รีวิววนไป....สลิปปิ้งมาส 3 แบรนด์ที่ได้ลองใช้ในช่วงนี้!!
Bababurin
48
19
WITH <strong>Lopazelle</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่
สวัสดีจ้าเพื่อนๆ มีใครชอบมาส์กหน้าบ้างเอ่ย?....วันนี้เรารีวิวแบบจัดเต็มกับสลิปปิ้งมาส์ก 3 แบรนด์ที่เราได้ลองใช้มาในช่วงนี้ จะพามาดูว่าแต่ละแบรนด์มีข้อดีข้อด้วยยังไงบ้าง เผื่อใครที่กำลังมองหาสกินแคร์บำรุงหน้าอยู่ โดยเฉพาะสลิปปิ้งมาส์กห้ามพลาดเลยน้าาา
ก่อนจะไปเริ่มกันเราขอเล่านิดนึงเกี่ยวกับการใช้สลิปปิ้งมาส์กว่าใช้แล้วดียังไง?
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการมาส์กหน้าไม่ว่าจะเป็นการใช้มาส์กแบบไหนก็ช่วยบำรุงผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งมาส์กแผ่น หรือมาส์กแบบต้องล้างออก แต่สำหรับสลิปปิ้งมาส์กนี้เป็นมาส์กที่เราคิดว่าตอบโจทย์เรามากที่สุด เพราะว่าเราเป็นคนผิวแห้งมาก การได้บำรุงช่วงกลางคืนอย่างเต็มที่มันช่วยบำรุงได้ล้ำลึกกว่าจริงๆ แถมยังสะดวกทาแล้วไปนอนได้เลย ผิวหน้าอิ่มฟูหลังตื่น ก็เลยชอบใช้สลิปปิ้งมาส์กเป็นพิเศษ ^^
….เราเลยคิดว่าไหนๆ ก็ใช้บ่อยแล้ว เอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยเลยดีกว่าเผื่อว่าใครที่มีปัญหาคล้ายกันหรือใครที่กำลังเลือกหาสลิปปิ้งมาส์กอยู่พอดี จะได้เอาข้อมูลของเราไปประกอบการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งที่เราเลือกมาแชร์ด้วยกัน 3 แบรนด์ ตามนี้เลยจ้า
Laneige Water Sleeping Mask
เริ่มด้วยสลิปปิ้งมาส์กที่หลายคนรู้จักและน่าจะเคยผ่านการลองใช้มาแล้วกับแบรนด์ลาเนจ เราใช้เป็นรุ่นสีฟ้า ซึ่งจะเน้นช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าเป็นพิเศษ คนที่ผิวแห้งก็คงเลิฟกันอยู่แล้วเนอะ...เราเองก็ใช้มานานมากแล้ว วันไหนรู้สึกว่าผิวแห้งก็หยิบมาโบกไปหนาๆ เลยจ้า เช้ามาผิวก็อิ่มฟูทันที แต่ถ้าช่วงไหนผิวปกติดีก็ไม่ค่อยได้ใช้หรือใช้ปริมาณน้อยหน่อย เพราะเค้าจะมีความเข้มข้นถ้าพอกหนาไปเหมือนจะมีความฉ่ำเกินไปนิสสส
ส่วนผสมหลัก :
จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวหน้า บำรุงผิวที่อ่อนล้าให้แลดูกระจ่างใสขึ้นเป็นอย่างดี
น้ำมันสควาเรน มีคุณสมบัติที่จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า
เนื้อครีม : เป็นลักษณะเจลขาวขุ่น(เล็กน้อย) มีความเข้มข้นสูง
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น
ความรู้สึกหลังใช้ (ตอนเช้าหลังตื่นนอน) : ทาก่อนนอนจะมีความฉ่ำและหนักหน้าพอสมควร อาจจะด้วยความเข้มข้นของเนื้อครีมของเค้าด้วยล่ะ แรกๆ อาจจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ใช้ไปเรื่อยๆจะชินเอง หลังใช้พอเช้ามาหน้าจะมีความอิ่มฟูขึ้นมากๆ โดยเฉพาะหากช่วงไหนหน้าแห้งมากๆ หน้าจะผิวอิ่มน้ำเลย ไม่ลอกไม่ขุยให้กวนใจอีกต่อไป
รูปแบบ Packaging: เป็นกระปุก
ราคา / ปริมาณ : 150-200 บาท (แล้วแต่ร้าน) /15 ml
Lopazelle Sleeping Mask 360
ต่อมาเป็นสลิปปิ้งมาส์กของโลภาเซลล์บรนด์นี้เป็นของไทยเรานี่เอง แต่ว่าได้รับมาตรฐานระดับสากลเทียบเท่ากับเคาน์เตอร์แบรนด์เลยจ้า เราเพิ่งได้ลองใช้ได้ไม่นานแต่ก็เลิฟสุดๆ จนกลายมาเป็นลูกรักหยิบใช้บ่อยมาก เพราะว่าอย่างแรกเลยคือเค้ามาแบบขวดปั๊มใช้สะดวกไม่เลอะเทอะ แถมเวลาใช้ทำให้เรากะปริมาณการใช้ได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างเราจะใช้ 1-2 ปั๊ม ต่อ 1 ครั้ง ขวดนึงนี่ใช้ได้ 3-4 เดือนเลยล่ะ (เฉลี่ยแล้วเดือนละ 200 เอง คุ้มอยู่นะ) รวมไปถึงคุณสมบัติที่เค้าช่วยกู้ผิวได้ในชั่วข้ามคืน มีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 8 ชนิด ที่มาบำรุงและดูแลผิวได้เป็นอย่างดี ทุกส่วนผสมจะเป็น organic ธรรมชาติ 100% และที่สำคัญไม่อุดตันรูขุมขนด้วยนะ เหมาะมากกับคนเป็นสิวหรือผิวแพ้ง่ายอย่างเรา
ส่วนผสมหลัก :
CBD (canabidoils) จากพืชกัญชา เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและช่วยปรับสมดุลให้กับผิวทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
สาหร่ายสีแดงและน้ำแร่จากทะเล ช่วยฟื้นฟูเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูฉ่ำน้ำ
สารสกัดจากหม่อน ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส
น้ำมันทานตะวัน ปกป้องการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวนุ่ม
น้ำมันสควาเลนจากชานอ้อย ที่ช่วยเติมความนุ่มกับผิวโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะ
(ไม่มีส่วนผสมของ ซิลิโคน มิเนรัลออยล์ พาราเบน แอลกอฮอล์ ไม่แต่งสีสังเคราะห์ ไม่ทดลองกับสัตว์ กลูเตนฟรี)
เนื้อครีม : เป็นครีมสีขาวเข้มข้น แต่พอทาลงผิวแล้วบางเบาไม่เหนียวหนักหน้า
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ไม่ฉุนหอมกำลังดี
ความรู้สึกหลังใช้ (ตอนเช้าหลังตื่นนอน) : ตอนทาจะมีความสบายผิวกว่าทุกอันเลย ถึงเนื้อจะดูเป็นครีมก็ตาม แต่พอทาแล้วเหมือนซึมไปกับผิวไวมาก ไม่มีความรู้สึกหนักหน้าเลย ตื่นเช้ามาผิวเฟรชขึ้นมาก มีความนุ่มอิ่มน้ำ ใช้ต่อเนื่องมาสักระยะจะรู้สึกเลยว่าผิวดูกระจ่างสดใส แต่งหน้าติดทนขึ้นด้วยนะ
รูปแบบ Packaging : เป็นรูปแบบขวดปั๊ม ใช้งานสะดวก(ส่วนตัวชอบนะ ^^)
ราคา / ปริมาณ : 800 - 1,100 บาท / 30 ml
Cute Press Night Brightening Overnight Mask
ปิดท้ายด้วยสลิปปิ้งมาส์กถูกและดี ที่เราใช้บ่อยเช่นกัน เน้นงานผิวฉ่ำเติมความชุ่มชื้นเป็นหลัก ช่วยเติมน้ำในผิวเสมือนกับว่านอนมาเต็มอิ่ม 10 ชั่วโมง และด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อเจล จะเหมาะกับวันที่อยากพักหน้า อยากสบายผิวเป็นพิเศษ เพราะเวลาทาลงผิวแล้วจะมีความเย็นนิดๆ ผ่อนคลายเบาๆ ด้วยกลิ่นอ่อนๆ ช่วยให้หลับสบายเลยทีเดียว
