เผยเบื้องหลัง Oli London ผู้พยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นบอยแบนด์เกาหลี
candy 46 16ท่ามกลางหมู่ influencers ที่เปิดตัวสร้างชื่อเสียงในสังคมออนไลน์ขึ้นมามากมาย มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะปั่นกระแสความสนใจจนสื่อบันเทิงหยิบยกเรื่องราวมาพาดหัวข่าว
ชื่อของ Oli London อาจจะไม่คุ้นหูคนทั่วไปนัก แต่สำหรับชาวArmy หรือสมาชิกแฟนคลับของฺ BTS ก็่าจะได้ยินเรื่องราวที่ทำให้ประหลาดใจกันมาแล้ว
influencer แดนผู้ดีที่ทำให้ชาวเกาหลี ส่ง reaction ผ่าน social media รัวๆ
เมื่อเอ่ยถึง Oli London หลายคนอาจจะงงๆกันว่า นี่ใครรึ? แต่ถ้าเป็น K-netizen อาจจะได้เห็น reaction video กับ influencer รายนี้ออกมาไม่หยุด
ที่สำคัญ ปฏิกิริยาตอบรับจาก K-netz ส่วนใหญ่ก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ หลายคนเรียกร้องให้เขาหยุดในสิ่งที่ทำอยู่ หลายคนเยาะเย้ยถากถางให้เจ้าตัวอับอาย
เพราะอะไร การนำเสนอตัวตนแบบ Oli London จึงมีดราม่าตามมาจนทำให้เจ้าตัวถูกกล่าวหา"หิวแสง" และทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง
มาติดตามกันได้เลยค่ะ
นักร้องชาวอังกฤษที่เคยประกาศถึงความรักที่มีต่อวัฒนธรรมเกาหลี แต่ยืนยันว่า ไม่ได้พยายามจะเปลี่ยนเชื้อชาติของตัวเอง
ย้อนไปปีที่แล้ว สื่อชื่อดังอย่าง BBC ได้เจาะลึกเรื่องราวของชายหนุ่ม ( ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมาระบุว่าเป็น Non-Binary ) ที่หลงไหล K-Pop จนทุ่มเทสุดตัวเพื่อให้ชาวเกายอมรับ
" เรื่องของเรื่องก็คือ BTS ได้เดบิวท์ในปี2013 และในตอนนั้นผมก็อยู่ที่เกาหลีพอดี ฉันได้ชมการแสดงของ BTS ทาง TV และรู้สึกทึ่งในตัวพวกเค้าเป็นอย่างมาก"
"ฉันอยากจะมี lifestyle ที่เชื่อมโยงกับ K-Pop และอยากจะดูเหมือนจีมินให้มากที่สุด เพราะเขามีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสันกราม ริมฝีปาก น้ำเสียง ทุกสิ่งมันเป๊ะไปหมด"
" ฉันถูกโจมตีหนักมากในโลกออนไลน์ พวกเค้าต่างก็บอกว่า คุณไม่มีทางเป็นศิลปินเกาหลีได้หรอก ทั้งๆที่ฉันเคยส่งงานเพลงที่ขึ้นชาร์ท iTunes ไปสูงสุดที่อันดับ 8 ฉันจึงคิดว่า ผู้คนมีอคติเพราะผมเป็นคนอังกฤษ ไม่ใช่คนเกาหลี"
"ฉันว่าตัวเองดูเหมือนศิลปิน K-Pop มากๆเลยครับ ส่วนใหญ่ไอดอลก็ทำศัลยกรรมกั นอยู่แล้ว คือถ้าเกิดมีใครอยากจะดังในวงการ K-Pop พวกเค้าจำเป็นจะต้องมีลุคที่มีรูปแบบเฉพาะเจาะจงมากๆ"
"ฉันไม่ได้พยายามจะเปลี่ยนเชื้อชาติของตัวเอง และทำให้ตัวเองดูเหมือนคนเกาหลี ฉันแค่อยากจะได้ลุคแบบ K-Pop "
แต่แม้ว่า Oli London จะเคยยืนยันเช่นนี้ ล่าสุดก็ได้กลับคำ และถูกกระหน่ำโจมตีหนักยิ่งกว่าเดิม
ลั่นประกาศตัวตนเป็นNon- Binaryด้วยการผ่าตัดเพื่อ "ข้ามเชื้อชาติ" มาเป็นคนเกาหลี: ชาวเน็ทอึ้ง เปลี่ยน race ได้ด้วยเหรอ ?
