จับคู่แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น สำหรับผิวแพ้ง่าย เทใจให้ตัวไหนที่สุด!
Ploy Thatsani
48
23
WITH <strong>Purretty</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่
จับคู่แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น สำหรับผิวแพ้ง่าย
แป้งฝุ่นอัดแข็ง เพื่องานผิวสวย เนียน แบบไม่โป๊ะ ไม่หนักผิว เป็นไอเทมอย่างนึงที่พลอยขาดไม่ได้เลยล่ะ เพราะเป็นแป้งที่อยู่ในรูปแบบพกพาง่าย ใช้สะดวก และใช้เติมในระหว่างวันได้โดยไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มเพิ่ม ซึ่งดีต่อคนที่มีผิวผสมค่อนไปทางมันแบบพลอย เนื่องจากช่วยลดความมันบนผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ผิวดูหนาจนเกินไป แถมยังทำให้เมคอัพติดทนยิ่งขึ้นอีกด้วย
ซึ่งในกระทู้นี้พลอยก็จะขอหยิบแป้งฝุ่นอัดแข็ง แบบไม่ผสมรองพื้น ที่ใช้อยู่เป็นประจำ และตัวใหม่ที่เพิ่งได้ลองใช้มาสักพัก นำมาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ ซึ่งทั้ง 2 ยี่ห้อจะมีข้อดี แตกต่างกันอย่างไรบ้าง? ไปดูกันเลยค่ะ
สำหรับแป้งฝุ่นอัดแข็ง แบบไม่ผสมรองพื้น ที่พลอยนำมารีวิวเปรียบเทียบกันก็คือ “Purretty Pure Powder SPF 15 PA+++ กับ Shiseido Baby Powder Pressed Medicated” ค่ะ ซึ่งตัว Shiseido เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่ใช้มานานแล้ว ส่วน Purretty เพิ่งลองใช้มาสักพักมีพี่ที่รู้จักเค้าแนะนำมาคะ
สำหรับข้อเปรียบเทียบอันดับแรกที่ต้องพูดถึงก่อนเลยคือเรื่องของราคา...
: ราคาของแป้งอัดแข็งทั้ง 2 ยี่ห้อ :
Shiseido Baby Powder Pressed Medicated ตลับนี้ราคาไม่เกิน 400 บาท แต่ Purretty Pure Powder SPF 15 PA+++ มีราคาสูงกว่าโดยอยู่ที่ราคาตลับละ 795 บาทนะคะ ซึ่งถือว่าราคาห่างกันพอสมควรเลย
: แพคเก็จของแป้งอัดแข็งทั้ง 2 แบรนด์ :
ในจุดนี้จะเห็นถึงความแตกต่างพอสมควร โดยเริ่มจาก Shiseido ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาก่อนเลยละกัน ซึ่งตลับออกแบบมาดูเรียบๆเป็นแบบฝาหมุนปิด-เปิด ดูไม่ค่อยแข็งแรง และเมื่อเปิดตลับออกมาก็จะพบกับตัวพัฟ แล้วก็ชั้นเนื้อแป้งเลย แต่ในขณะที่ Purretty นั้น จะมีแพคเก็จสไตล์มินิมอล ลายน้องแมวน่ารักที่ค่อนข้างแข็งแรงกว่า และมาพร้อมกับ แบ่งเป็น 2 ชั้นในตลับอย่างชัดเจน คือ เนื้อแป้ง และที่เก็บแปรง และมาพร้อมกระจก
: ข้อแตกต่างระหว่างแปรง และพัฟของแป้งอัดแข็งทั้ง 2 แบรนด์ :
แบรนด์ Purretty จะมีแปรงปัดแป้งมาให้แทนพัฟ ซึ่งขนแปรงจะมีความนิ่ม นุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้เนื้อแป้งนั้นเกาะกับขนแปรงได้ดีกว่าแบบพัฟ อีกทั้งยังไม่บาดผิว ไม่รู้สึกระคายเคืองใดๆ และยังช่วยให้เนื้อแป้งเข้าถึงร่องต่างๆบนใบหน้าได้ดีกว่า ทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาเกินไป ส่วนพัฟของ Shiseido จะแอบมีความหยาบเล็กน้อย ถึงแม้พัฟจะนุ่มก็ตาม แถมยังรู้สึกว่าเมื่อนำพัฟแตะเนื้อแป้งจะเห็นว่าเนื้อแป้งไม่ค่อยเกาะติดตัวพัฟมากนัก จึงทำให้ต้องใช้พัฟแตะเนื้อแป้งอยู่หลายครั้งจนกว่าจะทาได้ทั่วผิวหน้า และยังเข้าถึงร่องต่างๆบนใบหน้าได้ไม่ดีพอ แล้วยังทำให้ผิวหน้าดูแน่นไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
