สวัสดีค่ะทุกคนนนน อันยองงงง สวัสดี สวัสดี สวัสดีค่าา 555555 

สวัสดีปีใหม่อีกทีนะคะ ...ได้ไหมนะ? 😚 วิว่าา น่าจะได้อยู่เนาะะ อิอิ

ก่อนอื่นเลยยย กระทู้นี้ขอสวัสดียาวสักนิดด เนื่องจากหายหายไปนาน55555 วันนี้จะมาป้ายยาทู้กกคน จากการรับคำท้าบ้านจีบันค่ะ! ที่ส่งสกินแคร์มาให้วิได้ลองอีกแล้ววว กราบขอบพระคุณตรงนี้เลยนะค้าบ ❤️ รักบ้านจีบันมากกก จะพยายามเข้ามาให้บ่อยขึ้นน 🥳 นะค้าบบ ในปีนี้ ✨ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ (:

.

ตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา วิก็จะเข้ามาแวะเวียนในบ้างจีบันอยู่เสมอค่ะ แม้ว่าบางเดือนจะยุ่งมากไม่ค่อยได้เข้ามาป้ายยาทุกคนบ่อยเท่าไหร่ แต่!! ใครจะไปรู้ว่า เอ้าาา ก็ป้ายยาเยอะอยู่นะะ 5555555 มารู้ตัวก็ตอนที่บ้านจีบันส่งพัสดุมาให้กันนี่แหละคับบ กระทู้นี้เลยจะมีทั้ง ความเห่อ + รีวิว ไปในตัว เพราะว่าของแต่ละชิ้นที่จีบันส่งมา ไม่มีตัวไหนที่ไม่ปังเลยเอาจริงงง

ขออนุญาตแกะชื่อที่อยู่ออกเล็กน้อยค่ะ555555 เพื่อความปลอดภัยย ตอนที่กล่องมาถึงคือกรี๊ดดดเลยยยย เพราะห่างหายจากกล่องพัสดุกับจีบันไปค่อนข้างนาน 😭 แค่เห็นหน้ากล่องก็ใจชื้นแล้วฮับบ

ในกล่องนี้ก็ประกอบไปด้วยเครื่องหอมต่างๆรวมไปถึง Hand Cream ที่ทางจีบันส่งมาฮีลมือ ฮีลใจให้เรา 😭 ช่างน่ารักและใส่ใจอะไรขนาดนี้คะะ ตัวที่วิชอบที่สุดคือน้อง Diffuser ค่ะ ซึ่งวิเอาน้องออกจากล่องมาใช้นานแล้ว ฉีดก่อนนอนทุกคืนเลย กลิ่นผ่อนคลายมากกกก

และที่มากไปกว่านั้นคืออ…

ทางจีบันก็ส่งผลิตภัณฑ์มาให้สายสกินแคร์อย่างวิลองง นั่นก็คือ ..

BIODERMA 

Sensibio 

นั่นเองฮะะะ

ส่งมาทั้งตัว Cleansing

BIODERMA  

Sensibio H2O  

และ ครีมบำรุงผิวตัวใหม่ ของเค้าอย่าง..

BIODERMA  

Sensibio Defensive 

ซึ่งเมื่อกล่องนี้ถูกเปิดออก วิก็ได้รู้ทันทีว่า.. ปี 2021 วิก็ป้ายยาไปพอสมควรเลยนะะะ 55555555 ขอบพระคุณบ้านจีบันที่ใส่ใจ และนับเป็นช่วงเวลาออกมาขนาดนี้นะคับ T0T ถึงแม้ว่ารีวิวนี้จะมาช้าไปหน่อย แต่มาแล้วนะคับบบ

นอกจากจะได้รู้ว่าปีที่แล้วป้ายยาคนอื่นไปกี่กระทู้แล้วว ... 

จีบันยังท้าให้ลอง..แล้วมาป้ายยาทุกคนต่อในปีนี้อีกด้วยค่าาาา >< 

แน่นอนน ว่าวิจะไม่พลาดดดด เด็ดขาดด

เอาหละะ หลังจากนี้ก็จะเริ่มป้ายยา 

น้องคู่หู BIODERMA 

อย่างสุดตัวแล้วนะคับบบ 

3

2

1

Go Go!!

มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ สำหรับ..

