หลังจากพบแพทย์ท่าทีการแสดงออกของคนที่ทำงานEp.9
Kamoltip Pocky 43 13
ฮายยยยยยยยยยยยยย
สวัสดีจ้าาาาาาาาาาาาา
นอดออยู่บ้านทุกวันนนนนนนน
แต่งหน้าทุกวันนนนนนนนนนน
มาแล้วววววววววววววววววววว
Ep.9 เราจะมาเล่าเรื่องผลข้างเคียงการใช้ชีวิต เมื่อเราถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ความรู้สึกประมาณว่า มีโลโก้ซึมเศร้าที่หน้าผาก
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ คือความจริงที่เราต้องเจอ ความจริงทุกอย่าง เราอยากแชร์นะ เพราะคนอย่างพวกเราไม่ต้องการให้ถูกปฎิบัติกับผู้ป่วยแบบพวกเราอย่างนี้ ทุกคนพูด ทุกการกระทำ เราเสียใจ เจ็บปวดมากๆ และโกธรตัวเองว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ โกรธที่เรายิ่งพยายาม มันก็ยิ่งแย่
สิ่งแรกที่เรา ทำคือการ ขอคุยกับ HR เป็นการส่วนตัว มาตอบคำถามจากการถูกเรียกมาคอมเพลนส์
ก่อนหน้านี้ เรามาตอบ ว่า
“หนูทราบแล้วค่ะ ว่าทำไม performance ในการทำงานหนูมันแย่ลง ตอนแรกๆหนูคิด โทษตัวเอง ว่าหนูอาจพยายามไม่มากพอ หรือ passion ที่เคยมีมันลดลง หนูมีความกลัว ย้ำคิดย้ำทำ ไม่กล้าทำ ถ้าจะต้องทำอะไรก็กล้วจะทำผิดทำพลาด หนูพยายามแก้และพยามปรับ จนบางที ก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ ตรงไหน หนูเลยปรึกษากับเพื่อน เพื่อนเลยแนะนำให้ไปหา หมอจิตเวช ค่ะ ฉะนั้น อาการที่หนูทำงานได้ไม่ดีเท่ามาตรฐานเดิม เกิดจากสารเคมีในสมองที่ทำให้หนู พูดไม่รู้เรื่อง ถามเยอะ ย้ำคิดย้ำทำ คิดต่อไม่ได้ มันเกิดจากการเครียดสะสมปัญหาหลายๆอย่าง ที่มันถาโถมเข้ามาในชีวิตหนูตอนนี้ ทั้งอาการแพนิก ทั้งอาการไม่ยินดียินร้าย โดยที่บ้างที่ สีหน้าที่แสดงมันไม่ตรงกับความรู้สึก ค่ะ หมอ วินิจฉัย ว่าหนูมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าที่มีไบโพล่าแทรกซ้อนค่ะ และตอนนี้ หนูก็อึดอัดมากกับสิ่งที่ป๋ากับม๊าทำ คือไม่ยอมกลับเมืองกาญอยู่ที่คอนโดหนู เค้าดูข่าวมามาก เค้าคิดว่าป่วยเป็นซึมเศร้าจะต้อฆ่าตัวตาย เค้าทำแบบนี้ทำให้หนูกังวล มันอธิบายไม่ถูกอีกอึดอัดมาก “ (เราเล่าเรื่องทั้งหมดไปร้องไห้ไป)
HR ที่น่ารักมากๆ ของออฟฟิศเรา ก็ สรุปประเด็นมาให้สองข้อ
ข้อที่1. เรื่องป๋ากับม๊า ให้เราไปคุยกับเค้าให้เข้าใจ พี่เข้าใจ เข้าหัวอกคนเป็นพ่อแม่ ตอนนี้ป๋ากับม๊าของหนูดา กำลังสับสนกับข้อมูลที่เคยได้รับมา กับ ความจริงที่เค้าไม่เข้าใจ ว่าลูกสาวตัวเองกำลังเจอกับอะไร กำลังสู้อยู่กับอะไร เค้าทั้งสองเป็นห่วงหนูดา โดยเลือกที่จะทำตามที่เค้าเข้าใจ เค้ากลัวเราฆ่าตัวตายเราก็ต้องบอกเค้าว่ามันจะไม่เกิดขึ้น กลับไปคุยให้เค้าเข้าใจ นะ เชื่อพี่”
ข้อที่2 “พี่จำเป็น ต้องรายงานเรื่องนี้กับทีมผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัททั้งหมดเพราะ การที่มีพนักงานงานป่วยเป็นโรคนี้ มันเกี่ยวกับความมั่นคงของทีมและ อาจจะเกิดเรื่องเสียหายไปมากกว่านี้ใน เคสของหนูดานี้ อาจจะต้องพักงาน เพื่อรักษาตัวเอง ฮีลตัวเองให้ได้ แล้วค่อยกลับมาทำงานได้”