: เฉดสีและลักษณะของเนื้อแป้งอัดแข็งทั้ง 2 แบรนด์ :
เรื่องเฉดสีของแป้งฝุ่นอัดแข็งทั้ง 2แบรนด์ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว...ต้องยอมรับเลยว่า Purretty นั้น มีเฉดสีของเนื้อแป้งที่เหมาะกับผิวสาวเอเชียมากกว่า ทั้งยังมีเฉดสีให้เลือกด้วยกันถึง 3 เฉด ได้แก่ ผิวขาว-อมชมู ผิวขาว-อมเหลือง และผิวสองสี และยังมีสัมผัสของเนื้อแป้งที่เรียบเนียน เนื้อละเอียด ไม่เป็นผุยผงร่วงได้ง่าย
แต่สำหรับ Shiseido จะมีเฉดสีของเนื้อแป้งเพียงเฉดเดียว คือ สีขาว ซึ่งข้อเสียของแป้งเฉดสีนี้คือ พอทาลงบนผิวแล้วจะทำให้หน้าดูดรอปหมองได้ง่าย และส่วนตัวพลอยคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับสาวๆที่มีผิวเข้ม ใช้แล้วหน้าอาจลอยได้ ที่สำคัญสัมผัสของเนื้อแป้งนั้นค่อนข้างหยาบ เป็นผุยผงได้ง่ายเมื่อใช้พัฟแตะลงบนเนื้อแป้ง
ตอนนี้เพื่อนๆพอจะเห็นข้อแตกต่างของแป้งอัดแข็งทั้ง 2 ยี่ห้อบางส่วนไปแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้นเรามาดูข้อมูลของแต่ละตัวกันดีกว่าว่ามีคุณสมบัติเด่นอะไรกันบ้าง...
แป้งคุมมัน คุมสิว สำหรับผิวแพ้ง่าย และเหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดสิว หรือ ผิวเป็นสิว เพราะมีสาร Silver Nano ที่ช่วยปัญหาการเกิดสิว ลดการระคายเคืองของผิว และยังมีส่วนประกอบของน้ำมันลาเวนเดอร์ กับ Zinc Oxide ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเกิดผด ผื่น ระคายเคือง พร้อมทั้งมีคุณสมบัติที่ช่วยคุมมัน เบลอรูขุมขน ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติด้วยส่วนประกอบของคอลลาเจน แล้วยังมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 15 PA+++
จุดเด่นของแป้งฝุ่นอัดแข็ง Purretty คือ ปราศจากสารระคายเคืองที่อันตรายต่อผิว 5 ชนิด ได้แก่ สารทัลคัม ซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม และ พาราเบน ซึ่งอ่อนโยนต่อผิว และมีส่วนประกอบของ Mica ที่เป็นเนื้อโปร่งแสง เกลี่ยง่าย เกาะติดผิวได้ดี แล้วดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น
: ความรู้สึกหลังใช้ :
สำหรับเฉดสีที่พลอยใช้อยู่นั้น คือ 02 Kittenme ผิวขาวอมเหลือง ซึ่งเป็นเฉดสีที่พอดีกับสีผิวจริง ทาแล้วไม่ดูวอกลอย และเมื่อใช้แปรงแตะเนื้อแป้งแล้วจะรู้สึกว่าแป้งนั้นเกาะผิวได้ดี ติดทนทันที พร้อมทั้งช่วยลดความมันของผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวดูเป็นงานผิวสวย เบลอรูขุมขนได้อย่างเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ แล้วยังรู้สึกว่าแป้งจะช่วยปกปิดรอยสิว รอยคล้ำได้ในระดับปานกลาง คือเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบแต่งหน้าเยอะ แต่อยากให้ดูเป็นงานผิวตัวนี้ช่วยได้ แต่ถ้าใครที่มีปัญหารอยสิวเยอะๆพลอยแนะนำว่าอาจจะต้องลงผิวด้วยรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ก่อนแล้วค่อยทาแป้งตามค่ะ
สิ่งที่พลอยชอบที่สุดของแป้งตัวนี้ คือ พอทาลงบนผิวแล้วจะรู้สึกเบาสบายผิว ไม่หนักผิว ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มเพิ่มเลย ทำให้ผิวหลังทาดูมีความผ่อง นวลเนียน กระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด
มาดูคุณสมบัติของ Shiseido กันบ้างค่ะ...
