สวัสดีค่าทุกคน ขอแนะนำตัวหน่อยน้า เราชื่อแก้มบุ๋ม เป็นคนมีปัญหาผิวเกี่ยวกับรอยฝ้าและรอยกระ สะสมมานานจนสังเกตได้ชัด บางครั้งแต่งหน้าก็เอาไม่อยู่ จนคิดว่าชีวิตนี้ไม่น่าจะหายได้แล้ว แต่พอมาเจอวิธีที่ทำให้หน้าเราดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ก็เลยอยากมาแชร์ของดีให้เพื่อน ๆ รู้จักกัน

เราเล่าให้ฟังก่อนว่าความจริงแล้ว เราเคยรักษามาหลายวิธีมาก ทั้งเชิงธรรมชาติ ที่เน้นกินอาหารช่วยลดฝ้า พวกมะม่วงสุก กับน้ำสับปะรด มีเอาน้ำมะขามเปียกมาพอกเพื่อผลัดเซลส์ผิว แต่ก็ไม่ได้ผลซักที บวกกับความอดทนเราไม่มากพอ สุดท้ายจึงหยุดไป ทีนี้ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เชิงเทคโนโลยีเข้าช่วย เข้าคลินิคยิงเลเซอร์ Pico ที่เน้นสำหรับรอยฝ้ารอยกระโดยเฉพาะ ทำอย่างต่อเนื่องด้วยความหวังว่ามันจะหาย ทำไปเกือบ 20ครั้ง จนรู้สึกว่าเงินในกระเป๋ามันร่อยหรอไปเรื่อย ๆ แถมผลลัพธ์ก็ไม่ชัดเจนมาก นั่นแหละ ก็เป็นอันต้องจบการรักษาไป จนมาหาข้อมูลเพิ่มทำยังไงให้มันจาง จริง ๆ เจอครีมหลายตัวมาก แต่ไม่มั่นใจในส่วนผสมและกระบวนการ เราเลยปัดตกไป และไฟนอลช้อยส์จึงมาจบที่ครีมชุด Cosmelan ชุดนี้นี่เองงง

ตัวเราเองหลังจากได้ศึกษาครีมชุดนี้มาแล้ว ถึงได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว Cosmelan เค้ามีประวัติโด่งดังในเรื่องรักษาฝ้ากระมานานพอสมควรเลย เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่แบรนด์ Mesoestetic เค้าเปิดเป็นแค่ร้านขายยา จนพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาเรื่อย ๆ และที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อให้เค้ามากที่สุดก็คือ cosmelan ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้านี่แหละ ที่ได้รับการยอมรับผลลัพธ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังทั่วโลก

ด้วยความที่เราเป็นคนสรรหาครีมดี ๆ เซรั่มดี ๆ มาลงหน้าอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่า ยังไม่มีเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวไหนที่ทำให้ฝ้าและกระเราดีขึ้นเท่าที่ควร ที่ผ่านมาเลยทำได้แค่ประคองอาการไปวัน ๆ พยายามไม่เจอแดด มากันแดดบ่อยขึ้น ใช้เซรั่มฟื้นฟูผิวเรื่อย ๆ แต่เม็ดสีเมลานินมันก็ดั๊นนน เติบโตกันเก่งซะจนเราเอาไม่อยู่ Cosmelan 2 ตัวนี้เลยเข้ามาจัดการให้อยู่หมัด เอาล่ะจ๊ะ เกริ่นกันจนง่วงละ งั้นเรามาเรียงไทม์ไลน์กันให้เห็นแบบเรียลไทม์ไปเลย ว่าแต่ละช่วงเวลาของการใช้ครีมไปเรื่อย ๆ ทั้งหมด 93 วันนี้ ผิวเราเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนบ้าง

