[Deep Review] เซรั่มชะลอผิวชราที่กำลังอื้ออึง Yves Rocher Anti-Age Global Bud Nectar ✨

127 29
WITH <strong>YVES ROCHER</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)

ปลื้มใจมากที่ถึงคิวรีวิว Yves Rocher Anti-Age Global Bud Nectar #ซุปเปอร์เซรั่มบัดเนคต้าร์

.

เซรั่มที่ใช้แล้วชอบ เพราะสูตรเค้า Formulate มาช่วยบาล้านซ์น้ำและน้ำมันในผิวให้พอดี
.

มีส่วนสำคัญคือ Botanical Bud Nectar ช่วยชะลอผิวชรา, ปรับให้ผิวใส และปลอบประโลมให้ผิวสบาย และที่สำคัญคือฟีลลิ่งการใช้ดี สบายผิว หอมชื่นรื่นรมย์มากค่ะ
.
ส่วนตัวโดนัทประทับใจสกินแคร์จาก Yves Rocher ตั้งแต่สูตร Anti-Aging Supra Essence ที่ได้รีวิวไปช่วงหลายเดือนก่อน และช่วงที่ผ่านมาโดนัทได้เริ่มใช้ Anti-Age Global Bud Nectar ที่เป็นเซรั่มใหม่ล่าสุด  
.
ขวดนี้เป็นเซรั่ม Bi-Phase ที่มีทั้งสัดส่วนของน้ำและน้ำมัน
แต่ใครที่ผิวมันอ่านต่อได้นะคะ อย่าเพิ่งปิด เพราะเซรั่มตัวนี้เลือกน้ำมันที่มีเนื้อบางเบา และโมเลกุลเล็ก เลียนแบบน้ำมันบนผิวตามธรรมชาติ ที่เสี่ยงอุดตันต่ำ ทำให้ไม่เกิดปัญหาหน้าเยิ้ม หรืออุดตันหลังใช้ค่ะ
.
ส่วนตัวโดนัทผิวผสม เป็นผิวที่เอาใจยากมาก เพราะมีทั้งส่วนที่แห้งและมันในหน้าเดียวกัน ดังนั้นตอนที่เริ่มใช้โดนัทกังวลเรื่อง T-Zone มากว่าจะมันเกินไปไหม แต่เท่าที่โดนัทลองใช้มาในปริมาณ 3-5 หยด และวอร์มก่อนกดลงบนผิว ก็รู้สึกว่าไม่ได้มันย่อง และผิวส่วนที่แห้งก็ดูสมดุลขึ้นด้วย ซึ่งถือว่าเซรั่มทำได้ดีมาก
.
ดังนั้นโดนัทคิดว่า ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม น่าจะชอบเซรั่มชิ้นนี้เหมือนกันค่ะ

ก่อนอื่นโดนัทขอสรุปสูตรแบบเก็บครบทุกประเด็นสำคัญไว้ให้ก่อนนะคะ

.
1. ในสูตร Yves Rocher Anti-Age Global Bud Nectar เน้นการออกฤทธิ์จากสารสำคัญ คือ Botanical Bud Nectar ซึ่งสารสำคัญที่ออกฤทธิ์คือ Verbascoside จากเซลล์เพาะเลี้ยง White Lilac Bud โดยในสูตรนี้เพิ่มปริมาณเป็น 2 เท่าจากสูตร Anti-Aging Supra Essence
.
2. Yves Rocher ได้ทำสิทธิบัตร 3 ฉบับในด้าน Anti-aging จากเซลล์เพราะเลี้ยง White Lilac Bud พบว่าให้ฤทธิ์ที่ดีด้านปลอบประโลมผิว, ด้านการปรับให้ผิวดูกระจ่างใสสม่ำเสมอ และด้าน Anti-ageing
.
3. มีผลการทดลองพบว่า Botanical Bud Nectar จาก White Lilac Bud ที่ 2% และ 4% มีผลเด่นในด้านลด IL-6, IL-8 ที่ส่งผลให้อาการอักเสบลดลง นอกจากนั้นยังพบผลในหลอดทดลองว่า ที่ 72 ชม. Fibroblast เพิ่มขึ้น 20% และพบผลด้านการลดการสร้างเม็ดสี โดยยับยั้งการสร้างเมลานินลง 56%
.
4. สูตรนี้เป็น Bi-Phase คือมีเซรั่ม Phase น้ำด้านล่าง และมี Phase น้ำมันด้านบน
.
5. ส่วนสำคัญที่พิเศษคือน้ำมันจากธรรมชาติ 4 ชนิด ที่มีทั้งกรดไขมันดีต่อผิว มีเนื้อเบา มีค่าการอุดตันต่ำ และมี Squalane ที่คล้ายน้ำมันธรรมชาติของผิวเพิ่มความชุ่มชื้น
.
6. นอกจากนั้นยังมีผลการทดลองจาก Yves Rocher  ว่าน้ำมันในสูตร และเทคโนโลยี N.A.T มีประโยชน์ในการช่วยพาสารสำคัญ (Verbascoside) ให้ซึมลงสู่ผิวชั้นลึกได้จริง
.
7. มีสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เช่น Glycerin, Sodium Hyaluronate, Inositol
.
8. มีสารสำคัญจากธรรมชาติที่ให้ฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดีหลายชนิด
.
9. ในสูตรใช้ส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ (Natural Origins) ที่ 98%
.
10. ในส่วนประกอบมีน้ำหอม และน้ำมันหอมระเหย 