แป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อสีขาว สูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว เหมาะกับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นสิว และยังปราศจากน้ำหอม ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือเกิดการอุดตันผิว
จุดเด่น คือ ช่วยให้ผิวรู้สึกเบาสบายทันทีหลังทา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนใสเป็นธรรมชาติ และยังช่วยลดความมันส่วนเกินของผิวได้ดี พร้อมทั้งมีส่วนประกอบของ Zinc Oxide ที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวอยู่ด้วย แล้วที่สำคัญก็ยังปราศจากส่วนประกอบของพาราเบน ซัลเฟต แอลกอฮอล์ ซิลิโคน สารก่อภูมิแพ้ ที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิวด้วย
: ความรู้สึกหลังใช้ :
เมื่อทาแป้ง Shisedo ตลับนี้แล้วจะรู้สึกเบาสบายผิว ไม่หนักผิวเลย แต่รู้สึกว่าแป้งไม่ค่อยเกาะติดผิวเท่าไหร่ แถมยังไม่มีคุณสมบัติที่ช่วยปกปิดใดๆ จึงทำให้ผิวหลังทานั้นดูเรียบเนียนขึ้นในระดับหนึ่ง ความมันของผิวลดลงทันที แต่ถ้าทาเยอะ หรือ ทาซ้ำมากจนเกินไปจะทำให้ผิวหน้าดูวอก และดูไม่ค่อยพอดีกับผิวจริง เรียกได้ว่าค่อนข้างแอบหนาด้วยเช่นกัน ซึ่งใครที่มีรอยสิวเยอะๆอาจจะไม่ชอบแหละ ซึ่งพลอยแนะนำว่าเอาไว้ทาเซ็ทเมคอัพดีกว่า และควรใช้แปรงแทนพัฟที่แถมมาให้ เพราะถ้าใช้พัฟจะทำให้ผิวดูหนา เป็นปื้นๆ ดูโป๊ะได้
: เปรียบเทียบผลลัพธ์หลังใช้แป้งทั้ง 2 ยี่ห้อ :
โดยส่วนตัวแล้วพลอยค่อนข้างเทใจให้ Purretty มากกว่า เพราะทาแล้วดูเป็นงานผิวที่สวยกว่า ทั้งยังมีเฉดสีที่พอดีกับผิว ไม่วอก ไม่เทา และยังช่วยปกปิดได้ระดับกลางๆ รู้สึกเบาสบายผิว เนื้อแป้งติดทนมากกว่าตัว Shiseido ค่ะ สำหรับ Shiseido ก็ดีตรงที่ช่วยลดความมันของผิวได้ดี แต่ด้วยเฉดสีของเนื้อแป้งที่เป็นสีขาวเลยทำให้ผิวค่อนข้างดูดรอปลง แล้วก็ไม่ช่วยปกปิดใดๆเลย
: สรุปความรู้สึกหลังใช้ :
เรื่องความเนียน สบายผิว ได้งานผิวสวย ต้องยกให้ Purretty เลย แถมยังมีกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยค่า SPF 15 PA+++ และยังมีแพคเก็จสไตล์มินิมอลน่ารัก น่าพกพา และมีชั้นแยกถึง 2 ชั้น แล้วยังมีแปรงขนเนียนนุ่มที่ช่วยเกลี่ยแป้งให้เข้าถึงร่องต่างๆบนผิวหน้าได้ดี ทำให้แป้งติดทนทาน เซ็ทเมคอัพติดทนยิ่งขึ้น ซึ่งวันใดที่ไม่ได้ทารองพื้น...แค่ลงแป้งตัวนี้เดี่ยวๆก็รอดนะ
ส่วน Shiseido ก็มีข้อดีตรงที่ราคาถูกกว่า เหมาะแก่การทาในวันที่อยู่บ้านซะมากกว่า ส่วนข้อเสียคือไม่มีเฉดสีของแป้งให้เลือกเลย แถมพัฟที่แถมมาให้นั้นก็ทำให้เนื้อแป้งพอทาลงบนผิวหลายๆรอบดูหนา วอกเกินไป แถมไม่มีกันแดด และไม่มีชั้นแยกให้เก็บพัฟ และไม่มีกระจกแถมมาให้ แต่ถ้าเด็กๆใช้เราว่าตัวนี้โอเคนะคะ
แต่ทั้ง 2 แบรนด์ ก็เป็นแป้งอัดแข็ง ไม่ผสมรองพื้น ที่ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวทั้งคู่ แต่พลอยเทใจมาทาง Purretty ถ้าเทียบคุณภาพสมคือราคาเลยค่ะ เหมาะกับช่วงนี้ที่ต้องใส่แมสก์ทุกวัน ไว้ป้องกันสิว
ซึ่งสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาแป้งอัดแข็ง คุณภาพดี แพคเก็จน่ารัก ปกปิดปานกลาง พลอยก็แนะนำ Purretty เลย ส่วนถ้าเพื่อนๆคนไหนที่ชอบแป้งอัดแข็งแบบไม่ปกปิด เด็กๆใช้ได้ หรือเน้นใช้ทาในวันเบาๆอยู่บ้านก็ต้อง Shiseido ค่ะ และ ใครสนใจ Purretty สามารถหาซื้อได้ที่ BEAUTRIUM ได้เลยค่ะ ส่วน Shiseido พลอยสั่งจาก Shopee ค่ะมีหลายร้านให้เลือก ต้องตรวจสอบดีๆนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ :)