Mesoestetic ha Densimatrix ไฮยารูรอนดีๆที่ควรค่าแก่การลงทุน
Jitthinund Yodwongsakull 49 22มีหลายคนเคยแนะน้ำว่า ผิวอุดตันง่ายและวนลูปแบบน้ำ แค่มีไฮยาฯและ BHA ดีๆ แบบไม่เกี่ยงเรื่องงบสักอย่างละตัวไว้ใช้ตอนสลับกับ skincare routine อื่นคือจบ
กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid : HA) คือ สารสำคัญในร่างกายที่มีลักษณะคล้ายเจลลี่ พบได้ทั่วร่างกายและในชั้นโครงสร้างผิวได้มากถึง 80% คอยทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว จึงทำให้ผิวดูอิ่มฟูแข็งแรงอยู่เสมอ ทั้งยังมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้คอลลาเจนในชั้นผิวเพิ่มจำนวนขึ้น และยังคอยช่วยยึดจับคอลลาเจนและอีลาสตินเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงรักษาประสิทธิภาพความยืดหยุ่นของผิวหนัง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงความเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ของผิวพรรณให้ปราศจากริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้อีกด้วย ( เครดิตข้อมูลจาก https://www.unileverlife.com/editorial/what-is-hya-why-it-is-importance )
ต้องบอกก่อนว่าปกติ BHA นั้น น้ำมีใช้บ้างอยู่แล้ว แต่น้ำจะใช้แค่กับมอยเจอร์ไรเซอร์ปกติที่ไม่ได้เน้นส่วนผสมของ #ไฮยารูรอน เลยต้องมาศึกษาถึงผลและผลิตภัณฑ์จาก #Hyaluronic acid จนทราบว่า ha นั้น มีหลายแบบหลายโมเลกุล จน ได้มาเจอกับ Mesoestetic ha Densimatrix เซรั่มเติมน้ำให้ผิวที่เป็นที่พูดถึงในกรุ๊ปต่างๆเยอะมากเมื่อปีที่แล้ว
Mesoestetic ha Densimatrix เขามี ha ถึง 4 โมเลกุล แบบว่าดูแลถึง 4 ชั้นผิวไปเลย
- Cross linked HA ขนาดโมเลกุลจะใหญ่มาก จะซึมลงไม่ได้ cross linked จะทำงานบริเวณผิวชั้นนอก harny layer เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวทนัที หลายๆคนอาจจะไม่ได้สนใจกับมเลกุลใหญ่บิ๊กเบิ้ม ที่ซึมเข้าผิวไม่ได้ อะๆ สงสัยล่ะสิว่าเอามาทำไมในเมื่อน้องไม่ซึม ก็เอามาเคลือบเพื่อปกป้องผิวชั้นนอกจากการสูญเสียน้ำไงล่ะคะ บางทีใส่ใจกับชั้นลึกๆจนละเลยชั้นนอก ทำให้บำรุงดีแค่ไหนผิวก็สูญเสียความชุ่มชื้นเร็วอยู่ดี ตรงนี้ #Mesoestetic ที่เนแบรนด์ medical grade จากประเทศสเปน เขาคิดมาแล้วค่ะว่านอกสร้างเสริมสร้างภายใน ยังต้องปกป้องจากภายนอกด้วย
2. high molecular weight 1.8-2.2 MDA ก็คือ 1800- 2200 Kilodalton [kDa]
ถือว่าขนาดเล็กกว่า cross linked เลยซึมลงได้ดีกว่า cross linked HA ทำหน้าเสมือนเป็น ตัวช่วยเป็นเกราะให้ผิวไม่สูญเสียความชุ่มชื้น
3. mean molecular weight 300 KDa จะช่วยส่งเสริมให้ความชุ่มชื้นระดับลึกยิ่งขึ้น
4. low molecular weight 50-20 Kda ขนาดโมเลกุลเล็กมากสามารถแทรกซึมลงได้ลงถึงชั้นล่างสุดของผิวหนังชั้นนอกซึ่งจะส่งเสริมการกระตุ้นสร้าง hyaluronic ในผิวชั้น dermis
นอกจากนี้ยังมี Anti-Hiyaluronidase Complex ที่ช่วยป้องกัน ha ในผิวเสื่อมอย่าง Marshmallow root extract รากของพืชสมุนไพรแถบรัสเซียที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรต่อผิวบอบบาง ลดการระคายเคืองได้ดี
พ่วงมาสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ แบบ Malachite extract ใช่ค่ะหินมาลาไคต์สีน้ำเงินอมเขียวที่เอามาทำเครื่องราง เครื่องประดับหินนำโชค จริงๆแล้วเขามีวรรพคุณทางความงามคือ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับสูง ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก ฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย เสริมสร้าง skin barrier แข็งแรง ส่วนอันนี้น้ำคิดเอาเองนะคะว่าใช้เซรั่ม Mesoestetic ha Densimatrix ขวดนี้จะโชคดี เพราะขนาดเอามาลาไคต์มาทำเป็นเครื่องรางในความเชื่อของคนไทย มาลาไคต์ช่วยเสริมอำนาจบารมี ความเจริญก้าวหน้า ป้องกันอุบัติเหตุ เสริมด้านคำพูด ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเจรจาต่อรอง เป็นหินที่ส่งเสริมให้อนาคตของคุณดีขึ้น และช่วยให้เข้าสมาธิได้เร็ว (เครดิตจาก https://www.pwsalestone.com/category/58/มาลาไคต์malachite-หินแห่งการเดินทาง) แล้วหากว่าเราเอามาทาลงผิวจะปังขนาดไหนกันนะ
Mesoestetic ha Densimatrix ขวดนี้ ถูกบรรจุมาในขวดแก้วสีน้ำเงินฉลากขาวดูสะอาดตา ขนาด 30 ml เป็นฝาปิดเกลียวธรรมดา แต่ในกล่องมีหัว Droper มาให้เปลี่ยนในการเปิดใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
หลังจากที่น้ำได้ลองครั้งแรกเลยรู้สึกว่าเนื้อเขาเป็นแบบเจลกึ่งน้ำ คือมีความเจลนิดๆแต่ไหลแบบน้ำ ทาแล้วซึมง่ายและมีความชุ่มชื้นเคลือบผิวแบบเบาๆไว้ฉ่ำๆ แต่ไม่เหนียวมาก
น้ำจะวอร์มเนื้อเซรั่มบนมือเล็กน้อย ก่อนที่จะแท็บๆบนผิว แล้วตามด้วย BHA ในช่วงที่เป็นสิวอุดตันค่ะ หลังจากใช้ต่อเนื่องรู้สึกผิวอิ่มฟู ยืดยุ่นได้ดี ยิ่งพอมาใช้คู่กับ BHA ตัวโปรดแล้วคือชอบมาก หน้าไม่แห้งจากการผลัดผิวและดันสิวของ BHA เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
About This Look!
ดูผิวสิคะ ควรค่าแก่การลงทุนไหม
แม้น้องจะค่าตัวสูง ด้วยราคา 3,490 บาท ปริมาณ 30 ml แต่สำหรับน้ำถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมากค่ะ เพราะนอกจากผลลัพธ์ที่เป็นดั่งใจหวังแล้วน้องยังเข้ากับสกินแคร์อื่นๆง่ายมาก เอาไปใส่ไว้ในรูทีนไหนก็ได้ โดยที่แทบจะไม่ตีกับใครทั้งในเรื่องส่วนผสมและเนื้อผลิตภัณฑ์เลยค่ะ
หากใครสนใจสามารถหาซื้อได้ที่
https://mesoestetic-th.com/promotion-ha/?ref=3079