เปิดกรุน้ำหอมไทย THAI PERFUME หอมละมุน ดมแล้วไม่ซ้ำแบรนด์ไหนเลย!
aboutsiri 54 19สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราพักเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ใดๆไปก่อน แต่เป็นกระทู้แรกที่ศิริจะมาเม้าท์มอยเรื่องน้ำหอม แล้วก็เป็นน้ำหอมแบรนด์คนไทยด้วย
///
ซึ่งส่วนตัวเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านน้ำหอมนะคะ แค่ซื้อมาเชยชม เห็นแพ็คเกจเห็นขวดหรือดีไซน์ก็มีความสุข 555 ได้กลิ่นที่เราเลือกมาก็มีความสุขแล้วเนอะ
"กลิ่นเป็นสิ่งที่ศิริคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ"
//
เพราะน้องเค้าจะช่วยเสริมบุคลิกภาพมากๆเลย สะท้อนตัวตนของคนๆนั้น เป็นภาพจำของคนๆนั้นไปเลย หน้าตาธรรมดาแต่มีกลิ่นตัวที่หอมละมุน น่าค้นหากว่าเยอะเลยค่ะสำหรับเรา 555 แต่ศิริอยากเอาน้ำหอมไทยมาลองเทสดู ซึ่งคัดมา 3 แบรนด์ที่ศิริคิดว่า ไม่ซ้ำกับกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ต่างๆที่เราซื้อตามเคาท์เตอร์หรือที่คิงพาวเวอร์เลยจ้า
3 แบรนด์ไทยที่ศิริคัดมานั้นก็คือ
Neutral / Scent'N Soul / Tharida
พยายามเลือกให้มีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องคอนเซ็ปแบรนด์ กลิ่น ความติดทนและราคาค่ะ เผื่อเป็นทางเลือกให้หลายๆคนไปลองนะคะ
NEUTRAL ( นิวทรัล )
ขนาด 30 ml : ราคา 1990 บาท
เป็น Niche Perfume ที่เราสามารถ Custom เลือกกลิ่น เลือกโน็ตเองได้ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ เราเลือกได้จริงๆ โดนทางแบรนด์เค้าจะค่อยคัดโน็ตและเบลนกลิ่นให้เข้ากันมากที่สุดและศิริก็ประทับใจคอนเซ็ปแบรนด์มากๆ
//
ความหมายโดยรวมของชื่อ Neutral คือ การให้กลิ่นเป็นตัวเชื่อมโยงกับตัวเรา โดยไม่มีกรอบบังคับเกี่ยวกับเพศ หรือกฎเกณฑ์ใดใด คอนเซ็ปแบรนด์และกลิ่นน้ำหอมเป็นตัวบ่งบอกความชอบ รสนิยม ความชอบ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็สามารถใช้น้ำหอมตามแบบที่เราชอบได้ ให้กลิ่นเป็นตัวเชื่อมโยงกับตัวเรา โดยไม่จำเป็นต้องมีกฎเกณณ์ไม่ขึ้นกับเพศสภาพ หรือมีขีดจำกัดใดๆ จึงเปิดแบรนด์ที่สร้างสรรค์กลิ่นที่ลูกค้ามีส่วนร่วมในการคิดไอเดียกลิ่นของตัวเอง โดยมีผู้ปรุงสอบถามรายละเอียดและกลั่นกรองออกมาเป็นกลิ่น สุดท้ายกลิ่นนั้นเป็นเหมือนของขวัญสำหรับตัวเราเอง