ส่วนผสมหลัก :
ทรีฮาโลสและไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ล็อกให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานขึ้น
สาหร่ายทะเล แร่ธาตุจากน้ำทะเล ช่วยปลอบประโลมผิวพร้อมบำรุงให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
(ไม่มีส่วนผสมของ มิเนรัลออยล์ พาราเบน แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ ซิลิโคน)
เนื้อครีม : เนื้อเจลใสๆ เข้มข้นเล็กน้อย บางเบากว่าลาเนจ
กลิ่น : ไม่มีกลิ่น
ความรู้สึกหลังใช้ (ตอนเช้าหลังตื่นนอน) : ตอนทาจะมีความสบายผิวเนื้อเจลบางเบา ความรู้สึกหลังตื่นมาผิวจะนุ่มเด้งขึ้น แต่มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบผิวเราเวลาสัมผัสจะเนียนลื่น ผิวดูใสเหมือนนอนเต็มอิ่มแม้จะนอน 3 ชั่วโมงก็ตาม เหมาะกับวันที่หน้าไม่แห้งมากไหร่ จะได้ผิวสวยกำลังดีเลยนะผิวความเนียนนุ่มเป็นพิเศษ
รูปแบบ Packaging: แบบกระปุก
ราคา / ปริมาณ : 399 บาท / 50 ml
เราจะเปรียบเทียบให้ดูเนื้อของสลิปปิ้งมาส์ก ทั้ง 3 แบรนด์กันชัดๆ เลยนะว่าแต่ละอันเค้าเนื้อแบบไหน เกลี่ยลงผิวแล้วเป็นยังไงบ้าง
และนี่คือสลิปปิ้งมาส์กทั้ง 3 แบรนด์ ที่เราได้ลองใช้มาในช่วงนี้ ถ้าจะให้เรียงลำดับความชอบก็แอบเลือกยากนะ แต่ว่าเลือกจากอันที่เราใช้บ่อยสุดรองลงมาแล้วกันนะ
อันดับ 1 Lopazelle ตอบโจทย์แบบองค์รวม ส่วนตัวชอบที่เค้าบางเบาสุด ใช้นิดเดียวก็ได้ผลถึงความชุ่มชื้น และมากกว่านั้นคือ ผิวกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น แต่งหน้าติดทนมากขึ้นจริงๆ (อันนี้เห็นผลชัดมาก) กู้ผิวได้ครบในขวดเดียววันไหนหน้าพังไม่ไหวใช้ทากลางคืนตื่นมาคือผิวดีเลยเอาจริงๆ ใช้แทนไนท์ครีมได้เลยนะ
อันดับ 2 Laneige ยังคงวนเวียนหยิบมาใช้อยู่ในวันที่รู้สึกว่าอยากเติมความชุ่มชื้นแบบขั้นสุด หน้าลอก หน้าขุย ยังไงก็ยังต้องเป็นอันนี้จริงๆ ผิวฟูอิ่มน้ำแบบจริงจัง
อันดับ 3 Cute Press สำหรับคิวเพรสจะหยิบใช้ในวันที่ผิวค่อนข้างโอเคไม่แห้งมากหรือวันที่อยากผ่อนคล้ายพักผิวและต้องการความสบายผิวเป็นพิเศษเพราะเนื้อเจลเค้าจะช่วยให้สบายผิวดี
เป็นอย่างไรบ้างกับการรีวิวแบบจัดเต็มในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ กันไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ ....เกือบลืมบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราที่ได้ลองใช้มานะ สภาพผิวของแต่ละคนต่างกัน ยังไงเพื่อนๆ ก็ต้องไปลองใช้เองด้วยว่าจะชอบไหมหรือโอเคกับผลิตภัณฑ์แบบไหนเนอะ ^^ สำหรับวันนี้เราต้องไปก่อนแล้ว คราวหน้าจะมีอะไรดี มาฝากกันอีก ฝากติดตามด้วยน้าาา บ้ายบายจ้า