เราในตอนนั้น รู้สึกเข้าใจที่ HR พูด เพราะมันคือความจริงทั้งหมด หลังจากนั้น เราก็ ทำงานต่อได้ เกือบเดือนมั่ง (เดี๋ยวเล่าเรื่องออกจากงานใน Ep.10นะคะ) มันทุลักทุเลมาก เป็นตัวถ่วงของทีม และ การใช้ชีวิตจริงๆในที่ทำงานให้พ้นผ่านในแต่ละวันคำสั่งที่เราได้รับมอบหมาย เราไม่เข้าใจทุกครั้ง เรารับรู้ความรู้สึกถึงความลำคานของพี่ๆในทีมที่ต้องอธิบายงานอะไรเราซ้ำๆ และรู้สึกว่า พี่เค้าเหนื่อยที่จะทำงานกับเรา ที่พูดไม่รู้เรื่อง ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วก็ถูกบูลลี่ ด้วย ยาก มันยากขึ้นทุกวัน เราไม่อยากเอาความอาการป่วยตัวเองมาอ้าง ว่าทำงานได้ไม่เหมือนเดิม
แต่ก็มีอยู่ 1 ครั้ง ที่เราระเบิด เราพิมตอบกลับพี่หัวหน้าทีมเป็นผู้ชาย ไป ว่า “พี่คะ ทุกวันนี้ หนูต้องกินยาเยอะแค่ไหน ต้องใช้ความอดทน อดกลั้นแค่ไหน หนูต้องควบคุมอารมณ์ ต้องกินยาให้ตัวเอง ไม่วอกแวกให้มีสติ มีสมาธิ เพื่อที่จะพยายามทำให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติ พี่ช่วยอดทน อธิบายขยายความคำสั่งต่างๆให้หนูเข้าใจหน่อย หนูก็ไม่ได้ อยากเป็นแบบนี้เลย หนูเบื่อตัวเอง เป็นทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองเป็นมากๆเลยค่ะ ช่วยใจเย็นกับหนูหน่อยค่ะ “
Ep.9 นี้ยาวละ Ep.10 จะกลับมาเล่าต่อว่า ระหว่างที่เราทำงานอยู่ คนรอบตัวปฎิบัติกับเราอย่างไร จนถึงจุดจบของการออกจากงานประจำ
ฮัลโลวววววววววว กลับมาค่ะ
วันนี้สีม่วงพาสเทลลลลลลลล
ลิปปลากัดศรีจันทร์
สวัสดีจ้าาาาาาาาาาาาา
นอดออยู่บ้านทุกวันนนนนนนน
แต่งหน้าทุกวันนนนนนนนนนน
มาแล้วววววววววววววววววววว
Ep.9 เราจะมาเล่าเรื่องผลข้างเคียงการใช้ชีวิต เมื่อเราถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ความรู้สึกประมาณว่า มีโลโก้ซึมเศร้าที่หน้าผาก
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ คือความจริงที่เราต้องเจอ ความจริงทุกอย่าง เราอยากแชร์นะ เพราะคนอย่างพวกเราไม่ต้องการให้ถูกปฎิบัติกับผู้ป่วยแบบพวกเราอย่างนี้ ทุกคนพูด ทุกการกระทำ เราเสียใจ เจ็บปวดมากๆ และโกธรตัวเองว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ โกรธที่เรายิ่งพยายาม มันก็ยิ่งแย่
สิ่งแรกที่เรา ทำคือการ ขอคุยกับ HR เป็นการส่วนตัว มาตอบคำถามจากการถูกเรียกมาคอมเพลนส์
ก่อนหน้านี้ เรามาตอบ ว่า
“หนูทราบแล้วค่ะ ว่าทำไม performance ในการทำงานหนูมันแย่ลง ตอนแรกๆหนูคิด โทษตัวเอง ว่าหนูอาจพยายามไม่มากพอ หรือ passion ที่เคยมีมันลดลง หนูมีความกลัว ย้ำคิดย้ำทำ ไม่กล้าทำ ถ้าจะต้องทำอะไรก็กล้วจะทำผิดทำพลาด หนูพยายามแก้และพยามปรับ จนบางที ก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ ตรงไหน หนูเลยปรึกษากับเพื่อน เพื่อนเลยแนะนำให้ไปหา หมอจิตเวช ค่ะ ฉะนั้น อาการที่หนูทำงานได้ไม่ดีเท่ามาตรฐานเดิม เกิดจากสารเคมีในสมองที่ทำให้หนู พูดไม่รู้เรื่อง ถามเยอะ ย้ำคิดย้ำทำ คิดต่อไม่ได้ มันเกิดจากการเครียดสะสมปัญหาหลายๆอย่าง