🛁มาจัดสเต็ปทำความสะอาด & เตรียมผิวก่อนบำรุงกับ S.O.S กัน !
donut 81 21 WITH <strong>S.O.S</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)มาจัดสเต็ปทำความสะอาดผิวและเตรียมผิวก่อนล้างหน้ากัน !
ใครที่มีปัญหาเรื่องการทำความสะอาดผิวอยู่ แชร์เก็บไว้อ่านได้เลยค่ะ
โดยโพสต์นี้โดนัทจะเรียงและอธิบายวิธีการทำความสะอาดและเตรียมผิวเพื่อลดปัญหาผิวทั้งสิว และอาการผิวไม่สมดุล
ทั้ง 3 ชิ้นนี้เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ SOS ตั้งแต่
Cleansing Water (Ultrasensitive PM1 Micellar Water)
Cleansing Foam (Amino Enzyme Cleansing Foam)
Toner (Hyaluron pH Balancing Toner)
เริ่ม !
สำหรับรูทีนการทำความสะอาดผิวหน้าของโดนัทมักจะทำ 2 ขั้นตอน (Double Cleansing) เป็นประจำซึ่งการใช้เป็นประจำนี้ มีข้อจำกัดทำให้ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และไม่ดึงไขมันผิวออกไปมากเกิน ไม่อย่างนั้นผิวจะสูญเสีย Lipid ดีๆบนผิวมากเกินไป
โดยการทำความสะอาดจะเริ่มที่การใช้ Water-based หรือ Oil-based Cleansing ก่อน
ส่วนมากโดนัทจะชอบใช้ Water-based หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Cleansing water ยกเว้นวันที่แต่งหน้ามาก ใช้รองพื้นกันน้ำ จะใช้ Cleansing Oil ค่ะ
โดย Cleansing Water ที่อ่อนโยน ใช้ง่าย หาซื้อง่าย โดนัทชอบและ หลายๆคนน่าจะชอบและใช้อยู่คือ Ultrasensitive PM1 Micellar Water
โดนัทเคยทำ Full Review เจาะส่วนประกอบไว้ดังนั้นครี้งนี้จะรีวิวแบบกระชับๆนะคะ
สำหรับการทำความสะอาดโดย Cleansing water ในขั้นตอนแรก เราจะใช้เวลาในการเช็ดอย่างเบามือ โดยใช้สำลีสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ
[และเช็ดเพียงไม่เกิน 3 รอบก็เพียงพอ] ไม่ต้องพยายามเช็ดเรื่อยๆจนสำลีขาว เพราะเราต้องไปล้างหน้าต่ออยู่แล้วค่ะ
การเช็ดเยอะหลายครั้งและรุนแรงจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ซึ่งไม่ดีต่อผิวแน่ๆ
ขั้นตอนที่ 2
คือการใช้ Cleanser ที่โดนัทมักจะใช้เองและแนะนำคนไข้คือ Gel Cleanser หรือ Foam Cleanser ที่ “Soap Free” เพราะว่าอ่อนโยนกว่า ความสมดุลกรดด่างอยู่ในช่วง pH ที่เหมาะสม และไม่เกิดปัญหาไคลสบู่ทิ้งไว้บนผิวจนอาจเกิดปัญหาอุดตันได้
เรื่อง #ไคลสบู่ ก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะว่าน้ำแต่ละที่ก็จะมีความกระด้างไม่เท่ากัน สังเกตได้ว่าหลายๆคนกลับบ้านต่างจังหวัดแล้วมักเกิดปัญหาสิวมากขึ้น เป็นเพราะแร่ธาตุที่สูงในน้ำ เมื่อเจอการใช้สบู่ที่เป็น Soap Base มักจะเกิดไคลสบู่ซึ่งสามารถมีโอกาสอุดตันบนผิวเราได้
สำหรับ Foam Cleanser ตัวหนึ่งที่โดนัทว่าส่วนประกอบดี และล้างหน้าได้สะอาด คือ SOS Amino Enzyme Cleansing Foam
.