/
"No Rule No Gender No Border The Scent is Connected to Everyone"
แพ็คเกจกล่องเรียบเนียนไม่ทิ้งรอยนิ้วมือ บุฟองน้ำหนาอย่างดีพอดีขวดเป๊ะเลยค่ะ มีทั้งการ์ด และโน็ตของกลิ่นที่ศิริเลือก คือแพ็คเกจหรูหรา เป็นน้ำหอมที่เลือกกลิ่นเอง ไม่เสียดายเงินเลยจริงๆค่ะ กลิ่นไม่มีทางซ้ำใครแน่นอน
/
มาดูกลิ่นที่ศิริเลือกกับทางแบรนด์นะคะว่าเป็นยังไงบ้าง โดนศิริอยากได้กลิ่น Unisex แต่มีความฟลอรัล กลิ่นดอกไม้ที่โปร่งๆธรรมชาติ ผสมฟรุตตี้เล็กๆ แต่ขอคงคอนเซ็ป Unisex ที่ผู้ชายดมแล้วไม่อี๋ หวานไป ยั่วแย่วไป 5555
Top Note : Lychee / Bergamot / Green note
Middle Note : Turkish / Peony / Magnolia
Base Note : Sandalwood / Amber / Patchuli / Vetiver / Musk
ในการ์ดทางแบรนด์เขียนอธิบายกลิ่นเป็นภาพให้ศิริอ่านว่า "ผู้หญิงในชุดผ้าซาตินเนื้อนุ่มพริ้วไหว ขณะเดินในทุ่งหญ้าดอกไม้ ลมพัดกลิ่นธรรมชาติที่รายล้อมรอบตัว แสงอ่อนอันอบอุ่นกระทบผิวท่ามกลางลมเย็น"
/
อ่านแล้วซื้อมั๊ยค่ะ ซื้อ! 555 ใครที่ไม่รู้จะเลือกโน้ตแบบไหน ทางแบรนด์เค้าจะมีคำถาม 5 ข้อ ที่จะออกแบบกลิ่นให้เหมาะกับบุคลิกภาพของเพื่อนๆค่ะ
สเปรย์กระจายตัวได้ดีมากๆ กลิ่นติดทนจริงค่ะ 6-8 ชั่วโมง ฉีดเช้ากลับบ้านตอนเย็นยังได้กลิ่นหอมโปร่งๆอยู่เลยค่ะ ที่สำคัญน้องเค้านั้นได้มาแล้วต้องมีการบ่มนะคะ 30-45 วันเพื่อความติดทน ของแบบนี้มันเป็นศิลปะ อดทนรอเป็นเดือนๆกว่าจะได้รีวิว 555
/
ในเรื่องกลิ่นที่เลือกนั้นศิริอธิบายคร่าวๆนะคะ กลิ่นแรกเราจะได้เหมือนกุหลาบสีชมพู กลิ่นลิ้นจี่จางๆ ที่ปนมากับกลิ่นดอกแมคโนเลีย ที่มีความนวลๆครีมๆเป็นมวลที่โปร่งๆธรรมชาติไม่แน่นไม่ตึบ ตอนท้ายจะได้กลิ่นเขียวของหญ้าแฝกและแอมเบอร์ คือที่แน่ๆ ขวดต่อไปกลิ่นใหม่ต้องมี!
