Emma Stone เธอคนนี้ตีบทแตก(เกือบ)ทุกบทบาท มารู้จักก่อนดูCruella

40 12
สวัสดีค่ะ ป่านเองค่ะ
ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องCruella ได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลายเสียงเห็นตรงกันว่า"มันเริ่ดมาก"
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นการเอาCruella De Vil ตัวร้ายในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง101 Dalmatians มาเล่าเพิ่มเติมถึงอดีตกว่าจะมาเป็นวายร้ายคลั่งขน(หมา) โดยเรื่องราวจะเป็นกรุงลอนดอนยุค70s ซึ่งเป็นยุคการถือกำเนิดเพลงแนวPunk Rock
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของCruella De Vil(ชื่อเดิมว่าEstella)ในสมัยสาวๆ ที่แอบอ้างมาเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ โดยBaroness von Hellman(รับบทโดยป้าEmma Thompson)หัวหน้าห้องเสื้อเห็นแววในความสามารถ แต่ก็ตามจิกกัดเธอเป็นประจำ การแก้แค้นของCruella จึงเริ่มต้นขึ้น
ด้านเสื้อผ้าในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าจัดเต็มกว่า48ชุด กะว่ารางวัลออสการ์ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมต้องนอนมาแน่ๆ ที่สำคัญก็คือ การแปลงโฉมพี่Emma Stone ที่ต้องใส่วิกแต่งหน้าจัดเต็มตลอดทั้งเรื่อง เป็นอะไรที่ทรมาณมาก
ประเทศไทยเราได้เข้าฉายแน่ๆ แต่ต้องรอจนถึงปลายเดือนมิถุนายนโน่น(เล็งไว้แล้วว่าจะดูเรื่องนี้)
เกริ่นมาซะยาวยืด มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า บทความนี้เราจะมาพูดถึงพี่Emma Stone กันค่ะ
โดยพี่Stone เป็นนักแสดงชาวอเมริกันที่ฉายแววมาตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องSuperbad(2007) จนถึงตอนนี้มีเครดิตทางการแสดงที่หลากหลาย และยังมีรางวัลลูกโลกทองคำ,รางวัลBAFTA Awards และรางวัลออสการ์งานละ1ตัว และรางวัลSAG Awards อีก3ตัว เป็นเครื่องการันตีการแสดงอันยอดเยี่ยม
มาทำความรู้จักกับพี่สาวคนนี้กันดีกว่าค่ะ
ชีวิตวัยเด็กกับความฝันกับการเป็นนักแสดง
พี่Stone มีชื่อเต็มว่า"Emily Jean Stone" เกิดเมื่อวันที่6 พฤศจิกายน 1988 ที่เมืองScottsdale รัฐArizona มีพ่อเป็นCEO บริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีแม่ทำงานเป็นแม่บ้าน มีน้องชายอยู่1คน โดยเจ้าตัวมีเชื้อสายสวีดิชมาจากคุณปู่
ช่วงวัยแบเบาะนั้น พี่Stoneมีอาการปวดท้องและร้องไห้บ่อยๆ จึงส่งผลต่อนิสัยตอนโต ช่วงวัยเด็กนั้น เจ้าตัวได้เรียนระดับประถมที่โรงเรียนSequaya และเข้าเรียนที่โรงเรียนCocopah Middle School ในชั้นGrade6 ถึงแม้ว่าเจ้าตัวไม่ชอบการเรียน แต่ก็สามารถเรียนจนจบชั้นประถมได้
พี่Stone มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุ4ขวบ แต่เดิมทีอยากเป็นนักวาดภาพแนวตลก ได้ร่วมแสดงละครเวทีครั้งแรกเมื่ออายุได้11ขวบ ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าตัวก็เรียนหนังสือที่บ้าน(Homeschooling) เป็นเวลา2ปี
พี่Stone ได้ร่วมแสดงที่โรงละครPhoenix's Valley Youth Theatre ทั้งหมด16เรื่อง ต่อมาพ่อแม่ก็ได้ส่งเจ้าตัวไปเรียนการแสดงกับผู้ฝึกสอนการแสดงท้องถิ่นที่เคยทำงานที่William Morris Agency เมื่อช่วงยุค70s
พี่Stone ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนคาทอลิคหญิงล้วน Xavier College Preparatory แต่ต้องดรอปเรียนหลังจากเรียนที่นี่ได้1ปีเพื่อเตรียมตัวเป็นนักแสดง ช่วงที่กำลังเข้าออดิชั่นการแสดงในนครLos Angelesอยู่นั้น เจ้าตัวก็ได้ทำงานพาร์ทไทม์ในร้านเบเกอรี่สำหรับสุนัข