เริ่มกันที่สัปดาห์แรกของการใช้ครีม หน้าเราลอกกกกก เธอจ๋า เราว่าเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะมันทั้งแดงทั้งลอกเป็นขุย ๆ ถามว่าดูแล้วหน้าเกลียดไหม ก็ไม่เชิง แต่เราจำได้ว่าตอนนั้นไม่ค่อยมั่นใจในการเปิดหน้าสดให้ใครเห็น แต่เอาวะเรื่องปกติ เพราะเค้าแจ้งตั้งแต่แรกแล้วว่า เหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ทำใจไว้เลย หน้าลอกเพื่อการผลัดเซลส์ผิวที่เสีย ๆ ออกไป อดทนเข้าไว้ ฮึบ ๆ

หน้าวันที่ 9 ที่ถอดใจเพิ่มขึ้น เพราะหน้าช่วงคางแดงมาก จากที่ตอนแรกคิกว่าหน้าตรงส่วนนั้นไม่มีปัญหาอะไร กลับมารับบทหนัก แดงเป็นปื้น อันนี้ถูกตัวครีมดึงผิวที่เสีย ๆ ขึ้นมา เรียกว่าขุดกันยันรากยันโคน

เหยยย พึ่งบ่นไป 2 วันที่แล้วว่าคางเกิดรอยแดงชัดมาก แต่พออดทนต่อมาไม่กี่วัน นางก็ทำหน้าที่ได้รวดเร็วทันใจ เหมือนให้ความรู้สึกว่า เออ ชั้นเองทำให้ผิวมันแดงปะทุขึ้นมา เดี๋ยวชั้นจัดการเองอะไรงี้ ซึ่งเอ้อจริง หน้าลอกจุดที่เสียหายออกไปเร็วดีจังงง เริ่มแล้วสินะความเปลี่ยนแปลง

ครึ่งเดือนผ่านไป โหนกแก้มที่มีรอยฝ้าชัด ๆ มันจางอะทุกคน จางจริง ๆ ผิวหน้าก็ละเอียดขึ้น เราหมั่นใช้ cosmelan 2 ต่อด้วย hydra-vital factor k ตัวนี้มีส่วนผสมช่วยลดอาการแดง ระคายเคืองผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ใช้ดีมากกก อันนี้คอนเฟิร์ม บางคนมีปัญหาเรื่องผิวที่มีรอยแดงรอยดำ หรือแพ้ง่าย เค้าก็ซื้อแยกไปใช้กันเยอะนะ

วันที่ 22 แล้ว หน้าดีขึ้นแบบต่อเนื่องสุด ๆ ผิวอิ่มฟู และที่เราสังเกตเวลาเจอแสงไฟนะ ผิวมันดูอิ่มน้ำจากข้างใน ผิวลักษณะนี้ช่วยให้เราดูอ่อนเยาว์ขึ้น หน้าเด็กลงด้วย ผลพลอยได้มาก ๆ

 ช่วงนี้คางกลับมามีรอยแดง ผสมกับรอยสิวหลังหมดปจด. มีความขึ้นๆลงๆของการทำงานเหมือนกันแฮะ แต่ถือว่าถ้าฮอร์โมนข้างในส่งผลให้ผิวข้างนอกมีริ้วรอย ตัวครีมก็จะทำงานทันทีเพื่อไปลดความอักเสบนั้น

1 เดือนผ่านไป กับการรักษา เราจะบอกว่า ตัวครีมมาส์กหน้าที่ใช้ทุกวันก่อนนอน ยังคงผลัดผิวเราอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่ผิวเสีย ๆ เริ่มเคลียร์ได้เยอะแล้ว ดังนั้นอาการลอกต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลงตามลำดับ

วันที่ 36-38 หน้าละเอียดขึ้น รอยฝ้าจางลงอย่างต่อเนื่อง เก่งมากเจ้า cosmelan สมกับราคาที่เสียตังค์ไป มา ณ ปัจจุบัน ยอมรับแล้วก็ได้ โอเค คุ้ม ！