โฟมชิ้นนี้กดออกมาเป็นฟองโฟมนุ่มหนาจากการใช้ Surrfactants ทั้ง Lauryl Glucoside, Coco-betain, Cocamidopropyl hydroxyultaine
และมี Sodium Cocoyl Apple Amino Acids ที่เป็น anionic surfactant เกิดจากปฏิกริยา acylation ของ amino acids ของน้ำแอปเปิ้ล (apple juice) โดยให้ฟองโฟมนุ่ม และทำความสะอาดได้อ่อนโยน
และหัวกดโฟมทำให้เพิ่มปริมาณฟองนุ่มหนา โดยไม่ต้องตีฟองเอง เพื่อทำให้ลดการสัมผัสระหว่างมือและใบหน้าลง ทำให้กระบวนการล้างหน้าเป็นไปอย่างอ่อนโยน
ส่วนประกอบเด่นในสูตรจากชื่อคือ Enzyme โดยในสูตรใช้เป็น Protease ซึ่งช่วยในการผลัดเซลล์ผิวชั้นขี้ไคลได้แบบอ่อนโยน โดยในสูตรใช้เป็น Bio M-Protease
ซึ่งมีข้อดีคือค่อนข้างเสถียรใน pH ที่กว้าง และสามารถทำงานได้ที่ pH เป็นกลาง (จึงก่อการระคายเคืองน้อยกว่าความเป็นกรดของกลุ่ม AHA)
ซึ่งในสูตรโฟมล้างหน้าอาจจะสัมผัสหน้าไม่นาน แนะนำให้ใช้เวลาในการล้างสัก 1 นาที และสามารถเสริมการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยนะคะ
สำหรับตัวโดนัทเองรู้สึกชอบวิธีการทำความสะอาดผิวพร้อมผลัดเซลล์ผิวเพราะส่วนตัวรู้สึกสิวอุดตันน้อยลงแบบไม่เกิดอาการระคายเคือง
และการทำความสะอาด 2 ขั้นตอนแบบ Double Cleansing ก็จบเรียบร้อยค่ะ
แต่ในหลายๆครั้งที่เรารู้สึกว่าหลังล้างหน้า เราก็อยากมีอีกสักขั้นตอนการบำรุงผิว
ดังนั้นเราก็สามารถใช้โทนเนอร์ได้ และยิ่งมีประโยชน์กับผิวในหลายกรณี เช่น ในบางบริเวณที่น้ำจะมีคราบสิ่งสกปรก ตะกอนต่างๆไหลตามท่อมาด้วย ทำให้รู้สึกหลังล้างหน้าแล้วผิวไม่ค่อยสะอาด
.
สามารถใช้โทนเนอร์ทั้งเพื่อเพิ่มความสะอาด และปรับค่าสมดุลให้ pH บนผิวกลับมาสู่ pH ที่เหมาะสม (คือประมาณ 5.5) ได้ไว
ยิ่งใครที่ใช้สบู่ก้อนที่มีความเป็นด่างมาก หรือโฟมล้างหน้าที่เป็นด่างมาก ควรเปลี่ยนโฟมล้างหน้า หรือเพิ่มโทนเนอร์ลงในรูทีน เนื่องจาก pH ที่สูงมากๆ จะก่อปัญหาตาอเกราะปราการผิว ทำให้ผิวระคายเคืองและเสียสมดุลไมโครไบโอม
และโทนเนอร์ SOS Hyaluron pH Balancing Toner ที่โดนัทลองใช้มารู้สึกว่าใช้ง่าย ใช้ดี ไม่ระคายเคือง และสบายใจจากการที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี หลังใช้ผิวสมดุลดีและชุ่มชื้น ลูบแล้วลื่นผิว
ส่วนประกอบที่โดนัทเองมองหาในโทนเนอร์ตลอดคือตัวที่ช่วยปลอบประโลมผิว ซึ่งในสูตรนี้มี Allantoin, Bisabolol, Purselane, Beta Glucan
และในด้านการให้ความชุ่มชื้นหลังใช้คือ Hyaluronic acid, Betaine และอื่นๆ
ส่วนในสูตรมีตัวที่น่าสนใจคือ Sasa Kurilensis Water หรือน้ำไผ่ เป็นส่วนประกอบชูโรงในสูตร ซึ่งมีข้อมูลจากทางผู้ผลิตว่ามีค่าสมดุลกรดด่างเท่ากับผิวและมีผลด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ในสูตรยังมี Natural HG (PD) ที่เป็น Cocktail สารสกัดที่ได้มาจากการหมักบ่มแบบดั้งเดิมจากประเทศเกาหลี ซึ่งใช้กลุ่ม Probiotics หมักกับพืช 3 ชนิดคือ ถั่วเหลืองม มิสเซิลโท และรากหญ้าแดงญี่ปุ่น โดยมีข้อมูลจากผู้ผลิตว่ามีผลด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
วิธีการใช้คือเทให้ชุ่มสำลีแล้วเช็ดผิวหน้าที่หมาดๆหลังล้างหน้า โดยเช็ดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า แล้วสามารถต่อด้วยการบำรุงในขั้นตอนต่อไปค่ะ
แต่ในหลายๆครั้งที่เรารู้สึกว่าหลังล้างหน้า เราก็อยากมีอีกสักขั้นตอนการบำรุงผิว
ดังนั้นเราก็สามารถใช้โทนเนอร์ได้ และยิ่งมีประโยชน์กับผิวในหลายกรณี เช่น ในบางบริเวณที่น้ำจะมีคราบสิ่งสกปรก ตะกอนต่างๆไหลตามท่อมาด้วย ทำให้รู้สึกหลังล้างหน้าแล้วผิวไม่ค่อยสะอาด
.