Oli London เคยปรากฏตัวในรายการ TV เพื่อแก้ไขใบหน้าจากการศัลยกรรมผิดพลาด และบรรยายรายละเอียดเพื่อเปลี่ยนแปลงให้ดูเหมือนจีมิน เขาใฝ่ใันจะมีจมูกเรียวเล็กแบบชาวเกาหลี และผ่าแก้มาแล้วหลายครั้ง และยังมีกระบวนการที่หลายคุ้นหูอย่างการเหลาสันกราม ตัดกระดูกคางแล้วใช้สกรูไทเทเนียมเป็นตัวยึด รวมสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือริมฝีปากที่ฉีดให้อวบใหญ่ เพราะต้นแบบอย่างจีมินมีริมฝีกปากที่ดูเย้ายวนใจและน่าจูบ ทำให้ต้องนัดฉีดปากทุกสามสัปดาห์
แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้Oli London เข้าถึงเป้าหมายที่พอใจเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนกับหนุ่มบอยแบนด์คนดัง
การผ่าตัดครั้งล่าสุดนี่เองที่ทำให้เกิดดราม่าร้อนแรงตามมา เพราะเจ้าตัวได้หยิบยืมคำศัพท์ที่ใช้ระบุอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มผู้ไร้เพศมาใช้กับสถานการณ์ของตัวเอง กล่าวคือ จาที่คนทั่วไปใช้คำว่า trans (ที่มาจาก transgender) เพื่อแสดงเพศที่ไม่ตรงกับเพศที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ Oli London ใช้คำนี้เพื่อระบุว่า ตัวเองผ่าตัดจนสามารถข้ามเชื้อชาติเป็นคนเกาหลีได้แล้ว!
"เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองช่างงดงาม ฉัรมองดูกระจกและปลาบปลื้มกับรูปลักษณ์ที่ได้เห็นและมีความสุข และหวังว่าคนอื่นจะเคารพในการตัดสินใจของฉัน ฉันรู้ว่าคงมีไม่กี่คนที่เข้าใจ แต่ฉันยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นคนเกาหลี และตอนนี้ฉันดูเหมือนคนเกาหลีแล้ว ฉันรู้สึกว่าเป็นคนเกาหลีเต็มที่ ฉันจะไม่ระบุตัวตนว่าเป็นคนอังกฤษ ดังนั้นอย่าเรียกฉันว่าคนอังกฤษ เพราะฉันคือคนเกาหลี มันเป็นวัฒนธรรมของฉัน เป็นประเทศแม่ เป็นรูปลักษณ์ของฉันในขณะนี้ และฉันยังขอแสดงตัวตนว่าเป็นจีมิน นี่คือชื่อเกาหลีของฉัน"
คุณอาจจะจินตนาการความปรี๊ดของ "แม่เกา" กันได้ทันที เพราะความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์จนได้รับเสียงชื่นชมจากคนต่างชาตินั้น ไม่ใช่สิ่งที่จับจองเป็นเจ้าของเพราะความชื่นชมได้ ชาวเน็ทบางคนถึงกับกราดว่า
" เพียงแค่ผ่าตัดตาให้เฉียงขึ้น และคลั่ง BTS มากๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนให้เป็นคนเกาหบีได้หรอกนะ!"