เรามาดูส่วนประกอบ Texture และความรู้สึกหลังใช้กันเลยค่ะ

.
 
เพื่อความสวยของผิว สมดุลน้ำและน้ำมันเป็นส่วนสำคัญ ผิวจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้
.
แต่ในที่นี้การเลือกน้ำมันในสกินแคร์รูทีนสำคัญมาก เพราะน้ำมันที่มีน้ำหนักโมเลกุลมาก จะไม่ได้เหมาะกับผิวมัน เพราะอาจจะก่อสิว  รวมทั้งสัดส่วนน้ำมันที่ใช้ควรจะต้องพอดีให้ผิวแห้งรู้สึกถึงความนุ่มลื่น และสมดุลอีกด้วย  

เรามารื้อฟื้นเรื่องการเสื่อมของผิวกันค่ะ

. 
การเสื่อมของผิว เกิดจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก
ซึ่งการดูแลผิวโดยการใช้สกินแคร์ถือเป็น 1 ในส่วนสำคัญที่จะทำให้ผิวเราไม่แก่ไปกว่าที่ควรจะเป็น
.
ซึ่งสกินแคร์ที่เราใช้ดูแลนั้นเราสามารถเลือกกลุ่ม Anti-aging เพื่อใช้แต่เนิ่นๆได้ค่ะ
และสกินแคร์ที่โดนัทว่าเวิร์คมาก สำหรับคนที่ต้องการสรรพคุณด้าน Anti-aging และช่วยปรับสมดุลน้ำ และน้ำมันบนผิว รวมทั้งให้ความรื่นรมย์ในขั้นตอนการใช้ คือ Yves Rocher Anti-Age Global Super Serum Bud Nectar หรือ #ซุปเปอร์เซรั่มบัดเนคต้าร์ ที่เป็นเซรั่มใหม่ล่าสุดที่โดนัทว่าหลายคนน่าจะเห็น และหลายๆคนอาจจะซื้อมาแล้วแน่ๆเลย
.
คือสูตรนี้ความเด่นเค้าอยู่ที่ตัวเนื้อเซรั่มแบ่งเป็น 2 Phases ค่ะ
.
  1. ด้านล่างคือเซรั่มที่มีส่วนประกอบของ Botanical Bud Nectar 
  2. ด้านบนคือส่วนประกอบของ Organic Oil Booster
.
ในชั้นเซรั่มที่มีส่วนประกอบของ Botanical Bud Nectar  จะมีส่วนประกอบที่ละลายในน้ำอยู่ โดยตัวที่ออกฤทธิ์หลักในสูตรคือ เซลล์เพาะเลี้ยงของ White Lilac มีผลดีด้านการปกป้องผิว, การเพิ่มความกระชับ, การทำให้ผิวเรียบ และต้านริ้วรอยได้
สำหรับพืชตระกูล Lilac จะมีสารออกฤทธิ์ที่พิเศษชนิดหนึ่ง นั่นคือ Verbascoside ที่โดนัทเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่ามีฤทธิ์ดีต่อผิว ตั้งแต่ แอนตี้ออกซิแดนท์, Soothing, สมานแผล, ต้านอาการอักเสบ ไปจนถึงฤทธิ์ Anti-aging ที่ดี
.

