ช่วง 1-2 ปีมานี้ เทรนด์สกินแคร์มาแรงแซงทางโค้งมากๆ และแต่ละแบรนด์ก็ขยันออกไอเท็มใหม่มาล่อตาล่อใจ และล่อเงินในกระเป๋าของเรากันสุดๆ และด้วยความที่สกินแคร์ที่จะซึมเข้าไปบำรุงผิว หรือทำปฏิกิริยาอะไรสักอย่างกับผิวหน้าเรา ถ้าแพ้หรือระคายเคืองขึ้นมาหน้าก็จะแหก! จากผิวปังเปลี่ยนเป็นผิวผังในช่วงข้ามคืน และต้องใช้เวลาและเงินรักษาให้ผิวกลับมาดังเดิม

เพราะฉะนั้นเราควรเซฟผิวด้วยการทดสอบก่อนว่า เจ้าไอเท็มใหม่ที่ซื้อมานั้นถูกกับผิวเราหรือเปล่า เมคชัวร์ว่าถ้าใช้แล้วจะไม่แพ้จริงๆ

อาการแพ้ครีมมีอะไรบ้าง?

มาดูกันก่อนว่าอาการแพ้  ไม่ได้มีแค่สิวขึ้นอย่างเดียวน้าา ผิวหนังบริเวณที่แพ้จะเกิดเป็นผื่นแดง ตุ่มนูน ผดเล็กๆ คัน ผิวแห้งหรือสาก หรืออาจเกิดเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และผิวของแต่ละคน

และถ้าเกิดอาการแพ้แล้ว ก็ควรรีบไปพบหมอเพื่อรักษาตามขั้นตอนต่อไป อย่าเพิ่งลองใช้สกินแคร์เอง เพราะเราก็ต้องเสี่ยงว่าจะแพ้หนักกว่าเดิมอีกหรือเปล่า

ทดสอบการแพ้สกินแคร์เบื้องต้น

ทดสอบการแพ้เบื้องต้น

ทดสอบการแพ้สกินแคร์ด้วยการทาลงบนผิวกาย ในจุดที่อ่อนโยน ได้แก่ บริเวณข้อพับ ใต้ท้องแขนด้านหน้า หรือคอ ทาครีมลงบนผิวในปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 บาท ทุกเช้าเย็นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ถ้าเพื่อความชัวร์ก็ควรลองสัก 3-7 วันก่อน

ทดสอบการแพ้ขั้นสุด

เพื่อความมั่นใจ ไม่ต้องมาเทสต์หรือเสี่ยงว่าจะแพ้มั้ย ก็สามารถไปทำ Skin Patch Test ได้เลย ซึ่งต้องให้แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำให้ ข้อดีคือเราจะรู้เลยว่าสารตัวไหนในสกินแคร์ที่เราแพ้บ้าง ได้เช็คอ่านส่วนผสมก่อน ถ้ามีสารที่แพ้ก็ไม่ต้องซื้อมา ประหยัดเงินและเวลา ไม่ต้องมาลุ้นหน้างาน

ข้อเสียก็คือการเทสต์ใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน และ 2 วันแรกหลังห้ามโดนน้ำเลยเด็ดขาด และอาจเกิดอาการคันยุบยิบได้ แต่ห้ามทำอะไร ห้ามเกา ทา ยา หรือกินยาแก้แพ้

เพื่อนๆ คนไหนเคยมีประสบการณ์แพ้ หรือทำ  Patch Test มาแชร์กันได้น้าา :)