ชื่อเสียงเรื่องความชาตินิยมของชาวเกาหลีนั้นขึ้นชื่อลือชามานาน แม้จะมีไอดอลK - Popจากต่างชาติอยู่หลายคนในวงการ แต่พวกเค้าต่างก็มีรูปลักษณ์ที่ดูกลมกลืนไปกับไอดอลสัญชาติเกาหลีใต้กันทั้งนั้น หรือแม้แต่ไอดอลลูกครึ่งเกาหลีที่ดู "ฝรั่งจ๋า"ก็มีอยู่ไม่มาก
รวมไปถึงกรณีการตกแต่งภาพธงชาติเกาหลีด้วยสีรุ้งเข้ากับคอนเสปท์ pride ก็กลายเป็นเรื่องยั่วยุสำหรับชาวเกาหลีที่ให้ความสำคัญต่อสัญลักษณ์ต่างๆที่ปรากฏบนธงชาติรูปแบบoriginal คนเหล่านั้นถือว่า นี่คือการกระทำให้ไม่ให้เกียรติเจ้าของวัฒนธรรม เพราะธงชาติเกาหลีไม่ได้มีไว้เพื่อประกาศตัวตนของชาวต่างชาติ แต่ทั้งสีและสัญลักษณ์ต่างๆนั้นมีความหมายหล่อรวมเอกลักษณ์ของชนชาติเกาหลีไว้
ชาวเน็ทอีกกลุ่มที่แสดงความไม่พอใจ คือ ผู้ที่สนับสนุนชาว trans และ non-binary ที่โจมตี Oli London ว่า เป็นบ่อนทำลายให้ผู้คนสองกลุ่มนี้ต้องดูย่ำแย่ ทั้งๆที่พยายามต่อสู้เพื่อสิทธิอันเท่าเทียมมาโดยตลอด แต่เมื่อมี influencer ที่สร้างความฮือฮาด้วยคำยืนยันว่าเป็น "คนข้ามเชื้อชาติ" ที่หลายคนเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ นั่นอาจจะทำให้สังคมไม่รับฟังและยอมรับกลุ่มคนข้ามเพศอย่างใส่ใจจริงจัง
Oli London ไม่ยอมรับกับข้อกล่าวหาที่ว่ามา และตอบโต้ว่า การข้ามเชื้อชาติเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง " ฉันเป็นคนริเริ่มมันขึ้นมาเองแหละ ถ้าคุณสามารถข้ามเพศได้ ก็ต้องข้ามเชื้อชาติได้"
"ถ้าคุณไม่รู้จักฉันมาก่อน คุณย่อมคิดว่าฉันเป็นคนเกาหลี ไม่ใช่เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เป็นคนๆหนึ่ง"
"ถึงจะมีคนบอกว่า ฉันมันเป็นตัวตลก แต่พวกคุณรู้อะไรมั้ย คุณไม่ได้เข้าใจเลยว่า การต้องถูกกักขังในร่างกายที่ไม่ตรงกับตัวตนที่แท้จริงมันเป็นยังไง"
Oli London ยังมั่นใจกับแนวคิดที่ว่า คนเกาหลีก็ศัลยกรรมเพราะอยากดูเหมือนฝรั่งมังค่ากันทั้งนั้น
หากเป็นผู้ที่ติดตามวัฒนธรรมเกาหลีอย่างใกล้ชิดจริงๆ ย่อมทราบว่า คนเกาหลีและคนเอเชียอีกหลายประเทศไม่ได้ทำศัลยกรรมตาเพื่ออยากดูเหมือนฝรั่งผิวขาว แต่ต้องการเอื้อมถึง beauty standard ที่หบายประเทศแถบ Asiaมีตรงกัน นั่นคือ เป็นคน Asian ที่มีตาสองชั้น เพราะนั่นคือดวงตาสวยตามอุดมคติของหลายคนนั่นเอง
"ลองไปที่ Asia ไปที่เกาหลีดูสิ ประชากร 1ใน5 คนทำสัลยกรรมตาเพื่อจะให้ดูเหมือนคนตะวันตก มีโครงหน้าแบบตะวันตก มันเป็นเรื่องปกติสุดๆที่นั่นส่วนฉันก็ทำแบบสวนทางกลับกันเท่านั้น"
หากเป็นผู้ที่ติดตามวัฒนธรรมเกาหลีอย่างใกล้ชิดจริงๆ ย่อมทราบว่า คนเกาหลีและคนเอเชียอีกหลายประเทศไม่ได้ทำศัลยกรรมตาเพื่ออยากดูเหมือนฝรั่งผิวขาว แต่ต้องการเอื้อมถึง beauty standard ที่หบายประเทศแถบ Asiaมีตรงกัน นั่นคือ เป็นคน Asian ที่มีตาสองชั้น เพราะนั่นคือดวงตาสวยตามอุดมคติของหลายคนนั่นเอง