Scent 'N Soul No.2 Peach & WhiteTea
ขนาด 30 ml : 890 บาท
//
ทางแบรนด์ตอนนี้มี 4 กลิ่นที่ศิริเชื่อว่าสามารถใช้ได้ในทุกๆวัน แต่ศิริเลือกกลิ่น No2. Peach & WhiteTea มาค่ะ ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นพีชจ๋าๆ แต่ทำไมน้า ถึงซื้อมาได้ เดี๋ยวมารอฟังเฉลยค่ะ
/
คอนเซ็ปแบรนด์คือ เป็นน้ำหอมเน้นความเรียบง่าย ที่สามารถหยิบใช้ได้ทุกวัน มีกลิ่นอายของความมินิมอล โดนหลักๆเป็นน้ำหอมแนวฟลอรัลจ้า เป็นน้ำหอมคนไทยอีกแบรนด์ที่ศิริหยิบใช้บ่อยมาก มากกว่าแบรนด์ฝรั่งที่ซื้อมาสองสามพันอีก ดูเรียบง่ายแต่มีความซับซ้อนอยู่ กลิ่นดีทุกกลิ่นเลยค่ะ ตอนนี้เค้ามี 4 กลิ่นที่ปล่อยออกมา ศิริได้เทสเตอร์แล้วทุกกลิ่น หอมทุกกลิ่น หลับตาจิ้ม กลิ่นไหนก็ได้ ดีหมดเลย 555
ของเล่าก่อนว่าแพ็คเกจกล่องกระดาษแบบนี้ ศิริซื้อมาตั้งแต่แรกๆที่เค้าออกน้ำหอมมา ตอนนี้เหมือนเค้าจะปรับแพ็คเกจกล่องแล้ว แต่ขวดยังเน้นความเรียบง่ายเหมือนเดิมค่ะ
/
คุณชมภู่เจ้าของแบรนด์เค้าบอกว่า พีชตัวนี้ไม่ได้อยู่ในสารบบเลยตั้งแต่แรก สาเหตุคือส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบกลิ่นลูกพีชมากนัก มันหวานๆฟรุตๆ แปลกๆแต่ในความไม่ชอบมันมีความดันทุรังซ่อนอยู่ค่ะ คิดเล่นๆแหละว่าถ้าออกมาเป็นพีช ในแบบที่คนไม่ชอบพีชอย่างเรารับได้ ก็น่าจะไปต่อได้
โน้ตของกลิ่น No.2 Peach & White Tea
Top Note : Peach blossom / Freesia / Green note / Lilac
Middle Note : Peach / Peony / White tea
Base Note : White musk / Amber
/
ซึ่งขอตอบเลยค่ะ ว่ากลิ่นนี้ไปได้อีกนานแน่นอน ขนาดไม่ชอบความพีชมากๆ แบบศิริยังชอบเลย แนวคิดคุณชมภู่ทำให้ศิริตัดสินใจเลือกซื้อกลิ่นนี้เลยค่ะ และแบรนด์นี้แปลกมากๆค่ะ คือแต่ละกลิ่นดูเรียบๆ แต่มันมีความละมุน ซับซ้อนเล็กๆ กลิ่นแต่ละ No. มีความต่างกัน แต่สามารถใช้ได้ทุกวันจริงๆ ทุกกลิ่นเลย
สเปรย์กระจายตัวได้ดีเหมือน Neutral เลยค่ะ แต่กลิ่นอยู่ได้ 4-6 ชั่วโมง อาจจะเป็นเพราะโน้ตของกลิ่นนี้ด้วย เพราะศิริเคยลองกลิ่น No.3 ที่โน้ตมีมวลแน่นกว่า ครีมมี่กว่าก็อยู่ได้ 5-7 ชั่วโมงเลยค่ะ
/
เรื่องกลิ่นของยกให้เป็นกลิ่นที่ชูโน้ตของพีช หอมละมุนที่สุดเท่าที่เคยลองมาเลย ไม่ซ้ำกับแบรนด์ท้องตลาด เป็นกลิ่นพีชธรรมชาติที่มากับดอกไม้อ่อนๆ และที่ชอบมากๆ คือการมีกลิ่นชาขาวอ่อนๆที่ช่วยทำให้ความฟรุ้ตตี้ความฟลอรัลดูนวล มวลดูเบาขึ้น สุขุมขึ้นมากนิดนึง ชอบมากค่ะ ถือเป็นกลิ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันในวันสบายๆ ที่ศิริใช้บ่อยที่สุดเลย
THARIDA ( Falling In Love )
ขนาด 20 ml : 420 บาท
//
แบรนด์นี้มาเพราะความอยากลองเลยค่ะ อยากรู้ว่ากลิ่นดอกไม้ไทย เมื่อน้ำมาเบลนผสมให้ดูทันสมัย กลิ่นจะได้แบบไหน แถมราคาจับต้องได้สุดๆเลย
/