BIODERMA Sensibio H2O

500 ml. / 850.-

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ : ทาง BIODERMA บอกว่าคลีนซิ่งตัวนี้สามารถใช้เช็ดหน้าได้เลยโดยไม่ต้องล้างออกค่ะ เพราะเป็นสูตรอ่อนโยน นอกจากจะใช้กับผิวหน้าได้แล้ว ยังสามารถใช้กับผิวรอบดวงตาได้ด้วยยย :3 ตรงนี้คือตอบโจทย์เลย ว่าใช้ขวดเดียวทำความสะอาดได้ทั้งหน้า นอกจากนั้นยังมีสารสกัดจากแตงกวา ช่วยปลอบประโลมผิวค่ะ

และด้วยความที่เค้าผลิตด้วยเทคโนโลยี Micelle Solution ทำให้การเช็ดสิ่งสกปรกบนผิวหน้า เป็นไปได้ง่าย (คิดภาพก็คือคลีนซิ่งที่เป็นไมเซล่าที่เราได้ยินชื่อกันบ่อยๆฮะ) นอกจากคนผิวแพ้ง่ายจะใช้ได้แล้ว จริงๆก็สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวค่ะ

ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม ซัลเฟต ซิลิโคน และพาราเบน

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ : เป็นคลีนซิ่งใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีค่ะ คือรู้สึกถึงความอ่อนโยนตั้งแต่หยดลงบนสำลีเลย เพราะไม่ให้ฟีลเหนอะหนะผิว ให้สัมผัสดุจน้ำจริงงง

และวันที่วิลองผลิตภัณฑ์คือวิแต่งหน้าเบาๆฮะ แต่..วิแนะนำให้ใช้ Cleansing ทุกวันนะ แม้ว่าวันไหนจะไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม เพราะนอกจากเราจะทากันแดดทุกวันแล้ว เราก็เจอกับมลภาวะรอบตัวทุกวันเช่นกันฮะะ เพื่อเลี่ยงการอุดตัน ก็ต้องทำความสะอาดให้สะอาดจริงๆ สิวจะได้ไม่ถามหานะคะ (:

วิธีใช้ BIODERMA Sensibio H2O : วิใช้ทุกวันตอนเย็นก่อนอาบน้ำนะคะ เทลงบนสำลีแล้วเช็ดเบาๆบนผิวหน้าค่ะ เช็ดจนกว่าสำลีจะขาว สามารถใช้สำลีได้ทั้ง 2 ด้านนะะ จนกว่าสำลีจะขาวเลย..

แต่ !! 

ด้วยความที่วิอยากจะรู้ว่า BIODERMA Sensibio H2O  จะเช็ดสะอาดขนาดไหน? ด้วยความที่เค้าใช้เทคโนโลยี Micelle Solution.. ถ้าเราใช้สำลีแค่ 2 แผ่น จะเอาอยู่มั้ยนะ ? ( ทั้งด้านหน้าและด้านหลังนะคะ)   วิก็เลยลองง ให้ทุกคนได้ดูกันไปเลยสิคะะะ !! 

เช็ดเบาๆมือนะคะ เช็ดให้ทั่วทั้งหน้าเลยค่ะ

ซึ่งสิ่งที่วิได้ หลังจากที่เช็ดไป 1 แผ่น (แค่ด้านเดียว) 

ก็อย่างที่ทุกคนจะได้เห็นนี่เลยค่ะ....

คุณพระะะ! เธอดูดเอาเมคอัพของชั้นออกมาขนาดนี้เลย!? .. ในใจคือแบบ บ้าาน่า สองแผ่นคือจะสะอาดเกลี้ยงเลยหรอออ นี่แค่แผ่นแรกก

นี่.. ให้ดูความต๊าชค่ะ!! เช็ดด้านเดียว แผ่นเดียว เห็นความแตกต่างชัดเจนมาก โดยเฉพาะตรงขนตาคืออ หายยยไปเลย ขนาดว่าใช้มาสคาร่าแบบกันน้ำนะ ใช่คนเดียวกันไหมเอ่ยยย ทำไมมี 2 หน้าคะะ 555555555

หลังจากนั้นวิก็เช็ดทั้งหน้า ด้วยสำลีแค่ 2 แผ่นค่ะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง .. ผลลัพธ์ก็คือเริ่ดดด

จะเห็นได้ว่าด้านหลังของสำลีแผ่นที่ 2 ก็ไม่ได้ขาวขนาดนั้นค่ะ แต่ก็ถือว่าเครื่องสำอางติดน้อย ส่วนตัววิคิดว่า อาจจะต้องมีแผ่นที่ 3 ก็คือน่าจะสะอาดเลยค่ะ เริ่ดอยู่เด้ออ

และนี่ก็คือออ .. ผิวหน้าของวิ หลังจากที่ใช้ BIODERMA Sensibio H2O ด้วยสำลีแค่ 2 แผ่นค่ะ 55555 สะอาดจริ๊งงง ยอมเลย สบายผิวมากด้วย ล้างเสร็จผิวก็ไม่ได้แห้งตึงหรือแห้งลอกเลยนะ

About This Look!

เทียบกันชัดๆอีกสักที สะอาดมากกกกจริงๆ

ความรู้สึกหลังใช้ของวิ : สำหรับวิคือชอบเลยย วิเป็นคนผิวผสมที่แอบระคายเคืองง่ายและมีสิวบ้างบางเวลา ตั้งแต่ได้ลองครั้งแรกก็ใช้ทุกวันเลยค่ะ สบายผิวดีจริง ส่วนตัวแล้วรู้สึกถึงความอ่อนโยนได้จริง ความสะอาดก็เช่นกันค่ะ ใช้แล้วไม่รู้สึกเหนอะหรือเหนียวที่ผิวแฮะ แล้วก็เช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่าย สบายผิวจริง 

แต่เนื่องจากน้องเค้าเป็นสูตรเพื่อผิวแพ้ง่ายเนาะ ก็จะไม่ได้เน้นเรื่องลดสิวสำหรับคนเป็นสิวหรือผิวมัน ถ้าเป็นสิวอยู่แล้ว ใช้ตัวนี้คือช่วยให้ผิวสะอาดและปลอบประโลมตรงที่อักเสบและแดงๆได้ดี แต่ไม่ได้ทำให้สิวยุบหรือว่าหาย นะคะ แต่สำหรับคนผิวแพ้ง่ายวิก็แนะนำเลยค่ะ ควรมีติดกรุไว้เลย ฟีลตอนใช้และหลังใช้คือดีจริงง

มาต่อกันที่ตัวที่สอง เพิ่งออกมาใหม่ 

มาเป็นคู่หู  BIODERMA Sensibio H2O เลยย สำหรับ..

BIODERMA Sensibio Defensive 

40 ml. / 940.-

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ : ถึงจะเป็นน้องใหม่ในไลน์ Sensibio แต่ก็น่าจับจองเป็นเจ้าของและน่าลองมากจริงๆค่ะ เพราะว่า BIODERMA เค้าใส่ส่วนผสมมาแบบจุกก ในขณะที่เนื้อครีมนุ่มมมและบางเบามาก ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีเลย 

ตัวนี้เค้าใช้ Defensive Technology ที่ช่วยเสริมให้ผิวแข็งแรงแบบ Triple Action ค่ะ แถมยังคงความชุ่มชื้นถึง 12 ชั่วโมงง

ซึ่งเจ้า Triple Action นี่เลย ที่วิอยากขยายความให้ทุกคนเห็นภาพ เพราะมันเกิดขึ้นจากการทำงานของส่วนผสมที่สุดจึ้งงง **

1.ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ด้วย Carnosine และวิตามินอี ที่เป็น Anti-Oxidant

2. เสริมปราการผิวจากภายใน ให้ผิวแข็งแรง ด้วย Tetrapeptid-10 ที่จะไปกระตุ้นการสร้างโปรตีนในชั้นผิว 

3. ปลอบประโลมผิว ด้วยส่วนผสมจาก Red Sage Polyphenols ซึ่งตัวนี้คือช่วยผ่อนคลายผิวที่ระคายเคือง

** ขอบพระคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทู้นี้ของทาง Jeban ด้วยนะคะ

ใครอยากอ่านข้อมูลของทั้งสองตัวนี้เพิ่ม   **

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ : เนื้อคือบางเบามากกกกค่ะ เกลี่ยง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมเลยค่ะ มีแต่กลิ่นของครีมเพียวๆ เนื้อครีมสีขาว 

