7 ทักษะและเรียนรู้การตลาดแบบ Emily Cooper
Rainnf1994
30 พ.ย. 64
43
15
Emily in Paris ถือว่าเป็นซีรีย์ที่กระแสดีไม่มีตกแต่อย่างใด ด้วยตัวละครอย่าง Emily Cooper นักการตลาดสาวอเมริกันที่ได้มาทำงานในเมืองปารีสเมืองแห่งน้ำหอม และฝนเชื่อว่าอาชีพนี้ยังเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันของสาวๆหลายคน แถมยังได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังสุดหรูอีกมากมาย นอกจากนี้เอมิลี่ไม่ได้เป็นแค่นักการตลาดอย่างเดียว นางยังได้เป็นอินฟลูเอนเซอร์อีกด้วยนะคะ(อย่าพึ่งเบื่อฝนนะคะ ฝนกำลังบ้าซีรีย์เรื่องนี้อยู่ค่ะ😂) แต่...ถ้าเราอยากเป็นนักการตลาดหรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ดีและเก่งแบบเอมิลี่ ต้องทำยังไงบ้าง???? เพราะฉะนั้นวันนี้ฝนเลยได้หาข้อมูลมาให้สาวๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เตรียมสมุด ปากกาจดไว้ได้เลยยย
เริ่มแรกมาเรียนรู้การเป็นอินฟลูเอนเซอร์แบบเอมิลี่ คูเปอร์ กันก่อนค่ะ จากในภาพจะเห็บได้ว่าเอมิลี่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมงาน Duree Cosmetics ซึ่งคอนเทนต์ของเอมิลี่ คือ การทานเบอร์รีจาก Backdrop และ จุดขาย คือ ลิปสติกที่ติดทนไม่มีหลุด ซึ่งจากฉากนี้แสดงให้เห็นว่าเอมิลี่ ได้มีความคิดสร้างสรรค์จากการสังเกตสิ่งรอบตัวและนำมาปรับใช้ในคอนเทนต์ของตัวเองทำให้เป็นที่แตกต่างจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆ งานนี้ทำให้คอนเทนต์ของเอมิลี่เป็นที่สะดุดตาแก่เจ้าของ Duree Cosmetics นั่นเองค่ะ
ข้อสรุปของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ แบบเอมิลี่ คูเปอร์ ความเป็นตัวเอง เนื้อหาต้องสั้น กระชับ แบะ น่าสนใจ เนื้อหาต้องแตกต่างจากคนอื่น ต้องรู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับสินค้าที่เราจะนำเสนอ
ต่อมาก็เป็นนักการตลาดที่น่าสนใจเหมือนเอมิลี่ คูเปอร์ จากในภาพฉากนี้คามิลล์เพื่อนของเอมิลี่ได้ขอร้องให้เอมิลี่ช่วยโปรโมตและทำยอดขายแชมเปญและจัดการกับองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดมาใช้ประโยชน์กันค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็มาแยกและการคิดวิเคราะห์ของฉากนี้กันนะคะ เป้าหมาย คือ การเพิ่มยอดขายของแชมเปญปัญหาที่ต้องแก้ไข คือ จัดการกับองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดสรรค์วิธีการจัดการแก้ไขปัญหา คือ นำเศษองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดสรรค์ มาทำเป็นแชมเปญอีกขวดสำหรับเขย่าและเปิดฟองฟู่ขึ้นมาโดยเฉพาะและไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงรสชาติค่ะ***สิ่งสำคัญ*** เราต้องคอยสังเกตสิ่งรอบตัวอยู่เสมอและค่อยหยิบมาสร้างสรรค์แต่งเติมค่ะ
สุดท้ายนะคะ ก็มาถึง 7 ทักษาะของการเป็นนักการตลาดแบบ เอมิลี่ คูเปอร์ ที่ต้องมีกันค่ะ เข้าใจลูกค้า (Customer Knowledge) = นักตลาดในปัจจุบันจำเป็นต้องรู้ว่า ลูกค้าต้องการอะไร? Pain Points คืออะไร? และเข้าใจว่าอะไรจะตอบสนองความต้องการ? การตอบปัญหาเหล่านี้ได้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนการตลาด การเล่าเรื่อง (Storytelling) = ทุกคนชอบเรื่องราวดี ๆ การใช้ทักษะการเล่าเรื่องจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้นักการตลาดขายของได้ พร้อมทั้งการอ้างอิงด้วยตัวเลข และข้อมูลที่มีนำไปสู่การขายไอเดียที่ดึงดูดลูกค้า ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) = การตลาดเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น การเสียเวลาไปกับการวางแผน ทำงานให้ทันเวลา หรือจัดตารางเวลานั้นไม่ทำให้งานของคุณโดดเด่นที่สุด การมองหาไอเดียที่แปลกใหม่ต่างหากที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพนี้ การทำงานเป็นทีม ((Team Player) = There is no “I” in Team” หมายถึง การทำงานเป็นทีม ต้องไม่สนใจแต่ตัวเอง แต่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม นักการตลาดไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ แต่จำเป็นต้องสื่อสาร และทำงานกับหลายทีมในองค์กรถึงจะสามารถทำงานสำเร็จได้ การเขียนโฆษณา (Copywriting) = ไม่ว่าเนื้อหาของโฆษณาจะดีขนาดไหน แต่การเขียนแคปชั่นให้ดึงดูดและตอบโจทย์เป้าหมายมากที่สุดถึงจะประสบความสำเร็จ เน้นทำให้อ่านง่าย สั้น กระชับ ได้ใจความมากที่สุด การสื่อสาร (communication) = นักการตลาดจำเป็นต้องศึกษาวัฒนธรรมของบริษัท เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า เพื่อที่จะสามารถสื่อสารงานได้อย่างไม่ติดขัด และทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น การจัดการกับเวลา (Time Management) = การทำงานด้านการตลาดเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และหาแรงบันดาลใจอยู่ตลอด แต่อย่าลืมว่าเราต้องมีชีวิตส่วนตัวของเราด้วย ควรจัดสรรเวลาเพื่อดูแลตัวเอง และแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัวให้ออกเราถึงจะมีความสุขกับชีวิตแบบ Work Life Balance แบบเต็มที่ แหล่งอ้างอิง : https://www.facebook.com/493203527817609/posts/1028946564243300/?d=n
https://techsauce.co/connext/career-insight/7-skills-for-marketer-from-emily-in-paris-series
หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโชน์สำหรับสาวๆนะคะ หากฝนสรุปมาผิดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