ซึ่งวิธีการของทาง Yves Rocher คือการนำเซลล์ตัวอย่างส่วนตา หรือเนื้อเยื่อเจริญ (Gemmotherapy) ของ White Lilac มาเพราะเลี้ยง จนได้ Callus และนำมาสกัดเพื่อใช้ในสกินแคร์ของแบรนด์เอง ซึ่งการใช้ Callus หรือหลายๆผู้ผลิตเรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิดนี้มักนำมาใช้ในสกินแคร์บำรุงผิวในหลายด้าน ตั้งแต่ ลดริ้วรอย, ผิวกระจ่างใส เป็นต้น

โดยทาง Yves Rocher ได้มีการมีการจดสิทธิบัตรต่อ 3 ฉบับ นั่นคือ
.

1. Cosmetics use of syringe vulgaris l. meristematic cells for a soothing and/or softening action on the skin
    การใช้เนื้อเยื่อเจริญหรือส่วนตาของ Lilac ในทางเครื่องสำอางเพื่อผลด้านปลอบประโลมผิว
.
2.Cosmetic use of syringe vulgaris l. meristematic cells for give the complexion uniformity.
    การใช้เนื้อเยื่อเจริญหรือส่วนตาของ Lilac ในทางเครื่องสำอางเพื่อผลด้านการลดจุดด่างดำ และปรับให้ผิวกระจ่างใส
.
3.Cosmetic use of syringe vulgaris l. meristematic cells for anti-ageing action on the skin
    การใช้เนื้อเยื่อเจริญหรือส่วนตาของ Lilac ในทางเครื่องสำอางเพื่อผลด้าน Anti-ageing ของผิว
.
พอได้ส่วนประกอบสำคัญแล้ว ทาง Yves Rocher จึงนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ Botanical Bud Nectar  ใน Anti-Age Global Super Serum Bud Nectar โดยมีการทดสอบประสิทธิภาพใน 5 ด้านที่สำคัญ
.
        1. ทดสอบการซึมลงสู่ผิว
.
          โดยทาง Yves Rocher ใช้ Natural Assimilation Technology (N.A.T) ที่เป็นการนำส่งให้สารสำคัญสามารถซึมลึกลงสู่ชั้นผิว แล้วตรวจสอบโดย mass spectrometry เพื่อเช็คว่า Active Ingredient ตัวสำคัญ นั่นคือ Verbascoside ซึมลงสู่ผิวได้จริงในชั้น Epidermis และ Dermis
.
          2.ทดสอบการยับยั้งกระบวนการอักเสบ
.
           โดยใช้ Botanical Bud Nectar ที่ 4 % ในการทดสอบเปรียบเทียบระหว่าง
กลุ่ม Control นั่นคือ เซลล์ผิวที่โดน UV แล้วระดับ IL-6 และ IL-8 พบมีค่าเพิ่มสูงขึ้น 100%
กลุ่ม Nectar 10 ที่ใช้ Botanical Bud Nectar 4% ทรีทกับเซลล์ผิวที่โดน UV พบว่าระดับ IL-6 ลดลง 47% และ IL-8 ลดลง 34%
จึงอนุมานว่า Botanical Bud Nectar 4% มีผลด้านลดการอักเสบในผิว  
.
           3.ทดสอบด้านการลดการสร้างเมลานิน
.
           โดยเปรียบเทียบว่า ในกลุ่ม Control เมื่อใช้การกระตุ้นเมลานิน จะพบว่ามีการสร้างเมลานินอยู่ที่ 100%
แต่ในกลุ่มที่ใช้การกระตุ้นเมลานิน + Botanical Bud Nectar จะพบการสร้างเมลานิน อยู่ที่ 44%
จึงอนุมานว่า Botanical Bud Nectar มีผลด้านการยับยั้งการสร้างเมลานิน และทำให้ผิวสว่าง กระจ่างใสขึ้น

