รีวิว 7 แป้งพัฟหน้าเนียน ตัวไหนหน้าเนียน ไม่หลุดติดแมสก์ มาดูกันค่ะ

47 34

แม้ว่าช่วง 1-2 ปีหลัง สาวๆแบบเราแทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลย  เพราะต้องใส่แมสก์ ไหนจะล็อดาวน์ไม่ได้ออกไปไหนอีก แต่เชื่อเถอะค่ะว่า มันยังมีคนที่แต่งหน้าในบางวันที่ต้องออกไปประชุม(นัดสำคัญ) ออกไปข้างนอกบ้างเป็นครั้งคราว และหนึ่งในนั้นก็คือ เราเนี่ยแหละค่ะ 55555 ใส่แมสก็ยังไม่วายแต่งหน้าแบบเต็มไปอีก แล้วพอต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็มาจ้ะ แป้งทุกตัวในกรุดาหน้ามาทาเอาให้สะใจ 55555 วันนี้ก็เลยเอารีวิวแป้งพัฟมาฝาก เน้นความเนียน ถอดแมส์กออกมาแล้วยังปัง ติดผิว จะมีตัวไหนบ้าง ตามมาเลยค่า  

Deesy NIAN Smooth & Matte Foundation Powder  


ราคา : 395 บาท 

คะแนน : 9/10

ตัวแรกที่จะรีวิวเป็นแป้งที่เราใช้บ่อยมากๆ บ่อยที่สุดแล้วในบรรดาแป้งพัฟที่นอนเรียงรายอยู่บนโต๊ะแล้ว เพราะนางใช้ดีจริง !!   เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่รู้สึกว่า ใช้งานได้คุ้มค่าจริงๆ แล้วตลับนึงใช้ได้นานด้วยนะ นี่ก็โดนพวกบิวตี้บล็อกเกอร์ป้ายยามาอีกที ซึ่งตัวนี้เค้าเป็นแป้งผสมรองพื้นที่เคลมมาว่า ติดทน คุมมันได้ตลอดวัน กันน้ำกันเหงื่อได้  มีสารบำรุง  Tripeptide Hyaluronic และวิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงและชุ่มชื้น แล้วเนื้อแป้งเป็น  micro silk จากญี่ปุ่น  แต่ใดๆก็คือ เค้าพัฒนาสูตรนี้ให้เหมาะกับผิวของคนไทย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงไทย ซึ่งพอได้ใช้งานจริงๆแล้วก็รู้สึกว่า เอ้อ มันตอบโจทย์ เพราะเนื้อแป้งมันเนียนนุ่มมาก เวลาทาหน้าก็ทำให้หน้าเนียนไปด้วย คุมมันก็ดี แถมปกปิดก็เริ่ด วันไหนรีบๆฟาดแค่แป้งตัวนี้ตัวเดียวโนรองพื้นก็ยังปกปิดรอยดำเล็กๆได้เวิร์คอยู่นะคะ จัดเป็นแป้งที่ดีอีกตัวนึงที่ควรตำมากๆเลยค่ะ  

