เพื่อนๆ มีเหตุการณ์พลิกชีวิตที่ทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนใหม่มั้ยนะ? เรื่องราวเหล่านี้อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้เลยน้าา

แฟนคลับ Taylor Swift ตื่นเต้นกันน่าดู เพราะวันนี้เทย์เลอร์ออกอัลบั้ม Red (Taylor's Version) ซึ่งเธอนำอัลบั้มดังของเธอเมื่อปี 2012 มาทำใหม่ หลังจากที่ Scooter Braun อดีตโปรดิวเซอร์ของเธอจากค่ายเพลง Big Machine ยึดลิขสิทธิ์เพลงของเธอทั้งหมดไป แม้แต่เจ้าของเพลงอย่างเทย์เลอร์ก็ไม่มีสิทธิ์นำเพลงของเธอไปใช้ด้วยซ้ำ! แต่นักร้องสาวก็สู้กลับค่ะ เพราะเธอซุ่มทำอัลบั้มเก่าของเธอใหม่หมดเลย และทยอยปล่อยออกมานั่นเอง! บอกเลยว่าเป็นการต่อสู้ที่แสบมาก! (และเพลงใหม่ๆ ของเธอก็ดีกว่าเดิมอีกด้วย)
พอเห็นเรื่องของเทย์เลอร์ เราก็เลยนึกเล่นๆ ว่า ถ้า Scooter Braun ไม่แกงเธอในวันนั้น เทย์เลอร์ก็คงไม่ออกอัลบั้มสุดปังในวันนี้ ถึงจะเป็นเรื่องที่แย่มาก แต่ก็พลิกชีวิตของนักร้องสาวไปไม่น้อย นอกจากจะเอาชนะแบบสวยๆ ด้วยฝีมือของตัวเองได้แล้ว แฟนคลับก็ยังเอาใจช่วยเทย์เลอร์สุดๆ ไปอีกกกก จนอยากบอกว่า อยู่ทำเพลงให้เราฟังไปอีกนานๆ นะ อย่าเพิ่งเปลี่ยนอาชีพเป็นแม่ค้าซะก่อนนน :P
ชีวิตเราหลายคนก็คงเจออะไรแบบนี้เหมือนกัน อย่างเหตุการณ์เล็กๆ ที่ตอนแรกก็ไม่คิดว่าสำคัญอะไร แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตไปเลยซะงั้น เมื่อก่อนเราอาจจะนิสัยแบบนึง แต่พอเจออะไรบางอย่างเราก็เลยเปลี่ยนนิสัยไปเลยก็ได้ หรือแม้แต่ทัศนคติ ความเชื่อ ที่เมื่อก่อนเราเชื่ออีกแบบนึง แต่พอเจอเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิต เราเลยเลิกเชื่อความคิดเดิมๆ ไปเลย พอมองย้อนกลับไปแล้วกลายเป็นว่ามันสำคัญจริงๆ ถ้าไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น อาจจะไม่มีเราในวันนี้ก็ได้

มาแชร์กันหน่อยค่ะว่า เพื่อนๆ มีเหตุการณ์พลิกชีวิตที่ทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนใหม่มั้ยนะ?

เรื่องราวของชาวจีบัน อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวังอยู่ก็ได้น้าา เราเชื่อว่าทุกประสบการณ์มีความหมายเสมอ มาแชร์กันจ้า :)

