รีวิว: แป้งฝุ่นราคาหลักร้อย งบน้อยก็สอยได้!

          สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่า ช่วงนี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้แต่งหน้า หรือบางคนแต่งหน้าใส่มาสก์แล้วสิวก็ขึ้น! วันนี้เรามารีวิวแป้งฝุ่นให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแต่งหน้าให้กับทุกคนนะคะ เพราะแป้งฝุ่นจะไม่ทำให้เราอึดอัดหน้า บางเบา สบายผิว ลดการระคายเคืองได้ด้วยน้า ที่สำคัญแป้งที่เราคัดมาวันนี้ ราคาดี! คุณภาพก็ดีเช่นกันค่า หลักร้อยงบน้อยสอยได้แน่นอน

อันดับแรกเราจะมาเปรียบเทียบราคาของทั้ง 3 แบรนด์ที่เราคัดมาวันนี้นะคะ แน่นอนว่าราคาที่ต่างกันก็ต้องส่งผลต่อคุณภาพต่างๆ ด้วยน้า ไปเลอะ เริ่มเลอะ

1. Covermark Finishing Powder S JQ สี #Y2 ปริมาณ 30 กรัม ราคา 250 บาท
2. De Leaf Thanaka Duo*2 Translucent Loose Powder ปริมาณ 15 กรัม ราคา 270 บาท
3. Chaonang Diamond Translucent Powder ปริมาณ 6.5 กรัม ราคา 319 บาท

          หลายคนเห็นแบบนี้อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจน้า แป้งฝุ่นถ้าจะใช้ทั้งที ต้องเลือกให้ดีและเหมาะกับตัวเองนะคะ เราไปดูความแตกต่างของแต่ละตัวกันค่ะ ว่าในเรื่องของแพ็กเกจจิง พัฟ และเนื้อแป้งของเค้าเนี่ยเป็นยังไงกันบ้าง

          แป้งของ Covermark รุ่นนี้ทำมาทั้งหมด 3 สีนะคะ ที่เราเลือกมาเป็นสี Y2 สีเนื้อแป้งจะเป็นสีเหลือง เหมาะสำหรับสีผิวกลางๆ ผิวขาวเหลือง ค่อนไปทางขาวค่ะ texture แป้งค่อนข้างละเอียดแต่ก็มีบ้างที่จับตัวเป็นก้อนเล็กๆ ทำให้เนื้อแป้งเวลาเทออกมาแล้วต้องใช้ให้หมด เทกลับลงไปค่อนข้างยากค่ะ ถ้าใครสนใจก็ไปลองเทสต์สีกันได้น้า

        รุ่นนี้ไม่มีพัฟมาให้ในกล่องนะคะ เราต้องซื้อพัฟแยก แปลว่าเราก็ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นไปอีกประมาณ 60-80 บาท เพราะฉะนั้นเรื่องของความคุ้มค่า เราต้องกลับมาคิดดีๆ กันแล้วล่ะค่ะว่าคุ้มค่าจริงรึเปล่า

        ส่วนเรื่องแพ็กเกจจิง ภายนอกจะเป็นฝาสีขาวแบบกลมนูนขึ้นมา ทำให้ตลับแป้งดูใหญ่ขึ้น ดูดีสำหรับสายมินิมอล ด้านในเป็นรูแบบเคาะ หน้ากว้างนะคะ รูก็ทำมาเฉพาะตรงกลางเหมาะสำหรับใช้พัฟดีค่ะ

          แป้งทานาคาตัวนี้มีความพิเศษคือมีให้เลือก 2 สีในตลับเดียว ข้างในสามารถหมุนสลับสีที่เราต้องการหรือผสมกันเลยก็ได้ค่ะ มีโทนสีชมพูที่เค้าบอกว่าเป็นสารสกัดจากทับทิมและชิมเมอร์ ส่วนโทนสีเหลืองเป็นสารสกัดจากทานาคาที่ช่วยควบคุมความมัน ส่วนตัวเราคิดว่าค่อนข้างเวิร์กสำหรับผิวขาวหรือผิวสีกลางๆ นะคะ เพราะจะได้ใช้ให้คุ้มทั้งสองสีเลย เพราะถึงจะบอกว่าเป็นแป้งโปร่งแสง แต่เวลาเราใช้แล้วมีติดสีชมพูมาด้วย บางคนอาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่ อย่างเช่นเราเป็นต้นนน