ที่มันถาโถมเข้ามาในชีวิตหนูตอนนี้ ทั้งอาการแพนิก ทั้งอาการไม่ยินดียินร้าย โดยที่บ้างที่ สีหน้าที่แสดงมันไม่ตรงกับความรู้สึก ค่ะ หมอ วินิจฉัย ว่าหนูมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าที่มีไบโพล่าแทรกซ้อนค่ะ และตอนนี้ หนูก็อึดอัดมากกับสิ่งที่ป๋ากับม๊าทำ คือไม่ยอมกลับเมืองกาญอยู่ที่คอนโดหนู เค้าดูข่าวมามาก เค้าคิดว่าป่วยเป็นซึมเศร้าจะต้อฆ่าตัวตาย เค้าทำแบบนี้ทำให้หนูกังวล มันอธิบายไม่ถูกอีกอึดอัดมาก “ (เราเล่าเรื่องทั้งหมดไปร้องไห้ไป)
HR ที่น่ารักมากๆ ของออฟฟิศเรา ก็ สรุปประเด็นมาให้สองข้อ
ข้อที่1. เรื่องป๋ากับม๊า ให้เราไปคุยกับเค้าให้เข้าใจ พี่เข้าใจ เข้าหัวอกคนเป็นพ่อแม่ ตอนนี้ป๋ากับม๊าของหนูดา กำลังสับสนกับข้อมูลที่เคยได้รับมา กับ ความจริงที่เค้าไม่เข้าใจ ว่าลูกสาวตัวเองกำลังเจอกับอะไร กำลังสู้อยู่กับอะไร เค้าทั้งสองเป็นห่วงหนูดา โดยเลือกที่จะทำตามที่เค้าเข้าใจ เค้ากลัวเราฆ่าตัวตายเราก็ต้องบอกเค้าว่ามันจะไม่เกิดขึ้น กลับไปคุยให้เค้าเข้าใจ นะ เชื่อพี่”
ข้อที่2 “พี่จำเป็น ต้องรายงานเรื่องนี้กับทีมผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัททั้งหมดเพราะ การที่มีพนักงานงานป่วยเป็นโรคนี้ มันเกี่ยวกับความมั่นคงของทีมและ อาจจะเกิดเรื่องเสียหายไปมากกว่านี้ใน เคสของหนูดานี้ อาจจะต้องพักงาน เพื่อรักษาตัวเอง ฮีลตัวเองให้ได้ แล้วค่อยกลับมาทำงานได้”
เราในตอนนั้น รู้สึกเข้าใจที่ HR พูด เพราะมันคือความจริงทั้งหมด หลังจากนั้น เราก็ ทำงานต่อได้ เกือบเดือนมั่ง (เดี๋ยวเล่าเรื่องออกจากงานใน Ep.10นะคะ) มันทุลักทุเลมาก เป็นตัวถ่วงของทีม และ การใช้ชีวิตจริงๆในที่ทำงานให้พ้นผ่านในแต่ละวันคำสั่งที่เราได้รับมอบหมาย เราไม่เข้าใจทุกครั้ง เรารับรู้ความรู้สึกถึงความลำคานของพี่ๆในทีมที่ต้องอธิบายงานอะไรเราซ้ำๆ และรู้สึกว่า พี่เค้าเหนื่อยที่จะทำงานกับเรา ที่พูดไม่รู้เรื่อง ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วก็ถูกบูลลี่ ด้วย ยาก มันยากขึ้นทุกวัน เราไม่อยากเอาความอาการป่วยตัวเองมาอ้าง ว่าทำงานได้ไม่เหมือนเดิม
แต่ก็มีอยู่ 1 ครั้ง ที่เราระเบิด เราพิมตอบกลับพี่หัวหน้าทีมเป็นผู้ชาย ไป ว่า “พี่คะ ทุกวันนี้ หนูต้องกินยาเยอะแค่ไหน ต้องใช้ความอดทน อดกลั้นแค่ไหน หนูต้องควบคุมอารมณ์ ต้องกินยาให้ตัวเอง ไม่วอกแวกให้มีสติ มีสมาธิ เพื่อที่จะพยายามทำให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติ พี่ช่วยอดทน อธิบายขยายความคำสั่งต่างๆให้หนูเข้าใจหน่อย หนูก็ไม่ได้ อยากเป็นแบบนี้เลย หนูเบื่อตัวเอง เป็นทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองเป็นมากๆเลยค่ะ ช่วยใจเย็นกับหนูหน่อยค่ะ “
Ep.9 นี้ยาวละ Ep.10 จะกลับมาเล่าต่อว่า ระหว่างที่เราทำงานอยู่ คนรอบตัวปฎิบัติกับเราอย่างไร จนถึงจุดจบของการออกจากงานประจำ
ฮัลโลวววววววววว กลับมาค่ะ
วันนี้สีม่วงพาสเทลลลลลลลล
ลิปปลากัดศรีจันทร์
About This Look!
ทุกอย่างจะดูซอฟ เมื่อเป็นสีพาสเทล