Discussion (10)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่า
ขอมาตามส่องอ่านของทุกๆคนด้วยค่าาา
เหตุการ์ที่ทำให้เปลี่ยนตัวเอง คือจริงๆสมัยสาววัยละอ่อน เป็นคนดื้อหัวรั้นมาก มากชนิดที่ว่าแม่ได้เห็นหน้าน้อยมาก เพราะอยู่แต่กับเพื่อน เที่ยวกินแทบทุกวัน จนแม่แบบทนไม่ไหว ลากไปโรงเรียนให้ลาออก และเห็นแม่ร้องไห้ นั่นคือจุดพีคเลย แบบจุกอกไปหมด เลยยกมือไหว้ และกราบขอโทษแม่ บอกแม่ว่าหนูไม่ลาออก ถึงหนูจะเป็นลูกที่ไม่ดีนัก แต่ถ้าให้หนูไม่เรียน ไม่มีอนาคตหนูไม่เอา ยังพูดติดตลกกับแม่ทุกวันนี้ว่า ถึงหนูจะเลวตอนนั้น แต่หนูก็ไม่ทิ้งเรื่องเรียนและเรื่องของอนาคตนะ หนูต้องเรียนให้ดี เรียนให้ได้คะแนนดีเพื่อให้แม่ภูมิใจว่าลูกนิสัยไม่ดีคนนี้สายตาใคร ก็ทำให้แม่ภูมิใจและไม่ต้องอายใครได้เหมือนกัน จำได้ว่าเกรดสูงสุดที่พอจะคว้ามาให้แม่ยิ้มได้คือ 3.94  ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองดีได้ในระดับที่แม่คงไม่ต้องปวดหัวอีกแล้ว มีงานทำ มีคอนโดและรถของตัวเอง มีแมวด้วย 1 ตัวตามความฝัน อาจจะไม่ใช่คนที่ดีมากเมื่อก่อน แต่ตอนนี้บอกเลยว่าฉันเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อคนรอบข้างแล้วจริงๆ น้องๆคนไหนไม่อยากเรียนหนังสือรู้สึกเบื่อ บอกเลยว่าเรียนเหอะ วันนึงการเรียนที่ผ่านมา จะช่วยให้อนาคตเราหาเงินเลี้ยงชีพได้ อย่าไปอ้างอิงคนที่ไม่ได้เรียนแล้วประสบความสำเร็จ จำไว้ว่าเราอาจจะไม่ได้โชคดีแบบพวกเขาก็ได้ เพราะงั้นอะไรที่ทำให้เราจะไปสู่อนาคตที่ดีได้ ทำเถอะ จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง :)
@styles ขอบคุณมากเลยนะน้องหนึ่ง ดีก็ดีใจที่คนดื้อแบบพี่ผ่านจุดเลวร้ายมาได้ พอมาย้อนดูแล้วก็ขำ อะไรจะใช้ชีวิตสุดตัวสุดโต่งเบอร์นั้น 5555 @Alice Kerdplanant ขอบคุณนะคะคุณอลิซ ด้วยความที่เราอยู่ในครอบครัวฐานะไม่สูงไม่กลาง ทำให้หลายๆ อย่างเราต้องดิ้นรนทั้งเพื่อตัวเองและคนในครอบครัวค่ะ ขวัญดีใจที่ทุกวันนี้ทำให้แม่ยิ้มได้ และภูมิใจในตัวขวัญ ลูกที่ดื้อที่สุดในบ้านได้ 5555
ขอบคุณมากเลยค่ะ เรื่องพลิกชีวิตของเราน่าจะเป็นเรื่องครอบครัว มันละเอียดอ่อนมากๆ จนคิดว่าตัวเองจะไปต่อไม่ได้ ไม่อยากเรียน ไม่อยากอยู่ แต่ก็พยายามฮึบ ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง จนผ่านมาได้ถึงตอนนี้ คิดว่าตัวเองดีขึ้นจากตอนนั้นมากกก พยายามคิดใหม่ ทำใหม่ ตั้งใจเรียน ทำงาน พยายามจะทำงานเก็บเงิน สู้ต่อไปค่าา ฮือออออออ
คุณเค้กเก่งมากเลยค่ะที่ผ่านมาได้ เป็นกำลังใจให้คุณเค้กนะคะะะะะะ ส่งใจดวงโตๆ ให้เลยยยย มีอะไรก็มาเล่าบนจีบันได้น้าาา เพื่อนๆ ทุกคนคอยซัพพอร์ตน้าาา
ของเรามี​ 2 เหตุการณ์ค่ะ รอบแรก​ เป็นตอนเรียนค่ะ​ ตอนม.ต้นเราเป็นเด็กขี้เกียจอ่านหนังสือค่ะ​ เกรดไม่เคยเกิน​ 2.5​ เลย​ ไปสอบเข้าม.ปลายที่ไหนก็ไม่ติด​ คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่น่าจะดีแน่นอน​ ก็เลยต้องตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้เอนฯ​ ให้ติด​ ม.4 เทอมแรกก็ครึ่งๆกลางๆ​ ขาดเรียน​ 8​ วัน​ ป่วยนิดหน่อยก็ไม่ไป​ แต่เริ่มอ่านหนังสือบ้าง​ เทอมนั้นสอบได้ที่​ 4 ของห้อง​ พอเริ่มเทอม​ 2 ก็เริ่มตั้งใจมากขึ้น​ ป่วยไข้ขึ้นยังไปนั่งเรียน​ จนสอบได้ที่หนึ่งของ​ พอได้ที่​ 1 ของห้อง​ ก็อยากได้​ที่​ 1 ของโรงเรียน​ ทุกอย่างไม่เกินความตั้งใจจริงๆค่ะ​ พอเอนฯ​ ก็ติดอันดับ​ 1 ที่เลือก   รอบที่​ 2 คือตอนที่เรียนจบแล้ว​ จบกฎหมายแต่ดันอยากเป็นแอร์​ สมัครแอร์ครั้งแรกคือยังไม่มีไอเดียของการทำงานบริการเลย ภาษาอังกฤษแกรมม่ากับเขียนอยู่ในระดับปานกลาง​ แต่จะพูดคือคิดนานมาก​ สุดท้ายตัดสินใจไปทำงานโรงแรมที่ดูไบเลย​ การใช้ชีวิตในต่างประเทศทำให้เราเห็นโลกกว้างขี้น เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้เราเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคนเดียวในต่างแดน​ แต่ถือว่าการตัดสินใจที่ถูกมากเลยค่ะ​ ลูกเรา​ เราก็จะให้ทำงานในต่างประเทศแน่นอน​
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะอยู่ได้นานค่ะ สภาพบ้านเมืองเค้าต่งจากเรามากจริงๆ ยิ่งเมื่อ 13 ปีที่แล้วเมืองเค้าเพิ่งเริ่มพัฒนา Metro ยังไม่มี ไปไหนก็ต้องแท็กซี่ซึ่งก็แพงมาก รถเมล์มีแต่ก็น้อยมาก แต่พออยู่ไปก็เริ่มชิน จนตอนนี้เบื่อการอยู่ที่ไทย ตะวันออกกลางถึงจะร้อนมาก แต่ไม่มีหน้าฝน ฝนจะตกเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดูเท่านั้น