          ส่วนเรื่องพัฟตัวนี้เค้ามีมาให้นะคะ เจ้าพัฟของเค้าก็ค่อนข้างนุ่มดีเลย แต่ในความนุ่มนั้นก็มีความยวบตามมา ถ้าใช้ไปนานๆ อาจจะดูเสียรูปทรง แต่ถ้าใครชอบแบบนุ่มๆ ไว้ก่อนก็โอเคเลยค่ะ

          ตัวแพ็กเกจจิงด้านนอกของเค้ามีความสีน้ำตาลละมุนๆ น่ารักดีค่ะ ส่วนด้านในเป็นรูแบบเคาะแต่รูจะอยู่รอบๆ ด้านข้าง ตรงกลางจะไม่มีรู ด้วยความที่เค้าแบ่งออกเป็น 2 สี 2 ฝั่ง เลยต้องออกแบบแพ็กเกจจิงให้เป็นแบบนี้ ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันค่อนข้างใช้งานยาก และเลอะขอบด้านข้างเยอะไปหน่อยค่ะ

          แป้งฝุ่นเจ้านางตัวนี้เป็นแป้งโปร่งแสงที่ไม่เปลี่ยนสีผิวของเรานะคะ อันนี้จะคงความเป็นธรรมชาติของผิวเราได้ดี อีกอย่างคือช่วยให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้นด้วย เนื้อแป้งเค้าเนียนละเอียดดีมากกก ให้ความรู้สึกบางเบาจริงๆ ค่ะ เค้าบอกว่ามีสารสกัดจากน้ำมันตับปลาฉลาม ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นไปในตัวด้วยค่ะ จากความรู้สึกที่ได้ลองก็รู้สึกว่าเป็นเนื้อแป้งที่ทำให้เราค่อนข้างพอใจเลย เพราะ texture เนียนละเอียด เข้ากับสีผิวเรา ทำให้ดูกระจ่างใสด้วยค่ะ

เค้ามีพัฟมาให้ด้านในด้วยนะคะ พัฟของเค้าเนื้อสัมผัสค่อนข้างดี รู้สึกว่าจะมีความนุ่มแต่ก็แข็งแรงแบบไม่ยวบลงไปมากค่ะ พัฟเก็บแป้งได้ค่อนข้างดีเลย

          แพ็กเกจจิงด้านนอกจะมีความเป็นเจ้านางมาก มีความขาวความทองต่างๆ ส่วนด้านในก็จะเป็นแบบรูเคาะเหมือนกับสองตัวด้านบนเลย แต่รูที่เค้าทำมากับระยะห่างเรารู้สึกว่ามันพอดีมากๆ อีกอย่างคือมีรูเฉพาะตรงกลาง ทำให้เนื้อแป้งไม่เลอะ สามารถใช้พัฟซับๆ แล้วมาลงที่หน้าเราได้เลย ตัวพัฟกับรูที่ออกแบบมาก็พอดีกันมากกกกค่ะ สำหรับเราก็โอเคเลย ชอบทั้งเนื้อแป้งที่ละเอียดมากและสีที่เหมาะกับเรา

          ทั้งหมดทั้งมวลที่เรามารีวิวในวันนี้ ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ เพื่อนๆ สามารถเลือกที่ตัวเองชอบและคิดว่าเหมาะกับเราจะดีที่สุดน้าาา แป้งฝุ่นซื้อครั้งนึงก็ใช้ได้นานๆ เลย เพราะเราไม่ต้องใช้เยอะ เนื้อแป้งเค้าก็กระจายทั่วหน้าอยู่แล้วค่ะ อยากให้ลองเปรียบเทียบหลายๆ อย่างแล้วค่อยตัดสินใจกันนะคะ หรือถ้ายังไม่ชัวร์ก็ไปลองเทสต์กันก่อนจะดีที่สุดค่า
          วันนี้เราขอตัวไปก่อน ขอให้เป็นวันที่ดี รักษาสุขภาพกันด้วยน้า บ๊ายบายยย