สามารถใช้โทนเนอร์ทั้งเพื่อเพิ่มความสะอาด และปรับค่าสมดุลให้ pH บนผิวกลับมาสู่ pH ที่เหมาะสม (คือประมาณ 5.5) ได้ไว
ยิ่งใครที่ใช้สบู่ก้อนที่มีความเป็นด่างมาก หรือโฟมล้างหน้าที่เป็นด่างมาก ควรเปลี่ยนโฟมล้างหน้า หรือเพิ่มโทนเนอร์ลงในรูทีน เนื่องจาก pH ที่สูงมากๆ จะก่อปัญหาตาอเกราะปราการผิว ทำให้ผิวระคายเคืองและเสียสมดุลไมโครไบโอม
และโทนเนอร์ SOS Hyaluron pH Balancing Toner ที่โดนัทลองใช้มารู้สึกว่าใช้ง่าย ใช้ดี ไม่ระคายเคือง และสบายใจจากการที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี หลังใช้ผิวสมดุลดีและชุ่มชื้น ลูบแล้วลื่นผิว
ส่วนประกอบที่โดนัทเองมองหาในโทนเนอร์ตลอดคือตัวที่ช่วยปลอบประโลมผิว ซึ่งในสูตรนี้มี Allantoin, Bisabolol, Purselane, Beta Glucan
และในด้านการให้ความชุ่มชื้นหลังใช้คือ Hyaluronic acid, Betaine และอื่นๆ
ส่วนในสูตรมีตัวที่น่าสนใจคือ Sasa Kurilensis Water หรือน้ำไผ่ เป็นส่วนประกอบชูโรงในสูตร ซึ่งมีข้อมูลจากทางผู้ผลิตว่ามีค่าสมดุลกรดด่างเท่ากับผิวและมีผลด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ในสูตรยังมี Natural HG (PD) ที่เป็น Cocktail สารสกัดที่ได้มาจากการหมักบ่มแบบดั้งเดิมจากประเทศเกาหลี ซึ่งใช้กลุ่ม Probiotics หมักกับพืช 3 ชนิดคือ ถั่วเหลืองม มิสเซิลโท และรากหญ้าแดงญี่ปุ่น โดยมีข้อมูลจากผู้ผลิตว่ามีผลด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
วิธีการใช้คือเทให้ชุ่มสำลีแล้วเช็ดผิวหน้าที่หมาดๆหลังล้างหน้า โดยเช็ดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า แล้วสามารถต่อด้วยการบำรุงในขั้นตอนต่อไปค่ะ
ความเห็นของโดนัท
ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ทำออกมาได้ดี ในทุกๆสูตรเท่าที่เห็นคือเค้ามักจะเลี่ยงน้ำหอม, สี, น้ำมัน และสารก่อระคายเคืองต่างๆ ผลลัพธ์หลังจากใช้แล้วก็รู้สึกว่าทำหน้าที่ได้ดีและถนอมผิวไปในเวลาเดียวกัน
สำหรับ Cleansing water ทำความสะอาดกลุ่มรองพื้น คอนซีลเลอร์ ลิปสติกออกได้ดี ง่าย และไม่ระคายเคืองตา ส่วนประกอบทำให้รู้สึกหลังใช้ผิวไม่ถูกดึงน้ำมันและถูกรบกวนมาก เพราะการทำความสะอาดเมคอัพนั้น เลือกสำลีและ Cleansing ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ ส่วนตัวโดนัทเองชอบ และแนะนำคนไข้ไปก็ชอบเช่นกัน
ตัวต่อมาคือ Cleansing Foam ที่ทำเนื้อโฟมออกมาได้นุ่ม แต่โฟมจะยุบตัวไวหน่อย ใครผิวแห้งใช้โฟมล้างหน้าแล้วรู้สึกผิวแห้งหน้าตึง ลองใช้ชิ้นนี้ได้นะคะ โดนัทว่าพอดีเลย
โดนัทผิวผสม T-zone มัน U-zone แห้ง ใช้แล้วรู้สึกสมดุลดีทั้ง 2 บริเวณค่ะ
บางคนล้างแล้วอาจจะรู้สึกว่าลื่นนิดนึง อันนี้ปกตินะคะ เพราะว่าสูตร Soap Free จะไม่ได้ล้างแล้วเอี๊ยดๆผิว แต่หลังล้างไม่ทิ้งความเมือกแน่นอนค่ะ โดยส่วนตัวโดนัทใช้แล้วชอบเช่นกัน
ชิ้นที่ 3 คือ Toner ซึ่งเป็นไอเท่มที่โดนัทชอบให้อยู่ในรูทีนมากๆ สำหรับโทนเนอร์ชิ้นนี้เวลาใช้แล้วจะรุ้สึกนุ่มลื่นผิว หลังล้างหน้ารีบใช้ ทำให้ผิวกลับสู่สมดุลได้ดีและไวขึ้น
ส่วนตัวใช้แล้วไม่เกิดอาการระคายเคืองใดๆ สบายและนุ่มผิว ในสูตรไม่มีแอลกอฮอล์, น้ำหอม, สี, น้ำมันหอมระเหย, Hydroxy acids และสารก่อระคายเคือง เหมาะกับผิวแพ้ง่ายทั้ง 3 ชิ้นค่ะ
ราคา
Cleansing Water (Ultrasensitive PM1 Micellar Water 300 ml) 390.-
Cleansing Foam (Amino Enzyme 150 ml) 490.-
Toner (Hyaluron pH Balancing 300 ml) 390.-
พิกัด
Watsons หรือ Watsons Online