            4.ทดสอบผลด้านความชุ่มชื้น
.
            มีการทดสอบการสร้าง CD44 Receptor ที่ช่วยเกาะเกี่ยว Hyaluronic acid ที่เปรียบเหมือนอ่างเก็บน้ำในเซลล์ผิว ซึ่งพบว่า Botanical Bud Nectar กระตุ้น expression ของ  CD44 Receptor เพิ่มขึ้น 44% 
จึงอนุมานว่า Botanical Bud Nectar มีผลด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นในผิว
.
            5.ทดสอบด้านการเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ผิว
.
            โดยพบว่าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การแบ่งตัวของเซลล์ผิวจะลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง ผิวจึงดูไม่เฟรชเหมือนสมัยเด็กๆ
.
ซึงส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญ ที่ทาง Yves Rocher มีข้อมูลว่าเมื่อใช้แล้วจะรู้สึกถึงผลลัพธ์ใน 3 วัน เนื่องจากทาง Yves Rocher ได้ทำการทดสอบกับเซลล์ Fibroblast (ที่มีหน้าที่สร้าง Collagen, Elastin และ GAGs เช่น Hyaluronic Acid ในชั้นผิว)
.
พบว่า Botanical Bud Nectar มีประสิทธิภาพด้านเพิ่มจำนวนเซลล์ Fibroblast ขึ้น 20% หลังจาก 72 ชม. หรือ 3 วันนั่นเอง
.
จึงอนุมานว่า Botanical Bud Nectar มีผลด้านการชะลอความชราของผิว
.
และในสูตรนี้นอกจากที่ Botanical Bud Nectar จะเป็นพระเอกแล้ว นางเอกในสูตรก็คือ Organic Oil 4 ชนิด + Squalane ที่เรียกว่าเป็นชั้น Oil Booster ที่นอกจากจะให้ความนุ่มลื่น ฟื้นฟูผิวแล้ว ยังช่วยนำพาสารสำคัญต่างๆในซึมลงสู่เซลล์ผิวได้ดีกว่าสูตรที่ไม่มี Oil
.
โดยทาง Yves Rocher ได้ทำการทดสอบระหว่างการซึมของ ลงสู่ผิวของ Botanical Bud Nectar โดย trace จากสารสำคัญนั่นคือ Verbascoside ว่าซึมลงสู่ผิวได้ถึงชั้นไหน
.
ซึ่งจากการใช้ Mass spectrometry ในการตรวจจาก Skin section ได้พบ Verbascoside ในผิวชั้น Epidermis และมีส่วนหนึ่งที่พบใน Dermis
.
จึงอนุมานได้ว่าการมี Oil Booster สามารถพาสารสำคัญที่ออกฤทธิ์
อย่าง Verbascoside ซึทลงสู่ชั้นผิวได้ดี
.

โดย Oil 4 ชนิดคือ

.
Jojoba Seed Oil 
น้ำมันเมล็ด Jojoba ที่มี Texture คล้ายน้ำมันบนผิว และดีต่อทั้งผิวแห้งและผิวมัน ช่วยทดแทนน้ำมันตามธรรมชาติของผิว
.
Grape Seed Oil
น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นที่มี Texture เบา ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว มีสรรพคุณด้านแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี และมีกรดไขมัน Linoleic acid มีผลดีต่อผิวทั้งด้านการลดการอักเสบ ลดการอุดตัน ลดการเกิดสิว
.
Borage seed oil
น้ำมันโบราจ มี GLA (Gamma Linolenic) ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็น ร่างกายสร้างเองไม่ได้ โดยความสามารถคือช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของผิว,ลดอาการคัน และอาการผื่นผิวหนังอักเสบ
.
Camelina Sativa Oil
น้ำมันเมล็ดชา ที่มีกรดไขมัน Alpha-Linolenic Acid สูง และมีผลดีต่อการลดอาการอักเสบ ลดผิวแห้ง
.
และ Squalane
ด้วยโครงสร้างของ Squalane ที่คล้ายกับน้ำมันในผิว และมีกรดไขมันที่ดี จึงเพิ่มความนุ่มลื่นให้ผิว ทำให้ผิวสูญเสียน้ำออกได้ลดลง และมีสรรพคุณด้านแอนตี้ออกซิแดนท์
.
โดยในส่วนประกอบจะแยกออกเป็น 2 Phases ก่อนใช้ให้เขย่าให้เข้ากัน แล้วจึงหยดใช้ค่ะ

เรามาดู Texture กันนะคะ

. 
คือเห็นขวดต้องพูดเลยว่าคือความส๊วย >< ส่วน Texture ก็ไม่น้อยหน้ากัน สวยเช่นกันค่ะ
.
เราจะเห็น 2 Phase แยกกันอย่างชัดเจน และก่อนใช้เราต้องเขย่าให้เข้ากัน แล้วใช้ Dropper ดึงผลิตภัณฑ์ออกมาใช้นะคะ
.
ก่อนอื่นโดนัทได้ลองเทสต์ 2 ส่วนแยกก่อนเลยเพราะอยากลอง Feeling ของส่วน Oil ค่ะ
.
พบว่า Oil เนื้อนุ่มเบามาก ซึมลงสู่ผิวได้ดี และมีกลิ่นหอมเป็นหลักในชั้นนี้ 
และอีกส่วนคือ Water Phase ซึ่งคือเป็นเนื้อเซรั่ม ที่ลื่นผิว มีฟีลลิ่งนุ่มของเนื้อเซรั่ม
แต่ว่าการผสม 2 ส่วนให้ฟีลลื่ง และ Texture ที่ดีที่สุดจริงๆค่ะ เวลาเราเขย่าผสมแล้วเนื้อทั้ง 2 ส่วนจะผสานจนเซรั่มมีเนื้อขุ่น เวลาหยดออกมาใช้จะมีทั้งสัดส่วน Oil และเซรั่มออกมาพอดีมาก
.
กลิ่นหอมสุดๆ หยุดดมไม่ได้
.
สูตรนี้เห็นว่านุ่มลื่นผิว ไม่หนึบเหนอะหนะแบบนี้ เค้าไม่ได้ใช้ Silicone นะคะ นอกจากกลุ่ม Oil เค้าใช้ Coco-Caprylate/Caprate ที่ให้ความนุ่มลื่นแก่ผิว สกัดจากมะพร้าว สามารถเกลี่ยได้ลื่นบนผิว เบาสบาย ไม่เหนอะหนะ

วิธีใช้

. 
เขย่าผสมทั้ง 2 Phases ให้เข้ากัน จะเห็นว่าเป็นสีขุ่นๆ แล้วจึงใช้ Dropper ดึงผลิตภัณฑ์ แล้วหยดลงบนมือ ผิวมันใช้ 3 หยด ผิวแห้งใช้ 5 หยด และปรับปริมาณให้พอดีกับผิวตัวเองได้
.
ประกอบวอร์มบนฝ่ามือและสูดดมกลิ่นหอม แล้วจึงกดประคบลงให้ทั่วใบหน้า
สามารถใช้ได้ทั้งเช้า และก่อนนอน
.

ความรู้สึกหลังใช้

 .
ปกติโดนัทเองจะไม่ใช้ Oil ถ้าไม่ชอบจริงๆ แต่อย่าง Anti-Age Global Super Serum Bud Nectar เป็นเซรั่มที่โดนัทรู้สึกว่าทั้ง 2 Phases ทั้งเซรั่ม และ Oil มีความสมดุล
.
โดนัทเป็นคนผิวผสม T-zone มัน U-zone แห้ง ซึ่งเซรั่มที่เหมาะและดี คือเซรั่มที่ทำให้ทั้ง 2 ส่วนสมดุลได้ และมีไม่มากที่จะทำได้ แต่ Anti-Age Global Super Serum Bud Nectar ทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้น ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สบายผิว
ในด้านที่รู้สึกผลก่อนเลยคือความนุ่มลื่นของผิว ที่ทุกคนที่ใช้น่าจะรู้สึกได้จากการใช้ครั้งแรกเหมือนกัน
.
ต่อมาคือผิวดูอิ่มขึ้น ดูผ่องและใสขึ้น และความโทรมลดลง โดนัทรู้สึกว่าเริ่มรู้สึกด้านนี้ที่ 2 อาทิตย์เป็นต้นไปค่ะ
.
ในด้านริ้วรอยจางๆ และความยืดหยุ่นของผิว อยากให้เวลามากกว่านี้สัก 2 เดือนเป็นต้นไป เพื่อให้รู้สึกถึงผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นค่ะ

แพคเกจจิ้ง


เป็นขวดแก้วสามารถ Recycle ได้ 100% โดยตอนทิ้งให้แยกฝาออก
กล่องทำมาจากกระดาษ Recycle ที่มาจากการปลูกป่าแบบยั่งยืน
.

Note

​​​​.
ในส่วนประกอบมีน้ำหอม และน้ำมันหอมระเหย
ไม่มีแอลกอฮอล์, สี, ซิลิโคน, พาราเบน, mineral oil
.
ราคา ขวดละ 2,699 บาท ขนาด 30 ml
พิเศษช่วงเปิดตัว 1,599 บาท (14 พ.ค.- 30 มิ.ย. 64) 
สถานที่จำหน่าย ร้าน Yves Rocher ทุกสาขา หรือ Line: @YvesRocherTH


donut

donut

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะทุกคน
ชื่อโดนัทนะคะ ชอบอัพเดทเครื่องสำอาง และสกินแคร์
รวมทั้งสารใหม่ๆที่ใช้ผลิตเครื่องสำอาง ?
.
เรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์คือเรื่องถนัดที่สุดในชีวิตแล้ว ? (เรื่องอื่นไม่ได้อะไรแล้ว 55555)
.
ยังไงจะมาอัพเดทบทความสนุกๆบ่อยๆนะค้า ❤️

FULL PROFILE