ผลงานแจ้งเกิด
พี่Stone เข้าวงการตั้งแต่ปี2004 ด้วยวัยเพียง15ปี โดยเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้รายการหนึ่ง หลังจากนั้นก็มาเป็นนักแสดงรับเชิญให้กับซิทคอมเรื่องดังๆ เช่น Malcolm in the Middle,Lucky Louie เป็นต้น
จนเมื่อปี2007 พี่Stone ก็ร่วมแสดงให้กับซีรีส์แอคชั่น-ดราม่าเรื่องDrive ในบทViolet Trimble แต่น่าเสียดายที่ออกอากาศได้เพียง7ตอน ทำให้2ตอนสุดท้ายต้องโยกย้ายไปสู่ระบบดิจิตอลทันที
จนกระทั่งพี่Stone ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากผลงานภาพยนตร์เรื่องSuperbad(2007) โดยรับบทเป็นJules เพื่อนร่วมชั้นเรียนของSeth(รับบทโดยพี่Jonah Hill)
ผลงานช่วงปี2008-2011 ที่เน้นไปทางตลก
พี่Stone ก็ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ตลกตั้งแต่ปี2008 จนถึงปี2011 โดยเริ่มจากรับบทเป็นตัวละครสมทบให้กับภาพยนตร์เรื่องThe Rocker(2008) และThe House Bunny(2008)
จนมาในปี2009 ภาพยนตร์ตลกซอมบี้เรื่องZombieland ก็ได้ทำให้ทุกคนรู้จักกับพี่Stone มากขึ้นไปอีก ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เคยเป็นภาพยนตร์แนวซอมบี้ที่ทำรายได้สูงที่สุดในอเมริกา ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องWorld War Z(2013) ทำรายได้สูงจนเบียดตกอันดับไป
ด้วยการเล่าเรื่องแบบมีชั้นเชิง,มุกตลกสุดหรรษา และการเข้าขากันของ4นักแสดงนำ ได้แก่ลุงWoody Harrelson,พี่Jesse Eisenberg,พี่Emma Stone และน้องAbigail Breslin ทำให้ได้ไปต่อกับภาพยนตร์เรื่องZombieland:Double Tap ในอีก10ปีต่อมา
ปี2010 พี่Stone ได้รับบทนำเป็นครั้งแรกกับภาพยนตร์ตลกวัยรุ่นเรื่องEasy A ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเรื่องของ"การโกหกตัวเอง" มาเป็นคีย์หลัก ใครที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะโดนใจใครบางคนที่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ก็เป็นได้
ปี2011 พี่Stone ร่วมแสดงภาพยนตร์ทั้งหมด2เรื่อง ดังนี้
  • Crazy,Stupid,Love(2011) ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ เรื่องราวของพ่อบ้านธรรมดาแสนดีที่เจอเรื่องไม่คาดคิด เมื่อภรรยาขอหย่ากระทันหันเพราะไปกิ๊กกับเพื่อนร่วมงาน จนเขาไปพบกับหนุ่มเพลย์บอยตัวพ่อที่จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป นำแสดงโดยลุงSteve Carell,ป้าJulianne Moore,พี่Ryan Gosling,พี่Emma Stone,คุณMarisa Tomei และลุงKevin Bacon
  • The Help(2011) ภาพยนตร์ดราม่า-ย้อนยุคที่กำกับโดยคุณTate Taylor เรื่องราวการพึ่งพากันระหว่างสาวใช้ผิวสีกับเจ้านายผิวขาว ในยุคที่มีการเหยียดสีผิวระดับรุนแรง นำแสดงโดยคุณViola Devis,พี่Emma Stone,คุณOctavia Spencer,คุณJessica Chastain,พี่Bryce Dallas Howard และป้าAllison Janney
ได้รับบทเป็นGwen Stacy จนได้คบหาดูใจกลางกองถ่ายกับพี่Andrew Garfield
The Amazing Spider-Man(2012) เป็นภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่ที่ดัดแปลงมาจากคอมมิคทางMarvel ในชื่อเดียวกัน โดยจะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างPeter Parker กับGwen Stacy และการเผชิญกับศัตรูที่คาดไม่ถึงของParker
โดยเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่เชื่อมโยงกับภาพยนตร์ชุดSpider-Man ที่กำกับโดยลุงSam Raimiแต่ประการใด