ความร้สึกหลังใช้ : เนื้อเค้าแป้งเนียน ละเอียด ทาแล้วเนียนกริบไปกับหน้าเลย ช่วยปกปิดรอยดำจากสิวได้ดีมาก เบลอรูขุมขนได้ แต่ไม่หนาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าจนเกินไป รอแป้งเซ็ตตัวสักพักจะเนียนสมชื่อเลยค่ะ ไม่ต้องลงแป้งฝุ่นอะไรใดๆเพิ่มเลย คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีมาก เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยทุกฤดู ขนาดวันที่ต้องฝ่าฝน ฝ่าแดดเหงื่อแตกแซ่กๆ แค่ใช้ทิชชู่ซับเบาๆหน้าก็กลับมาเนียนเหมือนเดิมเลย แป้งอาจมีหลุดไปบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ทำให้ดูน่าเกลียด เอาจริง ตอนที่นั่งทำงานสวยๆในออฟฟิศ(ก่อนล็อคดาวน์)เราก็ใช้แป้งตัวนี้ทาประจำ ซึ่งแทบจะไม่ต้องเติมเลยค่ะ บอกลากระดาษซับมันไปเลย ไม่ต้องซับ ไม่ต้องเติม ตบทีเดียวเลยตอนเช้ายิงยาวยันเย็นก็ยังเนียนอยู่ โป๊ะตรงไหนเอาปากกามาวงได้ แต่แอบอยากให้แบรนด์แบ่งชั้นแยกพัฟกับแป้งให้โหน่ยค่าาาาาา ถ้ามีโอกาสที่แบรนด์จะปรับแพคเกจจิ้งก็อยากฝากเรื่องแยกชั้นพัฟไว้ด้วยนะคะ ถือว่าเป็นเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภคตัวน้อยๆแล้วกันนะคะ

Cute press Evory Stellar Foundation Powder 


คะแนน : 7.5/10 

ราคา : 399 บาท

สีตลับของน้องคนนี้สวยมากกก มีความไล่โทนม่วงชมพู สีตลับจริงมันน่ารักมากนะเอาจริง ซื้อมาใช้เพราะสีตลับมันน่ารักนี่แหละ แถมช่วงนั้นขายงานได้ 55555 สไตล์คนรวยอ่ะเน๊าะ ซื้อมาแบบไม่คิด จำไม่ได้แล้วด้วยว่าบีเอเค้าว่าไงบ้าง แล้วเพิ่งมาหาข้อมูลก่อนทำรีวิว เค้ามีการเคลมว่าคุมมันได้นาน 12 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อได้ มีนวัตกรรม Photochromic Technology ที่ช่วยให้อณูแป้งสามารถปรับโทนสีอัตโนมัติตามแรงของแสง ให้ผิวดูสวยธรรมชาติในทุกสภาพแสง อ่านดูแล้วยิ่งใหญ่ดี แต่สิ่งที่โฟกัสก็คือ ติดทน คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ซึ่งก็อยู่ในขอบเขตของคุณสมบัติแป้งที่เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพผิวของสาวไทย ใครที่เป็นแฟนคลับคิวเพลส ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นแป้งที่น่าซื้อมาใช้เหมือนกันค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ :  เนื้อแป้งเนียนละเอียด ทาแล้วเนียนกลืนไปกับผิวได้ดีเลย รอยสิว รูขุมขนก็ปกปิดให้จางลงได้ในระดับนึง แต่หนักหน้า ฟินิชลุคคือดีเลยนะ สวยเนียนผ่อง แต่หน้าดรอปเร็วไปหน่อย คือตั้งความหวังไว้ว่าน้องน่าจะอยู่ทนได้นานกว่านี้อีกนิดแต่น้องคงไม่ไหวจริง ส่วนใครที่เป็นรอยสิวหนักๆแนะนำให้ใช้รองพื้นช่วยเอานะ จะดีกว่ามาใช้แป้ง แล้วคำเคลมนางเว่อมาก 55555 คุมมันได้นาน 12 ชม. เอาจริงหน้าเราสู่ขิตไปตั้งแต่ชั่วโมงที่ 4 ชั่วโมงที่ 5 แล้ว มันน้อยกว่าเดิมนิดนึงแต่ก็ยังอยู่ในจุดที่ต้องร้องหากระดาษซับมัน กันน้ำกันเหงื่อก็พอได้อยู่ แต่ถ้าฝนตก เหงื่อซ่กก็หลุดเหมือนกัน ตบเพิ่มได้ไม่เป็นคราบ  แพคเกจก็เหมือนเดิม สไตล์คิวเพลส ตลับ พัฟ เหมือนเดิมเลย แต่สีน่ารัก เก็บใส่กระเป๋าก็ไม่ค่อยเป็นรอยขีดข่วนเท่าไร  

L'oreal True Match Powder Foundation 


คะแนน : 8/10

ราคา : 429 บาท

เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นของลอรีอัลที่ราคาแอบแรงเหมือนกัน แต่ก็ยังอยากซื้อเพราะเพื่อนที่ทำงานใช้กันหลายคนแล้วหน้าพวกนางสวยผ่องกัน นี่ก็เลยไปหาซื้อมาบ้าง ซึ่งแป้งตัวนี้ เค้าก็มีการเคลมว่า เนื้อแป้งติดทนนานตลอดวัน ช่วยปกปิดรูขุมขนได้ คุมมันได้นาน 8 ชั่วโมง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความเป็นแป้งแบรนด์นอกอ่ะ เค้าก็ไม่ได้ทำให้มันกันน้ำกันเหงื่ออ่ะ แต่อีกอย่างที่พิเศษของแป้งตัวนี้คือ พัฟที่แถมมาด้วยในตลับ ซึ่งพัฟเค้าจะมี 2 ด้าน  ด้านนึงจะเป็นฟองน้ำ จะทำให้แป้งติดผิวดียิ่งขึ้น ส่วนอีกด้านเป็นเนื้อกำมะหยี่ ช่วยเบลอรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนยิ่งขึ้น ข้อดีของลอรีอัลคือมีเฉดเยอะ ครอบคลุมเกือบทุกเฉด ใครที่มองหาแป้งดีๆสักตัวแต่ผิวสีเข้ม จะเลือกเป็นลอรีอัลก็ดีนะคะ  

ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อแป้งเนียนละเอียด บางเบา พอทาแล้วสีผิวเนียนเรียบ ดูเป็นธรรมชาติ  ไม่ค่อยหนักหน้าเท่าไหร่ ปกปิดและคุมมันได้ในระดับกลางๆ ยังมีการซับมัน มีความมันออกมาบริเวรณทีโซนและร่องจมูกไม่ได้น้อยลงกว่าเดิม ปกปิดได้ค่อนข้างโอเคเลย แต่คนที่รอยสิวหนักๆแป้งอาจจะช่วยไม่ได้เยอะเท่าไหร่ มีดรอปบ้างเล็กน้อย  แต่สำหรับเราเวลาที่ออกไปข้างนอก ความมันจะออกมามากกว่าปกติ  แล้วก็ติดไม่ค่อยทนด้วย มีการเติมแป้งในระหว่างวัน แต่พอเติมแล้วหน้าไม่เป็นคราบนะ ผ่องเหมือนเดิม ตอนซับมันก็มีแป้งหลุดติดมาบ้างนิดหน่อย ไม่กันน้ำกันเหงื่อ ถ้าหน้าฝนแล้วยังต้องออกไปทำงานข้างนอกก็คือไม่แนะนำนะคะ แป้งมันหลุดได้จริงๆ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นแป้งที่ลงทุนไปก็ไม่เสียหายอ่ะ มีเฉดให้เลือกหลากหลาย แต่ก็เลือให้เหมาะกับการใช้งานจะดีที่สุดค่ะ

SRICHAND Skin Essential Compact Powder SPF15 PA+++


คะแนน : 7.5/10

ราคา : 350 บาท

อันนี้ไม่มีใครป้ายยาทั้งนั้น โดยตกด้วยแพคเกจของน้องล้วนๆอีกแล้ว คือเรียบๆสวยๆ ดูหรู ดูแพง แล้วตัวตลับเค้าเป็นแบบแม่เหล็กดูดอ่ะ ฉันชอบตรงนี้ !!! แล้วก็ซื้อมาเลย เพราะชอบ ตอนสวอชเนื้อตัวเทสก็โอเค เนื้อแป้งตอนเทสคือดีมาก เนียนละเอียดเลย แล้วราคาก็ไม่ได้แรงมาก จับต้องได้ เค้าก็เคลมว่า ช่วยปกปิดริ้วรอยได้ อำพรางรูขุมขนได้ ควบคุมความมันได้ กันน้ำได้ แล้วเค้าใส่ส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุงมาด้วย แล้วรุ่นนี้เค้าก็มีชื่อเล่นของรุ่นว่าเป็น #แป้งแนบเนื้อ นี่ก็คิดว่า น่าจะเป็นแป้งที่ใช้แล้วเรียบเรียนไปกับผิว แล้วจุดเด่นอีกอย่างของแแป้งรุ่นนี้คือ เค้าไม่มีพาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ คนแพ้ง่ายน่าจะใช้ได้ ใครที่ไม่ได้ฟิกซ์มากกว่า ต้องปกปิดแน่นๆ คุมมันปังๆ จะใช้เป็นศรีจันทร์ตัวนี้ก็ดีนะคะ มันได้แบบเบาๆ เป็นธรรมชาติดีค่ะ คือก็ถือว่าคุ้มค่าแหละกับสิ่งที่ได้มาในราคา 350 บาท  

ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อแป้งบางเบา เนียนละเอียด ปกปิดรอยสิวได้ เบลอรูขุมขุนได้ในระดับกลางๆ ไม่หนักหน้า แอบมีชิมเมอร์เล็กน้อย ฟินิชลุคจะได้เป็นแบบไม่แมทมาก ใสๆ วันสบายๆ ของสาววัยใส ประมาณนั้นเลย ถ้าให้ไปฝ่าแดดลมฝนคือไม่รอดแแน่นอน  เนื้อแป้งติดไม่ค่อยทนเท่าไร สำหรับเราที่เป็นหน้ามันคิดว่าการคุมมันยังเฉยๆ ไม่ได้เหมือนคำเคลมเค้าที่บอกว่าคุมมันได้ทั้งวันอ่ะ คือมันก็ยังมันอยู่ แต่กันน้ำได้ ในระดับนึง ซับหน้า ซับเหงื่อ เติมแป้งได้ตลอดเพราะไม่เป็นคราบ แต่ทำให้อุดตันได้จ้าาา

RAN Original Plus Powder by Pom Vinij


คะแนน : 8.5/10

ราคา : 790 บาท

ตัวนี้ซื้อเพราะแม่ป้อมล้วนๆ ชื่นชอบในฝีมือการแต่งหน้าของแม่ แต่ไม่สามารถแต่งหน้าให้สวยฉ่ำได้เหมือนแม่ ผู้หญิงอย่างเราจึงทำได้แต่ไปซื้อแป้งของแม่มา เผื่อว่าจะสวยฉ่ำเหมือนแม่แต่งให้บ้าง ราคาแอบเจ็บเบาๆ แต่ก็ยอมเพราะอยากสวยฉ่ำ แล้วเบเนฟิตคือตอบโจทย์ดิฉันมากๆ แล้วรุ่นแม่ป้อมคือรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่นเก่าๆให้คุมมันมากขึ้น ปกปิดมากขึ้น บำรุงมากขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติเบาสบายผิวไว้ แล้วอีกอย่างคือ เค้ามีกันแดดจากธรรมชาติ100%  แต่กันแดดได้จริง แล้วให้ PA มา4+ เลย แล้วช่วยปกป้องผิวจากพวกมลภาวะได้ด้วย พวกฝุ่นละออง PM2.5 แสงสีฟ้าจากหน้าจอ ก็ป้องกันได้ แป้งรันรุ่นใหม่เอาจริงคือเริ่ดมากจริงๆ เป็นอะไรที่น่าลงทุนมากๆ อีกตัว  

ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อแป้งเนียนละเอียดมากๆ บางเบา ปกปิดได้ได้ดีเลยค่ะ ชอบมาก พวกรอยสิว รูขุมขนเล็กๆอะไรพวกนี้เอาอยู่  หนักหน้านิดหน่อย  แป้งแม่ป้อมให้เป็นงานผิว ผิวสวยธรรมชาติ แอบมีวิ้งๆนิดหน่อย เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆที่มีผงพิ๊กซี่ เฉดน้อยไปหน่อยค่ะ  แต่พอเอามาทาจริงๆแล้วพอดีกับผิวเป๊ะเลย แต่ใครที่ผิวคล้ำแล้วยังใช้เบอร์สูงๆมันอาจจะลอย  กันน้ำได้  คุมมันโอเคเลย แทบจะไม่ต้องซับมันเลย แป้งแม่ป้อมจะคุมมันได้ดีมากๆก็ตอนประมาณ 6-8 ชั่วโมงค่ะ ถ้าหลังจากนั้นความมันจะเริ่มออกมาเยอะละ แป้งติดทน แทบจะไม่ดรอประหว่างวันเลย แต่ถ้าออกไปข้างนอกนานๆ ก็มีดรอปบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับต้องเติมแป้ง ใครที่อยากได้แป้งดีๆราคาไม่ถึงพัน แป้งแม่ป้อมคือโอเคเลยค่ะ เหมาะแก่การลงทุน ใครที่พอมีกำลังซื้อก็แนะนำเลย  

MERREZCA Excellent Covering Skin Setting Pressed Powder


คะแนน : 7/10

ราคา : 790 บาท

เมอเรซก้านี่เป็นแบรนด์ไทยอีกตัวที่อยากแนะนำเลยค่ะ ตัวนี้เราไปซื้อมาตอนจัดโปร จะบอกว่าเมอเรซก้าเค้าจัดโปรบ่อยเด้อออ พวกพาเลทตา แก้ม คิ้วท์มากก ส่วนรุ่นนี้ก็เค้าก็เคลมมาว่า กันน้ำ กันเหงื่อได้ คุมมันได้ ไม่เป็นคราบ ไม่ดรอป ไม่หมองระหว่างวัน อีกอย่างคือ มีส่วนผสมจากสารสกัดของสมุนไพร ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองรูขุมขน และไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เพราะแป้งพัฟก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องสิว เราว่าอันนี้ค่อนข้างโอเคเลย แต่ว่าตลับนี้ราคาเต็มแอบแพง แต่ถ้าอยากได้ถูกลงเค้าก็จะมีเป็นตลับเล็กเหมือนกัน แต่มันจะไม่หรูแบบนี้ เป็นตลับพลาสติ๊กก๊องแก๊งๆในราคาย่อมเยาว์ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นเอานะจ๊ะ  

ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อแป้งเนียนละเอียด ปกปิดได้โอเค รอยสิว รูขุมขนอะไรพวกนี้ก็เบลอได้ ปิดได้ แอบมีความหนักหน้านิดนึง แต่รู้สึกว่าขาวไปหน่อย ใครผิวคล้ำไม่แนะนำค่ะ ไม่รอด ส่วนคนหน้าขาว เฉดขาวสุดก็ขาวเกิ๊นนน รู้สึกว่าเค้าทำเฉดให้สีมันโดดกันไปนิดนึง แต่รู้สึกว่าเรื่องคุมมันยังเฉยๆ ตกบ่ายเอาละ หน้ามันละ แต่มันน้อยกว่าเดิมนิดนึง ใครที่หน้ามันจัดๆนี่ตุยเย่แน่นอน แต่มันก็ดีตรงที่ตบเพิ่มแล้วไม่เป็นคราบ แล้วอีกอย่างคือ น้องเค้ากันน้ำกันเหงื่อได้จ้าาาา ฝ่ามรสุมในประเทศไทยได้แบบสบายๆอีก 1 ตัว แต่ขอบ่นเรื่องพัฟนิดนึง คือพัฟที่แถมมาให้นุ่มมาก แต่แป้งไม่ค่อยติดพัฟ 55555 ส่วนเรื่องที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาสิวเราว่า ก็ช่วยได้นิดนึงนะ รู้สึกว่าสิวลดลง มันน้อยลงนะถึงแม้จะใส่แมสแทบจะตลอดเวลาก็ตาม ใครที่มีปัญหาเรื่องสิว อันนี้ก็โอเคนะคะ ไปลงทุนกันได้  

CHANEL LE TEINT ULTRA ULTRAWEAR FLAWLESS COMPACT FOUNDATION LUMINOUS MATTE FINISH 


คะแนน : 8.5/10 

ราคา : 2,600 บาท

ตบท้ายด้วยฟินนาเล่ของแคมเปญนี้กับแป้งพัฟแสนแพง ที่รูดบัตรไปแล้วก็จ่ายขั้นต่ำอยู่ 6 เดือน แต่ก็ตัดสินใจซื้อเพราะอยากลอง อยากซื้อจริงๆ อยากให้หน้าได้สัมผัสความแพงของแป้งแบรนด์เนมบ้าง อ่ะ ก็ได้ตัวนี้มาค่ะ ก่อนจะซื้อก็ศึกษาอยู่นานเหมือนกัน พวกแป้งเคาท์เตอร์แบรนด์ แป้งไฮเอนเค้าจะไม่ค่อยมีคำเคลมกัน แต่เค้าก็มี Detail มาคร่าวๆว่า การันตีสีผิวสม่ำเสมอนานตลอดวัน เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ติดทน ปกปิดแบบบางเบา ช่วยให้ผิวหน้าเปล่งประกายได้ตลอดวัน อะไรประมาณนี้ แต่เค้าไม่ได้เคลมว่า คุมมัน กันน้ำกันเหงื่อนะ ใครที่จะซื้อก็ลองศึกษาดูดีๆอีกที  แล้วเป็นตลับแบบรีฟิลค่ะ พอแป้งหมดเราก็ซื้อแค่รีฟิลก็พอ ประหยัดลงไปอีก(แต่ก็ยังแพงอยู่) ส่วนตัวเราเอง นานๆจะหยิบมาใช้สักทีค่ะ เพราะเสียดาย กลัวมันหมด  

ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อแป้งเนียนละเอียดมาก บางเบา ทาแล้วเนียนไปกับหน้าเลย แต่ไม่ค่อยปกปิดเรื่องรอยเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่หนังหน้าดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนเราที่เป็นไม่มีสิวแต่มีรอยคือทาแล้วก็ยังมีรอยจางๆให้เห็นอยู่ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ แต่ช่วงไหนที่หน้าไม่มีรอยคือดีมาก หน้าผ่องเป็นยองใย แต่ไม่คุมมัน ไม่กันน้ำ ไม่เหมาะกับการแอดเวนเจอร์ต่างๆ คนหน้ามันหนักๆก็ไม่แนะนำให้ใช้เหมือนกัน แต่ถ้าไปนั่งถ่ายรูปที่คาเฟ่สวยๆ พกใส่กระเป๋าหรูๆ อันนี้โอเคค่ะ สวย พวกแป้งแบรนด์ต่างประเทศข้อดีคือทาแล้วให้เป็นงานหน้าผ่องดีมากเลย แต่มันก็ไม่ค่อยเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยเท่าไหร่อ่ะเน๊าะ

อันนี้ก็จะเป็นการเปรียบเทียบความมันของแป้งแต่ละแบรนด์นะคะ ด้วยการทาแป้งทั้ง 7 ตัว เป็นเวลา 7 วันค่ะ โดยจะซับมันเวลา 16.00 น. ของทุกวันค่ะ  

บอกเลยว่า แต่ละตัวดีงาม มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ก็ลองเทียบๆเอานะคะ ว่าแป้งตัวไหนตอบโจทย์ผิวของเราที่สุด แต่ส่วนตัวต้องติดทน คุมมัน และเนียนเว่อๆเท่านั้น! ถึงจะเอาอยู่ค่ะ! ยังไงฝากรีวิวของของเราไว้ด้วยนะคะ คงจะช่วยสาวๆในการเลือกแป้งบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