​​​​​

หลังจากล้างหน้าเสร็จ แน่นอนว่าผิวขาดความชุ่มชื้นค่ะ สังเกตุเห็นได้ชัดมาก เพราะว่าผิวบริเวณแก้มของวิเริ่มแห้ง ละตะโกนออกมาว่า 'ทาครีมลงมาเดี๋ยวเน้!!!!' 555555

ไปค่ะะ เติม Moisturizer ให้ผิวกันนน

วิธีใช้ BIODERMA Sensibio Defensive :  จะใช้เป็นครีมตัวสุดท้ายใน Routine เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวก็ได้ค่ะ ใช้ได้ทั้งเช้า และ เย็นเลย .. แต่วิที่บางวันไม่ค่อยมีเวลา ก็จะโบกตัวนี้ตัวเดียวเลยหลังล้างหน้าเสร็จ พิสูจน์แล้วว่าสำหรับวิคือเอาอยู่ค่ะ แต่คนที่ผิวแห้งมากๆ อาจจะต้องใช้คู่กับตัวอื่นๆค่ะ 

​​​​​​

เนื้อครีมทาง่ายมากกก จริงๆ สบายผิวสุดด เนื้อครีมนู๊มมมม

หลังทาเสร็จทันที ผิวก็ตะโกนออกมาอีกว่า 'อื้อออ ฉันอิ่มน้ำจ้าาา!!' ทันทีเลย หลังจากที่ครีมเซ็ตตัว555555 คือผิวดูฉ่ำ สุขภาพดีอะ ดีจริงงง วิชอบเนื้อเค้ามากเลยย ยิ่งใช้ช่วงหน้าหนาวนี้คือสุดปังค่ะ ใช้ก่อนนอนตื่นมาคือผิวนู๊มมม

About This Look!

ฉ่ำวาววว เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนทันทีหลังทา

ความรู้สึกหลังใช้ของวิ : ถึงจะเป็นน้องใหม่ แต่มาแรงเอาเรื่องเลยนะ ออกมาให้เราได้ลองในช่วงหน้าหนาวนี้คือที่สุดเลยค่ะ ตั้งแต่ได้ลองใช้คือผิววิไม่แห้งลอกเลยสักวัน ผิวอิ่มน้ำแบบสุดด แล้วไม่ระคายเคืองจริง เนื้อสัมผัสนุ่มมาก ทาง่าย เกลี่ยง่าย ไม่กองบนผิวเลย เซ็ตตัวได้ดีม้ากกกกก ตอนแรกคือกะมาป้ายยาทุกคนเต็มที่เลยแหละ ที่ไหนได้ โดน Jeban ป้ายยาเต็มๆยังไม่รู้ตัวอี้กกกก555555555 

วิว่าตัวนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิวจริงๆค่ะ โดยเฉพาะคนผิวแพ้ง่ายต้องรักเลยแน่ๆ วิใช้กับยาแต้มสิวก็คือปังค่ะ ตัวนี้ไม่อุดตันเลย ไม่เหนอะหนะแต่ว่าชุ่มชื้นเอาอยู่จริง แบบตื่นมาแล้วผิวยังนุ่มอยู่ รักมากกก

สรุปเลยแล้วกัน ;)

เดินทางมาถึงส่วนสุดท้ายแล้วค่ะทุกคนน

ขอบพระคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้เลยนะฮะ 

เข้าใจเลยว่าทำไม BIODERMA Sensibio ทั้งสองตัวนี้

ถึงอยู่ใน #JebanBeautyHits2021

เพราะว่าของดีและปังจริงง 

ยิ่งใช้คู่กัน ผิวทั้งสะอาดทั้งแข็งแรงเลยย

ขอบพระคุณบ้านจีบันอีกครั้งนะคะที่ส่งมาให้ลอง ฮืออ  

นี่แน่ะะะ จุ้บไปหนึ่งที :3 

ขอบพระคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทู้นี้ของทาง Jeban อีกครั้งนะคะ (https://www.jeban.com/topic/338872)

ใครที่โดนวิป้ายยาแล้วสนใจ หรืออยากอ่านข้อมูลของทั้งสองตัวที่วิรีวิว 

จะจิ้มที่ลิ้งค์ด้านบน หรือ 

สำหรับวันนี้วิขอตัวลาไปก่อนน้า

เจอกันใหม่กระทู้หน้าา

สวัสดีค่า :)