โดยพี่Stone รับบทเป็นGwen Stacy ซึ่งเป็นบทบาทเดียวกันกับที่พี่Bryce Dallas Howard เคยรับบทในภาพยนตร์เรื่องSpider-Man 3(2007) แต่ต่างกันตรงที่Gwen Stacy ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเพื่อนสนิทที่พัฒนามาเป็นคนรักของPeter Parker
เช่นเดียวกันกับบทบาทที่ได้รับ พี่Stone ก็พบรักกลางกองถ่ายกับพี่Andrew Garfield เมื่อปี2010 ก่อนจะมาคบหาดูใจกัน แต่เมื่อภาพยนตร์เรื่องThe Amazing Spider-Man 2(2014)ทำรายได้ไม่เข้าเป้า จนทำให้ทีมผู้สร้างยกเลิกการสร้างภาคต่อ ที่สำคัญก็คือ พี่Stone กับพี่Garfield ได้เลิกรากันเมื่อปี2015 ท่ามกลางความเสียดายของกองเชียร์
ปี2013-2018 พลิกบทบาทเป็นสายดราม่าจนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง3ครั้ง
พี่Stone ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์แอคชั่น-ระทึกขวัญเรื่องGangster Squad(2013) ซึ่งกำกับโดยคุณRuben Fleischer
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทจากที่มีแค่สายตลกของพี่Stone ก็ว่าได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งที่2 ระหว่างพี่Emma Stone กับพี่Ryan Gosling นอกจากนี้ยังได้คุณJosh Brolin,ลุงSean Penn และลุงNick Nolte มาร่วมแสดง
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่พี่Stone ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ก็คือ ภาพยนตร์เรื่องBirdman or(The Unexpected Virtue of Ignorance) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดราม่า-ตลกร้ายที่ถ่ายทำแบบLongtakeทั้งเรื่อง
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์ จนได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์หลากหลายงาน ได้แก่ รางวัลลูกโลกทองคำ 2รางวัล,Critics' Choice Movie Awards 7รางวัล,BAFTA Awards 1รางวัล,Idependent Spirit Awards 3รางวัล และรางวัลออสการ์ 4รางวัล
พี่Stone รับบทเป็นSam Thomson ลูกสาวของRiggan Thomson(รับบทโดยลุงMichael Keaton)และSylvia Thomson(รับบทโดยคุณAmy Ryan) ซึ่งมีนิสัยหัวรั้น ไม่ค่อยเชื่อฟัง
ซึ่งการแสดงบทบาทนี้ของพี่Stone ทำให้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
เรื่องต่อมา เป็นภาพยนตร์เพลงเรื่องLa La Land(2016) ที่ทำให้พี่Stone ได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์หลายงาน รวมไปถึงรางวัลออสการ์
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า-มิวสิคัล ที่เล่าเกี่ยวกับความฝันและความจริง กำกับโดยพี่Damien Chazelle และเป็นการร่วมงานกันครั้งที่3 ระหว่างพี่Emma Stone กับพี่Ryan Gosling
พี่Stone รับบทเป็นMia Dolan หญิงสาวที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดง ซึ่งก่อนหน้านั้น บทนี้เกือบจะได้พี่Emma Watson มารับบท แต่ติดปัญหาเรื่องคิวงานไม่ลงตัว เนื่องจากช่วงนั้นพี่Watsonไปร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องBeauty and the Beast(2017) ฉบับคนแสดง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้พี่Stone ได้รับรางวัลจากงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ต่างๆ ได้แก่ รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง,BAFTA Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม,SAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง และรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ปี2018 พี่Stone ร่วมงานให้กับภาพยนตร์ย้อนยุค-ตลกร้ายเรื่องThe Favourite ซึ่งได้ประชันบทบาทกับคุณOlivia Colman กับคุณRachel Weisz 2นักแสดงหญิงฝีมือดีจากฝั่งอังกฤษ นอกจากนี้ยังร่วมด้วยพี่Nicholas Hoult และพี่Joe Alwyn(แฟนคนปัจจุบันของพี่Taylor Swift)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเอาเรื่องราวประวัติศาสตร์อังกฤษในช่วงศตวรรษที่18 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถAnne แห่งสหราชอาณาจักร ยังทรงครองราชย์ ต้องเจอเรื่องราววุ่นวาย ทั้งการเปิดศึกกับประเทศฝรั่งเศส ทั้งความสัมพันธ์ส่วนพระองค์ที่มีให้กับคุณหญิงSarah และAbigail Hill และนักการเมืองที่ไม่แยแสในตัวของราชินี
พี่Stone รับบทเป็นAbigail Hill หญิงสาวจากชนบทที่ได้เข้าเฝ้าราชินีAnne แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับไฟ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้พี่Stone ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่3 ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ผลงานมินิซีรีส์
พี่Stone เพิ่งจะมีผลงานมินิซีรีส์แบบจริงจังกับเรื่องManiac(2018) ซึ่งได้ร่วมงานกับพี่Jonah Hill อีกครั้ง
โดยมินิซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากซีรีส์สัญชาตินอร์เวย์ในชื่อเดียวกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของคนแปลกหน้าทั้ง2คนที่ได้ทำการทดลองกินยาเพื่อรับรู้ถึงจิตใจและตัวตน แต่ต้องมีแพทย์ที่ต้องรอดูผลข้างเคียงด้วย
มินิซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดยคุณCary Joji Fukunaga ผู้กำกับซีรีส์และภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ที่มีผลงานซีรีส์เรื่องTrue Detective และเร็วๆนี้กับผลงานภาพยนตร์เรื่องNo Time to Die(2021) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่25ของแฟรนไชน์James Bond 007
งานให้เสียงพากย์
พี่Stone ให้เสียงพากย์ให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นทางDreamWorks เรื่องThe Croods(2013) และThe Croods:A New Age(2020) โดยให้เสียงเป็นEep Croods ลูกสาวของครอบครัวยุคหินตระกูลCroods ที่มีนิสัยก๋ากั่นเกินผู้หญิง
แต่ ยังมีอีกบทบาทหนึ่งของพี่Emma Stone ที่เหล่าผู้ชมกับเหล่านักวิจารณ์ต่างไม่ปลื้มอย่างแรง นั่นก็คือ...
บทAllison Ng จากภาพยนตร์เรื่องAloha(2015)ค่ะ
อย่างที่บอกไปในบทความWhitewashing Effect ว่านี่คือบทบาทที่ทุกคนต่างมีความเห็นตรงกันว่า"เป็นการเหยียดสีผิวอย่างชัดเจน"
เนื่องจากคนที่มีนามสกุล"Ng(อิ๊ง)" ส่วนมากเป็นคนเชื้อสายจีน แต่ตัวละครตัวนี้ถูกระบุว่ามีเชื้อสายฮาวาย-จีน จึงส่งผลต่อตัวภาพยนตร์และรายได้
ปล. ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการทำใหม่ ก็อยากให้พี่Gemma Chan รับบทนี้แทน
ชีวิตครอบครัว
พี่Stone ได้พบรักกับพี่Dave McCary หนึ่งในทีมงานรายการSaturday Night Live เมื่อปี2017 ได้หมั้นหมายกันเมื่อปี2019 และแต่งงานเมื่อปี2020 โดยทั้งคู่เพิ่งได้ลูกสาวคนแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ก็จบไปแล้วสำหรับบทความนี้ ใครอยากให้เราทำบทความดาราต่างประเทศแบบฉายเดี่ยวคนไหนอีกก็เมนต์มาได้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE