบายผิวมากขึ้น อาการระคายเคือง รวมถึงผดผื่นคันลดลงดีงาม 

ผลลัพธ์ที่ได้

เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องผิวโดยรวมดูดีขึ้นมากจริงๆ ผิวนุ่มชุ่มชื้น ยืดหยุ่นดีขึ้น รูขุมขนกระชับมากขึ้น ผิวแข็งแรงมากขึ้น กระจ่างใสมากขึ้นด้วย ที่เราชอบมากคือเค้าช่วยให้ผิวที่มีการอักเสบจากสิวหรืออะไรก็ตามลดลง อยากบอกว่าเราใช้ร่วมกับเจลแต้มสิวแล้วสิวอักเสบยุบเร็วกว่าปกติด้วยค่ะ รอยแดงจากสิวจางไวมากขึ้น ส่วนเรื่องของริ้วรอยให้ผลสูสีกับ Lancome Advanced Genifique Youth Activating Concentrate นะคะ สรุปคือ น้องได้ไปต่อ

ขนาด 30 ml ราคา 2,200 บาท

ขนาด 50 ml ราคา 3,200 บาท

Clarins Double Serum

น้องคนนี้เป็นเซรั่มที่เราหยิบมาพูดถึงบ่อยมาก เป็นตัวเปิดโลกแห่งการใช้ Facial oil ของเราเลยค่ะ ขวดนี้เราใช้เป็นขวดที่ 3 แล้วนะคะ จุดเด่นที่ทำให้น้องคนนี้เป็นเซรั่มที่ครองใจใครหลายๆ คนก็คือ เค้ามีการผสานสารสกัดจากพืชธรรมชาติที่แบรนด์เคลมว่ามีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า มากถึง 20 ชนิด โดยมีการเลียนแบบระบบการปรับความสมดุลของผิวที่มีสุขภาพดีระหว่างนํ้าและนํ้ามัน Hydric + Lipidic System ที่จะช่วยให้การบำรุงผิวเป็นไปอย่างล้ำลึกมากขึ้น ดังนั้นน้องคนนี้จึงมีประสิทธิภาพในการช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยลึก ผิวไม่เรียบเนียน ผิวโทรม ผิวไม่กระจ่างใส

เหมาะสำหรับผิวแบบไหน

เหมาะกับทุกสภาพผิว 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

เนื้อออยล์บางเบา มีส่วนประกอบของน้ำและน้ำมัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  ซึมไว ไม่เหนอะหนะ 

วิธีใช้

สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ปรับขนาดของหัวปั๊ม (เล็ก-ใหญ่) และจำนวนปั๊ม ตามสภาพผิว วันไหนสภาพหน้าเยินหน่อยต้องการฟื้นฟูแบบจัดเต็มก็จะหมุนปั๊มใหญ่ กด 1 ที หรือ 2 ที   เมื่อปั๊มบนฝ่ามือแล้วให้ทำการวอรร์มบนฝ่ามือ จากนั้นจึงค่อยๆ ประกบฝ่ามือ กดๆ ลงให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เราใช้เป็นลำดับแรกต่อจากน้ำตบหรือเซรั่มที่เนื้อบางเบากว่า จากนั้นก็ตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์

ผลลัพธ์     

เราชอบทั้งกลิ่นและเนื้อสัมผัสของเค้าเลย กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลาย เนื้อสัมผัสเป็นออยล์ที่ไม่หนักไม่เบาเกินไป ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ สภาพผิวแบบเราสามารถใช้ได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน  โดยไม่รู้สึกหนักผิว แต่ถ้าใครผิวมันมากๆ แนะนำให้ใช้เฉพาะกลางคืนนะคะ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะได้ผิวเนียนนุ่ม เรียบเนียน รูขุมขนกระชับมากขึ้น ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น   ริ้วรอยต่างๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยใหม่ๆ ก็ไม่เพิ่มขึ้น และเป็นเซรั่มที่ช่วยงัดให้ผิวไม่โทรมอย่างที่ควรจะเป็นในวันที่นอนน้อย สำหรับใครที่กังวลเรื่องริ้วรอย เรื่องผิวโทรม ไม่ควรพลาดนะคะ สำหรับเราน้องคนนี้ได้ไปต่อเสมอๆ ซึ่งเราซื้อตุนไว้แล้วเรียบร้อยแล้วค่า  

ขนาด 30 ml ราคา 3,700 บาท

ขนาด 50 ml ราคา 4,900 บาท

Yves Rocher Anti-Age Global Super Serum Bud Nectar

เซรั่มน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาของอีฟโรเช่และเราก็ไม่พลาดที่จะลอง สิ่งที่น่าสนใจคือคุณสมบัติของน้องคนนี้ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วนแบบเรามาก เซรั่มตัวนี้เป็น “Super Serum Bud Nectar ซุปเปอร์เซรั่มบัดเนคต้าร์” ที่ช่วยกู้ผิวหน้าโทรมๆ ผิวหมองคล้ำ ให้ดูกระจ่างใส อิ่มฟู โดยสร้างผิวใหม่ใน 3 วัน มาในรูปแบบ Bi-phased serum ประกอบด้วย ชั้นเซรั่ม Bud Nectar และ ชั้น Oil Booster โดยเจ้าชั้นเซรั่ม Bud Nectar สกัดมาจากน้ำหวานของหน่อยอดอ่อนของดอกไวท์ไลแลค ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากอย่างล้ำลึก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน และอิลาสติน ส่วนชั้น Oil Booster เป็นออยล์โมเลกุลเล็กจากธรรมชาติ ซึมไว ทำหน้าที่นำพาเซรั่มเข้าสู่ผิวชั้นลึก มีการเสริมประสิทธิภาพการบำรุงด้วยส่วนประกอบจาก Jojoba Oil, Grape Seed Oil และ Squalane ช่วยปรับสมดุลน้ำมันบนใบหน้าโดยไม่ทำให้ผิวอุดตัน 

เหมาะสำหรับผิวแบบไหน

เหมาะกับทุกสภาพผิว

 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

เนื้อออยล์บางเบา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  ซึมไว ไม่เหนอะหนะ 

วิธีใช้ 

สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ก่อนใช้ให้เขย่าขวดเพื่อให้เนื้อเซรั่มผสมกันและหยดลงบนผิว สำหรับผิวผสม-แห้ง ให้ใช้ 3-5 หยด ส่วนผิวมัน ให้ใช้ 2-3 หยด โดยเราจะวอร์มบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ 

ผลลัพธ์

กลิ่นและเนื้อสัมผัสดีมาก กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสปา เป็นออยล์ที่ไม่หนักผิว ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ สภาพผิวแบบเราสามารถใช้ได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเลยนะ น้องเค้าช่วยให้ผิวนุ่มลื่น อิ่มฟูตั้งแต่คืนแรกที่ใช้เลยล่ะ ตอนนี้เราก็ใช้ติดต่อกันทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเป็นเวลา 4 วันแล้ว ไม่มีอาการระคายเคือง ไม่เกิดการอุดตันเลย แถมช่วงนี้นอนดึกและนอนน้อยมาก แต่ผิวกลับไม่ล้าไม่โทรมอย่างที่เคยเป็น  ส่วนเรื่องริ้วรอยต่างๆ ต้องใช้เวลาอีกหน่อยเอาไว้เราจะมาบอกผลลัพธ์กันอีกครั้งนะคะ ถือว่าเป็นเซรั่มที่ช่วยงัดผิวให้เราได้จริงในราคาที่จับต้องได้ คุณภาพระดับเคาเตอร์แบรนด์ ควรค่าแก่การลงทุนมากๆ ค่ะ การันตีด้วยยอดขาย 1 ขวด ทุก 1 นาที

ขนาด 30 ml ราคา  2,699 บาท 

พิเศษช่วงเปิดตัว 1,599 บาทเท่านั้น ตั้งแต่ 14 พค-30 มิย 64 นี้นะคะ

 ช่องทางการสั่งซื้อ : Yves Rocher ทุกสาขา , Lazada, Shopee, Konvy และ 

Line Official Account : @YvesRocherTH

ทั้งหมดก็คือ 4 เซรั่มลดเลือนริ้วรอยสุดปังที่เรานำมาฝากทุกคน ใครเคยใช้ตัวไหนบ้างและผลเป็นอย่างไร ก็นำมาเม้าท์มอยกันนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม 

แล้วพบกันใหม่ค่ะ ^^