1 เดือนครึ่งแล้ว เหมือนจะนาน แต่ว่าเร็วมากเลยนะ กับผลลัพธ์ที่แลกมา นอกจากพวกครีมชุดของ Cosmelan แล้ว ใครจะเติมเซรั่มก็เติมได้นะ เพราะผิวพร้อมได้รับการบำรุงอีกครั้ง เราใช้เอสเต้ ไนท์ รีแพร์ เข้ามาเสริมอีกตัว ลงก่อน cosmelan 2 และที่สำคัญทุกวันต้องห้ามลืมกันแดด อันนี้เราใช้ของเค้า llight water antiaging veil มี SPF 50+ ส่วนตัวชอบเพราะมันซึมเร็วมาก เนื้อบางเบา กันน้ำได้ เหมาะสำหรับผิวปกติกับผิวผสม

แอบแต่งหน้าเล็กน้อย ไม่เป็นปัญหาอะไรนะ ลงกันแดด Veil มาแล้วก็ไม่รู้สึกแพ้หรือว่าหนักหน้า ด้วยความหน้าชุ่มชื้นขึ้น แต่งหน้าก็เลยติดดีมากขึ้น ถือว่าใช้ได้เลยแหละ แต่ช่วงใต้ปากยังมีลอกเล็กน้อย

ช่วงจะ 2 เดือน จู่ ๆ ก็รู้สึกแสบหน้าช่วงล่างซ้าย เราไม่ค่อยแน่ใจ อาจจะเพราะหน้ายังผลัดเซลส์ผิว และช่วงนั้นหน้าเกิดอาการแพ้อะไรบางอย่าง ก็แอบใจไม่ดีเหมือนกัน มีปรึกษาหมอแต่ก็ยังอดทนก่อน เพราะถือว่ายังอยู่ในกระบวนการรักษา แม้ว่าเดือนแรกจะดีมาก ๆ แต่ก็ยังถือว่าไม่จบคอร์สอยู่ดี ต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ

วันที่ 70 กว่าแล้ว จะบอกว่าชอบผิวตัวเองจนไม่แต่งหน้าเลย ตั้งใจไว้ว่าถ้ามันหายดีขึ้นเรื่อย ๆ จะลดเมคอัพให้น้อยลง แล้วโชว์ผิวสดให้มากขึ้น

รอยเข้มที่สุดของหน้าได้จางลงไปแล้วเมื่อเข้าสู่วันที่ 80 กว่า ทั้งดีใจทั้งปลิ้มปริ่ม ไม่คิดว่ามันจะหายได้ ทั้งที่ใช้เวลาไปแค่เกือบ 3 เดือน และปริมาณครีมก็ยังเหลืออยยู่เยอะมาก ใช้ได้ต่อยาว ๆ เลย

เดินทางมาถึงหน้าเราวันที่ 93 เรียลไทม์สุด ๆ ทั้งชอบทั้งดีใจ แฮปปี้มาก แม้ว่าจะมีอาการแสบเล็กน้อยระหว่างการรักษา ต้องยอมรับว่าความอดทนส่งผลต่อผลลัพธ์จริง ๆ เราเชื่อว่าถ้าคนไม่มีความอดทน น่าจะหยุดใช้ตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้ว แต่ก็นะด้วยราคาที่จ่ายไป ไม่กล้ายอมแพ้จริงๆ 555 อยากให้ทุกคนที่มีปัญหาผิวแบบเราลองไปทำการบ้านดู ขนาดเราเองที่ผ่านนวัตกรรมหลากหลาย จ่ายเงินกับสกินแคร์มานักต่อนัก ยังต้องสยบที่ Cosmelan 2 เลย ถ้าเจอปัญหาผิวหน้าเร็ว ใส่ใจเร็ว ก็จะรักษาหายได้เร็ว อย่ารอให้มีอายุมากขึ้นแล้วค่อยเริ่ม เพราะเรามั่นใจว่าถึงตอนนั้น มันรักษายากกว่านี้รอยเท่าแน่นอน หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนนะ ความสวยมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งเรายอมจ่ายแล้ว ยืนยันว่าคุ้มแน่นอนจ้า