ที่จริงแล้ว เคยมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อน ดังกรณีของ Max หนุ่ม Brazilian ที่ทุ่มเงินศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้ดูเหมือนคนเกาหลีให้มากที่สุด แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น Xiahn Gaúcho เขาอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์นั้นเติมเต็มความสุขและความมั่นใจให้ แต่ก็ไร้ดราม่าตามมา เพราะถึงจะปลาบปลื้มวัฒนธรรมเกาหลีมากแค่ไหน เขาไม่ได้ประกาศตัวว่าได้เปลี่ยน race มาเป็นคนเกาหลีแน่อย่างใด และยังรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นชาว Brazilian เหมือนเดิม เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกหากคน Brazil จะมีรูปลักษณ์แบบเกาหลี นั่นมาจากความหลากหลายทางเชื้อชาติในถิ่นเกิดของเขานั่นเอง
วงการ K-Pop ต้อนรับไอดอล Non Asian หรือไม่ ?
เรื่องไอดอลต่างชาติไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการนี้ แต่ถ้าเป็นไอดอล Non- Asian นั้นก็อาจจะพอเห็นกันได้เรื่อยๆ แต่ต้องยอมรับว่า พวกเค้ายังไม่สามารถก้าวมาสร้างความโด่งดังได้ใกล้เคียงกับไอดอลเกาหลีหรือไอดอลชาว Asian
BLACKSWAN วงที่มีสมาชิกต่างเชื้อชาติและมีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ดูวี่แววว่าจะทำให้ชาวเกาหลีเปิดใจได้
Lana ไอดอลสาวจาก Russia ที่เดบิวท์ที่เกาหลีใต้เมื่อสองปีที่แล้ว มองเผินๆลุคของเธอแทบไม่แตกต่างจากไอดอลสัญชาติเกาหลีเลย
ต้นแบบ หรือสามีทิพย์ ?
ก่อนหน้านี้ Oli London เคยให้เหตุผลที่พยายามทุกทางเพื่อจะเลียนแบบรูปลักษณ์ของจีมินว่า หากไม่สามารถจะมีความสัมพันธ์กันได้ ก็ขอมีหหน้าตาเหมือนกัน
"ฉันแค่อยากจะทำให้เขาภูมิใจ จีมินเป็นไอดอลที่ฉันปลาบปลื้มเป็นที่สุด ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องภูมิใจแน่ๆที่ฉันดูเหมือนเขาเป๊ะขนาดนี้ ตาของฉันเหมือนของเขาเลย ในที่สุดฉันก็มีตาแบบเกาหลีเหมือนจีมินและมันช่างสวยงามเหลือเกิน ฉันมีความสุขกับลุคใหม่มากมายและแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหน้าตอนที่เริ่มยุบดูเข้าที่"
ข้อกล่าวหาจากชาวเน็ท คลั่ง K Pop จนแหวกแนว หรือแค่หาประโยชน์จากวัฒนธรรมเกาหลี
การกระทำและคำพูดชวนอึ้งเริ่มดึงดูดให้บางคนเริ่มจับผิดหาหลักฐานที่ชี้ว่า Oli London ไม่ได้หลงไหลK-Pop หรือวัฒนธรรมเกาหลีอย่างที่ย้ำนักหนา Sherliza Moé Youtuber ชาว Asian ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การแสดงความรักที่มีต่อจีมินและ BTS นั้นดูปลอมมาก และยังมีหลักฐานวีดีโอที่เจ้าตัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ใครคือleaderของ BTS หากกวาดตาไปยังInstagram ก็จะพบการประชาสัมพันธ์ผลงานด้วยการรวบรวมหัวข้อข่าวต่างๆที่สื่อได้กล่าวถึงตัวเอง ทั้งการออกรายการ Botched หรือแม้แต่หน้าข่าวจากสื่อที่พาดพิงเรื่อง "คนขาวที่ระบุตัวตนว่าเป็นคนเกาหลี" ในแง่ลบก็รวบรวมไว้ครบ หรือจะเป็นการเปิดเผยว่าเป็น ambassadorใก้กับคลีนิคศัลยกรรมก็ทำให้Youtuber รายนี้มั่นใจว่า Oli London ได้หากินกับชื่อของจีมินด้วยความหิวแสง ก่อนหน้าที่จะเริ่มเป็นที่รู้จัก ก็ไม่ได้ post อะไรเกี่ยวกับ BTS และจีมินบนInstagram แต่นำเสนอชีวิตเลิศหรู (ปัจจุบัน ภาพเหล่านั้นถูกลบไปหมด)
นอกจากนั้นยังมีคำบอกเล่าจาก Frenchy Morgan ดารา reality show ที่เคยเปิดเผยกับสื่อว่ามีความสัมพันธ์ฉันคนรักกับ Oli London แต่เมื่อปีที่แล้ว เธอได้ออกมาแฉทาง TikTok ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกลวงโลกที่ใช้บอยแบนด์เกาหลีมาหากิน
"Oli London ไม่เคยชมคอนเสิร์ตวง BTS เค้าไม่รู้จักหรือระบุชื่อสมาชิก BTS ครบทุกคน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าRM เป็น leader "
Frenchy ระบุว่า Oli London ติดต่อเธอทางข้อความ Instagramเมื่อปี 2018 เนื่องจากเธอเป็นแฟน K-Pop ตัวยง พอได้ยินจากอีกฝ่ายว่าเป็นArmy เธอจึงเชื่อใจและตกลงผูกสัมพันธ์ด้วย แต่เมื่อพบว่าเป็นเรื่องโกหก เธอจึงตัดขาดและออกมาประจานถึงคำพูดหลอกลวงแอบอ้างตัว
Frenchy ยังนำ voicemail ที่ Oli London ฝากไว้มาแฉว่า ตัวเค้าได้เข้าร่วมรณรงค์ Black Lives Matter เพื่อเกาะกระแสไม่ให้หลุดจากความสนใจด้วยยอดเข้าชม video หลักแสนและมีข้อเสนอต่างๆเข้ามา
การแสดงออกของOli London ที่ถูกมองว่าเป็นการจงใจยั่วยุให้เกิดดราม่าเพื่อปั่นกระแสตัวเองให้เป็นที่กล่าวขวัญ และนี่คือสิ่งที่ TikTok และYoutube ออกมาcall out รัวๆ
- สอนพูดเกาหลี และส่วนมากจะออกเสียงผิดหรือไม่ก็เข้าใจความหมายของคำศัพท์แบบผิดๆ
- ลาก cardboard ภาพจีมินไปเข้าพิธีแต่งงานที่ Vegas แต่ไม่ได้ปรากฏหลักฐานว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่สนับสนุนบอยแบนด์ชื่อดัง นอกจากจะแสดง
- ยืนยันว่าเป็นศิลปิน K-Pop แต่ร้องเพลงด้วยภาษาเกือบทั้งหมด และมีภาษาเกาหลีที่ออกเสียงไม่ถูกต้องไม่กี่คำ
ผลงานเพลง Heart Of Korea ที่ร้องเป็นภาษาอังกฤษ ใส่ชุดแบบญี่ปุ่น หมุนร่วมจีน แสดงท่ารำไทชิประกอบภาพตึกรามบ้านช่องที่เกาหลี
ล่าสุด Oli London ได้เปิดเผยว่า ได้รับคำขู่ฆ่าเพียงเพราะว่ามีหน้าตาเหมือนจีมิน (?) และระบุตัวตนเป็นคนเกาหลี และยืนยันว่า คนที่ใช้คำพูดทำร้ายกันมีแต่ฝ่าย liberal ในขณะที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมให้ความสนับสนุนเป็นอย่างดี (??) เจ้าตัวเรียกกลุ่มคนที่รุมโจมตีว่า "ม็อบชาวwoke"